หนึ่งพรรษา เพื่อคุณค่าตลอดชีวิต

อุปสมบทหมู่​

ธรรมทายาท รุ่นเข้าพรรษา​

ประจำปีพุทธศักราช 2552

หนึ่งพรรษา เพื่อคุณค่า ตลอดชีวิต

​

ในสมัยพุทธกาลเมื่อถึงฤดูฝน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมีพระบรมพุทธานุญาต ให้พระภิกษุสงฆ์อยู่จำพรรษาตามวัดวาอาราม หรือบริเวณที่กำหนดขึ้นเป็นเวลา 3เดือน จึงเป็นโอกาสอันดี ที่พระภิกษุสามเณรจะได้มีโอกาสศึกษาพระธรรมวินัย และประพฤติ ปฏิบัติธรรม สั่งสมบุญบารมีให้ยิ่งๆขึ้นไป

เมื่อถึงฤดูเข้าพรรษา จึงเกิดประเพณีอันสืบเนื่องมาแต่โบราณว่า ชายไทยต่างนิยมอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ฝึกฝนอบรมตนเองให้มีความบริสุทธิ์บริบูรณ์อยู่ในพระธรรมวินัย มุ่งศึกษาหลักธรรมนำมาปรับปรุงแก้ไขสิ่งที่ยังบกพร่องในตนเองให้สมบูรณ์ เพื่อเตรียมตัวให้เป็นคนดีที่โลกต้องการและมีวิถีการดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง ซึ่งจะเป็นเหตุแห่งความสุขและความสำเร็จในชีวิตตลอดไป และยังเป็นช่วงเวลาสำคัญที่กุลบุตรจะได้บวชเพื่อทดแทนพระคุณบิดามารดาอีกด้วย ดังนั้นการมีโอกาสได้ใช้ชีวิตเป็นนักบวช แม้เพียงหนึ่งพรรษาก็สามารถรู้ เข้าใจคุณค่า และความหมายของการเกิดมาเป็นมนุษย์ ทำให้วางแผนเส้นทางชีวิตไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองได้อย่างถูกต้อง จึงนับว่าเป็นช่วงพรรษาแห่งชีวิตที่มีคุณค่า และเป็นการพัฒนาศักยภาพอย่างแท้จริง

ผู้บวชย่อมได้อานิสงส์แห่งบุญจากการบวช ได้ฝึกฝนอบรมตนเองตามพุทธวิธี และยังมีโอกาสได้บวชทดแทนคุณบิดามารดาผู้ให้กำเนิด ซึ่งนับเป็นการตอบแทนคุณด้วยวิธีที่ดีที่สุดอีกด้วย

ผลานิสงส์แห่งการบรรพชาอุปสมบท มีมากมายสุดจะนับจะประมาณได้ เช่น ย่อมทำให้ได้เกิดเป็นมนุษย์เป็นผู้มีปัญญา มีสัมมาทิฐิ ได้เกิดในดินแดนพระพุทธศาสนา มีโอกาสได้สร้างบุญบารมีต่อไปในภพชาติเบื้องหน้าอย่างน้อยถึง 64กัป* และบิดามารดาผู้ให้กำเนิดย่อมได้อานิสงส์เช่นกัน

(*หนึ่งกัป = ระยะเวลาการตั้งอยู่ของโลกหนึ่งรอบ)

ผู้เข้ารับการบรรพชาอุปสมบททุกท่าน
จะได้รับการฝึกฝนอบรมความรู้
ที่เพียบพร้อมด้วยวัตรปฏิบัติที่ดีงาม
เป็นแบบอย่างของสมณะดีที่โลกต้องการ
​

“บวชแล้วได้แนวทางในการดำเนินชีวิตครับ ซึ่งแต่ก่อนไม่มี แต่ก่อนผมใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ ถ้าเป็นเรือก็คือเรือที่ไม่มีหางเสือ ไม่มีเป้าหมาย ล่องลอยไปเรื่อยเปื่อย ไม่มีหลักยึดเหนี่ยวจิตใจ แต่การได้บวชเหมือนการที่เราได้ตั้งหางเสือแล้ว”

