สูบบุหรี่เป็นประจำ...นำไปสู่อบาย นรกขุม 5

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย โทรจิต, 15 กันยายน 2010.

  1. โทรจิต

    โทรจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2010
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +1,377
    สูบบุหรี่เป็นประจำ...นำไปสู่อบาย นรกขุม 5


    <DIV class=MsoNormal align=center>เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา


    <DIV class=MsoNormalCxSpFirst align=justify>พ่อของลูกเดินทางมาจากเมืองจีนแผ่นดินใหญ่ หอบเสื่อผืนหมอนใบมาตั้งรกรากที่เมืองไทย ได้มาแต่งงานกับแม่ที่เป็นคนจีนที่เกิดในเมืองไทย มีลูกด้วยกันแปดคน พ่อเป็นคนที่ขยัน อดทนต่อสู้ชีวิต หนักเอาเบาสู้ ทำมาหากินเลี้ยงดูครอบครัวด้วยอาชีพสุจริตทุกอย่าง แต่ด้วยความที่ไม่รู้ในเรื่อง[URL="http://www.dmc.tv/programs/case_study.html"] กฎแห่งกรรม[/URL] ทำให้ดำเนินชีวิตผิดพลาด เท่าที่ลูกจำความได้ ทราบว่าพ่อเคยทำงานในโรงเหล้าแห่งหนึ่งในอดีต พอโรงงานเลิกผลิต (คือ เจ๊ง)[COLOR=#ffffff]_[/COLOR]พ่อก็มาประกอบอาชีพเปิดร้านขายกาแฟ และสุดท้ายก็เปลี่ยนมาขายของชำ
    <DIVE />พ่อมีความเชื่อแบบคนจีนทั่วไป คือ หนึ่งสมองสองมือ ต้องขยันและอดทน นิยมไหว้เจ้า เชื่อเรื่องฮวงจุ้ย ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องการทำ[URL="http://www.dmc.tv/pages/%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1-%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1/%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%8D%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B9%89.html"]บุญ[/URL]ในพระพุทธศาสนา แต่ก็ไม่ขัด เมื่อมีคนชวนก็ทำไปตามประเพณี พ่อไม่ดื่มเหล้า แต่ชอบสูบบุหรี่ทุกวัน เพราะมีความเชื่อผิดๆว่า สูบบุหรี่จะทำให้เป็นคนมีไฟตลอดเวลา จนสุดท้ายก็ล้มป่วยด้วยโรคถุงลมโป่งพอง และเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 73 ปี
    แม่ของลูกเป็นคนจีน ชอบช่วยเหลือและมีน้ำใจกับคนรอบข้าง แต่ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องการทำบุญ แต่ก็เห็นแม่ชอบใส่บาตร แม้จะไม่ทุกวัน แต่ก็ทำให้ลูกได้เห็นตัวอย่าง รู้จักการ[URL="http://www.dmc.tv/pages/meritorious_news/20100814_give_alms_1,000,000.html"]ตักบาตร[/URL]มาตั้งแต่เด็กๆ แม่ล้มป่วยกระเสาะกระแสะ เพราะเสียใจที่ลูกชายคนที่สามประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิต ตอนเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปี 1[COLOR=#ffffff]_[/COLOR]ได้เดินทางไปเข้าค่ายสร้างโรงเรียนที่ต่างจังหวัด ซึ่งตอนนั้นพี่ชายอายุได้เพียง 18[COLOR=#ffffff]-[/COLOR]ปี เป็นเหตุให้แม่ตรอมใจคิดถึงลูกชายมาก จนกระทั่งต่อมาได้เสียชีวิตด้วยโรคเบาหวาน และเส้นโลหิตฝอยในสมองแตก เมื่ออายุได้ 48 ปี


    <DIV class=MsoNormalCxSpFirst align=justify>[FONT=Arial][COLOR=#333333]<DIV class=MsoNormalCxSpMiddle align=justify>[COLOR=#333333][COLOR=#000066]คำถามข้อที่ 1.พ่อของลูกตายแล้วไปอยู่ภพภูมิไหน ท่านได้รับบุญที่ลูกๆสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวอุทิศให้หรือไม่คะ[/COLOR][/COLOR][/COLOR][/FONT]



    [COLOR=#333333][SIZE=3][FONT=Arial]<DIV class=MsoNormalCxSpMiddle align=center><DIVE />[IMG]http://www.dmc.tv/images/ScoopUpdate/Dream01/D530903/530903p1.jpg[/IMG]</DIV>[/FONT][/SIZE][/COLOR]
    [COLOR=#333333][SIZE=3][FONT=Arial]ก่อนที่คุณพ่อของลูกจะเสียชีวิต ใจของท่านเศร้าหมองไม่ผ่องใส เพราะในขณะนั้น ท่านได้เห็นภาพกรรมนิมิตฝ่ายอกุศลกรรมที่ตัวท่านได้ทำอยู่เป็นประจำ เช่น ภาพในช่วงที่ท่านกำลังสูบบุหรี่ เป็นต้น ได้มาปรากฏฉายให้เห็นอยู่ภายในใจ [/FONT][/SIZE][/COLOR]



    [COLOR=#333333][SIZE=3][FONT=Arial]<DIV class=MsoNormalCxSpMiddle align=justify><DIVE />[COLOR=#006699](คุณ[URL="http://www.dmc.tv/pages/guide/page15.html"]ครูไม่ใหญ่[/URL]: การสูบบุหรี่นั้น หลายๆท่านอาจจะยังไม่เข้าใจว่า มันจะเป็นบาปเป็นกรรมได้อย่างไร แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทุกๆคนคงจะทราบกันดีว่า [B][COLOR=#990000]บุหรี่นั้นมีโทษต่อร่างกายขนาดไหน [/COLOR][/B]อย่างน้อยก็ทำให้คนที่สูบเหมือนตายผ่อนส่ง ดังนั้น เมื่อรู้แล้วยังสูบ ก็ถือว่าเป็นการทำร้ายหรือฆ่าตัวเองทางอ้อมอย่างหนึ่ง [B][COLOR=#990000]อย่าลืมว่า ร่างกายของเรานั้น มีไว้เพื่อทำความดีและเอาไว้สร้างบารมี[/COLOR][/B] ดังนั้น ลูกๆคนไหนที่ยังสูบบุหรี่อยู่ ก็ให้รีบหักดิบตัดใจเลิกเสียตั้งแต่วันนี้ ชีวิตหลังความตายจะได้ปลอดภัยและมีสุคติเป็นที่ไป)[/COLOR] </DIV>[/FONT][/SIZE]


