สาส์นจากพ่อคเณศ อ่านแล้วเศร้าใจครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย starcom1, 26 ธันวาคม 2011.

  1. starcom1

    starcom1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +726
    ปกติก็ไม่อ่านอะไรที่มันยาวๆเอาตรงๆ แต่มาอ่านข้อความนี้จนจบได้ก็เหนื่อยพอควร

    ข้อความที่อ่านเป็นของคุณแบงค์ขยำกระดาษ ที่เขียนไว้ใช้เวลา 9 คืน หลังเที่ยงคืนถึงตี3 ติดต่อกัน9วัน เป็นสาส์นจากพระพิฆเนตรที่ท่านให้มาเผยแพ่ร ห้ามขาย และบอกว่ามันดูจะเพี้ยร แต่ท่านสื่อมาก็ต้องนำมาเผยแพ่ร และมีความสำคัญมาก
    ส่วนตัวผมเคยดูกับคุณแบงค์ตอนยังไม่ดัง นั้งดู 2 ชั่วโมง ทึ่งที่ดูผมได้ตรง บอกมีพระที่มีลิงกับช้างคุ้มครอง ( พระประจำวันเกิดผมกับแฟน ) และตะโกนทักตั้งแต่ผมจอดรถ บอกผมไม่ได้มาคนเดียว ผมก็ไม่คิดอะไรบอกว่า งานยุ่งเลยไม่ได้พาไครมาด้วย บอกว่าลูกผมซึ่งเกิดจากทำแท้งมาด้วย แต่อโหสิกรรมแล้วและมีพญานาคมาด้วย แกบอกแบบว่ามันฟังดูเกินจริงและคิดว่าให้ผมฟังเล่นๆไม่ต้องเชื่อก็ได้ มองเห็นผมเป็นพระ ยกมือใหว้ด้วย ผมจะได้บวชและออกธุดงในวันหน้าผมไปเพื่อถามคำถามเดียวคือผมจะได้บวชไหม เพราะมันเบื่อคนครับ

    ข้อความข้างบนอยากให้อ่านเองนะครับ เอาเท่าที่ได้ สาส์นที่จะบอก บอกตรงๆไม่ได้มันเป็นกฎ เขาบอกกันอ้อมๆให้คนที่ประมาทนั้นไปตามทางเขา ให้คนที่ควรรู้ก็จะได้ไม่ประมาท หน้าที่ผมคือเผยแพร่ออกไป ให้กลุ่มคนทุกชนชั้น แต่มนุษย์ยุคนี้ทำให้ข้างบนเขาลำบากมากและความลำบากกำลังจะสะท้อนมาที่พวก เราครับ
    วิงวอนขอให้ทุกคนใหว้พระ สวดมนต์ ทำความดีกันมากๆครับ มีสติไว้ยาม ทุกข์มาสามารถผ่านพ้นไปได้


    -บทสรรเสริญ-

    ๐ โอมศรีศรี คเณศายะ นมัสการ
    องค์พระพิฆเณศ อวตาร ทุกปางภพ
    ลูกขอน้อม จิตระลึก หัตถ์บรรจบ
    ยอเคารพ นบกร ด้วยเศียรเกล้า
    ๐ พ่อคเณศ สร้างสรรค์ สรรพสิ่ง
    เมตตาจริง ทั้งเด็กน้อย พลอยผู้เฒ่า
    ทุกชีวิน เรียกหาท่าน โปรดบรรเทา
    นำทุกข์ไป เอาสุขมา ห่วงพระทัย
    -จุดประสงค์-

    ๐ สาส์นนี้ข้าฯ จารไป ด้วยใจมุ่ง
    ระลึกจิต ถึงกรุง ท่านอาศัย
    ตอบแทนท่าน ที่ดูแล แต่เยาว์วัย
    จำเขียนไป ด้วยจิต พิสดาร...

    ๐ ขอนำเรื่อง ของท่านพ่อ มาเผยแพร่
    ความจริงแท้ ทุกสิ่ง ไม่วิตถาร
    ด้วยเคารพ ตัวท่าน เป็นอาจารย์
    ทุกประการ หากพลาดพลั้ง ขออภัย

    ๐ ครั้นนึกถึง ท่านพ่อ คเณศวร
    นิมิตชวน ให้คิดถึง อำนาจใหญ่
    ที่พ่อแผ่ ไพศาล มานานไกล
    ลูกนี้ไซร้ ขอนำคำ มาร้อยเรียง

    ๐ ถอดจิตทิพย์ กายทิพย์ เข้าเฝ้าหา
    พ่อเมตตา เรียกหา กังวานเสียง
    ด้วยความรัก หมอบกายไว้ ข้างตั่งเตียง
    ท่านนั่งเคียง ประทับใกล้ ไม่ไกลเรา

    ๐ เจ้าลูกพ่อ เข้ามา ใกล้ใกล้นี้
    พ่อจะชี้ ให้ดูให้เห็น ไม่ขลาดเขลา
    จงจารสาส์น ตามพ่อบอก อย่าดูเบา
    อันตัวเรา จะจด ทุกวลี

    ๐ ความจริงจาก พระโอษฐ์ องค์คเณศ
    ท่านแจงเหตุ ชี้เรื่อง ตัวท่านนี้
    เป็นอย่างไร โปรดตาม สดับซี
    ตัวเราสิ นี่แหละ จะบอกไป

    ๐ อันเรื่องพ่อ ที่เห็น ในตำรา
    ที่มีมา แต่โบราณ กาลสมัย
    อาจมีผิด มีพลาด ขัดพระทัย
    คนทำไป โดยไม่รู้ เท่าถึงการณ์

    ๐ พ่อเล็งเห็น ปัญหา ตรงจุดนี้
    ก็เลยชี้ สั่งให้เรา เฝ้าจารสาส์น
    และสั่งให้ จดบันทึก ทุกเหตุการณ์
    จึงรับงาน ขององค์พ่อ มาโดยดี

    ๐ นี่ไม่ใช่ หนังสือ หรือเรื่องแต่ง
    พ่อสาปแช่ง เอาไว้ หากย้อมสี
    อันตัวเรา ก็ทำตาม ทุกถ้อยที
    ตามวลี ของท่าน เราทำตาม

    ๐ หนังสือนี้ คือ ‘สาส์นองค์คเณศ’
    ท่านมีเหตุ อยากเผยแผ่ ทุกเขตคาม
    อยากให้เรา ระลึกถึง ในทุกยาม
    ไม่ประณาม บารมี ที่ท่านมี

    ๐ จึงขอเป็น ตัวแทน ขององค์พ่อ
    มาบอกต่อ ถ้อยคำ วิเศษศรี
    อ่านเอาไว้ เป็นความรู้ คู่บารมี
    ขอพรศรี คเณศช่วย คุ้มครองเรา

    ๐ ต่อแต่นี้ อัญเชิญสาส์น ของท่านพ่อ
    มาเผยต่อ สาธารณะ อย่าดูเขลา
    ขอให้ท่าน ตั้งใจอ่าน ด้วยจิตเบา
    แล้วจะเข้า ใจตามความ ที่ท่านมี...
    ---สาส์นฉบับที่ ๑---
    กลอน ๘
    ๐ อันตัวเรา คือคเณศา คณปติ
    ขานกัน “ศิวบุตร” ก็งามศรี
    อันมารดา เรานาม “ปารวตี”
    “อุมาเทวี” เขาก็เรียก นามขานกัน...

    ๐ พ่อของเรา ก็คือองค์ พระอิศวร
    ‘ศิวะ’ล้วน คือนาม ท่านกล่าวขาน
    พ่อมี ‘ตรีสูร’จริง ดั่งตำนาน
    อีกบริวาร เป็นงู อสูรไพร...

    ๐ องค์พระแม่ เทวี นั่งเคียงข้าง
    ประทับ ณ สถาน วิมานใหญ่
    เรียกเขา “ไกรลาส” สุดแดนไตร
    เราเคารพ นบไหว้ เทพเทพี

    ๐ อันตัวเรา เขาเล่าว่า “เศียรเป็นช้าง”
    เห็นจะจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง น่าบัดสี
    น่าหัวร่อ หากเศียรช้าง ทุกราตรี
    อารมณ์ดี อยากอยู่ เป็นเศียรคน

    ๐ เราจำแลง ร่างได้ ดั่งใจนึก
    เป็นช้างศึก ลึกเข้าไป ในไพรสณฑ์
    กลับออกมา เป็น ‘กวาง’ ในบัดดล
    เหาะเหินหาว กลางเวหา เป็น ‘อินทรีย์’
    ๐ ที่เขาว่า บริวาร เราเป็น ‘หนู’
    ‘มุสิกะ’ดู ตัวน้อย ไม่พอขี่
    จะทรงหนู ตัวเราใหญ่ ไม่เข้าที
    จะทรงที ทรงช้าง ‘เอราวัณ’…

    ๐ ท่านอาจ สงสัย ในประวัติ
    ที่เขียนมัด ตัวเรา อย่างน่าขัน
    ตำรามี ล้วนไว้ใน พิพิธภัณฑ์
    อย่าปนกัน กับความจริง ที่ฉันมี...

    ๐ พุงใหญ่ ท้องกว้าง ดั่งมหาจั-
    -กรวาลนั้น ล้วนเป็นเรื่อง แต่งปรุงสี
    อันตัวเรา อยากผอม หุ่นเข้าที
    วิเศษศรี ปั้นได้ ดั่งใจเรา

    ๐ พระพักตร์เป็น ‘เทวบุตร’ สุดจะหล่อ
    คนมักล้อ ต่อเศียรช้าง ดูแก่เฒ่า
    มีงวงงา ช้อนไป คือตัวเรา
    ที่ท่านเอา มาเขียน เป็น ‘นิทาน’

    ๐ มีความจริง หลายเรื่อง อยากจะบอก
    ไม่พอหรอก กาลนี้ มันแสนสั้น
    ลูกช่วยเขียน บันทึกไว้ ในประพันธ์
    ว่าพ่อนั้น จะรีบจร ไป‘ปราบมาร’

    ๐ ณ ยามนี้ แดนสวรรค์ เราไม่สุข
    มีทั้งทุกข์ ทั้งสงคราม ให้หักหาญ
    แดนมนุษย์ ก็ไม่ต่าง จากวิมาน
    เทพบันดาล เบื้องบน ก็พอกัน

    ๐ เห็นเหตุบ้าน การเมือง แดนมนุษย์
    ดูคนทุกข์ ก็สุดแค้น ถึงแดนสวรรค์
    โลกมนุษย์ ปั่นป่วน พอๆ กัน
    แดนของฉัน ก็มี หน้าที่ทำ...

    ๐ ทั้งสงคราม ฝ่ายอธรรม ทำลายล้าง
    สร้างหนทาง แก่ตน ให้เราช้ำ
    มันคือมาร เหยียบย่ำ จากแดนดำ
    อำมหิต เหลือร้าย ต้องทำลาย

    ๐ เวลานี้ หยุดเล่าเรื่อง ตนเองก่อน
    สวรรค์ร้อน เรียกหาเรา สุดใจหมาย
    เราจะ จำแลงร่าง เปลี่ยนแปลงกาย
    จากโฉมชาย สุดงาม เป็น ‘คเณชา’

    ๐ มีพระพักตร์ แปรเปลี่ยน เป็น ‘คชสาร’
    ดั่งตำนาน ที่เขาเล่า กันอย่างว่า
    แต่เราทรง ช้างศึก ไอยรา
    มุสิกะ หนูทรง มันเล็กไป

    ๐ พร้อมอาวุธ ธนูทอง ลูกศรเสก
    สะพายหลัง ดุจพระเอก ในหนังใหญ่
    ราวพระราม ปราบยักษ์ ให้สิ้นไป
    กระโดดใส่ หลังช้าง โจนทะยาน

    ๐ มุ่งหน้าไป ปราบศัตรู ปากแดนสรวง
    มันจะทวง บัลลังก์สวรรค์ อย่างอาจหาญ
    มันบังอาจ บุกมา เต็มวิมาน
    พลเกินล้าน นับได้ ไม่หมดเลย

    ๐ ฝ่ายมารมา กันครบ ทุกอาวุธ
    มันจะฉุด แดนสรวง เป็นเชลย
    พ่อกับเทพ ทั้งปวง ไม่นิ่งเฉย
    จะเปิดเผย กองทัพ รับเช่นกัน

    ๐ ด้วยอำนาจ กองทัพเทพ ทุกชั้นฟ้า
    นำโดยองค์ อินทรา เทพสวรรค์
    ทรงขี่ช้าง มหา เอราวัณ
    เข้าโรมรัน ตีมารแตก ให้แยกไป

    ๐ ตัวเราเอง นำทัพ พลธนู
    ซุ่มดูอยู่ พร้อมเล็ง พิษศรใส่
    เมื่อหมู่มาร เข้าใกล้ สั่งยิงไป
    ลูกศรไฟ ต้องตก ถึงตัวมาร

    ๐ เวลานั้น แดนมนุษย์ สุดตระหนก
    อีกวิหค เวหา เดรัจฉาน
    คงแตกตื่น มองฟ้า สุดตระการ
    -ตาไปด้วย แสงเทพมาร มหัศจรรย์

    ๐ เดี๋ยวฟ้าผ่า ฟ้าแลบ และฟ้าร้อง
    กังวานก้อง เกรงขาม จากสวรรค์
    ฟ้าราวจะ แตกแยก ออกจากกัน
    มนุษย์นั้น ไม่รู้ ศึกข้างบน

    ๐ เลือดเทวา เลือดอสูร ที่ห้ำหั่น
    ได้ตกลง จากวิมาน เป็นห่าฝน
    เสียงฟ้าร้อง คือเสียงดาบ ถูกอกคน
    ตายกันจน เกลื่อนฟ้า วิลาศไป...

