หลวงปู่คำคนิง บุกเมืองพญานาค ตอน 1

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย มิกกิ, 12 มีนาคม 2009.

  1. มิกกิ

    มิกกิ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +52
    หลวงปู่คำคนิง ท่านเป็นพระที่มีความสัมพันธ์กับ พญานาค เรื่องราวต่าง ๆ ของท่านมักเกี่ยวพันกับบรรดาพญานาค และ เมือง บาดาล ท่านเป็นพระที่ถือกำเนิดในประเทศลาว และ ออกบวชเป็นฤาษีดาบส ท่องเที่ยวธุดงค์ไปในป่าเขา ลำเนาไพร เป็นเวลานนาน ท่านอยู่แต่ในป่าในถ้ำนับร้อยนับพันถ้ำในภูเขาแดนลาว เสวยสุขในณานจนเบื่อหน่าย เห็นว่าไม่ใช่ทางหลุดพ้นทุกข์ หลวงปู่คำคนิงท่านลาเพศฤาษีดาบสเข้าสู่พระพุทธศาสนาอุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยพระเจ้าศรีสว่างวัฒนาเจ้าเหนือหัวของลาวเป็นผู้จัดพิธีอุปสมบทให้กับท่าน

    ครั้งนั้น หลวงปู่ดงค์มาทางเมืองบูรพา ได้ยินข่าวชาวบ้านโจษขานกัน แม่น้ำแห่งหนึ่งมีพระพุทธรูปทองคำจมอยู่ วันดีคืนดี มีแสงพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าสว่างไสวเป็นฉัพพรรณรังสี จึงทำให้เกิดความสงสัย มีจริงตามชาวบ้านโจษขานหรือ

    หลวงปู่เลยตัดสินใจพิสูจน์ว่าเป็นจริงตามคำร่ำลือของชาวบ้านไหม จึงตกลงจำพรรษาที่นั่นสี่พรรษาเพื่อดำลงไปดูพระพุทธรูปทองคำก้นแม่น้ำ รวบรวมพลกำลังจนแข็งแรงก็เริ่มดำลงดูครั้งแรก ก่อนดำน้ำหลวงปู่ตั้งจิตอธิษฐานอาราธนาบารมีพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ เทพยดา พญานาค พญาครุฑ พระแม่ธรณี พระแม่คงคา โปรดคุ้มครองรักษาให้พ้นภัยร้ายทั้งหลาย แล้วเอาเหล็กแหลมสั้น ๆ ลงไปด้วยเพื่อใช้เมื่อเกิดความจำเป็นต้องขุดต้องแงะ

    ทำพิธีกรรมจนเกิดความเชื่อมั่นในตนดี แล้วก็ดำลงไป น้ำลึกมากดำยังไม่ถึงพื้นทนไม่ไหว แก้วหูเจ็บปวดไปหมด ต้องรีบขึ้นจากน้ำ รักษาอยูเป็นเดือนถึงหาย แต่ยังไม่สิ้นความพยายาม

    เข้าพรรษาที่ 2 ร่างกายสมบูรณ์ก็ดำลงไปพิสูจน์เป็นครั้งที่ 2 แก้วหูลั่นทั้งเจ็บทั้งปวด ลงไปถึงก้นแม่น้ำต้องขึ้นมารักษาตัวอีกเป็นเดือน