    [SIZE=3][FONT=Arial]<DIV class=MsoNormalCxSpMiddle align=center>[IMG]http://www.dmc.tv/images/ScoopUpdate/Dream01/D530903/530903p2.jpg[/IMG] <DIVE /></DIV>[/FONT][/SIZE]
    [SIZE=3][FONT=Arial]ด้วยเหตุนี้ คตินิมิตก่อนตายของท่านจึงดำมืด เมื่อท่านละจากโลกไปแล้ว เจ้าหน้าที่จาก[URL="http://www.dmc.tv/pages/about/page08.html"]ยมโลก[/URL]จึงได้พาตัวท่านทะลุมิติอันดำมืด ไปสู่ยมโลกของ[URL="http://www.dmc.tv/pages/about/page08.html"]มหานรก[/URL]ขุมที่ห้า เพื่อเข้าสู่กระบวนการพิพากษาบุญบาปในทันที เมื่อการพิพากษาจบลง คุณพ่อของลูกก็ถูกตัดสินให้ไปรับโทษทัณฑ์อยู่ในยมโลกของมหานรกขุมที่ห้า จากกรรมที่ท่านชอบสูบบุหรี่อยู่เป็นประจำ และกรรมที่ท่านเคยทำงานอยู่ในโรงเหล้ามาก่อน [/FONT][/SIZE]



    [SIZE=3][FONT=Arial]<DIV class=MsoNormalCxSpMiddle align=justify><DIVE />[COLOR=#006699](คุณครูไม่ใหญ่: แม้อาชีพรับจ้างทำงานในโรงเหล้า จะเป็นอาชีพที่ถูกกฎหมาย ตำรวจไม่จับ แต่สำหรับกฎแห่งกรรมแล้ว อาชีพนี้ถือเป็นอาชีพที่มีความผิดร้ายแรงเลยทีเดียว เพราะเป็นอาชีพที่ส่งเสริมให้คนกินเหล้า ทำให้ขาดสติ จึงไปทำผิดศีลผิดธรรมต่างๆนานา ด้วยเหตุนี้เอง คุณพ่อของลูกจึงมีส่วนในบาปของคนที่ซื้อเหล้าไปกินทุกคน)[/COLOR] </DIV>[/FONT][/SIZE]


    [SIZE=3][FONT=Arial]<DIV class=MsoNormalCxSpMiddle align=center>[IMG]http://www.dmc.tv/images/ScoopUpdate/Dream01/D530903/530903p3.jpg[/IMG] <DIVE /></DIV>[/FONT][/SIZE]
    [SIZE=3][FONT=Arial]คุณพ่อของลูกกำลังได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส เพราะร่างกายของท่านจะมีเปลวไฟลุกไหม้ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เมื่อร่างกายของท่านถูกเปลวไฟลุกลามไปทั่ว ท่านจึงรู้สึกปวดแสบปวดร้อนอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน และด้วยแรงกรรมบวกกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น จึงทำให้ท่านอยู่ไม่ติด วิ่งไปหาธารน้ำที่ตั้งอยู่ตรงหน้า [/FONT][/SIZE]



    [SIZE=3][FONT=Arial]<DIV class=MsoNormalCxSpMiddle align=center>[IMG]http://www.dmc.tv/images/ScoopUpdate/Dream01/D530903/530903p4.jpg[/IMG] <DIVE /></DIV>[/FONT][/SIZE]
    [SIZE=3][FONT=Arial]เมื่อท่านวิ่งไปถึงธารน้ำแล้ว ทันใดนั้นเอง ท่านก็ได้กระโจนลงไปอย่างไม่คิดชีวิต เพื่อหวังจะให้น้ำในลำธารช่วยดับไฟที่กำลังลุกไหม้ แต่พอกระโดดลงไปแล้ว ปรากฏว่า...ธารน้ำดังกล่าวกลับเป็นธารน้ำทองแดงร้อน ดังนั้น เมื่อท่านกระโจนลงไปในธารน้ำทองแดงร้อนแล้ว กายของท่านจึงถูกเผาไหม้ ได้รับความทุกข์ทรมานจนตายในที่สุด เมื่อท่านตายแล้ว กรรมก็ได้ประกอบกายให้ท่านใหม่ จากนั้น ท่านก็จะถูกทัณฑ์ทรมานเช่นนี้ซ้ำๆไปอีกยาวนาน [/FONT][/SIZE]

    [CENTER][SIZE=3][FONT=Arial][IMG]http://www.dmc.tv/images/ScoopUpdate/Dream01/D530903/530903p5.jpg[/IMG] <DIVE />[/FONT][/SIZE][/CENTER]
    [SIZE=3][FONT=Arial]
    </DIV>[/FONT][/SIZE]
    [CENTER][SIZE=3][FONT=Arial]สำหรับบุญที่ลูกได้ทำ ไม่ว่าจะเป็นบุญที่ลูกได้สร้างองค์พระธรรมกายประจำตัว และบุญทุกบุญที่ลูกได้ทุ่มเทสร้างบารมีอยู่ในเขตในกับหมู่คณะ อย่างเต็มที่เต็มกำลัง แล้วอุทิศส่งไปให้กับคุณพ่อของลูกนั้น ได้ส่งผลทำให้ระยะเวลาในการถูกทัณฑ์ทรมานของท่านสั้นลงไปกว่าเดิมมาก ดังนั้น ลูกต้องตั้งใจทำหน้าที่อย่างเต็มที่เต็มกำลังในทุกภารกิจที่หมู่คณะมอบหมาย จากนั้นก็ให้อุทิศบุญเหล่านั้นส่งไปให้ท่านบ่อยๆ จากหนักก็จะได้เป็นเบา จากเบาก็จะได้หาย และเมื่อบุญของคุณพ่อของลูก...มากขึ้น...มากขึ้น ท่านก็จะได้เลื่อนไปอยู่ในภพภูมิที่สูงยิ่งๆขึ้นไป [/FONT][/SIZE][/CENTER]