    ๐ ครั้นคราวศึก ช่วงนี้ ก็แสนหนัก
    สะท้านภพ สะเทือนจักร ถึงแดนใหญ่
    ทั้งสามโลก ก็หวั่น เรื่องเภทภัย
    มนุษย์ไซร้ ไม่รู้ ดูโง่งม...

    ๐ เกิดอาเพศ ไปทั่ว ทั้งโลกา
    พิบัติมา เยือนบ่อย น่าขื่นขม
    คนไหว้เทพ ไหว้ฟ้า น่าอกตรม
    ไม่มาชม บนฟ้า ก็อาวรณ์

    ๐ คนขอเทพ เทพก็ขอ ให้คนช่วย
    มนุษย์ป่วย เทพก็ป่วย ดั่งต้องศร
    โลกจะแตก สวรรค์จะแยก สุดอาทร
    สัญญาณหลอน มาเตือน อยู่ร่ำไป

    ๐ พวกหมู่มาร เดี๋ยวนี้ ชักกำแหง
    แทรกแซงลง ไปในจิต คิดการใหญ่
    เหล่าคนชั่ว คิดโกง อยู่ร่ำไป
    นี่นั่นไง เห็นไหม ‘มาร’ในตัว

    ๐ มารมนุษย์ มารสวรรค์ ก็มีหมด
    ทุกแห่งลด คนดี น่าปวดหัว
    มีแต่เลว เลวกันได้ ทั่วทุกครัว
    เราชักกลัว หัวหดอยู่ ในแดนตน

    ๐ มนุษย์ร้าย ร้ายกว่ามาร ที่บุกสรวง
    -สวรรค์ลวง เทพยดา ให้ปี้ป่น
    มนุษย์ชั่ว ทุกตัว เทพไม่ดล
    ไม่ช่วยคน คิดชั่ว ไร้ศีลธรรม

    ๐ จบเรื่องศึก นึกเรื่อง ตัวเราต่อ
    เจ้าลูกพ่อ จงจรด ทุกคำย้ำ
    พ่อจะเอ่ย เผยถ้อยถ้วน ล้วนลำนำ
    จงนำคำ มาแต่งต่อ เป็นบทกลอน

    ๐ เจ้าจงเขียน อ่านคำ ทำนองเสนาะ
    แสนไพเราะ เพราะพริ้ง เรียงอักษร
    จงจดจำ ใจความ ตามพ่อวอน
    อย่านิ่งนอน จงไปทำ ตามกระบวน

    ๐ อาจสงสัย เรื่องพักตร์ เราไม่หาย
    เราจะคลาย ความสับสน ไม่สงวน
    อ่านตามไป ทุกวรรค อย่างใคร่ครวญ
    อย่ารีบด่วน ขี้เกียจอ่าน รำคาญใจ

    ๐ จะเศียรช้าง เศียรคน เราไม่สน
    อยู่กับคน จะเห็นเรา เป็นแบบไหน
    จิตระลึก ถึงช้าง เราแปลงไป
    อยากจะให้ เราเป็นคน เราทำตาม

    ๐ อยู่กับจิต ของพวกเธอ จะคิดถึง
    ไม่เพียง‘หนึ่ง’ ไม่มี‘แค่’ อย่ามัวถาม
    เราเป็นได้ ทุกสิ่งสรรพ ตามใจความ
    ทุกชั่วยาม เราจะอยู่ เคียงข้างเธอ

    ๐ เมื่อเธอนึก ถึงเรา เราไปหา
    ภาวนา ไปเถิด อย่ามัวเผลอ
    จะอยู่กับเธอ ทั้งยามหลับ ยามละเมอ
    แม้เลินเล่อ เราจะเตือน ไม่ห่างเลย

    ๐ เลิกสงสัย ได้แล้ว เรื่องรูปลักษณ์
    จะกี่พักตร์ กี่กร ไม่เฉลย
    อยู่ที่จิต ของเธอ จะนึกเลย
    เราจะเผย รูปลักษณ์ ตามจิตตน...

    ๐ ทั้งเรื่องวัย เรื่องปาง อีกเรื่องเล่า
    จะผู้เฒ่า เยาว์เด็ก ไม่ต้องสน
    ก็บอกแล้ว เรานิมิต ตามใจคน
    ไม่ต้องบ่น ถึงมันมาก น่ารำคาญ

    ๐ ใครเขียนรูป เราเยาว์เด็ก นั้นเราชอบ
    จะตีกรอบ ให้เราหนุ่ม ดูกล้าหาญ
    หรือจะปั้น รูปเราแก่ นั่งเข้าฌาน
    เป็นฤๅษี หรือนายพราน นั้นตามใจ

    ๐ ในโลกทิพย์ ทุกเทพ ทำได้หมด
    จะโป้ปด มดเท็จ ไปทำไม
    ทั้งบิดา มารดาเรา ก็ทำได้
    แต่ไม่ง่าย หากจะให้ พวกเธอทำ

    ๐ เอาเป็นว่า คงเข้าใจ ที่เราพูด
    จะไม่ขุด เรื่องเดิมๆ มาเล่าซ้ำ
    เธอเข้าใจ ในทุกสิ่ง ทุกถ้อยคำ
    จงจดจำ เอาไว้ ตลอดกาล...


    ---สาส์นฉบับที่ ๒---




    [​IMG]
    กาพย์ยานี ๑๑
    ๐นั่งมองปลาในวารี ฟังดนตรีอันไพเราะ
    สอดเสียงทำนองเสนาะ ฟังก็เพราะดั่งเสียงแก้ว
    แดนดินนี้คือวิมาน หิมพานต์สุดผ่องแผ้ว
    การเวกร้องฟังเสียงเจื้อแจ้ว ได้ยินแล้วสุดซึ้งใจ

    ๐ดูปลาครึ่งคชสาร ในบาดาลทั้งน้อยใหญ่
    กุญชรวารียังจำได้ ตำนานใดบันทึกมัน
    ‘ช้างน้ำ’ อยู่นี่ไง เป็นฝูงใหญ่แหวกว่ายกัน
    จับคู่ชู้รำพัน น่าสำราญไม่ไหวหวั่น



    ๐วิหคเหินเต็มแผ่นฟ้า อีกปักษาแดนสวรรค์
    เกาะพืชนานาพันธุ์ ร้องจีบกันในแดนไพร
    อีกนางกินรีก็หกเหิน เอาแต่เขินหาปีกใส่
    ร่อนเร่บินเที่ยวไป ไม่ใส่ใจเรื่องบ่วงพราน

    ๐ที่นี่แสนสงบ พ่อมาพบแดนวิมาน
    เที่ยวท่องป่าหิมพานต์ และเล่าผ่านทำนองกลอน
    ลูกเอ๋ยจงมาฟัง อย่ามัวยั้งเรื่องอักษร
    ถอดความตามพ่อวอน พ่อจะนอนเล่าให้ฟัง


    [​IMG]


    ๐มีคนทักเรื่องบูชา เขาเล่าว่าอย่าเผลอพลั้ง
    เนื้อสัตว์ท่านพ่อชัง เรื่องนี้ดั่งเป็นความจริง
    พ่อถือมังสวิรัติ ไม่คิดตัดชีวิตทุกๆ สิ่ง
    ถวายของขึ้นบนหิ้ง โปรดละทิ้งเรื่องเนื้อเลย

    ๐ขนมที่พ่อชอบ คือลาดูตอบเฉลย
    โมทกะก็ตามเคย ต้องรีบเผยของชอบเรา
    จริงหรือที่ท่านว่า ต้องเอามาจากเมืองเขา
    เมืองไทยเราไม่เบา ไม่ต้องเอาจากต่างแดน

    [​IMG]


    ๐ขนมในเมืองใด คนส่วนใหญ่ทำหวงแหน
    เอามาใช้ให้แทน เราไม่แค้นอย่ากลัวใย
    ขนมแขกหากไม่มี ไม่ต้องรี่ไปกันใหญ่
    ต้มแดงต้มขวาก็พอได้ นำถวายเราสำราญ

    ๐จริงหรือที่เขาว่า ต้องละไข่ในขนมหวาน
    อย่ามีเดี๋ยวเกิดงาน เราจะพาลพิโรธไป
    ขอตอบตรงจุดนี้ อย่าเซ้าซี้ของเซ่นไหว้
    จะใส่ไข่สักพันใบ ก็รับไว้ด้วยจิตดี




    ๐ผลไม้ใดก็ไหว้ได้ อย่าให้มากในพิธี
    เอาเลยอย่ารีรอ เท่าที่มีก็นำมา
    จะเปรี้ยวหรือจะหวาน เราก็ทานไม่มีปัญหา
    แต่อย่าขมรสเชียวหนา อย่างมะระไม่นิยม

    ๐แม้ใบไม้ใบหญ้า ก็จัดหาตามเหมาะสม
    บูชาด้วยน้ำนม ไร้น้ำขมก็ยินดี
    เสื้อผ้าอาภรณ์ใส่ จะสีใดไม่บัดสี
    เอาตามที่พอดี ทำพิธีบูชาเรา




    ๐ทั้งดอกไม้มาลัยไหว้ ไม่ต้องให้ตามแบบเขา
    ดอกอะไรก็ใจเรา อย่าเอามารบกวนใจ
    ดาวเรืองสีเหลืองโรจน์ หรือจะ‘โรส’ ก็ไหว้ได้
    ชบาบานดอกบัวใด เรารับไว้การบูชา

    ๐ต่อไปเรื่องเครื่องหอม ทำสีย้อมก็ไหว้หนา
    ธูปสีหลายราคา ก็เลือกมารีบขอพร
    กำยานธูปจะกี่ก้าน อย่าประจานความ ‘กาสร’
    กี่ดอกสวดอ้อนวอน เสียงสะท้อนก็ถึงเรา


    [​IMG]

    ๐บ้างที่บอกห้าดอก บ้างที่บอกเพิ่มอีกเท่า
    จุดธูปหรือจะเผาเรา อย่าเอามาหงุดหงิดใจ
    เรื่องธูปเรื่องกำยาน จะกี่ก้านก็ไหว้ได้
    อย่ามีพิธีไซร้ ไหว้ด้วยใจที่สำคัญ

    ๐หยิบเท่าที่มือหยิบ จะหยิบติดมากี่อัน
    ตรงนี้ไม่สำคัญ แค่มีควันก็เป็นพอ
    ตรงนี้ที่ฉงน เห็นหลายคนยังหนักข้อ
    ต้องเน้นเป็นบ้าบอ พ่อจะขออย่าจริงจัง




    ๐จุดธูปบูชาไหว้ อย่าใช้กฎประกาศดัง
    กี่ดอกบังคับฟัง เจ้าจะพังเพราะงงเอง
    แต่ละที่กำหนดมั่ว ไม่เคยชัวร์คิดว่าเก่ง
    พ่อบอกไม่กลัวเกรง ใจนักเลงรับประกัน

    ๐จุดไหว้บูชากลิ่น จะกี่ดอกขอมีควัน
    สำคัญที่ใจกัน สื่อรำพันถึงพ่อเลย
    เรื่องธูปอย่าสงสัย ใครบอกใหม่ทำนิ่งเฉย
    อย่ามัวแต่นับเลย พ่อเฉลยขี้เกียจรอ...




    ๐ขอจบเรื่องการไหว้ ตัวเราไซร้ไม่เคยขอ
    จะไหว้หรือเห็นเป็นหลักตอ ก็เอาพอตามใจตน
    พ่ออยู่ในใจลูก ไม่ได้ผูกกับไม้ผล
    อีกอย่างไม่ต้องบน เดี๋ยวตนลืมขี้เกียจทวง...

    ๐เห็นหงส์บินว่อนผ่าน ขึ้นขี่อานกลับแดนสรวง
    ขอจบเรื่องทั้งปวง ขอพักทรวงหนักอุรา
    วันนี้พอแค่นี้ เดี๋ยวราตรีจะล่วงลา
    พ่อขอกลับเถิดหนา เกรงบิดาจะว่าเอา...



    ๐เพียรเขียนสาส์นทำนองเพราะ ให้เสนาะถึงพวกเขา
    จะได้รู้ไม่ดูเบา ไร้โง่เขลาการบูชา
    จงส่งสาส์นนี้ไป ให้พวกเธอเจ้าปัญหา
    หมดห่วงเรื่องบูชา เดี๋ยวเรามาเรื่องใหม่เอย...

