สำหรับผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีจิตน้อมไปในคนที่ดี

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย thepkere, 22 พฤษภาคม 2013.

  1. thepkere

    thepkere เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,018
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,449
    [​IMG]


    ทุติยอัปปมาทสูตรที่ ๘
    [๓๘๑]
    พระผู้มีพระภาคประทับ ... เขตพระนครสาวัตถี ... พระเจ้าปเสนทิโกศล
    ประทับนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า
    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอประทานพระโอกาส ความปริวิตกแห่งใจ
    บังเกิดขึ้นแก่ข้าพระองค์ผู้เข้าที่ลับพักผ่อนอยู่อย่างนี้ว่า
    ธรรมที่พระผู้มีพระภาค ตรัสดีแล้วนั่นแหละ สำหรับผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีจิตน้อมไปในคนที่ดี
    ไม่ใช่ สำหรับผู้มีมิตรชั่ว มีสหายชั่ว มีจิตน้อมไปในคนที่ชั่ว ฯ


    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรมหาบพิตร ข้อนี้เป็นอย่างนั้น ดูกรมหาบพิตร ข้อนี้เป็น
    อย่างนั้น ดูกรมหาบพิตร ธรรมที่อาตมภาพกล่าวดีแล้วนั่นแหละ สำหรับผู้มีมิตรดี มีสหายดี
    มีจิตน้อมไปในคนดี ไม่ใช่สำหรับผู้มีมิตรชั่ว มี สหายชั่ว มีจิตน้อมไปในคนที่ชั่ว ฯ

    [๓๘๒]
    ดูกรมหาบพิตร สมัยหนึ่ง อาตมภาพอยู่ที่นิคมของหมู่เจ้าศากยะ ชื่อว่านครกะ
    ในสักกชนบท ดูกรมหาบพิตร ครั้งนั้น ภิกษุอานนท์ เข้าไปหาอาตมภาพถึงที่อยู่ ครั้นแล้ว
    ก็อภิวาทอาตมภาพ แล้วนั่งอยู่ ณ ที่ควร ส่วนข้างหนึ่ง ดูกรมหาบพิตร ภิกษุอานนท์นั่งอยู่
    ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้กล่าวกะอาตมภาพว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ความเป็นผู้มีมิตรดี
    มีสหายดีมีจิตน้อมไปในคนที่ดี เป็นคุณกึ่งหนึ่งแห่งพรหมจรรย์ ดูกรมหาบพิตร เมื่อภิกษุ
    อานนท์กล่าวอย่างนี้แล้ว อาตมภาพได้กล่าวกะภิกษุอานนท์ว่า ดูกรอานนท์ เธออย่ากล่าวอย่างนั้น
    ดูกรอานนท์ ความเป็นผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีจิตน้อมไปในคนที่ดีนี้ เป็นพรหมจรรย์ทั้งสิ้น
    ทีเดียว ดูกรอานนท์ นี่ภิกษุผู้มีมิตรดีพึง ปรารถนา ภิกษุผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีจิตน้อมไปใน
    คนที่ดี จักเจริญอริยมรรคมีองค์แปด จักกระทำซึ่งอริยมรรคมีองค์แปดให้มากได้ ฯ

    [๓๘๓]
    ดูกรอานนท์ ก็ภิกษุผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีจิตน้อมไปในคนที่ดี ย่อมเจริญ
    อริยมรรคมีองค์แปด ย่อมกระทำซึ่งอริยมรรคมีองค์แปดให้มากได้อย่างไร ฯ


    ดูกรอานนท์ ภิกษุในศาสนานี้ ย่อมเจริญสัมมาทิฐิ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ
    อาศัยนิโรธ น้อมไปเพื่อความสละคืน ย่อมเจริญสัมมาสังกัปปะ ...ย่อมเจริญสัมมาวาจา .
    .. ย่อมเจริญสัมมากัมมันตะ ... ย่อมเจริญสัมมาอาชีวะ ... ย่อมเจริญสัมมาวายามะ ... ย่อมเจริญ
    สัมมาสติ ... ย่อมเจริญสัมมาสมาธิ อัน อาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปเพื่อความ
    สละคืน ฯ


    ดูกรอานนท์ ภิกษุผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีจิตน้อมไปในคนที่ดี ย่อมเจริญ อริยมรรค
    มีองค์แปด ย่อมกระทำซึ่งอริยมรรคมีองค์แปดให้มากได้ อย่างนี้แล ฯ

    ดูกรอานนท์ โดยปริยายแม้นี้ พึงทราบว่า ความเป็นผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีจิตน้อมไป
    ในคนที่ดี นี้เป็นพรหมจรรย์ทั้งสิ้นทีเดียว ฯ