    [CENTER][SIZE=3][FONT=Arial]<DIVE />แต่ถ้าจะให้ดี ลูกต้องเข้าถึงพระธรรมกายภายใน แล้วใช้วิชชาธรรมกายไปช่วยท่านในยมโลกด้วยตัวของลูกเอง ซึ่งวิธีนี้ถือเป็นการช่วยที่ดีที่สุด เร็วที่สุด และลัดที่สุด [/FONT][/SIZE][/CENTER]
    [SIZE=3][FONT=Arial]
    </DIV>[/FONT][/SIZE]

    [CENTER][SIZE=3][FONT=Arial][IMG]http://www.dmc.tv/images/ScoopUpdate/Dream01/D530903/530903p6.jpg[/IMG] <DIVE />[/FONT][/SIZE][/CENTER][SIZE=3][FONT=Arial]
    </DIV>[/FONT][/SIZE]

    [CENTER][SIZE=3][FONT=Arial]ส่วนบุพกรรมที่ทำให้คุณพ่อของลูก ต้องมาเสียชีวิตด้วยโรคถุงลมโป่งพอง ทั้งนี้เป็นเพราะวิบากกรรมในปัจจุบันที่ท่านชอบสูบบุหรี่อยู่เป็นประจำทุกวัน ได้มารวมส่งผลกับเศษกรรมปาณาติบาตในอดีตชาติ ที่ท่านได้เคยเผาป่าร่วมกับพวกชาวบ้าน เพื่อที่จะเก็บเอาของป่า เช่น พวกยอดไม้ที่แตกขึ้นมาใหม่ หรือเห็ดป่าที่จะงอกขึ้น หลังจากที่ได้ทำการเผาป่าไปแล้ว เป็นต้น จนเป็นผลทำให้สัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในผืนป่าแห่งนั้น เสียชีวิตไปเป็นจำนวนมาก [/FONT][/SIZE][/CENTER]



    [CENTER][SIZE=3][FONT=Arial]<DIVE />ดังนั้น เมื่อวิบากกรรมในปัจจุบัน และเศษกรรมปาณาติบาตในอดีตชาติ ดังที่กล่าวมาแล้ว ได้มารวมกันส่งผล จึงเป็นผลทำให้คุณพ่อของลูกต้องมาป่วย และเสียชีวิต ด้วยโรคถุงลมโป่งพองในที่สุด [/FONT][/SIZE]</DIV>
    [CENTER][SIZE=3][FONT=Arial][/FONT][/SIZE][/CENTER]
    [/CENTER]



    [SIZE=3][FONT=Arial][CENTER]โปรดติดตามตอนต่อไป[/CENTER][/FONT][CENTER][/center][/SIZE][CENTER]

    [CENTER][SIZE=3][FONT=Arial][COLOR=#990000]สูบบุหรี่เป็นประจำ...นำไปสู่อบาย นรกขุม 5 ตอนที่ 2 [/COLOR][/FONT][/SIZE][/CENTER]


    [/CENTER]





    [/COLOR]





    <CENTER id=container></CENTER>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2010
  2. krasin

    krasin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    395
    ค่าพลัง:
    +2,821
    เรื่องย่อหนังสือ "แฟ้มคดีธรรมกาย "

    ข้อกล่าวหาวัดพระธรรมกาย และพระไชยบูลย์ สุทธิผล ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน แต่ละข้อกล่าวหายังไม่เคยได้รับการดำเนินการให้เกิดความกระจ่าง ทั้งจากเจ้าหน้าที่รัฐผู้มีหน้าที่โดยตรงและจากวัดพระธรรมกาย คงปล่อยให้อึมครึมลี้ลับ เกิดความอึดอัดเอือมระอาแก่พุทธศาสนิกชนเป็นอย่างมาก..

    คณะทำงานรวบรวมข้อมูล-หลักฐานกรณีวัดพระธรรมกาย ได้ทำการศึกษา ตรวจสอบ รวบรวม วิเคราะห์ ค้นหา นับตั้งแต่เริ่มแรกที่ได้ทำงานร่วมกับคณะกรรมาธิการศาสนาฯ บางครั้งต้องถึงกับเข้าไปฝังตัวในกลุ่มกัลยาณมิตรของวัดพระธรรมกาย เข้าไปศึกษาหาหลักฐานจากชมรมพุทธศาสตร์สากลในมหาวิทยาลัยต่างๆ เป็นต้น คณะทำงานฯ จำต้องตั้งปณิธานเป็นบรรทัดฐานไว้เสมอว่า การทำงานเกี่ยวกับความเชื่อ ความนับถือส่วนบุคคลเช่นนี้“จะต้องทำงานประกอบด้วยความเมตตา รู้จักให้อภัย รู้จักการเสียสละ รอบคอบ และที่สำคัญ จะต้องไม่ละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น” แต่จากการค้นหาข้อมูล ยิ่งสาวลึกเข้าไป ยิ่งพบความไม่ชอบมาพากลของวัดพระธรรมกายและบุคคลใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น พบเห็นการจัดตั้งเครือข่ายเหมือนองค์กรอาชญากรรมใหญ่ๆ มีการใช้กลวิธีเล่ห์เพทุบายเพื่อประทุษร้ายบุคคลผู้วิพากษ์วิจารณ์วัดพระธรรมกายนานัปการ และขณะนี้เหตุการณ์บานปลายจนถึงขั้นกล่าวจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ กระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ไปแล้วดังนั้น คณะทำงานฯ จึงต้องหันกลับมาตั้งต้นใหม่ว่า"เราควรจะมีเมตตา ให้อภัยแก่คนที่ไม่รู้จักสำนึก” หรือไม่?

