สุขในโลก กับ สุขในธรรม (พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร)

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย nondanun, 18 ธันวาคม 2013.

  1. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,612
    [​IMG]

    ธรรมโอวาท
    ของ
    พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์
    พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร
    วัดอโศการาม อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

    แสดงธรรมเทศนา ณ วัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร
    เมื่อวันที่ ๑๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๖

    :b44: :b44:

    เราทุกคนปรารถนา "บุญ"
    แตุ่ญนี้เราจะไปหาจากที่ไหน ?

    "บุญภายนอก" หาจาก "ร่างกาย" ของเรา
    "บุญภายใน" หาจาก "ดวงจิต"
    บุญย่อมนำมาซึ่งความสุขทั้งโลกนี้และโลกหน้า

    ความสุข มี ๒ อย่าง คือ สุขในโลก กับ สุขในธรรม

    :b48:

    สุขในโลกเป็นที่เจือทุกข์ เป็นสุขเฉพาะชั่วลมหายใจ
    ไม่ถาวรเหมือนสุขทางธรรม
    สุขในโลกนั้นก็เช่น ในการกินอิ่ม นอนหลับ
    สุขในการมีทรัพย์สิน เงินทอง ลาภ ยศ สรรเสริญ
    แต่สิ่งเหล่านี้ยิ่งสุขเท่าไรก็ทุกข์มากเท่านั้น
    สุขในการกิน พอตายแล้วเราก็จะไม่ได้กินอีก
    นอนเราก็จะไม่ได้นอน จะมั่งมีเท่าไรก็ต้องหมดไปที่กองไฟ
    จะเป็น ชั้นเอก ชั้่นโท ชั้นตรี ฯลฯ
    ก็ต้องไปหมดลงที่กองไฟทั้งสิ้น

    คนเราเกิดมานี้ย่อมถูก "เสือ" คอยกัดกินอยู่ทุกวัน
    แต่เราไม่รู้สึกเพราะเราเกิดมาในดงเสืออยู่แล้ว ก็ไม่ค่อยกลัว

    คำ "เสือ" ก็คือ "เสีย" นี่แหละ เสียอะไร?
    คือ เสียทรัพย์ เสียร่างกาย
    ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ในร่างกายของเรา
    เงินมีอยู่มันก็คอยแต่จะบินหนีจากเรา
    พอเจ็บไข้ลง เช่น ปวดท้อง
    มีเงินอยู่ ๑๐ บาท ก็ต้องเอาไปซื้อยากฤษณากลั่นมากิน
    จนหายเราก็ดีใจไปพักหนึ่ง ถ้าไม่หายก็เป็นทุกข์ไปอีก เสียค่ายาค่าหมออีก

    โรคมันก็ไม่ใช่หายไปไหน มันนอนนิ่งอยู่ในตัวเรานี่แหละ
    เหมือนเด็กที่หิวข้าวหิวนม พอเราป้อนข้าวป้อนน้ำอิ่ม
    มันก็สงบไป หายร้องไห้ หายกวนเรา
    แต่แล้วพอเด็กหิวใหม่ ก็จะกำเริบขึ้นมาอีก
    นี่ก็เปรียบเสมือนเสือที่มันจ้องคอยกินเราอยู่
    กินทรัพย์ของเรา กินร่างกาย เนื้อหนัง ของเรา

    แต่ก่อนเรามีเนื้อหนังตึงเต่งแข็งแรง
    มันก็กินไปๆ จนเราเหลือแต่หนังแตบแฟบ
    มันกินตากินหูของเรา กินจนในที่สุดเราร้องโอยๆ
    แ้ล้วมันก็คาบเราไปหมดทั้งตัว
    นี่เป็นความสุขที่ไม่ปลอดภัย

    :b47:

    ความสุขทางธรรม เป็นความสุขที่ปลอดภัย

    คือ ความสุขทางจิต ถึงมันจะมี จะจน จะแก่
    จะเจ็บ จะตาย เราก็ไม่ต้องทุกข์ร้อนอะไรทั้งนั้น
    เหตุนั้นพระพุทธเจ้าจึงทรงสอนให้ทำความดีที่ปลอดภัย
    คือ บำเพ็ญบุญกุศล มีทาน ศีล ภาวนา เป็นต้น

    ทำร่างกายของเราให้เป็นก้อนบุญ อย่าให้เป็นก้อนบาป
    เมื่อบุญไหลเข้าไปทางตา หู จมูก ปาก ฯลฯ ของเรา
    ก็เข้าไปทำธาตุ ดิน น้ำ ไฟ ลม ของเราให้บริสุทธิ์
    เป็นบุญไปหมดทั้งก้อน

    เหมือนเรามีบ่อน้ำอยู่ ถ้าเราเอาสิ่งที่เป็นพิษเป็นโทษ
    เข้าไปใส่ในบ่อน้ำนั้นก็จะใช้กินใช้อาบไม่ได้
    ถ้าเราเอาของดีไปใส่ บ่อน้ำนั้นก็เป็นบ่อน้ำที่บริสุทธิ์ใส สะอาดดี

    เราอย่ามัวไปหลงว่า ร่างกายเรานี้เป็นของเรา
    และมันจะทุกข์จะสุขด้วยกับเรา
    แท้จริงมันจะไม่ไปกับเราได้ดอก

    กายนี้เปรียบเหมือนมีด จิตของเราเปรียบเหมือนคน
    ถ้าเรารู้จักใช้ มีดก็จะเป็นประโยชน์ ถ้าเราไม่รู้จักใช้ มันก็ให้โทษ
    เช่น เอามีดไปฆ่าฟันเขา
    เขาก็ไม่ได้จับเอามีดไปใส่คุกใส่ตะราง
    เขาจะต้องจับเอาคนที่ฆ่าไป
    ร่างกายนี้จะไม่ทุกข์ด้วย แต่ส่วนที่จะรับทุกข์ คือ ตัวจิตของเรา
    เมื่อเราตาย...ก็จะต้องไปสู่ทุคติ



    คัดลอกเนื้อหาจาก
    หนังสือแนวทางวิปัสสนา-กัมมัฏฐาน
    พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร.
    โดยชมรมกัลยาณธรรม ปี พ.ศ. ๒๕๕๒. หน้า ๑๖๓-๑๖๕

    ที่มา แสดงกระทู้ - สุขในโลก กับ สุขในธรรม (พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร) • ลานธรรมจักร
     
  2. itemnoi

    itemnoi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2013
    โพสต์:
    440
    ค่าพลัง:
    +323
    กายนี้เปรียบเหมือนมีด จิตของเราเปรียบเหมือนคน
    ถ้าเรารู้จักใช้ มีดก็จะเป็นประโยชน์ ถ้าเราไม่รู้จักใช้ มันก็ให้โทษ
     

แชร์หน้านี้

Loading...