    ดูกรอานนท์ ด้วยว่าอาศัยเราเป็นมิตรดี สัตว์ทั้งหลายผู้มีความเกิดเป็น ธรรมดา ย่อม
    หลุดพ้นจากความเกิดได้ สัตว์ทั้งหลายผู้มีความแก่เป็นธรรมดา ย่อมหลุดพ้นจากความแก่ได้ สัตว์
    ทั้งหลายผู้มีความเจ็บป่วยเป็นธรรมดา ย่อมหลุดพ้น จากความเจ็บป่วยได้ สัตว์ทั้งหลายผู้มี
    ความตายเป็นธรรมดา ย่อมหลุดพ้นจาก ความตายได้ สัตว์ทั้งหลายผู้มีความโศก ความร่ำไร
    ความทุกข์ ความเสียใจ และความคับแค้นใจเป็นธรรมดา ย่อมหลุดพ้นจากความโศก ความ
    ร่ำไร ความทุกข์ ความเสียใจ และความคับแค้นใจได้ ฯ

    ดูกรอานนท์ โดยปริยายนี้แล พึงทราบว่า ความเป็นผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีจิตน้อมไป
    ในคนที่ดีนี้ เป็นพรหมจรรย์ทั้งสิ้นทีเดียว ฯ

    [๓๘๔]
    ดูกรมหาบพิตร เพราะเหตุนั้นแหละ พระองค์พึงทรงสำเหนียก อย่างนี้ว่า
    เราจักเป็นผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีจิตน้อมไปในคนที่ดี ดูกรมหาบพิตร พระองค์พึงทรงสำเหนียก
    อย่างนี้แล ฯ


    ดูกรมหาบพิตร ธรรมอย่างหนึ่งนี้ คือความไม่ประมาทในกุศลธรรม ทั้งหลาย พระองค์
    ผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีจิตน้อมไปในคนที่ดี พึงทรงอาศัย อยู่เถิด ฯ


    ดูกรมหาบพิตร เมื่อพระองค์ไม่ประมาท อาศัยความไม่ประมาท หมู่นางสนมผู้ตามเสด็จ
    จักมีความคิดอย่างนี้ว่า พระราชาเป็นผู้ไม่ประมาท อาศัยความไม่ประมาท ถ้ากระนั้น แม้พวก
    เราก็จักเป็นผู้ไม่ประมาท อาศัยความไม่ประมาท ฯ

    ดูกรมหาบพิตร เมื่อพระองค์ไม่ประมาท อาศัยความไม่ประมาท แม้กษัตริย์ทั้งหลาย
    ผู้ตามเสด็จจักมีความคิดอย่างนี้ว่า พระราชาเป็นผู้ไม่ประมาท อาศัยความไม่ประมาท ถ้ากระนั้น
    แม้พวกเราก็จักเป็นผู้ไม่ประมาท อาศัยความไม่ ประมาท ฯ

    ดูกรมหาบพิตร เมื่อพระองค์ไม่ประมาท อาศัยความไม่ประมาท แม้ กองทัพ (ข้าราชการ
    ฝ่ายทหาร) ก็จักมีความคิดอย่างนี้ว่า พระราชาเป็นผู้ไม่ ประมาท อาศัยความไม่ประมาท
    ถ้ากระนั้น แม้พวกเราก็จักเป็นผู้ไม่ประมาท อาศัยความไม่ประมาท ฯ

    ดูกรมหาบพิตร เมื่อพระองค์ไม่ประมาท อาศัยความไม่ประมาท แม้ ชาวนิคมและ
    ชาวชนบทก็จักมีความคิดอย่างนี้ว่า พระราชาเป็นผู้ไม่ประมาท อาศัยความไม่ประมาท ถ้ากระนั้น
    แม้พวกเราก็จักเป็นผู้ไม่ประมาท อาศัยความไม่ ประมาท ฯ


    ดูกรมหาบพิตร เมื่อพระองค์ไม่ประมาท อาศัยความไม่ประมาท แม้พระองค์เองก็จัก
    เป็นผู้ได้รับคุ้มครองแล้ว ได้รับรักษาแล้ว แม้หมู่นางสนมก็จัก เป็นผู้ได้รับคุ้มครองแล้ว ได้รับ
    รักษาแล้ว แม้เรือนคลังก็จักเป็นอันได้รับ คุ้มครองแล้ว ได้รับรักษาแล้ว ฯ