    ซึ่งในกรณีของวัดพระธรรมกายนี้ เราสรุปได้ชัดเจนว่า บุคลากรของวัดพระธรรมกายและผู้ที่เกี่ยวข้องล้วนไร้สำนึกผิดชอบชั่วดี ส่วนหลักการเคารพสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ซึ่งวัดพระธรรมกายชอบยกขึ้นอ้างเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตนเองนั้น คณะทำงานฯเห็นว่าเราจะเคารพศักดิ์ศรีและพิทักษ์สิทธิมนุษยชนของประชาชนผู้ที่ถูกวัดพระธรรมกายหลอกลวง มากกว่าการพิทักษ์สิทธิของวัดพระธรรมกายซึ่งเป็นตัวการทำความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน และทำความเสียหายให้แก่สถาบันพระพุทธศาสนาอันเป็นที่รักของเรา

    ณ วันนี้ คณะทำงานฯ จึงตัดสินใจนำเสนอเผยแพร่ข้อมูลหลักฐาน ปรากฏเป็นหนังสือ "แฟ้มคดีวัดพระธรรมกาย เล่มที่ 1”เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด ดังมีหัวข้อและสรุปเนื้อหาย่อได้ดังนี้

    1. รายงานเสนอนายกรัฐมนตรีฉบับที่ 1ใน พ.ศ. 2532 หน่วยงานความมั่นคงและการข่าวของรัฐ ได้เสนอรายงานเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายตรงต่อนายกรัฐมนตรี พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ในหลายกรณี เช่น การทำธุรกิจในทางลับ การมรณภาพของพระชิตชัย มหาชิโต พฤติการณ์ส่วนตัวของพระไชยบูลย์ที่ไม่ชอบมาพากล การขอเข้าพบหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช เพื่อขอให้ยุติข้อเขียนในคอลัมน์ “ซอยสวนพลู” แต่หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์มิให้เข้าพบ เป็นต้น คณะทำงานฯ ไม่ทราบเหตุผลว่า ข้อมูลที่ประทับตราว่า “ลับมาก” อยู่ในข่ายที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการโดยเร่งด่วน รัฐบาลกลับไม่ดำเนินการให้ถูกต้องตามอำนาจ ตามความชอบธรรมแห่งกฎหมายและการปกครองรัฐ กลับปล่อยให้ปัญหาวัดพระธรรมกายลุกลามแผ่ขยายออกไปจนถึงปัจจุบัน

    2. รายงานเสนอนายกรัฐมนตรีฉบับที่ 2
    ใน พ.ศ. 2535 หน่วยงานความมั่นคงและการข่าวของรัฐ ได้เสนอรายงานเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายตรงต่อนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ซึ่งในปีนั้น ประเทศไทยเกิดวิกฤติทางการเมือง ทำให้ต้องเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีถึง 3 ครั้ง อำนาจรัฐคาบเกี่ยวระหว่าง รสช. กับอำนาจจากการเลือกตั้ง นายกฯ อานันท์ ปันยารชุน เป็นนายกเฉพาะกิจครั้งที่สอง จึงไม่สามารถสั่งปฏิบัติการเรื่องละเอียดอ่อนเช่นนี้ได้ อีกทั้งนายกฯ พลเอกสุจินดา คราประยูร ก็ประสบปัญหาทางการเมืองความไม่พอใจของประชาชน ทั้งระยะเวลาดำรงตำแหน่งเพียงเดือนกว่า จึงน่าเชื่อว่าคงไม่สามารถจัดการปัญหาวัดพระธรรมกายตามรายงานของหน่วยงานความมั่นคงได้ ก่อนหน้านี้ ในปี 2534 วัดพระธรรมกายถูกจัดเข้าข่ายเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติและอยู่ในบัญชีดำ (Black List) ของสภารักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) แต่จากปัญหาความไม่ลงตัวในอำนาจของ รสช. จึงไม่อาจจัดการปัญหาดังกล่าวได้ ปล่อยให้วัดพระธรรมกายสร้างเครือข่ายองค์กรใหญ่โต มีกลุ่มผลประโยชน์เข้าไปสมรู้ ร่วมคิดจำนวนมากขึ้น
    กระทั่งแผ่ขยายอาณาจักรสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนทุกหย่อมหญ้าในปัจจุบัน