    เข้าพรรษาที่ 3 ดิ่งลงไปใหม่ ไม่สำเร็จเหมือน 2 ครั้งแรก เพราะปวดแก้วหูอย่างเดิม เนื่องจากน้ำลึกมาก จริง ๆ ต้องขึ้นมารักษาตัวอีก
    หลวงปู่ไม่สิ้นความเพียร ตั้งอธิฐานต้องลงไปดูให้รู้แจ้งเห็นจริง มีพระพุทธรูปทองคำตามชาวบ้านโจษขานกันหรือไม่ ถ้าไม่ถึงก้นแม่น้ำจะไม่ละความพยายาม ด้วยความเพียรอันเลิศที่ฝึกมาอย่างหนัก ทำให้ท่านพบความสำเร็จในการดำลงครั้ง ที่4 ในพรรษาที่ 4
    หลวงปู่ดำลงไปจนถึงพื้นดินใต้แม่น้ำลงเหยียบบนบ่าพระพุทธรูปโดยไม่รู้ตัว ต่อเมื่อพิจารณาจึงเห็นเป็นพระพุทธรูปทองคำจริง ๆ องค์ใหญ่มหึมาอย่างไม่เคยพบเห็นบนพิ้นดินมาก่อน ขนาดยืดมือจนสุดเหยียดถึงจับแตะหูทั้งสองของท่านได้ แสดงว่าเฉพาะเศียรของท่านใหญ่ขนาดสุดมือเหยียดจากหูถึงหู ราวเมตรครึ่งเกือบ 2 เมตร แล้วองค์จะใหญ่และสูงขนาดไหน อาจสูงถึง 20-30 เมตร

    พิจารณาบริเวณรอบ ๆ องค์ท่าน รัศมีสีทองสุกอร่ามกลางความกระเพื่อมของน้ำ มองคล้ายแสงฟ้าแลบตลอดเวลา ต่ำลงไปด้านหลังพระพุทธรูปเป็นอุโมงค์ใหญ่มาก พยายามมองเข้าไปเห็นปลาขนาดใหญ่ว่ายวนตรงปากอุโมงค์หลายตัว ขนาดของมันกินคนทั้งตัวทางขวางได้สบาย คล้ายเป็นผู้รักษาอโมงค์ ไม่ให้ใครเข้าไป หลวงปู่เล่าสิ่งอัศจรรย์ต่อไปว่า เมื่อเพ่งลึกในอุโมงค์ตามแสงที่พุ่งเข้าไป ทำให้อัศจรรย์ใจไฉนใต้น้ำถึงมีคนอยู่ได้ เพราะเห็นถนัดตาว่าเป็นคน จึงว่ายเข้าไปดูใกล้ ๆ เป็นคนจริง ๆ แต่ท่อนล่างเป็นปลา ตามทางวรรณคดีของเราเรียกมนุษย์ครึ่งคนครึ่งปลาว่านางเงือก ภาพที่เห็นเป็นช่วงข้าง จึงพยายามว่ายเข้าดูให้ใกล้ที่สุด แต่เจ้าปลายักษ์ซึ่งทำตนเป็นผู้พิทักษ์ พากันมาว่ายวนปิดกั้นไม่ให้ทำตามต้องการได้

    และแล้วเกิดสิ่งที่หลวงปู่ไม่คาดคิดขึ้น ! ขณะหาทางเข้าไปดูนางเงือกในอุโมงค์นั่นเอง แสงสว่างเบื้องบนก็มืดลงฉับพลัน คล้ายมีสิ่งใหญ่โตมโหฬารปิดกั้นความมืดนั้น พอแหวนหน้าขึ้นดู เป็นสัตว์น้ำชนิดหนึ่งคล้ายปลากระเบนหรือนกยักษ์ ลดตัวต่ำลงมาตรงหัว จนต้องย่อตัวลง มันกดทับถึงกับต้องคุกเข่าหนี แต่มันก็ทับลงมาอีกเหมือนจะให้บี้แบนอยู่ก้นแม่น้ำ หลวงปู่คำคนิงเล่าถึงนาทีวิกฤติครั้งนั้น ด้วยสัญชาตญาณของผู้เข้าตาจนถึงเป็นถึงตาย ทำให้ดิ้นรนเพื่อชีวิตรอด ท่านจึงเอามือดันเจ้านกยักษ์ แต่ไม่อาจสู้ความใหญ่ความหนักของมันได้ มือป่ายแปะปะไปถูกจุดหนึ่งเข้า มันเต้นตุบ ๆ เหมือนหัวใจของมันอยู่ตรงนั้น จึงตัดสินใจใช้เหล็กสั้นที่ติดตัวมา แทงพรวดตรงจุดนั้นสุดแรง