    [๓๘๕]
    พระผู้มีพระภาคผู้พระสุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณ์ภาษิตนี้ จบลงแล้ว จึงได้
    ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า

    บุคคลผู้ปรารถนาโภคะอันโอฬารต่อๆ ไป พึงบำเพ็ญความไม่ประมาท
    บัณฑิตทั้งหลาย ย่อมสรรเสริญความไม่ประมาทในบุญกิริยาทั้งหลาย
    บัณฑิตผู้ไม่ประมาทย่อมยึดไว้ได้ซึ่งประโยชน์ทั้ง ๒ คือประโยชน์ภพนี้
    และประโยชน์ภพหน้าเพราะยึดไว้ได้ซึ่งประโยชน์ ผู้มีปัญญาจึงได้
    นามว่า"บัณฑิต" ฯ


    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๕
    พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗ สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
    หน้าที่ ๑๐๙/๒๘๙

    [๓๘๐]
    พระผู้มีพระภาคผู้พระสุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณ์ภาษิตนี้ จบลงแล้ว จึงได้
    ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า

    บุคคลปรารถนาอยู่ซึ่งอายุ ความไม่มีโรค วรรณะ สวรรค์ ความเกิด
    ในตระกูลสูง และความยินดีอันโอฬารต่อๆ ไปพึงบำเพ็ญความ
    ไม่ประมาท บัณฑิตทั้งหลายย่อมสรรเสริญความไม่ประมาทในบุญ
    กิริยาทั้งหลาย บัณฑิตผู้ไม่ประมาทย่อมยึดไว้ได้ซึ่งประโยชน์ทั้ง ๒ คือ
    ประโยชน์ภพนี้ และประโยชน์ภพหน้า เพราะยึดไว้ได้ซึ่งประโยชน์
    ผู้มีปัญญาจึงได้นามว่า "บัณฑิต" ฯ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. thepkere

    thepkere เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,018
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,449
    ธรรมที่พระผู้มีพระภาค ตรัสดีแล้วนั่นแหละ สำหรับผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีจิตน้อมไปในคนที่ดี

    ผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีจิตน้อมไปในคนที่ดี
    ย่อมเจริญอริยมรรคมีองค์แปด ย่อมกระทำซึ่งอริยมรรคมีองค์แปดให้มาก

    ย่อมเจริญสัมมาทิฐิ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะอาศัยนิโรธ น้อมไปเพื่อความสละคืน
    ย่อมเจริญสัมมาสังกัปปะ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะอาศัยนิโรธ น้อมไปเพื่อความสละคืน
    ย่อมเจริญสัมมาวาจา อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะอาศัยนิโรธ น้อมไปเพื่อความสละคืน
    ย่อมเจริญสัมมากัมมันตะ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะอาศัยนิโรธ น้อมไปเพื่อความสละคืน
    ย่อมเจริญสัมมาอาชีวะ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะอาศัยนิโรธ น้อมไปเพื่อความสละคืน
    ย่อมเจริญสัมมาวายามะ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะอาศัยนิโรธ น้อมไปเพื่อความสละคืน
    ย่อมเจริญสัมมาสติ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะอาศัยนิโรธ น้อมไปเพื่อความสละคืน
    ย่อมเจริญสัมมาสมาธิ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปเพื่อความสละคืน

    ด้วยว่าอาศัยเรา(ตถาคต)เป็นมิตรดี
    สัตว์ทั้งหลายผู้มีความเกิดเป็น ธรรมดา ย่อมหลุดพ้นจากความเกิดได้
    สัตว์ทั้งหลายผู้มีความแก่เป็นธรรมดา ย่อมหลุดพ้นจากความแก่ได้
    สัตว์ทั้งหลายผู้มีความเจ็บป่วยเป็นธรรมดา ย่อมหลุดพ้น จากความเจ็บป่วยได้
    สัตว์ทั้งหลายผู้มีความตายเป็นธรรมดา ย่อมหลุดพ้นจาก ความตายได้
    สัตว์ทั้งหลายผู้มีความโศก ความร่ำไริ ความทุกข์ ความเสียใจ และความคับแค้นใจเป็นธรรมดา
    ย่อมหลุดพ้นจากความโศก ความร่ำไร ความทุกข์ ความเสียใจ และความคับแค้นใจได้ ฯ
     
  3. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    ในมงคลสูตร เริ่มต้นก็คือ กัลยาณมิตร
    กัลยาณมิตรที่ดีที่สุดของเราก็คือ พระพุทธเจ้า
    ถ้าไม่มีพระพุทธองค์ เราก็คงมืดบอดกันต่อไป
     

แชร์หน้านี้

Loading...