    3. ผลประโยชน์และรายได้ของพระธัมมชโย
    มูลนิธิธรรมกาย มีนโยบายระดมทุนจากประชาชนมากมายหลายวิธีการ ในห้วงหลายปีที่ผ่านมา สุจริตชนโดยทั่วไปย่อมรู้เห็นว่า มีเงินหมุนเวียนในมูลนิธิแห่งนี้นับ 10,000 ล้านบาท แต่จากเอกสารงบดุลของมูลนิธิฯ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2540 ที่รายงานต่อทางการ มูลนิธิฯ มีสินทรัพย์หมุนเวียนเพียง 3 ล้านกว่าบาทเท่านั้น สำหรับงบดุลสิ้นสุดปี 2541 มูลนิธิฯ แห่งนี้ยังไม่รายงานต่อทางการแต่อย่างใด ทั้งที่เวลาผ่านเข้าสู่ไตรมาสที่ 3 ของปี 2542 แล้ว ทางการเองก็ปล่อยปละละเลย ไม่ตรวจสอบ ไม่จัดการกับปัญหาของมูลนิธิฯ ปล่อยให้การดำเนินการของมูลนิธิธรรมกายกระทำการท้าทายอำนาจรัฐ ละเมิดกฎหมายบ้านเมืองอยู่ตลอดเวลาที่ผ่านมาคณะทำงานฯ เชื่อว่า รายได้และผลประโยชน์ของพระธัมมชโย รวมแล้วไม่น่าจะต่ำกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาทอย่างแน่นอน ทรัพย์สินส่วนใหญ่จะอยู่ในลักษณะปกปิด ส่วนเงินสดจะปรากฏอยู่ในบัญชีลับๆ ซึ่งทางวัดพระธรรมกายได้มีหนังสือแจ้งไปยังสาขาของธนาคารที่ฝากเงินว่า ห้ามเปิดเผยบัญชีของพระธัมมชโยและบุคคลรอบข้างเด็ดขาดถ้าเปิดเผยทางวัดฯ จะถอนเงินฝากทั้งหมดซึ่งก็สร้างความหวาดกลัวให้กับธนาคารผู้รับฝากเป็นอย่างมากเพราะเกรงว่ายอดเงินก้อนมหึมาจะโยกย้ายไปฝากธนาคารอื่น ด้วยเหตุผลข้อนี้ คณะทำงานฯ จึงตรวจสอบอีกครั้งจึงพบว่า ปัจจุบันพระธัมมชโยน่าจะมีเงินสดหลายพันล้านบาท ใกล้เคียงกับเงินสดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

    4. การตัดต้นไม้มงคลของพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูง
    พระธัมมชโย กระทำการละเมิด กระทำการหมิ่น อาฆาตมาดร้าย ต่อพระบรมเดชานุภาพของสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยการสั่งตัดต้นไม้ที่ทรงปลูก โดยสมเด็จย่าฯ สมเด็จพระเทพฯ และสมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ฯ ซึ่งเป็นการปลูกแทนพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพราะพระธัมมชโยอาฆาตสถาบันฯ ว่าในกรณีขอพระราชทานสมณศักดิ์ไม่ได้ตามต้องการ เหตุการณ์ดังกล่าววัดพระธรรมกายชี้แจงว่า ผืนดินมีค่าความเป็นกรด-ด่าง หรือค่า pHสูง ทำให้ไม่เติบโต ต้องโยกย้ายไปปลูกพื้นที่ใกล้เคียง และภาพที่เห็นในสื่อมวลชนเป็นต้น
    หมากพุ่มเตี้ย เป็นต้น คณะทำงานฯ ได้ทำการพิสูจน์ทราบ ด้วยการใช้ภาพถ่ายมาเปรียบเทียบกัน ปรากฏว่าวัดพระธรรมกายชี้แจงข้อความอันเป็นเท็จต่อสาธารณชนไม่ตรงกับข้อเท็จจริงในภาพถ่าย จึงสรุปได้ว่า พระธัมมชโยได้กระทำ การอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ จริงอีกทั้งมีเหตุผลที่รับทราบกันทั่วไป ได้แก่ พระธัมมชโยตั้งปณิธานว่าถ้าเป็นฆราวาสจะต้องเป็นพระจักรพรรดิ (Emperor) ถ้าออกบวชจะต้องเป็น “พระบรมพุทธเจ้า” สานุศิษย์วัดพระธรรมกายล้วนคิดว่าตัวเองเป็นสาขาของพระพุทธเจ้า หรือ Sub Buddha บรรลุธรรมชั้นสูงกว่าใครๆ ในประเทศไทย จึงไม่แปลกใจว่าทำไมคนเหล่านี้ถึงกล้าละเมิด จาบจ้วง สถาบันชั้นสูงของไทย ทั้งในศาสนจักรและอาณาจักรอย่างหน้าตาเฉย

    5. กรณีการมรณภาพของพระชิตชัย มหาชิโต (วิญญูนันทกุล)
    ค่านิยมในการอัดวิชชาธรรมกายบนดอยสุเทพ-ปุยอันเป็นวิธีการ “อปกติ” ของพระธัมมชโย ทำให้เกิดอาการเครียดแก่พระชิตชัย มหาชิโต เป็นอย่างมาก เพราะพระชิตชัย มหาชิโต ไม่นิยมการพูดเท็จ เป็นพระที่มีสัจจะสูง พระธัมมชโย ถามว่า เห็นพระธรรมกายไหม พระชิตชัยตอบว่า “ไม่เห็น” ตามความเป็นจริง จึงทำให้พระธัมมชโยโกรธขึ้งอย่างรุนแรง จนกระทำการอเปหิสั่งไม่ให้ใครคบหากับพระชิตชัย ไม่ให้ออกสังฆสมาคม ทั้งที่พระชิตชัยมีลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมาก ยิ่งเพิ่มความเครียดแก่พระชิตชัย จึงเป็นสาเหตุให้พระชิตชัยมรณภาพอย่างเป็นปริศนา การมรณภาพของพระชิตชัย แม้ทางการพิสูจน์จะทราบได้ว่าเป็นการกระทำอัตวินิบาตกรรมหรือฆ่าตัวตาย ก็ล้วนมีแหล่งกำเนิดมาจากพฤติกรรมและวิธีการของพระธัมมชโยทั้งสิ้น พระธัมมชโยจึงน่าจะมีความผิดเป็นตัวการ กระทำการใดๆ อันจงใจหรือเจตนาให้บุคคลอื่นฆ่าตัวตายซึ่งปัจจุบันเรื่องนี้ก็ยังเป็นปริศนาดำมืดอยู่เช่นเดิม ญาติพี่น้องตระกูลวิญญูนันทกุล ยิ่งมีความเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรมอำพรางอยู่จนปัจจุบัน