    [​IMG]



    ---สาส์นฉบับที่ ๓---

    กลอน ๘


    ๐ ราตรีนี้ พ่อเสด็จมา จากภูเขา
    -ไกรลาสจ้าว แห่งภูผา ดินแดนสวรรค์
    ศิวะเทพ อุมาอยู่ คู่เทวัญ
    หลับตาพลัน ก็ปรากฏ ณ ห้องเธอ

    ๐ ตื่นได้แล้ว เจ้าลูกน้อย กลอยสวาท
    จงเตรียมอาสน์ ให้พ่อนั่ง อย่ามัวเผลอ
    นี่เรื่องจริง ไม่ใช่ฝัน หรือละเมอ
    ตื่นเถอะเธอ พ่อมาหา อย่าสับสน

    ๐ ราตรีก่อน พ่อพาไป ท่องเที่ยวป่า
    ตระการตา ผจญภัย พนาสนต์
    ราตรีนี้ ไม่ต้อง! พ่อทำกล
    เลยเสกมนต์ มาหาเจ้า ถึงที่เอง

    ๐ รีบเตรียมเขียน รจนา เรียงอักษร
    ตามพ่อวอน ตกแต่งคำ อย่ากลัวเกรง
    เจ้าจงเขียน ตามพ่อบอก อย่าแต่งเอง
    เป็นบทเพลง กลอนไพเราะ เสนาะดัง




    ๐ คราวก่อนนั้น พูดถึง เรื่องการไหว้
    บูชาไซร้ อย่างไร จึงไม่พลั้ง
    คราวนี้ มาต่อเรื่อง น่าฟัง
    อย่าชิงชัง โกรธพ่อ ที่มากวน

    ๐ สาส์นฉบับนี้ จารขึ้น ราตรีสาม
    กี่โมงยาม เจ้าพักผ่อน ดูกำสรวล
    น่าเห็นใจ หน่อยนะ ที่พ่อชวน
    แต่สมควร เพราะเป็น หน้าที่เรา




    ๐ ถึงดึกดื่น งัวเงียตื่น ไม่ตัดพ้อ
    พ่ออุตส่าห์ รอแต่เรา ไม่ใช้เขา
    คนอื่นดี มีถมเถ แต่เป็นเรา
    พ่อเยือนเย้า ให้เกียรติเรา น่าตกใจ

    ๐ คนจารสาส์น มีหลายคน ในโลกหล้า
    เพียงตัวข้า ได้รับเกียรติ น่าใจหาย
    พระคุณนี้ จะจดจำ จนวันตาย
    ไม่เสื่อมคลาย ในองค์พ่อ “คเณชา”




    ๐ พ่อมาเล่า ให้ฟัง ในคืนนี้
    ก็บ่งชี้ ในสาส์น ตัวภาษา
    แถลงไข บอกกล่าว กลัวคนว่า
    เดี๋ยวจะหา ว่าสาส์นพ่อ เป็นของปลอม

    ๐ ทูลถามพ่อ เหตุใด จึงเลือกข้า
    พ่อตรัสว่า ข้าเลือกเจ้า ไม่มีซ้อม
    เลือกจริงจริง ใช้งานจริง เจ้าต้องยอม
    ชอบเจ้ากล่อม คนด้วย ภาษาใจ




    ๐ คนเก่งเก่ง ดีดี มีอย่างมาก
    แต่ถ้าหาก พ่อเลือกผิด เป็นไฉน
    เลือกคนเก่ง แต่ใจแย่ คงบรรลัย
    สาส์นเขียนไป จากคนชั่ว คงจบกัน

    ๐ ที่พ่อเลือกเจ้า เพราะมีเหตุ
    บังเกิดเกตุ ดวงแก้ว บนสวรรค์
    นิมิตภาพ เห็นเจ้า คือรางวัล
    เมล็ดพันธุ์ จากมือพ่อ ที่ถูกโปรย




    ๐ เจ้าเป็นดุจ ผลงาน ที่พ่อปลูก
    แก้วทุกลูก ที่พ่อหว่าน ละเลงโรย
    ตกจากฟ้า จากสวรรค์ ถูกลมโชย
    พัดโบกโบย ลงมาเกิด เป็นตัวคน

    ๐ เพาะเมล็ด จากส่วนจิต ของตัวพ่อ
    กำเนิดหน่อ ตัวเรา น่าฉงน
    มีหลายคน สื่อพ่อได้ ในบัดดล
    ล้วนเป็นคน ที่พ่อสร้าง มากับมือ




    ๐ หลายเมล็ด น่าเสียดาย ที่ต้องดับ
    เพราะถูกขับ จากยา ที่แม่ซื้อ
    โดนทำแท้ง หลายชีพ สิ้นระบือ
    คนไม่ถือ ธรรมะ น่าเสียดาย

    ๐ หลายคนเกิด รอดมาได้ จนเติบใหญ่
    แต่ทำไม กิเลสหนา พระลืมไหว้
    พ่อลงเตือน สอนเขาแล้ว แต่มิวาย
    จนตัวตาย ดับสูญสิ้น เมล็ดพันธุ์




    ๐ น่าเสียดาย เหล่าเมล็ด ที่พ่อหว่าน
    ลงมาคลาน เป็นเด็กเล็ก หัวใจสั่น
    แต่ต้องตาย เพราะไม่รู้ ‘ธรรมะ’สวรรค์
    ที่เสกสรร ให้เขามา เร่งสร้างบุญ

    ๐ หลายเมล็ด ต้องดับ ไปก่อนรู้
    มาเลิศหรู แต่ตอนไป กลับเป็นศูนย์
    มาสว่าง ไปมืด เป็นกองพูน
    ไม่ค้ำคูณ ไร้ศีลธรรม บันดาลดล




    ๐ หลายเมล็ด กว่ารู้ตัว ก็เกือบสาย
    เร่งแทบตาย การทำบุญ ทำกุศล
    แต่ยังดี ที่ทันกู้ ความเป็นคน
    มาสิบหน ดีสิบหน ไม่เสียดาย

    ๐ เมล็ดที่ พ่อหว่าน จากดวงจิต
    เกิดเป็นผล ผลิต หน่อเนื้อใหม่
    เป็นกายา คนแล้ว อย่าได้ใจ
    พ่อเลือกใช้ คนดีดี มีศีลนำ




    ๐ เพราะเมล็ด หลากหลาย เคล้ากันหมด
    ดีชั่วปด ไม่ได้ น่าขันขำ
    ดีชั่ววัด จากใจคน มีคุณธรรม
    พ่อแค่ทำ หน้าที่ดู ไม่ห่างเลย

    ๐ เมล็ดใด พันธุ์ไหนดี ที่จะรอด
    พ่อคอยสอด ส่องอยู่ ไม่มีเผย
    เมื่อถึงเวลา พ่อออกมา อย่างเช่นเคย
    บอกเฉลย บุญสัมพันธ์ ที่เราเป็น




    ๐ อย่างเช่นเจ้า มีบุญ กับพ่อนัก
    และเป็นฝัก เมล็ดที่ เติบโตเด่น
    มีศีลธรรม คุณธรรม ให้พ่อเห็น
    พ่อจึงเฟ้น เลือกเจ้า ไม่ผิดเลย

    ๐ ราตรีนี้ มีธุระ อย่างที่บอก
    พ่อมาตอก ย้ำจิตเจ้า อย่าทำเฉย
    เขียนสาส์นบอก ทุกคน อย่างเช่นเคย
    ตอบเปิดเผย ให้รู้ หน้าที่ตน




    ๐ คนเราเกิด มาไม่ เหมือนกันหมด
    ใครกำหนด ตนได้ก่อน จะมีผล
    ใครทำดี ได้ดี ขอเทพดล
    ใครชั่วปน เลวร้าย ขอตายไว

    ๐ เมล็ดดี เมล็ดชั่ว ปนกันอยู่.
    แยกออกดู ว่าเม็ดไหน สว่างใส
    เมล็ดดำ คล้ำไร้บุญ เขวี้ยงทิ้งไป
    เมล็ดใส สว่างไว้ ในจิตเอย...




    ๐ โบราณว่า หว่านพืชใด ย่อมได้ผล
    เช่นพืชตน ที่ตนหว่าน ตามที่เอ่ย
    ปลูกพืชดี ใช้ดินดี น้ำรดเลย
    คงผ่าเผย สง่ากล้า เป็นตัวตน

    ๐ นี่คือสาส์น ฉบับที่สาม ขององค์พ่อ
    รีบเขียนต่อ แม้จะง่วง สักกี่หน
    ราตรีนี้ ไม่ได้พัก ไร้เสียงกรน
    ทำตามตน ที่พ่อให้ ประทานเรา




    ๐ รู้ว่าตน คือใคร จากสาส์นนี้
    ก็เต็มที่ งานเขียน ไม่มีเฉา
    น้ำตาไหล ออกมา เสียนี่เรา
    ดูโง่เขลา เพราะเพิ่งรู้ พ่อดูแล

    ๐ แทบขนลุก ในใจความ ที่พ่อบอก
    เราไม่หลอก เขียนยกยอ น่าตอแหล
    จริงหรือนี่ เราเป็นพืช ที่ท่านแพร่
    ปลูกดูแล เป็นพิเศษ คือตัวเรา...




    ๐ ยังมีอีก หลายเมล็ด ที่พ่อหว่าน
    คือความจริง ทุกประการ ไม่ต้องเผา
    อาจมีคน รู้ตัวอยู่ ว่าพ่อเรา
    ท่านคอยเฝ้า ดูแล เฉกเช่นกัน

    ๐ รู้ไว้เถิด หากใคร สื่อพ่อได้
    นั่นแหละใจ ที่พ่อแบ่ง จากสวรรค์
    พอได้รู้ แบบนี้ ขนลุกชัน
    น้ำตากลั้น เอ่อนอง พ้องใจปวง




    ๐ ขอจบสาส์น ไปก่อน ราตรีนี้
    ส่งเสด็จ ท่านพ่อที่ ปากทางสรวง
    เหาะเหินขี่ มยุรา บินทะลวง
    ผ่านปวงเมฆ ถึงเขตเขา ดินแดนไกล...

    [​IMG]
    ขอบคุณภาพ: ราชัน แสงทอง
    ---สาส์นฉบับที่ ๔---

    [​IMG]

    กาพย์ยานี ๑๑

    ๐ฉบับสี่ชี้แจงเหตุ ตามพระเนตรองค์พ่อช้าง
    ที่มนุษย์สุดแอบอ้าง เรื่ององค์ปางของพระองค์
    มีคนปั้นรูปท่าน สังวาลเพชรประดับทรง
    และว่าท่านประสงค์ อยู่ในองค์แพงขนาด

    ๐เรื่องนี้ทูลถามพ่อ นิมิตต่อถึงไกรลาส
    พ่อตรัสดูประหลาด ว่ามิอาจเป็นอย่างตน
    ท่านพ่อตรัสบอกว่า เรื่องราคาพ่อไม่สน
    ไม่เลือกผู้ดีมีจน ทุกทุกคนล้วนบูชา

    ๐จะองค์ใหญ่หรือเล็ก ถูกสเป็กบูชามา
    จะปั้นจากดินไร้ราคา หรือสูงค่าปั้นจากทอง
    ประดับเพชรนิลจินดา หรือแค่ผ้าพ่อไม่หมอง
    ผ้าผูกไว้ด้วยใจปอง องค์พ่อมองน่าเลื่อมใส

    ๐อย่าเชื่อคำใครว่า องค์แพงกว่าพ่อสนใจ
    พ่ออยู่ทุกองค์ไซร้ อย่าได้หาองค์เลิศหรู
    ท่านพ่อเห็นคนเขลาขลาด ไม่ฉลาดเลือกซื้อดู
    เลือกองค์แพงสุดกู่ และบอกตูเทพคุ้มครอง




    ๐เที่ยวอวดใครไปทั่ว ว่ามีตัวพ่อเฝ้ามอง
    มากกว่าองค์ดูหม่นหมอง ที่วางกองไร้ราคา
    เพราะเห็นเป็นแค่ดิน ไร้ชีวินดูหมดค่า
    องค์เล็กพ่อจะว่า องค์ใหญ่กว่าพ่อชอบใจ

    ๐ยิ่งองค์จากวัดดัง เที่ยวไปฟังใครมาได้
    ตามติดทุกวัดไป บูชาไซร้ด้วยศรัทธา
    เลือกหาแต่มวลสาร พระประทานปลุกเสกหนา
    ยิ่งแพงยิ่งบูชา เรื่องราคาไม่เกี่ยงเลย


    [​IMG]

    ๐องค์พ่ออลังการ ก็กว้านซื้อไม่มีเฉย
    คิดว่าพ่อจะชมเชย ไอ้ลูกเอ๋ยโง่เป็นควาย
    พ่อไม่สิงในมวลสาร ไม่บันดาลดั่งใจหมาย
    วัดดังทำพ่อขาย และกระจายพ่อหากิน

    ๐เงินได้เอาสร้างวัด พ่อไม่ขัดไม่เคยหมิ่น
    แต่อยากให้พอกิน อย่าไปดิ้นรนหามา
    มีเงินน้อยก็ได้บุญ สร้างกุศลที่ใจหนา
    อย่าได้มัวเฟ้นหา องค์พ่อมาจนเกินตัว




    ๐องค์พ่อปั้นง่ายง่าย จากที่ใดก็มีทั่ว
    ไม่ปลุกเสกไม่ต้องกลัว เอาให้ชัวร์ที่หัวใจ
    ศรัทธามีพ่อปรากฏ แค่สวดบทพ่อวิ่งใส่
    โอมศรีคเณศายะนั่นปะไร องค์พ่อไซร้รีบเข้ามา

    ๐เดี๋ยวนี้เป็นกันหมด พ่อสลดคนไทยหนา
    มีเงินแต่ไร้ปัญญา การบูชาองค์พ่อเลย
    ต่อให้เงินมากแค่ไหน แต่ไม่ไหว้ตั้งพ่อเฉย
    ไม่มีศรัทธาเลย พ่อเฉลย ‘ช่างโง่งม’




    ๐หลายบ้านมีเต็มหลัง ดูเข้มขลังเหมือนอาศรม
    แต่ดันไม่นิยม เรื่องขนมไหว้บูชา
    เอาพ่อมาตั้งไว้ ฝุ่นจับใหญ่เต็มองค์หนา
    ไร้สะอาดหมดราคา พ่อไร้ค่าน่าเศร้าใจ

    ๐เวลาเลือกองค์พ่อ จิตจดจ่อกับองค์ใด
    ให้เลือกเช่ามาได้ เพราะมีใจสื่อถึงกัน
    อย่าเกี่ยงเรื่องปลุกเสก มวลสารเอกหรือปูนปั้น
    เรซิ่นทองเหลืองนั้น มีองค์ฉันอยู่เต็มที




    ๐คนไทยยังคิดผิด มีจริตติดเง่างี่
    เลือกแต่ปลุกเสกดี ทำพิธีจากวัดดัง
    องค์พ่ออยู่ไปทั่ว แต่คนชั่วพ่อชิงชัง
    พ่อไม่เลือกแต่วัดดัง เกจิขลังพ่อยังเมิน

    ๐พ่อหาคนที่เหมาะ ดูเฉพาะไม่มองเผิน
    คนดีดีพ่อไม่เมิน พ่อรีบเหินเชิญบูชา
    ตามดั่งธรรมเนียมแขก เขาไม่แยกวัดหรอกหนา
    ปั้นจากดินไร้ค่า แรงศรัทธามากกว่าเรา




