สูตรอาหารชีวจิต...น่าหม่ำๆ

ต้มยำปลาทูสด


ขณะปรุง แค่ได้กลิ่นโชยมาเตะจมูกก็ชวนน้ำลายไหลแล้วค่ะ ยิ่งพอได้ลงมือกินเท่านั้นแหละ แมวเกือบไม่ได้กินก้างปลาทู (เสียแล้ว) ชามก็แทบไม่ต้องล้าง (เพราะขอดน้ำแกงสุดฤทธิ์)

ต้มยำปลาทูสด
จะว่าไปแล้วหลายคนคงพอรู้มาบ้างว่า ต้มส้มปลาทู ทำอย่างไร เพราะเป็นอาหารที่ปู่ย่าตาทวดของเราทำให้กินมาแต่อ้อนแต่ออก แต่...ลองสูตรชีวจิตดูไหมคะ หากไม่ชอบกินปลาทู ใครใคร่ใช้ปลาอะไรก็ใช้ได้ ไม่ว่ากัน เพราะเคล็ดลับอยู่ที่น้ำแกงจะออกรสเปรี้ยวหวานด้วยน้ำมะขามเปียก เผ็ดปลายลิ้นนิดหน่อยด้วยขิงสด หอมน้ำแกงด้วยกะปิ (แปลกใจตัวเองเหมือนกันที่ช้อบ ชอบกลิ่นกะปิ แสดงว่าชาติที่แล้วไม่ได้เป็นลิงแน่นอน)
อะแฮ่ม...ถ้าใครลองทำกินแล้ว รับรองถ่ายคล่องค่ะ

ส่วนผสม

• ปลาทูสด 5 ตัว
• ขิงอ่อนซอย 2 ช้อนโต๊ะ
• ต้นหอมหั่นท่อนยาว 5 ต้น
• รากผักชี 3 ราก
• หอมเล็ก 5 หัว
• พริกไทยล่อน 10 เม็ด
• กะปิ 2 ช้อนชา
• พริกชี้ฟ้าแดงหั่นแว่น 2 เม็ด
• น้ำตาลปี๊บ 4 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะขามเปียก 4 ช้อนโต๊ะ
• น้ำเปล่า 3 ถ้วย
• ผักชีโรยหน้า

วิธีทำ

1. โขลกรากผักชี พริกไทย หอมแดง กะปิรวมกัน พักไว้
2. ตั้งน้ำเปล่าให้เดือด ใส่เครื่องปรุงที่โขลกไว้ลงไป คนให้ละลาย ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำตาล น้ำปลา เมื่อหม้อเดือดแล้วใส่ปลาทูที่เตรียมไว้ (ล้างเมือกปลาทูออกด้วยน้ำเกลือ อย่าลืมควักไส้ออกด้วยนะคะ) ลงไปในหม้อ ทันทีที่ใส่ปลาทูลงไปในหม้อ ให้เบาไฟทันที เพราะหากต้มด้วยน้ำที่กำลังเดือดจะทำให้เนื้อปลาทูแตก เปื่อย ไม่สวย
3. ปิดหม้อไว้ เคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ ประมาณ 20 นาที
4. เมื่อปลาสุกให้ใส่ขิงซอย ต้นหอม พริกชี้ฟ้าแดง ปิดไฟ ตักใส่ชาม

​

Tip
ปลาทู มีส่วนประกอบของกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายสูง โดยเฉพาะไลซีน และทรีโอนีน ซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตในวัยเด็ก นอกจากนี้ยังมีโปรตีน และสารไอโอดีนสูง ซึ่งช่วยป้องกันโรคคอพอก