    6. กรณีการถือครองที่ดินทั่วประเทศ
    การถือครองที่ดินของพระธัมมชโย ที่มักชี้แจงต่อสาธารณชนว่ามีผู้บริจาคนั้น เป็นความเท็จแทบทั้งสิ้นเพราะที่ดินที่พระธัมมชโยโอนให้วัดตามกำหนดเส้นตายของกรมการศาสนานั้น ข่าวในทางลับแจ้งว่าเป็นที่ดินที่ ดร.ประกอบ กีรจิตติ ถวายแทบทั้งสิ้น จึงเป็นที่ดินที่มีเอกสารสิทธิถูกต้อง ส่วนที่ดินอีกกว่า 1,400 ไร่นั้น เป็นการได้มาโดยการสั่งให้สานุศิษย์ผู้ใกล้ชิดทำการกว้านซื้อไว้แล้วยกถวายพระธัมมชโยในภายหลัง ในช่วงยื่นคำขาดที่ผ่านมา วัดพระธรรมกายและสานุศิษย์พยายามเปลี่ยนแปลง ปลอมแปลงเอกสารที่ดิน เพื่อให้ได้ข้อยุติว่า “เป็นการบริจาค” เพื่อหลีกเลี่ยงข้อหายักยอกทรัพย์ เจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ฯลฯ โดยกระทำการดังกล่าวที่บ้านของ “ดร.ประกอบ กีรจิตติ” ส.ส.เขต 10 กทม. พรรค ปชป. โดยการประสานงานหรือ ล็อบบี้ของ “พรรณพิพา วัชโรบล” อดีตผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 พญาไท พรรค ปชป. ผู้เป็นญาติของนางสาวลีลาวดี วัชโรบล อดีตนางเอกภาพยนตร์ สานุศิษย์ผู้คอยเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับวัดพระธรรมกายเพื่อการระดมทุนในช่วงหลายปีที่ผ่านมาคณะทำงานฯ จึงได้เข้าทำการตรวจสอบการถือครองที่ดินในนามของพระไชยบูลย์ สุทธิผล ในพื้นที่ อ.ภูเรือ จ.เลย ปรากฏข้อเท็จจริงว่า นายสอง วัชรศรีโรจน์, นางชนัสถ์นันท์ สุขุมพานิช, นางวรรณา อุดมผล, นายเพชร แก่นทรัพย์ ไปกว้านซื้อที่ดิน น.ส.1 ก. จากชาวบ้านในพื้นที่ อ.ภูเรือ จ.เลย ใกล้กับที่ดินของนายแพทย์ชัยยุทธ กรรรณสูต ซึ่งประชาชนผู้ยากไร้ในพื้นที่ได้สิทธิการครอบครองจากการเข้าไปทำประโยชน์ในป่าสงวนไร้สภาพ หรือได้มาจากการจัดสรรที่ทำกินของรัฐ หลังจากนั้นก็ขอเปลี่ยนเป็น น.ส.3 ก. สามารถจำหน่ายถ่ายโอนได้แล้ว กระทำการยกให้พระไชยบูลย์ ในภายหลัง และตีราคาต่ำกว่าราคาประเมินของทางการ อันเป็นการหลีกเลี่ยงภาษีที่ดิน คณะทำงานฯ จึงสรุปว่า กรณีการถือครองที่ดิน พระธัมมชโยใช้เงินบริจาคของวัดให้สานุศิษย์ไปทำการกว้านซื้อที่ดิน แล้วยกถวายเป็นสมบัติของตนเองในภายหลัง ซึ่งถือว่าเป็นการเบียดบังทรัพย์สินของวัด ฉ้อโกงประชาชน

    7. กรณีแหล่งผลิตพระมหาสิริราชธาตุ
    พระธัมมชโยพยายามปั้นเรื่องเท็จ โดยนำเอาเรื่องในชาดกมาผสมผสานกับ “สินค้า” ที่ออกมาจำหน่าย คือ พระมหาสิริราชธาตุ ที่อ้างว่าพญานาครักษาไว้หลายร้อยล้านปี แต่จากการตรวจสอบของคณะทำงานฯ พบว่า วัตถุธาตุดังกล่าวนำเข้ามาจากประเทศพม่า และประเทศยุโรปตะวันออก ไม่ใช่วัตถุธาตุที่ทรงคุณค่าดังคำโฆษณาแต่อย่างใดคณะทำงานฯ ได้ส่งคนเข้าไปสอบถามพนักงานโรงงานของบริษัท D. Gems International จำกัด ของนางสงบ ปัญญาตรง สีกาอีกคนหนึ่งของพระธัมมชโย ปรากฏว่าเป็นโรงงานผลิตพระมหาสิริราชธาตุเถื่อน ใช้แรงงานต่างด้าวหนีเข้าเมือง ไม่มีสวัสดิการใดๆ แก่คนงานตามกฎหมายคุ้มครองและสวัสดิการแรงงาน เรื่องนี้จึงสรุปได้ว่า วัดพระธรรมกายโดยมีผู้นำบุญเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกระทำการหลอกลวงประชาชนทำให้เสียทรัพย์ จนหลายครอบครัวต้องบ้านแตกสาแหรกขาด เกิดความเดือดร้อนไปหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ดังปรากฏเป็นข่าวอยู่ทุกวันนี้

    8. กรณีความสัมพันธ์กับสตรีเพศ
    เกือบจะเป็นเรื่องปกติเสียแล้ว สำหรับพระสงฆ์ชื่อดังที่จะต้องมีสันถวไมตรีทางกามรสกับสตรีเพศ เช่น พระยันตระ อมโรภิกขุ, พระภาวนาพุทโธ, นายจันทร์ อาจหาญ หรือหลวงตาจันทร์ วัดป่าชัยรังสี เป็นต้น แต่กรณีของพระธัมมชโย เป็นการเกี่ยวพันกับสตรีถึง 7 คน สตรีผู้ที่พระธัมมชโยให้ความอภิรมย์มากที่สุด ได้แก่
    1.นางเพียงนิล ศิริเกษม ม่ายลูกสอง อดีตภรรยาน้อยของนายสุวิทย์ มหาแถลง เพื่อนของนายสอง วัชรศรีโรจน์ ซึ่งปัจจุบันปรากฏข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ “สยามรัฐ” และอีกหลายฉบับ จนกระทั่งเสี่ยสุวิทย์ มหาแถลง เสียชีวิตอย่างปริศนาภายในห้องทำงาน ท่ามกลางความเสียใจของ “นางอาภรณ์ มหาแถลง” ภรรยาหลวง ปัจจุบันนางเพียงนิลได้ยกลูกสาวให้เป็นบุตรบุญธรรมของพระธัมมชโย บางกระแสกล่าวว่า เด็กหญิงคนดังกล่าวมีอาการของโรคประจำตัวคล้ายกับพระธัมมชโย น่าจะเกิดจากกรรมพันธุ์หรือไม่