    ๐องค์พ่อแม้เลิศหรู แพงสุดกู่พ่อไม่เขลา
    อย่าเอาแต่งี่เง่า ทำตามเงากิเลสมาร
    องค์รูปปั้นแค่วัตถุ อย่าไปดูมาเต็มบ้าน
    มีพ่อประดับบาน ก็ไม่ผ่าน ‘กรรม’ แห่งตน

    ๐บูชาเราจนเต็มบ้าน คิดจะผลาญกิเลสล้น
    ยิ่งผิดจากตัวตน มารผจญยิ่งเข้ามา
    อย่าเอาแต่สะสม ทำอาศรมพ่อเลยหนา
    อย่าทำร่างทรงบ้า บอกว่าข้าคือเทพเอง




    ๐เรื่องทรงคนไทยแปลก ที่เมืองแขกยังครื้นเครง
    มีแต่ทำนองเพลง เร่งบรรเลงบูชาเรา
    ไม่มีร่างทรงบ้า มันบูชาหรือมันเมา
    ดูสิพ่ออายเขา เอาเทพเรามาลงทรง

    ๐พ่อศิวะแม่อุมา อีกบรรดาเทพทุกองค์
    ก็ยังทำหน้างง บอกกูลงทรงใครมา
    เรื่องนี้พ่อยืนยัน ว่าเทพนั้นไม่ทรงหนา
    เห็นมีแต่ผีบ้า ร้องเรียกหาแต่เงินทอง




    ๐ร่างมนุษย์มีแต่ขี้ ทุกทวารน่าหม่นหมอง
    อีกทั้งกิเลสดอง เทพไม่มองรับประกัน
    มีแต่เทพกระซิบ ดังเสียงทิพย์จากสวรรค์
    เตือนมนุษย์ทุกคืนวัน ว่าให้หมั่นเร่งความดี

    ๐จิตเทพสื่อถึงคน เป็นล้านหนควรฟังถี่
    อย่าเอาใจป่นปี้ ไปกับขี้กิเลสตน
    เรื่องร่างทรงไม่พูดมาก เดี๋ยวลำบากเจอคนบ่น
    แม้พ่อจะออกตน ว่าเทพชนไม่ทำกัน




    ๐เรื่องนี้เกิดจากจิต ของคนคิดจะทำมัน
    อุปาทานว่าตนนั้น มีเทพสั่นสิงกับตัว
    จะเป็นไปได้ไง เพราะไอ้คนนั้นมันชั่ว
    พ่อเห็นเอาแต่มั่ว ทุกคืนมัวแต่เป็นมาร

    ๐ศีลห้าก็ไม่ครบ เงินทองจบเพราะล้างผลาญ
    พ่อแม่ก็ทิ้งงาน ลูกคนพาลไม่ดูแล
    จิตดำมืดสนิท ทั้งไปผิดลูกเมียแจ
    นี่หรือร่างทรงแท้ เอาแต่ซดเหล้าเมายา




    ๐หลายคนทำใส่ชุด ดูสวยสุดขาวเต็มตา
    แต่มันเป็นเพียงมายา ใจนั้นหนาไม่ขาวเลย
    ขาวชุดชุดขาวน่าเลื่อมใส แต่หัวใจไม่เปิดเผย
    ซ่อนเลวไม่เฉลย ทุกคนเคยล้วนเจอกัน

    ๐คนชั่วชอบอ้างเทพ แต่ปวงเทพไม่สุขสันต์
    เอาเทพมาหากินกัน บนสวรรค์ไม่ยินดี
    ร่างทรงเต็มไปหมด สังคมหดแทบป่นปี้
    หากินกับคนดี คนพวกนี้มารสังคม...




    ๐ร่างทรงดีดีแท้ ไม่อวดแก่เวทย์ขลังคม
    ช่วยเหลือไม่งายงม ไม่มาจมกับเงินทอง
    ร่างทรงจริงไม่ต้องสร้าง ทำอวดอ้างว่าเทพปรอง
    อยากอยู่แบบเก็บดอง ไม่ลำพองอำนาจตน

    ๐เอาเป็นว่าไม่พูดมาก เดี๋ยวลำบากปากพาจน
    ต้องดูปัญญาตน อย่าหมองหม่นจนปัญญา
    เดี๋ยวกลัวจะโดนหลอก เพราะเขาบอกจึงเชื่อหนา
    คนอ้างเทพขอบอกว่า ไม่มีหนาในแดนเรา




    ๐สาส์นนี้พ่อสั่งจาร ด้วยประการทั้งหลายเหล่า
    บูชาเทพแต่ยังเมา มัวแต่เอาตามใจตัว
    ไม่ว่าการเลือกรูปปั้น บูชานั้นอย่าคิดชั่ว
    ถูกแพงไม่แบ่งขั้ว สำคัญชัวร์ที่หัวใจ

    ๐การไหว้องค์เทพใด นั้นต้องใช้จิตเลื่อมใส
    ตรองด้วยปัญญาไซร้ ไม่ใช่ไหว้แล้วเทพลง
    ตั้งตัวเป็น ‘เจ้าเข้า’ ช่างขลาดเขลาดูงุนงง
    พ่อว่าต้องอยู่ดง สุนัขคงเห่าหอนกัน




    ๐ไหว้เทพแล้วอย่าบ้า คลั่งศรัทธาจนหัวปั่น
    ไหว้เทพองค์ใดนั้น ข้อสำคัญต้องมีธรรม
    “ปัญญา” อันดับแรก “สติ” แตกต้องคอยย้ำ
    อย่าให้เงาผีดำ เข้าครอบงำใจของเธอ

    ๐ปวงเทพคอยดูโลก กำหนดโชคอย่ามัวเผลอ
    ต้องถือพุทธไว้เสมอ อย่าเสล่อถือแต่เรา
    อันปวงเทพทุกชั้นฟ้า ล้วนศรัทธาพุทธทุกเหล่า
    แม้นมาจากแขกเขา ก็ไม่เบาด้วยปัญญา




    ๐อันตัวพ่อก็ถือพุทธ ไม่มีหยุดภาวนา
    ด้วยใจไหว้บูชา องค์ศาสดาของปวงชน
    แม้เราดูเป็นพราหมณ์ ก็ถือตามทุกตัวคน
    อย่ามัวให้เทพดล เร่งสวดมนต์ภาวนา

    ๐บูชาเราสุดยิ่งใหญ่ แต่ไร้ซึ่งวิปัสสนา
    ก็ยังไม่ดีหนา ต้องบูชาพุทธองค์
    ควรไหว้พระองค์ก่อน แล้วย้อนมาดั่งประสงค์
    ไหว้พระก่อนใจมั่นคง เทพซื่อตรงจงบันดาล




    ๐อาหารใดแสนเลิศรส ก็ไม่สดเท่ากรรมฐาน
    แผ่บุญกุศลทาน ให้บุญหารเทพยินดี
    อีกทั้งรักษาศีล ไม่ดูหมิ่น ไร้ราคี
    ผลาญกิเลสจนป่นปี้ นี่แหละดีการบูชา

    ๐ตัวท่านนั่งไหว้เทพ เหล่าปวงเทพก็ไหว้พระ
    อย่าลืมพุทธศาสนะ ที่เราจะยึดถือกัน
    สมัยกึ่งพุทธกาล เหล่าปวงมารจะล้างผลาญ
    เหล่าเทพเร่งทำงาน ตามล้างกว้านมารผจญ




    ๐เพื่อขับเคลื่อนศาสนา ตามเวลาวัฎจักรวน
    ห้าพันปีควรเกินล้น ช่วยกันจนตลอดไป
    ศาสนาจะอยู่ต่อ ก็คงขอให้ชาวไทย
    เป็นหนึ่งที่ช่วยไซร้ เทพวอนไหว้เป็นกำลัง

    ๐ลูกเอ๋ยเจ้าลูกพ่อ จารสาส์นต่ออย่ามัวยั้ง
    รีบเขียนเพียรจิตดั่ง และจงฟังคำหมายปอง
    เวลานี้เทพต้องพึ่ง ไม่แค่หนึ่งแต่เป็นสอง
    แรงเทพแรงคนปรอง ช่วยกันครอง ‘พุทธะ’ ไป




    ๐สาส์นสี่มีความหมาย จากหัวใจที่พ่อให้
    พ่อหวั่นกลัวสิ่งใด จงอ่านไปให้ตีความ
    เนื้อสาส์นระบุชัด อย่าประหยัดคำเขียนตาม
    จงกระจายไปทุกเขตคาม ไขนิยามที่พ่อมี

    ๐พ่อเตือนเรื่องใดไป จงใส่ใจอย่างเร็วรี่
    เพราะอาจไม่ทันที ทันการณ์ที่บ้านเมืองพัง
    เวลานี้ใจคนทราม ทุกชั่วยาม ไม่บันยัง
    ทุกที่ทุกคนฟัง อย่ามัวนั่ง อารมณ์เย็น




    ๐เหตุบนฟ้าก็วุ่นวาย มารทั้งหลายยังไม่เว้น
    ส่งผลต่อโลกเป็น ทุกข์ยากเข็ญลำบากตน
    ถ้าฟ้าเบื้องบนแย่ ก็ส่งแก่การอยู่คน
    ฤดูกาลเปลี่ยนแปลงจน กำหนดผลได้ยากจริง

    ๐ที่หมู่มารมีพลัง เข้ายับยั้งเป็นประวิง
    จะจับเทพโยนทิ้ง มารเข้าชิงบัลลังก์แมน
    ก็เพราะคนเบื้องล่าง เอาแต่สร้างชั่วแบบแผน
    บูชาคนโกงกินแดน มารเลยแล่นมีกำลัง


    [​IMG]

    ๐จิตคนกำหนดฟ้า เทพแทบบ้าไร้พลัง
    เทพวอนขอคนฟัง อย่าเป็นดั่งพวกหมู่มาร
    คนชั่วต้องล้างผลาญ ให้หมดบ้านเมืองเรานี่
    อย่าเอาแต่แบ่งสี เทพป่นปี้เพราะจิตคน

    ๐ที่ฟ้านั้นอาเพศ เพราะเกิดเหตุจากแดนคน
    มนุษย์ล้วนบันดล ฟ้าเลยป่นปนฤดู
    หน้าแล้งไม่ยอมแล้ง หน้าฝนแรงเป็นพายุ
    อยากมีฝนก็ร้อนระอุ กรมอุตุก็งุนงัน




    ๐หน้าร้อน ร้อนรุนแรง หน้าหนาวแช่งไร้ลมกัน
    ฝนไม่ตกตามซีซั่น ฤดูกาลพลิกผลันแปร
    น้ำท่วมก็ท่วมท้น จนบ้านป่นแผ่นดินแย่
    เหตุเกิดเพราะอะไรแน่ คงเกิดแก่ใจของคน

    ๐ดินทรุดเพราะใจทรุด ต้องรีบขุดตัวเองพ้น
    ออกจากวัฏฏะตน อย่าให้จนเพราะใจพัง
    คนต่ำแผ่นดินเลยต่ำ เพราะดินช้ำเกินกำลัง
    คนหนักแผ่นดินชัง น้ำเลยพังเข้าท่วมคน




    ๐เหตุบ้านเมืองมนุษย์ ก็มาฉุดเมืองเบื้องบน
    พ่อฟังพระพรหมบ่น สี่หน้าหม่นเพราะเสียใจ
    ว่าคนที่ท่านสร้าง แต่กลับล้างโลกท่านได้
    ท่านจึงโศกอาลัย ไม่มีใจช่วยโลกคน

    ๐พรหมแสนจะเคืองโกรธ ดูพิโรธหน้าดำหม่น
    โลกเลยแทบร้อนรน เพราะพรหมบ่นกร่นด่ามา
    พรหมผู้สร้างมนุษย์ ต้องป่วยทรุดเพราะคนคร่า
    สังหารจิตท่านพรหมา ให้เลือดตาท่านกระเด็น




    ๐พ่อดูพรหมเศร้าโศก ปลีกจากโลกไม่แลเห็น
    รอกว่าคนจะใจเย็น กลับมาเป็นเช่นดั่งเดิม
    เมื่อพรหมหยุดทำงาน โลกเลยพาลสั่นสะเทิ้ม
    เพราะคนชั่วเหิมเกริม เทพจึงเริ่มถอนกำลัง...

    ๐ดั่งคำโบราณว่า เด็ดมาลาพาฟ้าพัง
    สะเทือนถึงบัลลังก์ เทพก็ยังแทบตกใจ
    ดีชั่วสะเทือนฟ้า ฟังไว้หนาอย่าไปไหน
    รีบเร่งทำดีไว้ ขอฟ้าให้ต้อนรับเธอ




    ๐เรื่องสาส์นฉบับนี้ พ่อมีเรื่องที่พบเจอ
    มาถ่ายทอดปลอดละเมอ จำนะเออทุกทุกผู้
    ขอจบเรื่องสำคัญ ความลับสวรรค์ที่ควรรู้
    เหตุฟ้า-บ้านเราอยู่ มันเคียงคู่ส่งถึงกัน

    ๐ขอส่งเจ้าเข้านอน หลับพักผ่อน ละเมอฝัน
    ส่วนตัวของพ่อนั้น จะรีบบั่นนั่งเข้าฌาน
    มีอีกตั้งหลายเรื่อง อยากคุยเฟื่องในทุกกาล
    แต่ต้องรีบจบงาน ไว้ไม่นานค่อยพบเจอ...


