สิ่งทั้งหลายทั้งปวงเกิดแต่เหตุ

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 9 กันยายน 2008.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,177
    ถาม : อารมณ์ธรรมนี่ทุกอย่างมันละเอียดมากไปหมดเลยนะคะ ?

    ตอบ : พูดเป็นภาษามนุษย์ไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าจะบอกยังไงดี แต่รู้อยู่ว่ายิ่งควานไปๆ ก็เหมือนกับว่าไม่รู้จักหมดซะที แรกๆ เหมือนกับโค่นต้นไม้ แหม...ต้นไม้ใหญ่ล้มตึงลงฟ้าสะท้านดินสะเทือน ไชโย...เราทำอะไรได้ตั้งเยอะตั้งแยะ ที่ไหนได้ล่ะ เอาจริงๆ ขุดตอมันเข้าไปเถอะ รากมันอีกเท่าไหร่ก็ไม่รู้ เยอะกว่ากิ่งข้างบนอีก ยิ่งขุดก็ยิ่งเยอะ แล้วมันก็เล็กลงทุกทีๆ ขุดยากขุดเย็นเป็นบ้าเลย ลองเถอะ เจอเมื่อไหร่แล้วจะซาบซึ้ง

    อาตมาอธิบายเป็นภาษามนุษย์ไม่เป็นจริงๆ ที่หลวงพ่อท่านบอกแรกๆ เหมือนกับยิงช้าง ยิงม้า ยิงกวางตัวมันใหญ่ยิงง่าย นานๆ ไปยิงมด ยิงยุง ยากเหลือเกิน ลองดูการปฏิบัติมันสนุกอย่างนี้แหละสนุกตอนเล่าให้ฟังนะ เจอเข้าเองจะร้องไม่ออก

    เรื่องอย่างนี้แหละที่พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า กาเลนะ ธัมมัสสากัจฉา เอตัมมังคลมุตตมัง สนทนาธรรมในเวลาอันควร ถือเป็นอุดมมงคลอย่างยิ่งพอเหมาะพอสมพอดีขึ้นมาคนที่เขามาติดอยู่ตรงจุดนี้ก็อาจจะได้ประสบการณ์เรียนลัดก้าวผ่านได้เลย ขณะเดียวกันเราอาจจะปล้ำมา ๓ ปี ๕ ปี

    ถาม : กว่าจะก้าวผ่านมันยากนะครับ แต่ต้องทำได้ ?

    ตอบ : ถ้ามันยากจริงๆ ท่านก็คงไปนิพพานกันได้ไม่เยอะขนาดนี้หรอก ต้องทำได้

    ถาม : แต่ในขณะที่เดินอยู่นี้ต้องเจอใช่มั้ยครับ ?

    ตอบ : เจอแน่นอน หนทางที่จะโรยด้วยกลีบกุหลาบไม่มีหรอก เพิ่มหนามกุหลาบให้เพียบเลย อยู่ที่ว่าสติปัญญาต้องไปพร้อมกันเสร็จ แล้วก็งัดกรรมฐานคู่ศึกมารบกับมันให้ทันแล้วกัน อาวุธของเราน่ะเพียบเลยหลวงพ่อให้ไว้เยอะแล้ว เพียงแต่คว้าขึ้นมารบให้มันถูกจังหวะแล้วกัน ตอนที่เขาตีด้วยมีดสั้นเราดันคว้าขวานมาสู้มันก็เสร็จเขาล่ะ ความคล่องตัวสู้เขาไม่ได้

    ถาม : เพียงแต่ในจิตเรามุ่งว่าชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายที่เราจะไปนิพพานใช่มั้ย แล้วอะไรที่จะเข้ามาให้จิตเรารู้ทัน ?

    ตอบ : ไม่ใช่ คือว่าอันไหนก็ตามต้องพยายามใช้ปัญญาดูให้รู้ถึงเหตุของมัน เช่นสตางค์นี่ถ้าเราสักเห็นแค่ว่ามันเป็นเพียงธาตุ ๔ ดิน น้ำ ไฟ ลม กระดาษแผ่นหนึ่งมันก็คือสตางค์ ทำอันตรายเราไม่ได้ แต่เราไปคิดต่อว่า เงิน ไปซื้อของซะหน่อยก็ดี ซื้อข้าวกิน เอ้อ...ดี เดี๋ยวจะไปกินร้านนั้น อาหารมันอร่อยหน่อยเชลล์ชวนชิม นั่นกิเลสเริ่มเกิดแล้ว ไปซะหน่อย เราเคยชวนสาวไปกินร้านโน้นนี่หว่า เอ้า ! ยิ่งหนักเข้าไปอีกแล้วจากตัวราคะ โลภะ โทสะมันจะระดมมาเลยใช่มั้ย ? ไปซื้อยาบ้าซะหน่อยก็ดี ยิ่งหนักเข้าไปอีก เงินตัวเดียวแต่ถ้าคุณหยุดมันได้แค่นี้มันก็จบ ไม่อาจจะทำอันตรายอะไรได้

    นี่คือเราตัดมันตั้งแต่ต้นเหตุ แต่ถ้าหากว่าเราสืบสาวราวเรื่องด้วยการปรุงแต่งด้วย จิตสังขาร เหตุมันจะกว้างออกๆ จนกระทั่งกลายเป็นไฟไหม้ป่า ไม่สามารถจะดับมันได้ แต่ถ้าต้นเหตุเรารู้ว่าสะเก็ดไฟนิดเดียว ถ้าเราปล่อยต่อมันจะลาม เราก็ดับมันซะมันก็หมดปัญหาไป

    เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าท่านถึงได้ตรัสว่า สิ่งทั้งหลายทั้งปวงเกิดแต่เหตุตถาคตตัดถึงเหตุ และความดับแห่งธรรมนั้น ที่พระอัสสชิท่านขึ้นว่า เยธัมมาเหตุปัพพวา เตสังเหตุง ตถาคโต เตสัญจะโยนิโรโธจะ เอวัง วาที มหาสมโณ ต้องดับตั้งแต่เหตุ ทุกอย่างอยู่ที่เหตุทั้งนั้น



    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนมีนาคม ๒๕๔๕
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ




    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 ตุลาคม 2013
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...