    นอกจากนี้ ยังมีสตรีผู้ใกล้ชิด ที่พระธัมมชโยมีความสนิทสนมอย่างมากอีก 4 คน ได้แก่
    2.นางจิรวัฒน์ (อี๊ด),
    3.นางสงบ ปัญญาตรง,
    4.นางสาววิชญา ไตรวิเชียร

    และคนสุดท้ายที่ฮือฮาโจษขานกันมากที่สุด เพราะสามีของเธอบุกเข้าไปประจานพระธัมมชโยถึงในวัดพระธรรมกายท่ามกลางสานุศิษย์ชั้นนำ สีกาคนล่าสุดนี้ชื่อว่า 5.นางแก้วตา หรือทยา หรือติ๋ม เรื่องการปะทะคารมระหว่างสามีของเธอกับพระธัมมชโย เป็นที่โจษขานกันในวัดสนุกปากจนทุกวันนี้

    9. คำให้การของพยานบุคคล อดีตแขนข้างขวาของพระธัมมชโย
    กลุ่มผู้นำบุญ ที่มีบทบาทในการหาเงินทุนให้พระธัมมชโยมากที่สุด จนพระธัมมชโยยกย่องให้ “เป็นสาขาหนึ่งของพระบรมพุทธเจ้า” หรือ “Sub Buddha"ให้คำให้การชัดเจนหลายเรื่อง ทั้งเรื่องการชักชวนคนทำบุญ การตามตื๊อคนให้ทำบุญมากที่สุด วิธีการหา “เหยื่อ” เพื่อพาไปตบทรัพย์บนดอยสุเทพ-ปุยในพิธีการอัดวิชชาธรรมกาย คำให้การดังกล่าว ให้ความกระจ่างถึงวิธีการ “ตบทรัพย์” ของวัดพระธรรมกายและพระธัมมชโยชัดเจนที่สุด
     
  3. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    จริงป่าวครับ แล้วหลวงปู่แหวนอ่ะครับ และพระอีกหลายรูปน่ะครับ
     
  4. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    จริงป่าวครับ แล้วหลวงปู่แหวนอ่ะครับ และพระอีกหลายรูปน่ะครับ
     
  5. tong5959

    tong5959 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    2,056
    ค่าพลัง:
    +6,083
    [​IMG] ขอบคุณครับ
    ดูดต่อปายยยยยย[​IMG]
     
  6. vergo shaka

    vergo shaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +835
    จริงเหรอ อัด วันละซองเลย....- -ไม่รู้ว่าตกนรกไหม แต่ อัดเพิ่มอีกซอง ตายแน่นอน
     
  7. Nat_usp

    Nat_usp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    676
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,394

    นั่นสิครับ หลวงปู่แหวน หลวงปู่ดู่ หลวงพ่อคูณ ฯลฯ
     
  8. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    สูบบุหรี่เป็นประจำ...นำไปสู่อบาย นรกขุม 5
    *****************************************************
    ไม่ทราบว่าข้อความข้างบนนี้ อยู่ในพระไตรปิฏกหน้าไหน ธรรมบทใด ใครเป็นผู้กล่าวอ้าง....ขอคำตอบด้วย ครับ

     
  9. เวลานาที

    เวลานาที เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2010
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +1,349
    เคยดูวีดีโอแล้วขนลุกเลยอ่ะ น่ากลัว
     
  10. mkmk_kmkm1

    mkmk_kmkm1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +220
    ท่านทำความดีอย่างไรขอให้ได้รับผลของกรรมดีอย่างนั้น แต่ถ้าท่านทำความชั่วอย่างไรขอให้ผลกรรมชั่วนั้นสนองตอบท่านโดยพลันเช่นกัน...:mad:
     
  11. ariyabut

    ariyabut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +2,415
    มานอก พุทธพจน์ บทพระลี นอกพระไตรปิฏก ก็พูดลำบาก เรื่องการเรียก ชื่อสวรรค์ ผมก็ว่า เพี้ยน ๆ (ดาวดึงส์ชนบท ... ดุสิตบุรี) เคยได้ยิน มาว่า เมืองหลวงของสวรรค์ ทั้ง หกชั้น ก็คือดาวดึงส์ น่ะ .. เรื่องนรกก็ไม่แน่ใจ ว่าของท่านกล่าว ว่ามีกี่ขุม ไม่รู้ว่าตรงกันหรือเปล่า กับพระไตรปิฏก .

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2010
  12. arsasrianan

    arsasrianan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +261
    หวาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ น่ากลัวจังงง สงาสัยต้องเลิกสูบแล้ววว:boo:
     
  13. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865

    นั่นสิครับ......