    [​IMG]
    ขอขอบคุณภาพประกอบ : ราชัน แสงทอง



    ---สาส์นฉบับที่ ๕---





    [​IMG]

    โคลงสี่สุภาพ

    ๐ คเณศวรสั่งฟ้า เราลือ พ่อเอย
    คนย่อมยินระบือ แผ่นหล้า
    สาส์นใดนี่เลื่องลือ ไปทั่ว แดนดิน
    ตามพ่อประพันธ์ถ้วน ดั่งได้ยินดี
    กลอน ๘

    ๐ สาส์นที่ห้า ฉบับนี้ พ่อวานบอก
    ไม่กลับกลอก ปอกลอก หมดราศี
    จะให้ลอง ลิ้มรส บทกวี
    น่าเปรมปรีย์ ที่เจ้า ช่วยพ่อทำ

    ๐ กลในกลอน อ่อนหวาน ปานน้ำทิพย์
    ชโลมหยิบ ช่วยชุบ อุปถัมภ์
    พ่อซาบซึ้ง บทใน รสคำ
    หมื่นพจนพร่ำ ร่ำเรือง ประเทืองใจ

    ๐ พ่อโปรด ภาษากลอน อักษรศิลป์
    ขับด้วยลิ้น รสคำ ไม่ซ้ำไหน
    เจ้าจงแต่ง บทกลอนเร็วมา ทุกคราไป
    อย่าช้าใย จารสาส์นห้า อีกราตรี




    ๐ ในครั้งนี้ พ่ออยากสอน ให้คนเห็น
    ว่าเจ้าเป็น แค่ท่อนไม้ หมดภาษี
    เกิดเป็นคน อย่าได้มาก ทิฐิมี
    จะราคี ป่นปี้ กิเลสพา

    ๐ พ่อจะขอ เปลี่ยนคำกลอน และสอนต่อ
    อย่าเพิ่งท้อ งงอักษร พรภาษา
    พ่อจะสอน มนุษย์ ให้รู้ค่า
    การเกิดมา ของชีวิต ที่ล้ำเลิศ



    กลอน ๔

    ๐เกิดเป็นมนุษย์ สุดแสนประเสริฐ
    ชีวิตล้ำเลิศ ได้เกิดเป็นคน

    ๐อยู่ไปไม่นาน ก็พลันร่วงหล่น
    สิ้นชีพวายชนม์ ไม่พ้นต้องตาย

    ๐ร่างกายหายสิ้น พลัดถิ่นโลกไป
    เนื้อกระดูกไซร้ อยู่ใต้แผ่นดิน

    ๐ยังเหลือใดอยู่ คู่ไว้ต้องสิ้น
    เลวชั่วได้ยิน ทั้งทั่วโลกา


    ๐มนุษย์เรานี่ เกิดมามีค่า
    อย่าหมดราคา เพราะเข่นฆ่ากัน

    ๐เร่งความดีไว้ ไร้เบียดเบียนมั่น
    อย่าบูชาฉัน รอวันมีโชค

    ๐ตั้งแต่เกิดมา ลืมตาดูโลก
    มีทั้งทุกข์โศก โรคเร้าเฝ้าผลาญ

    ๐เกิดมาก็สิ้น ทุกถิ่นทุกวาร
    ทั้งราตรีกาล หรือวันรื่นรมย์


    ๐ชีวิตไม่เที่ยง อยู่เพียงชื่นชม
    ทุกสิ่งดั่งลม มิมีตนจริง

    ๐จะอยู่ไปใย หายใจรดทิ้ง
    น่าขมขื่นจริง ทิ้งชีพเถิดเรา

    ๐อย่ายึดติดมั่น มันดูน่าเขลา
    ยื้อไปก็เปล่า เฝ้ารอวันตาย

    ๐มิมีใครอยู่ คู่ฟ้าเดียวดาย
    ไม่นานก็ตาย ล้มหายไปพลัน


    ๐เมื่อเจ้าตายไป ไร้คนขับขาน
    ไม่มีตำนาน กล่าวขานถึงเรา

    ๐เนื้อหนังกระดูก ถูกฝังถูกเผา
    สัตว์ลากกินเปล่า โอ้เราเศร้าใจ

    ๐เกิดมาเพื่อทุกข์ สุขเจือปนได้
    เราก็ดีใจ ที่ได้เกิดมา

    ๐แต่ว่าอยู่นาน นั้นชักเบื่อหนา
    เกิดมาไร้ค่า เกิดมาทำไม


    ๐ตายไปก็ดี มีประโยชน์ไซร้
    เป็นอาหารให้ สัตว์น้อยใหญ่กิน

    ๐ฝังลงพิภพ กลบกายาสิ้น
    อยู่ไว้ในดิน ตราบสิ้นโลกา

    ๐นี่คือประพันธ์ สวรรค์ชั้นฟ้า
    จารสาส์นที่ห้า กวีสี่กลอน

    ๐ลิ้มรสประพันธ์ เสกสรรอักษร
    สลับบทกลอน ดุจพรกวี


    ๐คำพ่อวานบอก ต้องตอกย้ำชี้
    ระวังชีวี ให้ดีเถิดเรา

    ๐ชีวิตแสนสั้น มั่นช่วยขัดเกลา
    กิเลสทุเลา บรรเทาเงามาร

    ๐คนรักชีวิต อย่าคิดล้างผลาญ
    ธรรมชาติจะพาล ดั่งกาลก่อนนาน




    กลอน ๘

    ๐ คลื่นยักษ์สูง ค้ำฟ้า ถาโถมฝั่ง
    ด้วยพลัง แรงกล้า มหาศาล
    ดั่งสัตว์ร้าย หมายชีวิต ปลิดดวงมาน
    มุ่งเผาผลาญ สินทรัพย์ นับอนันต์

    ๐ เสียงโหยหวน พร่ำเพรียก เรียกร้องหา
    สุดไขว้คว้า อกใจ ให้ไหวหวั่น
    ลูกแนบอก คลื่นกระชาก ต้องพรากพลัน
    เพื่อนพี่น้อง พลัดผัน ในพริบตา




    ๐ ความสูญเสีย ใหญ่หลวง ทะลวงอก
    น้ำตาตก ร่วงหล่น จากใบหน้า
    ต่อแต่นี้ อยู่อย่างไร ใครเมตตา
    เห็นแต่ฟ้า กับหาดทราย ร้างวิญญาณ

    ๐ เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อใด คงจำได้
    ธรรมชาติไซร้ โกรธา แต่ล้างผลาญ
    กวาดชีวิต หมดไป เกินครึ่งล้าน
    ‘อันดามัน’ ต้องรีบซับ น้ำตาริน




    ๐ นี่ก็คือ ผลกรรม จากคนก่อ
    อย่าตัดพ้อ โทษโลก จะแตกสิ้น
    ‘ผลกรรมหมู่’ สวรรค์รู้ โลกได้ยิน
    อย่าติดสิน โทษฟ้า ให้โทษคน


    ๐ ถึงคราวที่ ธรรมชาติ เอาคืนบ้าง
    ไม่เข้าข้าง เอาใจใคร ไม่เคยสน
    คนบุกรุก ธรรมชาติ เกินจะทน
    นี่แหละผล คืนสนอง ย้อนกลับมา



    ๐ ให้เทพช่วย คนไม่ช่วย โลกเองก่อน
    มัวแต่อ้อน เทพปกปักษ์ อารักขา
    มัวแต่เอา เอาแต่ได้ จนปัญญา
    เมื่อถึงครา ต้องมาซวย ด้วยเภทภัย


    ๐ เดี๋ยวไม่นาน ก็เกิดอีก ระลอกใหญ่
    พ่อเตือนไว้ ด้วยจิต อันหวั่นไหว
    ถึงให้มี คนจารสาส์น ของพ่อไป
    ส่งเร็วไว้ เตือนสติ ทุกครัวเรือน



    ๐ จะเกิดซ้ำ พาให้ ชีวิตร่วง
    ดับสิ้นดวง วิญญาณ ไม่มีเลื่อน
    พ่อมองเห็น ซากศพ คนตายเกลื่อน
    ทั้งเพื่อนบ้าน ประเทศ ในแดนไกล


    ๐ ความนัยแฝง ปริศนา ให้ขบคิด
    ตรึกตรองจิต พินิจเพ่ง เร่งอ่านไว้
    สาส์นนี้พ่อ สั่งจาร สุดหัวใจ
    เตือนลูกไซร้ อยากให้รอด ปลอดภัยกัน



    ๐ คนมีศีล มีธรรม นั้นย่อมรอด
    อยู่ตลอด ค้ำฟ้า ไม่ใช่ฝัน
    คนที่ตาย หากคนชั่ว ก็ร่วงพลัน
    ตกสวรรค์ สู่นรก อเวจี


    ๐ เภทภัยมา เมื่อไหร่ พ่องดตอบ
    พ่อไม่ชอบ กำหนดหมาย กฎเกณฑ์ชี้
    เพราะธรรมชาติ ไม่ใช่ คนมีชีวี
    ที่จะมี ปากบอกได้ เมื่อไหร่มา



    ๐ คาดการณ์ยาก เพราะคือ เหตุอาเพศ
    อีกมีเหตุ ให้เกิดโรค ระบาดหนา
    หลายประเทศ งุนงง พิบัติมา
    ชนโศกา เทพร้องไห้ พาอาลัย


    ๐ พิบัติฟ้า พิบัติดิน ก็มีหมด
    อย่างที่บท สาส์นที่สี่ นั้นบอกไว้
    วิธีช่วย โลกนั้น ทำเช่นไร
    พ่อบอกใบ้ ไว้หมดแล้ว ทุกวรรคตอน



    ๐ สาส์นนี้แปลก พ่อสั่ง ร้อยสลับ
    ประพันธ์รับ รองส่ง สดับกลอน
    ให้เราพา แปลกใจ ในอักษร
    ดั่งอาภรณ์ แต่งสีสัน ดูแปลกตา


    ๐ เดี๋ยวแต่งโคลง น้ำหน้า ขึ้นมาก่อน
    ทั้งกลอนสี่ กลอนแปดมี พาหรรษา
    ปะปนอยู่ ในสาส์น จำนรรจา
    ดุจภาษา พ่อแต่งไว้ ล้วนแฝงกล



    ๐ ทูลถามพ่อ เหมือนกัน ในเรื่องเหตุ
    จะเกิดเภท พิบัติภัย ทำลายคน
    เมื่อไหร่ มาจะได้ ระวังตน
    พ่อบอกบ่น รำคาญใจ ไม่นำพา


    ๐ ก็พ่อบอก ลูกแล้วไง เจ้าลูกเอ๋ย
    หากเจ้าเคย มีบทเรียน ที่มีค่า
    -ราคาแพง แทงให้ทุกข์ จุกอุรา
    พิบัติมา คราวก่อนนั้น ยังไม่จำ



    ๐ มันจะเกิด คล้ายกันอีก ไม่นับครั้ง
    อยากให้ฟัง คำพ่อบอก อย่าถามย้ำ
    จงเตือนตัว มีสติ มีศีลนำ
    จะช่วยค้ำ จุนเจือเหตุ ให้หมดภัย


    ๐ มันจะเกิด เมื่อใด อย่าใคร่รู้
    พ่อไม่ขู่ เป็นเล่นไป ไม่ปราศรัย
    จะเกิดเหตุ ขึ้นเมื่อใด ไม่ใช่ใคร
    ที่คนไซร้ ยังไม่หยุด คิดรุกราน



    ๐ ธรรมชาติ ก็ล้วน มีดวงจิต
    มันก็คิด จะกลับ มาล้างผลาญ
    พระนารายณ์ อีกปวงเทพ ป้องกันมาร
    ก็ไม่อาจ ทำการช่วย จนปัญญา


    ๐ ลูกไม่รู้ ว่าพ่อลุด ไปสมุทร
    -เกษียรสุด สาคร จบเวหา
    ทรงเต่ายักษ์ ประคองขี่ ลงนาวา
    จะไปหา พระนารายณ์ สินทร์บรรทม

    [​IMG]

    ๐ ลูกรู้ไหม ว่าท่านบอก อะไรพ่อ
    ท่านตัดพ้อ ว่าเหนื่อยนัก หน้าอกตรม
    นานมาแล้ว ที่ไม่นอน นาคาศรม
    ขับตาลง ข่มใจ ไม่ได้เลย


    ๐ นารายณ์ เดี๋ยวนี้ไม่ บรรทมสินทร์
    ไม่โบยบิน ขี่ครุฑ หยุดผ่าเผย
    จะช่วยโลก ไม่ได้อย่าง ทุกครั้งเคย
    ท่านเฉลย ถึงคราว ‘โลกรับกรรม’…



    ๐ หน้าท่านเศร้า เหงาใจ เป็นที่สุด
    จ้าวสมุทร เกษียรนี้ กลับชอกช้ำ
    ไร้ลักษมี ชายาคู่ กายกำยำ
    ท่านบอกย้ำ ปลีกวิเวก อเนกองค์


    ๐ ท่านวิษณุ ทรง วางจักร
    สีพระพักตร์ เศร้าหมอง ไม่ประสงค์
    พ่อเข้าใจ ในความ ที่ท่านปลง
    ท่านบอกตรง ว่าสุด จะบรรเทา...



    ๐ ครั้งก่อนนั้น พ่อเคยพูด ถึงผู้สร้าง
    พระพรหมปาง ก่อนนั้น ก็สุดเศร้า
    มาคราวนี้ ผู้ปกป้อง ก็แรงเบา
    โลกเขย่า ทุกครั้ง ท่านทำใจ


    ๐ พระปกป้อง ดูแล ณ สมุทร
    มีใจทรุด กับโลก เคยอาศัย
    ท่านร้องไห้ น้ำตาร่วง ทรวงมอดไหม้
    ข่มหัวใจ ทุกข์อยู่นาน คร้านคร้ามครั่น



    ๐ เรื่องพรหมา หยุดสร้าง วิไลโลก
    นารายณ์โศก เกรงโลก จะไหวหวั่น
    ทุกครั้งที่ แผ่นดิน สะเทือนลั่น
    เหล่าเทพสั่น ถึงสวรรค์ น่าตกใจ...