อดีตธรรมทายาท
อุดม แต้พานิช

“หากมีสักวิชาหนึ่ง เรียนแล้วมีความสุข และเงินหาซื้อไม่ได้ ทำไมเราจะไม่ลองมาเรียนละครับใช้เวลาเพียง 2-3เดือน ทำให้เราพบความสุขและได้รู้ว่า ก่อนเกิดมาจากไหน เราเกิดมาทำไม และตายแล้วจะไปไหน สิ่งเหล่านี้ปริญญาใบไหนๆก็ให้ไม่ได้ แต่ถ้าใครอยากได้รับ ก็ต้องมาเข้าคอร์สด้วยการบวช และนี่คือจุดพลิกผันของชีวิตที่ตัวเราเองก็คิดไม่ถึงจริงๆครับ”

อดีตธรรมทายาท
นายแพทย์วุฒิพันธ์ เลาหบริพัตร


** ผู้เข้ารับการอบรมต้องผ่านการสัมภาษณ์ และสอบขานนาค จากคณะกรรมการโครงการอบรม

** ผู้เข้ารับการอบรมไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น


กำหนดการอบรม

1.ระยะเวลาการอบรม

13 มิถุนายน - 5 ตุลาคม พ.ศ.2552 (จำนวน 115 วัน) ​

2.สอบสัมภาษณ์, สอบขานนาคและตรวจร่างกาย

เนื่องจากมีการขยายเวลาการรับสมัคร จนถึงวันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ.2552
โปรดติดต่อขอทราบรายระเอียดได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ (02) 831-1840 - 2, (08) 9447-8940, (08) 6971-9000, (08) 1483-2948​

3.เข้าวัดและปฐมนิเทศ

เนื่องจากมีการขยายเวลาการรับสมัคร จนถึงวันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ.2552
โปรดติดต่อขอทราบรายระเอียดได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ (02) 831-1840 - 2, (08) 9447-8940, (08) 6971-9000, (08) 1483-2948​

​

4.วันบรรพชาอุปสมบท

วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ.2552
เริ่มพิธี 15.30 น. ณ วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี
​

5.จบการอบรม

วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ.2552​

หลักฐานการสมัคร

1.รูปถ่ายขนาด 1 หรือ 2นิ้ว ไม่สวมหมวก ไม่ใส่แว่นตาดำ ถ่ายไว้ไม่เกิน 6เดือน จำนวน 1ใบ
2.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 1ชุด
3.สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 1ชุด
4.สำเนาหลักฐานการศึกษา จำนวน 1ชุด
5.ใบรับรองและสำเนาบัตรประชาชนผู้รับรอง

(ดาวน์โหลดใบสมัครและคำขานนาคได้ที่ http://www.dmycenter.com)​

การเตรียมของใช้ในการอบรม

1.เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว และรองเท้าผ้าใบ สำหรับฝึกภาคสนามจำนวน 1ชุด
2.ชุดอบรมธรรมทายาทสีขาวล้วน ไม่มีลาย จำนวน 2ชุด
3.เสื้อพระราชทานแขนสั้นสีขาวไม่มีลาย 1ตัว
4.ของใช้ส่วนตัว เช่น ขันน้ำสีขาว สบู่ ยาสระผม ผงซักฟอก แปรงและยาสีฟัน ไฟฉายพร้อมถ่านไฟฉาย
5.กางเกงขาสั้นสำหรับใส่อาบน้ำ, ผ้าเช็ดตัว (สีเหลือง)
6.ยาประจำตัว เช่น ยาแก้แพ้ ยาทากันยุง ยาแก้โรคกระเพาะ
7.มีดโกนหนวด และใบมีดโกนอย่างน้อย 4ใบ
8.รองเท้าแตะ สีน้ำตาล จำนวน 1คู่

ของที่ห้ามนำติดตัวตลอดการอบรม

1.วัตถุมีคม อาวุธ หรือสิ่งที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินต่างๆ
2. บุหรี่ รวมทั้งยาเสพติดทุกชนิด