    หลวงปู่เล่าถึงผลการแทง น้ำขุ่นคลักเป็นสีแดงฉานเหมือนเลือด นกยักษ์ทะลึ่งพรวดเหมือนกระพือปีกทยานขึ้นอย่างเร็ว ดูดตัวหลวงปุ่ตามขึ้นไปด้วยเพราะความใหญ่โตความแรงของมัน หลวงปู่ลอยตัวขึ้นพื้นน้ำรวดเร็วเหมือนติดจรวดด้วยแรงดูดของนกยักษ์ ชาวบ้านที่หาปลาแถวนั้นพากันตกใจมาก เขาเล่าให้ฟังได้ยินเสียงกึกก้องสนั่นหวั่นไหว น้ำแตกกระจายเป็นคลื่นใหญ่ ซัดสองฝั่งเหมือนระเบิดตก เมื่อพากันมองก็เห็นหลวงปู่ลอยคอกลางคลื่น พากันเอาเรือมาช่วย หลวงปู่ถามชาวบ้านว่าเห็นอะไรไหม ไม่เห็นอะไรเลย ได้ยินแต่เสียงดัง น้ำแตกเป็นคลื่นใหญ่กระแทกฝั่งแทบจะพัง ชาวบ้านกลับถาม ทำไมท่านถึงลอยคออยู่กลางน้ำยังงั้น ท่านก็บอกไปตามเรื่องที่ควรบอก

    หลวงปู่ กลับขึ้นฝังเรียบร้อย ก็เข้ากรรมฐานดูเจ้านกยัษ์นั่นไปยังไงมายังไง ทำไมถึงลงไปในน้ำลึก พอดูดเราขึ้นมาแล้วหายไปไหน ทำไมชาวบ้านถึงไม่เห็น ในที่สุดก็รู้เป็นพญาครุฑ หรือพระอุปคุต ท่านแปลงร่างลงมาช่วยตามที่อาราธนาไว้ก่อนจะดำลงไป หลวงปู่นับถือพระอุปคุตเป็นที่สุด เมื่อถึงคราวคับขันหรือเจอเหตุการณ์อันแรงร้ายใด ๆ ท่านจะอาราธนาอธิษฐานจิตขอให้ท่านช่วย การลงไปก้นแม่น้ำ พบ พระพุทธรูปทองคำ พบอุโมงค์ใหญ่ เห็นนางเงือกในอุโมงค์นั้นใช้เวลาอยุ่ใต้น้ำถึงสองชั่วโมง ไม่รู้หายใจอยู่ใต้น้ำเป็นเวลานานได้ยังไง เหมือนกัน หลวงปู่คำคนิงกล่าวถึงคามรู้สึกของท่านจากเหตุกราณ์
    ครั้งนั้น

    ตอน 1 จบแต่เพียงเท่านี้ค่ะ พรุ่งนี้จะพิมพ์ให้อ่านต่อเป็นตอน 2 นะค่ะที่หลวงปู่พบพญานาค ค่ะ ตอนนี้ขอตัวทำงานก่อนค่ะ
     
  2. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    ขอบคุณมากครับ....สำหรับบทความดีๆ...เอามาลงต่อนะครับ.....
     
  3. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    ขอบคุณค่ะ ชอบอ่านค่ะ อะไรที่เกี่ยวกับพญานาค ชอบอ่านหมดเลยค่ะ ส่วนหลวงปู่คำคณิงก็เคยได้ยินประวัติท่านมาเหมือนกันคะ
     
  4. five304

    five304 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    122
    ค่าพลัง:
    +1,274
    สนุกมากครับ
     
  5. เเมคมวย

    เเมคมวย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +79
    รอ อยู่นะ คร้าบ อ่าน เเล้ว


    ชอบ ชอบ .....
     

แชร์หน้านี้

Loading...