    ๐ ไร้ผู้สร้าง ร้างผู้ปก ปักษ์รักษา
    หมู่เทพา ไม่มีใจ ให้อาศัย
    เพราะเสื่อมจิต ในมนุษย์ ทุกคนไป
    เทพไม่ให้ ความช่วยเหลือ เพราะช้ำทรวง



    ๐ พ่อเลยกราบ ลาท่าน พระวิษณุ
    ขี่ตนุ ออกจาก บาดาลสรวง
    เจ้ารู้ไหม พ่อแทบ น้ำตาร่วง
    พ่อเป็นห่วง โลกของเรา จะบรรลัย


    ๐ วานฝากบอก พวกมนุษย์ สุดใจชั่ว
    อย่าวางตัว คิดว่าเก่ง เป็นไฉน
    ธรรมชาติ จะกำแหง ฤทธิ์เมื่อใด
    หมู่มารไซร้ ล้วนยินดี ย่ำยีซ้ำ



    ๐ ถามถึงเหตุ ว่าทำไม พ่อสงสาส์น
    เพราะหมู่มาร จะผลาญ กว้านยีย่ำ
    พ่อจะคอย แอบส่งสาส์น ทุกเช้าค่ำ
    แม้ต้องห้ำ หั่นกับมาร พ่อก็ยอม


    ๐ มารก็รู้ ว่าธรรมชาติ จะคอยเล่น
    มันเลยเห็น ว่าเป็น โอกาสย่อม
    มันจะแฝง ตัวไป เข้าเกลี่ยกล่อม
    แอบตะล่อม มวลมนุษย์ ให้หลงผิด



    ๐ อย่าหลงกล หมู่มาร ที่คิดผลาญ
    ชนะมาร ด้วยสติ ไว้ที่จิต
    จะสร้างกรรม ดีชั่ว ดำรงคิด
    วิปริต อาเพศหยุด เพราะความดี...


    ๐ กลับจาก เกษียร สมุทร
    ก็ออกยุด ครุฑไว้ ขึ้นขับขี่
    เหาะเหินบน เนินเมฆ ด้วยฤทธี
    ครุฑทรงนี้ พาไป ในเงาจันทร์


    ๐ สาส์นห้าจบ บทกวี ที่ชี้เหตุ
    องค์คเณศ กลับแล้ว ดูโศกศัลย์
    ทิ้งคราบ น้ำตาไว้ เศร้ารำพัน
    ตัวเรานั้น ขอจบ รสบทกลอน...



    ---สาส์นฉบับที่ ๖---

    โคลงสี่สุภาพ




    ๐พิฆเนศเด่นหล้า เราชม
    ท่านนั่งพักอาศรม แจ่มจ้า
    ไม่มัวหลับบรรทม เร่งตื่น เร็วนอ
    เชิญพ่อลงจากฟ้า ชื่นได้ชมดี

    ๐สาส์นนี้เรื่องหกแล้ว เร่งทำ
    ดุจดั่งท่านให้คำ เอ่ยไว้
    เตือนคนไม่มีธรรม กำหนด นำแฮ
    คนชั่วไม่พอได้ เล่ห์ร้อยโกงกิน

    ๐เรายินดีดั่งได้ แก้วมา
    ท่านพ่อเฝ้าสบตา ผ่องแผ้ว
    สาส์นนี้ส่งต่อนา ถึงแก่ คนแล
    จงเร่งทำดีแล้ว รอดพ้นกรรมตน

    ๐คนเลวปนชั่วช้า สามาน
    ขอตกนรกชั่วกัลป์ -กัปได้
    ขอให้ท่านยมบาล เอาหอก แหลมแทง
    ขออย่าให้รอดไซร้ ชั่วฟ้ามลายดิน




    ๐คนโกงกินอวดอ้า นรกมี จริงฤๅ
    นรกไม่มีคนดี กล่าวได้
    คนเลวชั่วย่ำยี ปี้ป่น โลกันต์
    ขยะคนนี้ไซร้ ดุจเพี้ยงเดรัจฉาน

    ๐แลเห็นมารป่ายงิ้ว ปีนกัน
    ล้วนบ่คิดทำทาน บาปแท้
    มีหลายคู่แบกคาน หามอยู่ บนเพลิง
    นรกย่อมเผาไหม้แล้ มอดเชื้อคนพาล




    ๐ยมบาลจ้าวสั่งให้ คนระยำ
    ลงเสาเอาไปตำ ตอกไส้
    สุดแสนเจ็บระกำ ไส้ออก มากอง
    ดีบ่มิหาได้ ชั่วช้าเกินคน

    ๐เปรตตนใดร่ำร้อง โหยหวน
    เลื่อยกรีดให้โอดครวญ บาดเนื้อ
    โซ่ใดใส่ตีตรวน ขาคู่ นั้นแฮ
    ถูกกรีดถูกดึงเชื้อ -ชั่วครั้งหมื่นหน




    ๐ผีตนใดบาปฟุ้ง เลวทราม
    เกินกว่าคนนิยาม ว่าฉั้ว *
    ลงกระทะตกตาม น้ำบ่อ ทองแดง
    ปากย่อมน้ำร้อนกลั้ว กรีดร้องโหยหวน
    *ฉั้ว มากจากคำว่า “ชั่ว” เป็นคำโทโทษ บังคับวรรณยุกต์ไม้โท ตามฉันทลักษณ์โคลงสี่สุภาพ


    ๐คเณศชวนนรกได้ ชมกัน
    ท่านพ่อสุดมหัศจรรย์ เก่งกล้า
    ลงไปพ่อรู้ทัน เห็นหมด กรรมคน
    จงอย่าได้เลวอ้า สู่ห้วงโลกันต์



    ๐โทษทัณฑ์คนทุกห้อง ทรมาน
    พ่อเพ่งหมดทุกญาณ ทั่วถ้วน
    ขุมใดบ่สำราญ ไร้สุข ทุกข์นา
    พ่อเพ่งไปไม่ห้วน จิตล้วนพินิจนำ


    ๐เห็นกรรมคนคลั่งร้อน เปลวเพลิง
    เพราะมัวแต่ระเริง มากไซร้
    หุนหันคลั่งกระเจิง ใจสั่น ร้อนเฮย
    เห็นจักรเป็นบัวได้ จิตล้วนมัวเมา



    ๐ร่างเผาไฟติดได้ งุนงัน
    แผดเผาเร่าร้อนกัน ดั่งบ้า
    ร้อนจักรติดหัวมาร หมุนปั่น เร็วแฮ
    หัวแตกเลือดโชกหน้า ท่วมท้นกายา


    ๐พ่อเตือนมาอย่าได้ เห็นผิด ไปเอย
    เกรงบาปไว้อย่าคิด ชั่วช้า
    มนุษย์ย่อมมีชีวิต นิดหน่อย ไม่นาน
    เกิดแก่เจ็บตายข้า -เร่งสร้างความดี



    ๐วันนี้นี่พ่อเฝ้า สอนธรรม
    จากนรกคนระยำ บอกได้
    เตือนย้ำไม่ต้องทำ บาปหนัก นักแล
    หวังว่าคงได้ใช้ ทุกข้อสติธรรม

    ๐ควรทำดีคู่ไว้ กายา
    ขออย่ารกโลกา กู่ก้อง
    ขอคนอย่าระอา รีบเร่ง ความดี
    ตราบชั่วชีวิตต้อง ก่อสร้างคุณธรรม




    ๐มีศีลนำอยู่แท้ คงทน
    เช้าค่ำเราทุกคน ป่าวร้อง
    ว่ามีสุขเปี่ยมจน เอิบอิ่ม ใจนา
    ปิดนรกภูมิป้อง สุดแท้แน่นอน

    ๐เปลวไฟร้อนมอดไหม้ รอนรอน
    เราทอดร่างเชิงตะกอน กร่อนเนื้อ
    เผาไหม้ร่างเรานอน หงายแผ่ เพลิงรน
    สัจจะธรรมนี้เอื้อ โลกได้สรรเสริญ...




    ---สาส์นฉบับที่ ๗---




    [​IMG]

    โคลงสี่สุภาพ

    ๐เราบุตรคเณศวรส่งฟ้า เขียนสาส์น พ่อเอย
    รักบ่มิแปรผัน เปลี่ยนได้
    พระเจ้าอยู่คู่สวรรค์ ทรงอ่าน กวีนา
    แผ่นดินนี่ดีไซร้ ดั่งได้กษัตริย์ดี...

    ๐เรานี่นี้เร่งสร้าง กวีงาน พ่อเอย
    เกลียดอยู่เฉยเฉยนาน ว่าได้
    กบฏก่อพวกพาล โจมจู่ สวรรค์นา
    แดงเพราะไฟมอดไหม้ เร่าร้อนบัลลังก์แมน

    ๐เราแทนองค์จากฟ้า เลื่องลือ พ่อเอย
    เกลียดที่มารกระพือ เล่นซ้ำ
    หน้ามารค่อยระบือ หลอนหลอก เต็มวิมาน
    เหลี่ยมเล่ห์มารคอยย้ำ ช่างร้อยเล่มเกวียน

    ๐ทักทึกเพียรยักษ์อ้าง ทึกทัก แดนเรา
    สินทรัพย์นับโกฏิหลัก จับจ้อง
    คือสิ่งเทพอารักษ์ แหนห่วง ดูแล
    กบฏผลาญฟ้าขุ่นข้อง แทบสิ้นตรอมใจ




    ๐มันไล่มารอบด้าน กำแพง เมืองเรา
    จะอวดฤทธิรานกำแหง เทพได้
    ขายหน้าพวกมารแฝง- หลบอยู่ ในเอย
    ชาติต่อไปนี้ไซร้ อย่าได้พบเจอ

    ๐มารละเมอบอกอ้าง สมบัติตน ได้ฤๅ
    เผาเขตแดนสรวงจน ป่นปี้
    กรุงย่อยยับเกินทน คืนเปลี่ยน ยากเฮย
    เทพทุกองค์ปลงชี้ จบสิ้นดินแดน...



    กลอน ๘

    ๐ มหาสงคราม สวรรค์ ในครั้งนี้
    ตัวพ่อนี่ เป็นทุกข์ สุดเคืองแค้น
    พวกมารบุก จู่โจม ถึงเมืองแมน
    โดยใช้แผน ตีล้อม และเผากรุง

    ๐ กาลครั้งก่อน เราเคย รบชนะ
    มารปะทะ กี่ครั้ง เราก็ฟุ้ง
    ชนะมัน อยู่เรื่อย ราวตบยุง
    การรบพุ่ง เมืองแมน ไม่เป็นรอง




    ๐ แต่คราวนี้ ทวยเทพ ทั้งเปลี้ยอ่อน
    ถูกตัดรอน เพราะพวกมัน มีแผนสอง
    มันเล่นงาน เราให้แตก แยกปรองดอง
    ไม่อาจครอง สามัคคีไว้ ในแดนเรา...

    ๐ ทั้งองค์อินทร์ อัมรินทร์ ก็เหหก
    พระพักตร์ตก น้ำตาร่วง บ่นตนเขลา
    ปล่อยให้พวก มารเข้า มายึดเรา
    เมืองถูกเผา วังทลาย วิมานพัง




    ๐ พรหมเพิกเฉย ปลีกวิเวก ไปนานแล้ว
    ไม่ผ่องแผ้ว สี่พักตร์ ไม่ดูขลัง
    ท่านคงหมด ซึ่งแล้ว แรงกำลัง
    ไร้พลัง โอบอุ้ม ช่วยแดนไตร

    ๐ อีกนารายณ์ ตีจาก ไม่ขึ้นฝั่ง
    เอาแต่ฝัง ตัวอยู่ใน ทะเลใหญ่
    หมดแล้วซึ่ง ความรัก ความห่วงใย
    น้ำตาไหล พรากรินดั่ง สิ้นวิญญาณ




    ๐ เมื่อสองเทพ ผู้ยิ่งใหญ่ ไม่มาช่วย
    เทพอำนวย บนฟ้า ก็รอนราญ
    พ่อกำลัง ตั้งสติ คิดทำการ
    จะยั้งมาร อย่างไร ให้โดยเร็ว...

    ๐ เมื่อนึกได้ ก็กลับไป ที่ไกรลาส
    มุสิกะ หนูขี้ขลาด นั้นไม่เลว
    ใช้ทรงได้ คล่องแคล่ว นั่งเต็มเอว
    เหาะข้ามเหว หุบเขา ดินแดนตน




    ๐ พอถึงที่ พ่อก็ เรียกร้องหา
    พระบิดา ศิวะ อยู่แห่งหน
    อยู่ที่ใด เราเรียก มาบัดดล
    พระบิดาแปลงตน ให้เห็น นิมิตมา

    ๐ มีอะไร หรือเจ้า ลูกคเณศ
    พ่อบอกเหตุ ท่านไป อย่างเร็วหนา
    เพลานี้ เมืองสวรรค์ ทุกข์อุรา
    มารบุกมา จากแดนดำ เข้ายึดครอง




    ๐ อีกทวยเทพ เทวัญก็ แตกพรรค
    ถูกมารหัก หลังให้ ไม่ปรองดอง
    พ่อศิวะ พระบิดา ไม่ควรตรอง
    -อยู่นานกอง เพลิงจะไหม้ ย่อยยับแมน

    ๐ เวลานี้ พรหมา อีกวิษณุ
    ก็ไม่สู้ อีกแล้ว ไร้ห่วงแหน
    เหลือแต่ ท่านบิดา เท่านั้นเป็นตัวแทน
    แผ่นฟ้าเลือก ให้เป็นผู้ ทำลายรอน




    ๐ เพลานี้ ลำพังลูก ช่วยไม่ไหว
    ทั้งยิงไฟ จากธนู เสกลูกศร
    ไม่อาจห้ำ หั่นฤทธิ์มาร ที่ราญรอน
    มันบุกมา ต่อกร มากเกินไป

    ๐ จึงขอให้ พ่อศิวะ บิดาข้า
    ผู้ยิ่งใหญ่ สุดฟ้า กว่าเทพไหน
    ผู้เป็นหนึ่ง ตรีเทพ ในแดนไตร
    จงช่วยไซร้ อย่ามัวหลบ นั่งเข้าฌาน




    ๐ ลูกสงสาร เขตแดน เมืองแมนสรวง
    ถูกทะลวง ป่นปี้ แตกประสาน
    ลูกเตือน มนุษย์แล้ว ถึงเหตุการณ์
    ด้วยส่งสาส์น ไปให้ แต่ไม่ทัน

    ๐ ลูกคเณศ ทำอะไร ไม่มีคิด
    เจ้าจะบิด เบือนเอาความ ลับสวรรค์
    ไปเผยแผ่ แดนมนุษย์ ทำไมกัน
    ตัวข้านั้น ไม่เห็นด้วย ไม่ยินดี




    ๐ โอ้... พระบิดา ฟังข้าก่อน
    อย่าตัดรอน น้ำใจข้า ที่ทำสิ
    ก็เพราะ มนุษย์โลก นั้นเข้าที
    ส่งความดี มาถึงฟ้า ก็ปลอดภัย

    ๐ หากมนุษย์ หยุดยั้ง ความชั่วได้
    จากจิตใจ ไม่สร้างมาร เติบโตใหญ่
    พวกหมู่มาร นั้นก็คง จะหมดไป
    เพราะมันไซร้ มาจากจิต ของผู้คน




    ๐ มารกำเนิด ขึ้นจาก ความคิดชั่ว
    ของตัวคน มนุษย์ที่ โกลาหล
    คนเผาเมือง กรุงเทพ เหตุจราจล
    ก็บันดล มารบนฟ้า ทำเช่นกัน

    ๐ เด็ดดอกไม้ บนโลก สะเทือนฟ้า
    คนทำบ้า ก็เกิดมาร บนสวรรค์
    ไม่น่าเชื่อ มันสะท้อน ส่งถึงกัน
    ลูกเลยหมั่น อยากจะเตือน ทุกตัวคน




    ๐ สงสารฟ้า บ้างนะ มนุษย์เอ๋ย
    อย่าสร้างเลย กรรมชั่ว ไม่น่าสน
    คนสร้างชั่ว ส่งมารมา ในแดนบน
    มารผจญ บนฟ้า แทบป่วยการ...

