:หนังสือกฎแห่งกรรมที่คนบาปต้องอ่าน:

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 4 พฤษภาคม 2006.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,492
    [​IMG]

    นายธรรมจักร สิงห์ทอง เจ้าของผลงาน " กฎแห่งกรรม ๑-๑๐ เล่ม" กล่าวว่า เมื่อพูดถึงโลกน่าจะหมายถึงสังคมทั้งสังคมตั้งแต่ระดับประเทศและต่างประเทศ โลกปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปมาก
    แต่การเปลี่ยนแปลง ถ้าดีขึ้นเรียกว่า "พัฒนา" หรือความเจริญ ถ้าไม่มีอะไรดีขึ้นเรียกว่า "เสื่อม" แม้ความเจริญกับความเสื่อมจะเป็นของคู่กัน เกิดสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันตลอดเวลาก็ตาม
    เวลาใดที่มีความเจริญ ทุกคนจะรู้สึกว่ามีความสุข สะดวกสบาย การดำรงชีวิตเกิดการคล่องตัว แต่ถ้าเวลาใดความเสื่อมเกิด คนในสังคมทั้งสังคมก็จะเดือดร้อน ลำบาก ไม่ได้รับความสะดวกสบาย อดอยาก ยากจน ขัดสน เป็นทุกข์ ที่เห็นได้ชัดเจน คือ
    ความเป็นเด็กไทยแบบพุทธที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น กิริยามารยาทเรียบร้อย มีสัมมาคารวะ รู้จักเด็ก รู้จักผู้ใหญ่ อ่อนน้อมถ่อมตน ที่สำคัญคือความยึดมั่นในหลักกตัญญูขาดหายไป ผู้ใหญ่ไม่สามารถทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดีให้เด็กได้ดีเท่าที่ควร
    คนในสังคมเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ ขาดความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ข้อจำกัดทางสังคมถูกตีวงแคบลงอย่างน่าใจหาย บ้านใกล้เรือนเคียงแทบไม่รู้จักกัน ไม่ว่าจะเป็นตัวเมืองหรือชนบท ก็ไม่แตกต่างกันมากนัก
    ที่เป็นเช่นนี้เพราะคนในสังคมขาดความเชื่อในเรื่องของหลักกฎแห่งกรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว บาปบุญ นรก สวรรค์ และการเวียนว่ายตายเกิด จึงได้กลายมาเป็นหนังสือ "กฎแห่งกรรม" เล่ม ๑-๑๐ ให้ชาวพุทธได้อ่านเพื่อเกรงกลัวต่อบาปที่ทำ
    ตัวอย่างเรื่อง มัดลิงสอนใคร เนื้อหาส่วนหนึ่งมีครอบครัว ปัญญา และ ธารินี สองสามีภรรยาเป็นครอบครัวเล็กๆ หลังแต่งงานผ่านมา ๓ ปี ยังไม่มีลูก โดยพวกเขามีอาชีพเป็นชาวสวนปลูกหลายอย่างโดยเฉพาะมะพร้าว
    วันหนึ่ง ปัญญาได้พบลิงตัวหนึ่ง รูปร่างดี ท่าทางแข็งแรงปราดเปรียว เลยซื้อมา เพื่อนำมาฝึกใช้งาน ก็เริ่มฝึกตั้งแต่ยังไม่ได้โตเต็มที่ กะว่ากว่ามันจะใช้การได้ฉลาด รับคำสั่งคล่องก็โตพอดี จนแล้วจนรอด ใช้เวลาฝึกกว่า ๒ เดือน ก็ยังไม่เป็นผล ไม่สามารถรับคำสั่งใดๆ ได้เลย
    ปัญญา คิดว่า ลิงส่วนใหญ่ฝึกได้โดยไม่ต้องเฆี่ยนตี เพียงแต่ถือไม้เรียวมันก็กลัวแล้ว แต่เจ้าตัวนี้มันคงต้องการให้ลงแส้เจ็บๆ ถึงจะจำและเชื่อฟัง จึงเริ่มแผนใหม่ ปรากฏว่าไม่ได้ผล ยิ่งลงโทษมันยิ่งมึน ทำท่าจะดุร้ายด้วย เขาโกรธจึงคว้าขามันรวบใช้เชือกมัดสองขาหลังติดกัน และมัดมือไพล่หลัง จนเห็นว่ามันดิ้นไม่ได้แล้ว จึงใช้แส้ตี พร้อมกับสอนมัน ผ่านไปสองสามวัน ปัญญาถอดเชือกออก ลิงตกใจวิ่งหนีเข้าป่าไป
    สัญชาตญาณของสัตว์ที่ถูกเลี้ยง เคยได้อาหาร จึงกลับมาที่บ้านของปัญญาอีกครั้ง ด้วยความโกรธ ปัญญาจึงมัดอีก แล้วก็ลงโทษ ใช้ไม้เรียวตีอย่างแรงจนเนื้อตัวเป็นแผล แล้วนำไปปล่อยในป่า โดยไม่ได้แก้มัดให้มัน ด้วยความโกรธแค้นเพราะมันทำให้เสียเงินเปล่า
    หลังจากนั้น ๑๕ วัน ปัญญาได้ผ่านไปเห็นลิงตัวนี้นอนตายอย่างน่าอนาถ ที่ขาแขนยังถูกมัด แต่ปัญญาเองก็ยังไม่สำนึกบาป
    และไม่นาน ภรรยาของปัญญาท้อง คลอดลูกออกมา สองสามีต้องตกใจเมื่อเด็กทารกอยู่ในสภาพเท้าสองข้าง ฝ่าเท้าพลิกหงายขึ้น หลังเท้าคว่ำลงมีรอยคอดตรงข้อเท้า และเอียงเข้าหากันเหมือนโดนผูกข้อเท้าติดกัน ส่วนมือก็ยื่นงอไพล่ไปข้างหลัง และข้อมือเอียงไปชนกันเหมือนคนถูกมัดมือไพล่หลัง จนดิ้นหลุดออกมา บางครั้งกลับสู่สภาพเดิม ตรงนี้เองทำให้สองสามีภรรยาได้สำนึกถึงบาปที่ทำเอาไว้กับลิงตัวนั้น