ของใช้ที่ไม่ควรนำไปในการอบรม

1.หนังสืออ่านเล่น หรือสื่อที่เป็นอุปสรรคต่อการฝึกสมาธิ
2.อาหาร ของขบเคี้ยวทุกชนิด
3.เครื่องเล่นเทป, ซีดี, วิทยุ
4.กระจกเงา รูปภาพญาติมิตรและกล้องถ่ายรูป
5.ของมีค่าและเครื่องประดับ เช่น แหวน สร้อยคอ เป็นต้น
6.อุปกรณ์สำหรับติดต่อสื่อสารทุกชนิด เช่น โทรศัพท์มือถือ

**เจ้าหน้าที่จะตรวจและเก็บดูแลของเหล่านี้แทนท่านในระหว่างการอบรม

คุณสมบัติ


1.จบการศึกษาตั้งแต่ระดับ ม.6 หรือ ปวช. ขึ้นไปและมีอายุระหว่าง 20-50ปี
2.ได้รับอนุญาตจากบิดามารดา หรือผู้ปกครอง เป็นลายลักษณ์อักษร
3.สามารถเข้าอบรมได้ตลอดระยะเวลาการอบรม
4.เป็นผู้มีความประพฤติดี พร้อมที่จะรักษาระเบียบวินัย
5.สุขภาพแข็งแรง ไม่เป็นโรคติดต่อ ไม่มีโรคประจำตัว เช่น โรคลมชัก โรคเบาหวาน โรคจิตประสาท โรคไต โรคหอบหืด ต้องไม่ติดยาเสพติด และผ่านการตรวจร่างกาย ในวันปฐมนิเทศ
6.เป็นผู้ที่อยู่ง่ายกินง่าย ไม่เลือกอาหารให้เป็นภาระต่อตนเองและผู้อื่น
7.ไม่เป็นผู้ที่มีร่างกายในลักษณะทุพพลภาพ
8.ผ่านการสัมภาษณ์และสอบขานนาคทุกบท
9.มีผู้รับรองอย่างน้อย 2ท่าน (นำลายเซ็นและสำเนาบัตรประชาชนมาในวันสัมภาษณ์)

ขอเชิญสมัครอบรม หรือร่วมเป็นเจ้าภาพงานบวชได้ที่

ศูนย์ฝึกอบรมธรรมทายาท
อาคารแจ่มจันทร์ วัดพระธรรมกาย
หรือในวันอาทิตย์ที่เสา เอ็ม7 (M7) สภาธรรมกายสากล วัดพระธรรมกาย
โทรศัพท์ (02) 831-1840 - 2, (08) 9447-8940, (08) 6971-9000, (08) 1483-2948

www.dmycenter.com​

 

เศรษฐกิจตกสะเก็ด น่าจะหาบุญเด็ด ด้วยการบวช สึกออกมารวยเร็วรวด บุญติดจรวดเห็นทันตา

 

ข้าพเจ้าและครอบครัว ขอกราบอนุโมทนาบุญกับคุณรักบุญ และทุกๆท่านเจ้าภาพในโครงการอุปสมบทหมู่นี้


ขออนุโมทนาบุญทั้งหมดทั้งมวลในการเป็นเจ้าภาพการอุปสมบทหมู่
ขออุทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวรที่บรรพบุรุษของข้าพเจ้า ได้ไปเบียนเบียนทรัพย์สิน เงินทอง ทำให้ทุกๆท่านเดือดร้อน ข้าพเจ้าและครอบครัว ซึ่งเป็นทายาทกรรมนี้ไม่ได้มีส่วนรับรู้เรื่องราวนี้เลย ขอให้ท่านเมตตาอโหสิกรรมและจบการจองเวรที่ชาตินี้ด้วยเทอญ

เมื่อท่านรับบุญแล้วขอให้เปิดทางให้การเงิน ของข้าพเจ้าและครอบครัวคล่องตัวมากๆ โดยฉับพลันด้วยเทอญ สาธุ สาธุ