    ๐ ลูกจารสาส์น ให้มนุษย์แล้ว หกฉบับ
    ถ้าจะนับ ฉบับนี้ ก็เจ็ดสาส์น
    ขอให้พ่อ ทรงช่วย ดลบันดาล
    ให้ลูกสาน ความคิดคน ให้ดีเอง




    ๐ พ่อเข้าใจ ลูกคเณศแล้ว เจ้าลูกช้าง
    เจ้าเป็นอย่าง ที่พ่อเคย อยากให้เก่ง
    เวลานี้ก็ เข้าใจลูก ที่ทำเพลง
    ส่งบรรเลง กลอนเพราะ เสนาะดัง

    ๐ เอาแหละ ท่านพ่อ พระอิศวร
    อย่ามัวชวน คุยใย เมืองอินทร์หวัง
    ให้พวกเรา เข้าช่วย เป็นกำลัง
    ในคราวครั้ง วิปโยคเหตุ อาเพศภัย


    [​IMG]

    ๐ พ่อศิวะ ทรงนนทิ โคยักษ์หนา
    เรียกอุมา เทพี เข้ามาใกล้
    และโอบกอด ท่านไว้ ด้วยหัวใจ
    บอกจะไป ปราบยักษ์ ที่เผาแมน

    ๐ เรากับพ่อ ศิวะ ก็ลุดหน้า
    บุกฟันฝ่า เมฆา ขุนเขตแคว้น
    โจนทะยาน ออกไป สู่เมืองแมน
    ตรงแผ่นฟ้า ที่เขาขาน ‘ดาวดึงส์’




    ๐ พ่อขอจบ สาส์นก่อน ในบัดนี้
    เดี๋ยวรีบปรี่ เข้าไป ช่วยแมนทึ้ง
    รบหมู่มาร ที่สร้าง จากก้นบึ้ง
    ของจิตหนึ่ง มวลมนุษย์ สุดช้าชั่ว...

    ๐ คงเข้าใจ พ่อแล้ว ซิคราวนี้
    ที่พ่อชี้ พ่อสอน ในทุกตัว
    พอเกิดเหตุ สงคราม มาแบ่งขั้ว
    ต่างเกรงกลัว ความเลว ที่สร้างกัน




    ๐ แดนมนุษย์ ก็จงจำ เอาไว้เถิด
    หากเกิด สงคราม อีกคราครัน
    จงมองดู บทเรียน จากสวรรค์
    ว่าเหตุนั้น เกิดจาก ความโลภคน

    ๐ ครานี้ พ่อต้องจร ไปร่วมรบ
    หากศึกจบ คงได้มา ฟังพ่อบ่น
    มหาศึกครั้งนี้ เกิดขึ้น ในบัดดล
    พ่อต้องจน จำจาก พรากไปพลัน...

    [​IMG]

    ขอขอบคุณภาพประกอบ : ราชัน แสงทอง


     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 ธันวาคม 2011
  2. starcom1

    starcom1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +726



    ---สาส์นฉบับที่ ๘---


    [​IMG]
    กลอน ๘


    ๐ มาจะกล่าวบทไป
    ถึงแดนไทยสุดศรี
    ที่พ่อเฝ้า ทุกราตรี
    มาบัดนี้ กลับเกิด อาเพศภัย

    ๐ เกิดอุทกภัย ขึ้นบ่อยครั้ง
    ฝนไม่ยั้ง เทมาได้ น่าใจหาย
    หลายจังหวัด ทั่วไทย มีคนตาย
    ถึงน้อยราย แต่ไม่น่า เกิดขึ้นมา

    ๐ เภทภัยนี้ มันมา กับพายุ
    กรมอุตุ บ่งชี้ มีเหตุว่า
    เป็นภัย ธรรมชาติ เพราะดินฟ้า
    เดี๋ยวเกิดมา เดี๋ยวผ่านไป ทุกครั้งเคย

    ๐ ฝนตก ฟ้าร้อง ทั่วทุกเขต
    เกิดอาเพศ ที่คนเรา ไม่ควรเฉย
    คงเป็นลาง บางอย่าง ยังไม่เผย
    พ่อจะเอ่ย บอกเตือนลูก ทุกทุกคน




    ๐ ว่าไอ้ที่ ท้องฟ้า มันแปรปรวน
    เกิดชนวน สงคราม ณ แดนบน
    ทั้งหมู่มาร ปิดล้อม ห้ำหั่นปล้น
    จนเทพหล่น จากฟ้า สุดอาลัย

    ๐ ฝนตกพร่ำ ที่แท้ คือหยาดเลือด
    เทพถูกเชือด กายา น่าใจหาย
    ทหารเทพ อารักษ์ องค์อินทร์ตาย
    ดับสลาย ดวงจิต เกือบหมดแดน



    [​IMG]



    ๐ หมู่มาร กำแหง เริงฤทธิ์
    จิตมันคิด ชั่วช้า จอมวางแผน
    บุกทะลวง มาเข่นฆ่า ณ เมืองแมน
    ตอนที่แดน สรวงกำลัง อ่อนแอ

    ๐ เสียงฟ้าผ่า ฟ้าร้อง คือยักษ์เขวี้ยง
    -ขวานฟ้าเหวี่ยง ไปถูกอก องค์เทพแย่
    เทพก็ซัด อาวุธ กลับไปแก้
    ไม่ยอมแพ้ หมดทาง อยู่ฝ่ายเดียว




    ๐ แต่นานเข้า ฝ่ายเทพ เริ่มถดถอย
    พลังลอย ห่างหาย ไม่ชาญเชี่ยว
    หมู่มารเพิ่ม กำลัง เข้าขับเคี่ยว
    เทพโดดเดี่ยว อ่อนแอ เริ่มแพ้ภัย

    ๐ องค์อินทรา เป่าสังข์เรียก กองทัพช่วย
    ถึงคราวซวย ไม่มาช่วย น่าใจหาย
    มารหัวเราะ เย้ยหยัน น่าอับอาย
    ว่าตายต๊าย นี่หรือ อินทร์เทวัญ




    ๐ มารขู่ว่า สวรรค์ ถูกสะกด
    มันสวดบท สยบเทพ ให้โศกศัลย์
    มัวแต่เศร้า เข็ญใจ ทุกข์คราครัน
    จิตหวาดหวั่น ไม่กล้า เข้าต่อกร

    ๐ เหตุนี่เอง หรือที่เทพ ต้องงุนงัน
    เพราะมนต์มัน สะกดให้ จิตแออ่อน
    เหล่าปวงเทพ จึงได้ป่วย ดั่งต้องศร
    เอาแต่นอน ซมซบ สลบใน...




    ๐ พ่อถึงว่า องค์พรหม ถึงดูแปลก
    จู่จู่แยก ออกไปจาก โลกอาศัย
    ไม่คุ้มครอง ป้องกันเหตุ และเภทภัย
    มัวน้อยใจ แต่ความเลว ที่คนทำ

    ๐ อีกทั้ง วิษณุ ผู้ปกป้อง...
    ก็หม่นหมอง ไม่เอา กองทัพนำ
    ใจถดถอย เพราะมนุษย์ ไร้ศีลธรรม
    มัวจดจำ แต่ความเลว ของผู้คน




    ๐ มหาเทพ ทั้งสองเหมือน มารสะกด
    จิตสลด โดยไม่รู้ ซึ่งเหตุผล
    มารมีฤทธิ์ มากได้ เพราะจิตคน
    -ในโลกดล ให้มาร เพิ่มพลัง

    ๐ มารเสพติด ความชั่ว ของมนุษย์
    ยิ่งชั่วสุด มารยิ่ง มีความขลัง
    กองทัพยักษ์ มีเพิ่ม ไม่บันยัง
    ความชิงชัง ของมันมาก เพิ่มทวี




    ๐ ยิ่งคนบาป ในโลก มากเท่าไหร่
    มารหลอกใช้ ให้เลว น่าบัดสี
    เป่าหูหลอก ให้คนทำ ความอัปรีย์
    ทุกทิวาราตรี มันแฝง ในจิตคน

    ๐ พ่อกล่าวแล้ว ในสาส์น ฉบับก่อน
    จงพลิกย้อน ไปอ่าน เปิดดูค้น
    ว่าเตือนแล้ว ไม่เชื่อ นะผู้คน
    พ่อก็จน ปัญญา อยากตายจริง...




    ๐ เมื่อใดเทพ สู้มาร มันไม่ได้
    สวรรค์คร้าน จะต้อง ถูกโยนทิ้ง
    มารคงยก ขบวน เข้าช่วงชิง
    สถิตสิง ตั้งรกราก เมืองสรวงเรา

    ๐ หากเมืองฟ้า ต้องตก เป็นของยักษ์
    ตกใจนัก เมืองแมน โดนล้มเอา
    โดนหักหลัง ได้จากมาร ที่ดูเบา
    คิดว่าเขลา กว่าเทพ นับเท่าพัน




    ๐ มารฉลาด กว่าเทพ เป็นหมื่นนัก
    เทพพิทักษ์ ไม่ได้ ทุกคราครัน
    ยิ่งตอนนี้ ถูกความมืด เข้าพัลวัน
    เทพยิ่งสั่น อกขวัญแขวน น่าละอาย

    ๐ หากฟ้าถูก มารปก ครองได้
    ยักษ์ขับไล่ บัลลังก์ พระอินทร์หาย
    ดาวดึงส์ ก็คงถึง ซึ่งวันตาย
    ชีวาวาย จบกัน คุณความดี




    ๐ หากบ้านเมือง เราปกครอง โดยคนชั่ว
    เอาแต่มัว โกงกิน สิ้นศักดิ์ศรี
    บอกแต่ปาก ว่าทำ คุณความดี
    รีบเร่งรี่ พัฒนา บ้านเมืองตน

    ๐ บ้านดี เมืองดีได้ ต้องให้เขา
    ‘ข้า’ เท่านั้น ที่จะทำ ให้ไทยพ้น
    แต่ต้องแลก กับคน มีโกงกล
    แค่โกงคน เล็กน้อย ไม่เป็นไร




    ๐ จะชั่ว จะเลว ทำไปเถอะ!
    คนเลอะเทอะ แกล้งทำ ไม่เห็นได้
    โกงเถอะหนา พ่อคุณ ตามสบาย
    ไม่ขับไล่ ต้อนรับ ด้วยยินดี

    ๐ หากโกงแล้ว ไทยเจริญ ก็โกงต่อ
    ไม่ตัดพ้อ ต่อว่า ให้เสื่อมศรี
    โกงแล้ว ชาติพัฒนา ยิ่งทวี
    โกงกี่ที ก็จะกราบ ให้งามงาม




    ๐ คนเรา เดี๋ยวนี้ ถูกมารครอบ
    จึงมักชอบ คนโกงกิน ไม่เคยห้าม
    หากโกงแล้ว ไม่ต้องมา มีคนปราม
    ทุกชั่วยาม อิ่มท้อง แสนสบาย

    ๐ คนเรา บูชาเงิน กันหมดแล้ว
    เสียงดังแว่ว เรียกหา แต่เงินได้
    แค่มีเงิน เงินเท่านั้น ก็สุขใจ
    จะกินไป โกงไปก็ ให้เงินมา




    ๐ จะเป็นหนี้ ก็ยอม ขอให้กู้
    แพงสุดกู่ ก็อยากกู้ ชอบนักหนา
    นโยบาย ดีดี “หนี้เพิ่มพัฒนา”
    อีกหน่อยหนา เดี๋ยวก็รู้ สึกตัวพลัน

    ๐ คนโกงชาติ คิดจะล้ม เมืองฟ้า
    ประดุจว่า เป็นยักษ์ โค่นสวรรค์
    เวลานี้ เวลาทอง ของพวกมาร
    เข้าระราน ตีต่อ ฟ้าเบื้องบน




    ๐ หากฟ้าไทย ของเรา ไม่มีแล้ว
    มีแต่แวว ตามาร นั่งชูขน
    บัลลังก์สรวง กลับไร้ เทพชน
    มีแต่ยักษ์ นอนกรน ทุกราตรี

    ๐ พ่อไม่อยาก นึกภาพ นั้นเลยหนอ
    มันน่าท้อ ถอนใจ อกป่นปี้
    พ่อจึงขับ กองทัพ เข้าบุกตี
    จะราวี ทวงคืน ให้จงได้




    ๐ เมื่อนั้น...
    พระอิศวร บิดาข้า
    เหาะถลา พร้อมนนทิ โคตัวใหญ่
    เราคเณศ อยู่เคียงข้าง ท่านไซร้
    ทรงหนูใหญ่ เหาะข้าม มาพร้อมกัน...