    อย่างไรก็ตาม ประชาชนทั่วไปสนใจหนังสือชุดนี้หรือมีประสบการณ์กฎแห่งกรรมจากชีวิตจริง ประสงค์บริจาคเรื่อง สอบถามรายละเอียดไปได้ที่ ๖๗๙/๗๑-๗๔ ถนนประชาอุทิศ ๔๕ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ๑๐๑๔๐ โทร.๐-๒๘๗๒-๙๘๙๘ โทรสาร ๐-๒๔๒๗-๙๕๘๖


    ที่มา [​IMG]



    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤษภาคม 2006
  2. กิมท้ง

    กิมท้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +165
    *ความเป็นจริงแล้วขึ้นชื่อว่าบุคคลที่มีจิตเลว มักจะไม่ชอบเรื่องของธรรมมะ และความดีเอาเสียเลย เช่นถ้ามีคนมาชวนไปทำบุญ หรือทำความดี ก็มักจะปฎิเสธหรือบ่ายเบี่ยงตลอด แต่ถ้ามีคนมาชวนไปทำชั่ว หรือผิดศีลธรรมสิ ทันทีทันใดเลย ,แต่เราก็ไม่ควรไปรังเกลียดโกรธเคืองบุคคลเหล่านี้ เพราะทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้..(อุปมาเหมือนกับดอกบัว 4 เหล่า) และบางคนเพราะถูกอกุศลจิตครอบงำ จิตใจจึงได้มืดบอดตลอดเวลา แต่วาระใดที่กุศลกรรมให้ผล เมือนั้นย่อมพบหนทางสว่างได้ เพราะมันเป็นกฏของกรรม *(แต่ถ้าบุคคลใดมีกำลังใจที่เข้มแข็งจริง ก็ย่อมสามารถเอาชนะตนเองได้จริง)[​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • กบ.jpg
      กบ.jpg
      ขนาดไฟล์:
      26.6 KB
      เปิดดู:
      1,536
  3. นืเฟร

    นืเฟร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +433
    เราเลือกได้เสมอว่าจะทำกรรมแบบไหน ขอให้มีสติกับการใช้ชีวิต อย่างพระเจ้าเทวทัต ที่จองล้างจองผลาญพระพุทธเจ้า ถ้าท่านเลือกที่จะไม่ทำซักอย่าง ป่านนี้ก็คงไม่ต้องไปอยู่ในนรกอเวจีหรอก
     
  4. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    ขออนุโมทนาครับ ผมเคยอ่านหนังสือชุดกฎแห่งกรรมของ ท.เลียงพิบูลย์ ตั้งแต่เด็กๆ ก็มีเรื่องราวทำนองนี้เยอะมาก ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องจริงจากประสบการณ์ของผู้อื่นทั้งนั้น ผมอ่านไปก็กลัวบาปกรรมไป ก็เลยทำให้ไม่ค่อยกล้าทำบาปตั้งแต่เด็กน่ะครับ.......
     
  5. คนขายเทียน

    คนขายเทียน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +518

    ตอนนี้ผมก็อยากอ่านเรื่องแนวนี้เหมือนกันครับ ยิ่งเป็นหนังสือเรื่องกฏแห่งกรรม ของ คุณ ท.เลียงพิบูลย์ นี่Classic มากๆนะครับ นึกถึงหนังสือ กฏแห่งกรรมทีไร เป็นต้องนึกถึง ท่านนี้ทุกทีครับ
     
  6. แม่น้องนน

    แม่น้องนน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    457
    ค่าพลัง:
    +1,427
    ขออนุโมทนาค่ะ...ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือแนวนี้เท่าไหร่..

    ได้รับความรู้เยอะดีค่ะ..
     
  7. ดาราจักร

    ดาราจักร ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,707
    ค่าพลัง:
    +10,094
    เคยอ่านของ ท.เลี้ยงพิบูลย์ สมัยยังเป็นเด็กๆ แต่ตอนนั้น

    หนังสือก็เก่ามากแล้ว ไม่รู้ เป็นของสมัยไหนเหมือนกัน

    คาดว่าเดี๋ยวนี้คงหายาก มากๆครับ

    เป็นเหตุให้เชื่อเรื่องกรรมมาตั้งแต่เด็กๆเลย เชื่อแบบสนิทใจ

    อนุโมทนาครับ
     
  8. ทรายสวย

    ทรายสวย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +231
    อนุโมทนาค่ะ ตามธรรมดาจิตมักไหลลงสู่ที่ต่ำเสมอ ถ้าเราคิดเรื่องไม่ดี ในขณะสวดมนต์ หรือทำบุญ หรือนั่งสมาธิ หรือทำเรื่องดี ๆ อยู่แล้วจิตมันก็เหมือนมีมารให้มีเรื่องไม่ดีผ่านเข้ามาในหัวสมอง ต้องสะบัดหัวหรือสลัดให้มันหลุดออกไปโดยหยุดคิดทันทีหาเรื่องอื่นคิดแทน หรือปล่อยให้มันผุดขึ้นมาแล้วผ่านเลยไป
     

แชร์หน้านี้

Loading...