    Nirvana เชื่อว่าผู้ที่นอกพระไตรปิฏก แต่กล่าวตู่พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ คนเหล่านั้นแหละ ครับ ที่จะไปอเวจีก่อนผู้อื่น
     
  14. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    รู้ทั้งรู้สิ่งเสพติดไม่มีประโยชน์ แต่คนเราทำไมกลับชอบกันนักกันหนา ทางแห่งอบายทั้งนั้นเลย
     
  15. Reynolds

    Reynolds เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    578
    ค่าพลัง:
    +1,501
    ผมหักดิบเลย ร่างกายเรามาเพื่อสร้างกุศล ไม่ใช่ของๆเราแน่นอนอยู่แล้ว แล้วเราไปสูบบุหรี่ละดีมั้ยหนอ...... ทีนี้การสูบบุหรี่ก็ทำให้ร่างกายเราเกิดโรคได้หลายอย่างตามมาภายหลัง คนเราเนี่ยจะไปภพูมิใดก็อยู่ที่วาระสุดท้ายแห่งจิต ฉะนั้นถ้าจิตคุณถึงจริง ต่อให้สูบบุหรี่วาระสุดท้ายคุณไม่ทุกข์ คุณก็จะได้ไปเสวยภพพูมิที่ดีก่อนเพราะคุณไม่ยึดติดไม่ทุกข์ไม่ทุรนทุราย แต่เราที่ไม่ค่อยได้ฝึกสมาธิ ที่ชีวิตเป็นทุกข์บ้างสุขบ้าง ทีนี้สาระสุดท้ายถ้าเราตายด้วยโรคปอดบ้างถุงลมบ้างคงต้องอึดอัดทุรนทุรายก่อนตาย เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่า วาระสุดท้ายของจิตเราจะไม่ทุกข์ไม่ทุรนทุราย จะอยู่อย่างเข้าใจไปแบบไม่ทุกข์ได้อย่างพระอรหันต์ที่ท่านฝึกจิตมาดีแล้ว แยกกายได้ว่าเป็นขันธ์ ไม่ใช่ของเรา ไม่ทุกข์ไม่ร้อน หลังจากท่านตายท่านก็เข้าสู่นิพพาน ทุกข์ร้อนก็จะเพิ่มภพพูมิให้ตัวเอง พวกท่านไม่มีภพพูมิแล้ว ไม่มีไรต้องห่วง ถึงท่านมรณะท่านก็เข้าสู่นิพพาน ไม่ต้องมามีทุกข์ที่จะต้องครองขันธ์อีก ท่านก็เลยไม่ทุกข์ไม่ทุรนทุราย เมื่อท่านไม่มีแดนเกิดท่านก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกลัวบาป เพราะกุศลที่ท่านธรรมคือนิพพาน คือสูงที่สุด ฉะนั้นบาปเล็กน้อยก็เป็นเหมือนฝุ่นเล็กน้อยกับผ้าขาวผืนใหญ่มาก ครับผม
     
  16. Reynolds

    Reynolds เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    578
    ค่าพลัง:
    +1,501
    ดูดบุหรี่ตายไว ไม่ได้สร้างกุศล ก็เป็นทุกข์เป็นร้อน ตายไปเพราะสร้างกุศลน้อย แถมยังมาเพิ่มทุกข์ให้กับร่างกายอีก จริงอยู่สูบบุหรี่ไม่ได้เบียดเบียนใคร แต่เบียดเบียนตนเอง กุศลก็ไม่ค่อยได้สร้าง ยังมาอัดบุหรี่ ทำให้ตนตายไว ได้ด้วยโรคต่างๆ และเป็นทุกข์ทรมานก่อนตายอีก แต่ถ้าเรามั่นใจว่าสร้างกุศลมามากพอว่าหัลงจากตายเรา ไม่ทุกข์ไม่ร้อน ได้ขึ้นสวรรค์แน่นอน ได้ไปภพพูมิที่ดีแน่นอน กุศลก็ทำมาเยอะแล้ว ก็คงไม่ต้องกลัว ฉะัน้นก็สูบไปเถอะครับ กรรมนิดเดียวเบียดเราไม่ได้หรอก แต่ก็อย่าเผลอนะ แต่ถ้าไม่ชีวิตไม่สร้างกุศลเลยไม่ทำดีเลย แล้วมาอัดบุหรี่ทำร้ายปอดตัวเองด้วย นี่ยิ่งหนักเลย บางคนนี่เล่นกัญชาด้วย ยาม้าด้วย หลายๆอย่างทีนี้ก็หนัก แล้วบุหรี่กับเหล้าก็เป็นของคู่กันด้วยส่วนใหญ่กินเหล้าด้วยต้องสูบด้วยทีนี้จะไปกันใหญ่ใหม และบุหรี่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของยาเสพติดทุกอย่าง กัญชาก็ต้องใช้บุหรี่ ยาบ้าก็ต้องอัดบุหรี่...ไม่สงสารร่างกายตัวเองหรอครับ ตัวผมเลิกทุกอย่างหักดิบเอาเลย ฉะนั้น เลิกเถอะครับ ไม่ต้องคิดถึงเรื่องนรกหรอกคิดถึงสุขภาพตนเอง แล้วก็บุหรี่ทุกวันนี้แพงด้วย ซองละครึ่งร้อย เลิกสูบเราจะประหยัดเงินได้แค่ไหน และสุขภาพเราก็ดีขึ้นด้วย เลิกได้ก็เลิกเถอะครับ ส่วนผู้ที่ติดก็ค่อยๆลงเบาลง เพราๆลง ค่อยๆละไปทีละนิด เพื่อสุขภาพตนเอง แน่นอนพ่อแม่เห็นต้องสบายใจมากกว่าเดิมแน่ ที่เห็นเราเลิกบุหรีไ่ด้ท่านต้องปลื้มและมีความสุขได้แน่ คงไม่มีใครเห็นลูกตัวเองสูบบุหรี่แล้วมีความสุขหรอก คนเรามีลูกทั้งคน ก็รักลูกอยากให้ลูกมีสุขภาพที่ดี ให้สมกับที่ทะนุถนอมมาตั้งแต่เล็ก แล้วมาเห็นลูกที่ตนเฝ้าทะนุถนอมสูบบุหรี่ ถึงท่านจะรับได้ แล้วคุณคิดว่าท่านมีความสุขใหม....
     

แชร์หน้านี้

Loading...