    [​IMG]


    ๐ เราสองเทพ ซุ่มดู อยู่ปากสรวง
    เห็นมารทะลวง เข้าไป ก็นึกหวั่น
    เห็นเปลวไฟ ร้อนร้อน มีกลุ่มควัน
    ปราสาทเทวัญ แทบย่อย ยับเยิน



    ๐ แลเห็น หมู่เทพ ถูกมัดจับ
    น้ำตาซับ ซึมทรวงใน ไม่อาจเหิน
    ถูกพันไว้ ด้วยกัน เป็นกองเนิน
    ไม่อาจเดิน ลุกได้ เข้าต่อยตี

    ๐ องค์อินทรา ก็ถูก มารจี้อยู่
    ฤทธิ์เทวัญ จู่ๆ ก็เลือนลี้
    อำนาจเดช ของพระองค์ หมดทวี
    เพราะมารมี เล่ห์ร้อย มนตราไสย




    ๐ อินทราถูก สะกด ให้แออ่อน
    ไม่อาจกร ต่อสู้ หมู่มารได้
    พ่อกับพระไอยศวร ได้แต่ดู อยู่เดียวดาย
    น่าละอาย แทนเทพ องอาจมี

    ๐ พระอิศวร ท่านโกรธ เมื่อแลเห็น
    พ่อก็เป็น เช่นท่าน ทุกครั้งที่
    หมู่เทพสรวง แทบหมด ซึ่งศักดิ์ศรี
    ถูกมารขี่ ข่มเหง รังแกพาล




    ๐ พระศิวะ ยังคง ไม่ถูกสะกด
    ไม่อาจลด ความขลัง ขององค์ท่าน
    เพราะท่านนั้น มีฤทธิ์ ทำลายมาร
    ให้หมอบคลาน เข่าเข้ามา สยบได้

    ๐ ฤทธิ์มาร หรือจะสู้ อิศวร
    บิดาล้วน เป็นใหญ่ กว่าใครใคร
    ถึงขานกัน ว่าเป็นเจ้า แห่งแดนไตร
    และเป็นใหญ่ กว่ามาร ทุกครันครบ




    ๐ อีกเป็นจ้าว แห่งวิชา ศาสตร์มืด
    ผีหน้าจืด ตัวไหน ก็ต้องหลบ
    พ่อศิวะ เป็นจ้าว แห่งการรบ
    มารได้พบ เจอท่าน ต้องบรรลัย



    [​IMG] (ท่าปราบมาร "ศิวนาฏราช")


    ๐ พ่อแน่ใจ ในความ มีอำนาจ
    “ศิวนาฏราช” ของท่าน นั้นไม้ตาย
    การรบที่ ผ่านมา มารมลาย
    แตกสลาย ด้วยศิวะ ฤทธิรอน




    ๐ เอาเลยท่าน พ่อศิวะ บิดาข้า
    อย่ามัวช้า เข้าไปชิง ให้ทันก่อน
    จงใช้ อำนาจท่าน เข้าราญรอน
    ให้มารถอน กำลัง อย่าช้าที

    ๐ ช้าก่อน... ลูกพ่อ พระคเณศ
    จงดูเหตุ ตอนนี้ น่าบัดสี
    องค์อินทรา จ้าวแห่งสรวง ดันโดนจี้
    จะเข้าตี ตอนนี้ คงอันตราย




    ๐ เป็นห่วง ความปลอดภัย ของตัวท่าน
    ไตรตรึงนั้น ไม่เท่าไหร่ อย่ากลัวไป
    แม้ซากหัก พังทลาย สร้างใหม่ได้
    แต่อินทร์ไซร้ มีได้ แค่องค์เดียว

    ๐ หากเข้าไป ตีต่อ ในตอนนี้
    เห็นทีมาร จะสังหาร ทันทีเชี่ยว
    ตอนนี้ทัพเทพก็มี แค่เรา อยู่ดายเดียว
    จะขับเคี่ยว ต่อกร ก็คงตาย




    ๐ ไม่ใช่พ่อ ขี้ขลาด หรอกลูกช้าง
    ไม่ใช่อ้าง แต่ต้อง รอบคอบไว้
    ข้าจะให้ เราวางแผน โดยแฝงกาย
    เปลี่ยนแปลงไป บุกเข้า สังหารมาร

    ๐ หากไป เป็นองค์จริง แบบนี้
    ไม่มีแน่ ชัยชนะ องอาจหาญ
    ดูโน่นสิ เอราวัณ ยังโดนมาร
    สะกดไว้ คลานนิ่ง ดุจแมวเซา




    ๐ อย่าให้มาร ล่วงรู้ ตัวเราสอง
    มันคอยป้อง เขียนเขต เมืองแมนเรา
    และคอยเฝ้า โจมตี กระทั่งเงา
    อย่าทำเขลา โง่งม เข้าต่อกร

    ๐ กำลังมาร มันมา ฟ้ามืดดำ
    มิหนำซ้ำ พลังมาก กว่าเก่าก่อน
    แม้เราจะ ใช้การ แผลงศร
    มันคงย้อน กลับมา ใส่ตัวเรา




    ๐ จริงหรือ พระ บิดาข้า...
    ที่ท่านว่า มารมัน ไม่ขลาดเขลา
    พลังมากกว่า พวกเทพเรา...
    จะโจมตี ต้องคิด ให้ดีดี

    ๐ อีกท่านพ่อ เกรงว่าอินทร์ จะชะตาขาด
    จึงประมาณ ไม่ได้เลย เรื่องเข้าตี
    เราต้องใช้ กลยุทธ วิธี
    แปลงกายปรี่ แล้วจึงรี่ แฝงเข้าไป




    ๐ เมื่อนั้น...
    พระบิดา ตัดสิน พระทัยได้
    แปลงไป เป็นยุงไซร้
    และบิน ว่องไว
    เข้าไป วงมาร

    ๐ ส่วนตัวข้า...
    ศิวบุตร สุดใจหาญ
    แปลงเป็น เหาพลัน
    โจนทะยาน ดีดตัว...



    ๐ เมื่อถึง วงมาร ที่ปิดล้อม
    เราที่ปลอม มาไม่ นึกหวั่นกลัว
    ได้แต่คิด แผนปราบ มารชั่ว
    ไม่มามัว ส่งเสียง เอะอะดัง...

    ๐ พ่อศิวะ เป็นยุง บินหวี่หวี่
    มารหูดี ได้ยินเสียง ก็แว่วฟัง
    จึงเห็นยุง มาเกาะ จมูกดั้ง
    มารก็พลั้ง ตบพลั๊วะ เข้าหน้าตน




    ๐ โอ๊ย โอ๊ย! มาร ตัวแดงร้อง
    ทำเพื่อนจ้อง หันแล และด่าบ่น
    เป็นอะไร ของมึงวะ! ช่างพิกล
    สัปดน เล่นตบ หน้าตัวเอง

    ๐ พ่อศิวะ หลบพ้น ออกมาแล้ว
    หลบคล่องแคล้ว ถึงตัวน้อย แต่ไวเก่ง
    พลันได้ฉุก คิดได้ ไม่หวั่นเกรง
    จำแลงตัวเอง จากยุงหนึ่ง เป็นฝูงยุง!!




    ๐ แบ่งร่าง จากหนึ่งยุง ตัวน้อย
    ก็ค่อยค่อย เพิ่มนับ ร้อยพันฟุ้ง
    บินว่อน รบกวนมาร ไล่ตบยุง
    ศิวะมุ่ง แต่ดูดเลือด เข้ากัดกิน

    ๐ หมู่มาร งุนงงกัน ชั่วขณะ
    ที่ยุงมา บินว่อน ให้ตบสิ้น
    มารคันกัน ให้ทุราย ทุรนดิ้น
    ยุงว่อนบิน ยิ่งถูกตบ ยิ่งเพิ่มพลัน




    ๐ โอ๊ย! โอ๊ย! โอ๊ย! หมู่มาร ร้องเสียงเจ็บ
    เหมือนถูกเล็บ จิกเข้าไป ให้ปวดกัน
    เหล่ายักษ์มาร ต่างก็ ทะเยอคัน
    มัวงุนงัน คันทะเยอแตก แยกขบวน

    ๐ เราเป็นเหา เกาะกระโดด ไปตามหัว
    -มารคนชั่ว พวกนั้น มันสมควร
    เราแบ่งร่าง จากเหา เป็นพันส่วน
    ล้านตัวถ้วน นับไม่ ได้ทัน




    ๐ เกาะตามไร เส้นผม และศีรษะ
    มารขยะ แขยงหัว ขึ้นฉับพลัน
    เราวางไข่ ขึ้นมา อีกคราครัน
    ให้ลูกหลาน เหากระจาย ไปจู่โจม

    ๐ กองทัพมาร ล้านตน แทบล้มทรุด
    มันคันสุด ดิ้นพราด ล้มดังโครม
    ยุงกับเหา ยิ่งแบ่งร่าง กันรันโรม
    ทึ้งรุมโทรม หมู่มาร ด้วยฤทธิ์คัน




    ๐ มารเกาหัว แกรกแกรก ดุจลิงค่าง
    ไล่ตีล้าง ฝูงยุง แห่งสวรรค์
    แปลกใจแท้ แม้แต่ฟ้า มียุงพลัน
    คงงงกัน มีเหา ด้วยได้ไง...

    ๐ ฮะเฮ้ย! อะไรกันวะ พวกมึงนี่
    มัวเกาถี่ กันทั้ง กองทัพได้
    หัวหน้ายักษ์ งุนงง ขึ้นด่าไป
    แต่ตนไซร้ ก็คัน ด้วยเช่นกัน




    ๐ มือพญา ยักษ์ก็ พลันหลุด
    ไม่ไปฉุด ลากอินทรา เทพสวรรค์
    เพราะมือนั้น มันมัว เอาแต่คัน
    เกากันมัน ทั้งนาย และบ่าวมาร

    ๐ ยิ่งไล่ตียุง ยุงก็ยิ่งเพิ่ม
    เหาก็เหิม กำแหง ฤทธิ์แรงต้าน
    เล่นกับใคร ไม่เล่น เล่นกับจ้าวแห่งมาร
    ศิวะเทพ อวตาร มาเป็นยุง!




    ๐ น่าหัวร่อ มารมัว เกาหัว
    ทั้งเนื้อ ทั้งตัว ก็คันในผ้านุ่ง
    เต็มไปด้วย รอยเกาเม็ด จากพิษยุง
    ลายเต็มพุง มีแต่เลือด ซิบซิบเกา

    ๐ มารหมดแรง ที่ไล่ปัด กำจัดยุง
    ตบตีฟุ้ง ตัวเอง ดูโง่เขลา
    ตีมารอื่น วิ่งชน เพราะมัวเกา
    คันจนเมา ล้มทรุด ทั้งกองพล




    ๐ เมื่อนั้น...
    ศิวเทพ เริงฤทธิ์ ไกรราชจ้าว
    จึงเลิกเย้า หยอกเล่น และคลายมนต์
    จากร่างยุง นับแสน กลายเป็นคน
    ศิวะพล พละจ้าว แห่งแดนไตร

    ๐ ประกาศลั่น เหนืออาสนจ้าว
    พวกต่างด้าว หมู่มาร ไอ้หน้าไพร่!
    พวกเจ้าบังอาจ มายึด ถึงเทวาลัย
    จงบรรลัย ให้หมด จบสิ้นกัน!



    ๐ เมื่อหมู่มาร เห็นพักตร์ ของอิศวร
    ต่างก็ชวน ตกใจ อำนาจท่าน
    พญายักษ์ จะลุกขึ้น ไปประจัญ
    แต่ก็พลัน ร่วงทรุด ลงกับแดน

    ๐ ด้วยหมดแรง เพราะยุงกัด
    จ้าวอสัตยราชจึง สิ้นแผน
    ครองราชย์บ่ ได้อีกแล้ว บัลลังก์แมน
    ได้แต่แค้น เคืองโกรธ สาปแช่งมา




    ๐ โอ้... ท่านศิวะ ผู้ยิ่งใหญ่
    เหตุไฉน จึงเล่นตลก กับพวกข้า
    พวกข้า โจมตี ด้วยฤทธา
    แต่ท่านหนา หน้าไม่อาย กลายเป็นแมง...

    ๐ เล่นลอบกัด เยี่ยงนี้ ไม่สมชาติ
    -ศิวราช องอาจ ทำทะแม่ง
    มีฤทธิ์มาก แต่ก็ น่าแขยง
    ชอบลอบแทง ข้างหลัง ไม่สมชาย




    ๐ ข้าขอดู ถูกจ้าว แห่งผี
    ทำเยี่ยงนี้ งูพันคอ ให้เอาขาย
    แลกเงิน ไปซื้อ กระโปรงชาย
    ใส่เดินกราย กรีดเยี่ยง เพศสตรี

    ๐ ศิวะ บิดาข้า ได้สดับดั่งนี้
    ก็ยิ้มปรี่ ขึ้นมา และหัวร่อ
    ช่างน่าขำ ในมุก ที่เจ้าล้อ
    ที่เจ้าก็ เลียนแบบ หมาทำกัน




    ๐ หมามัน ชอบ รุมกัด...
    ดุจสันดาน สัตว์ไร้ สมองมัน
    คิดชั่ว กว่าหมา ตั้งเท่าพัน
    บุกโรมรัน เข้ามา อย่างฝูงควาย

    ๐ หนอยแนะ! ทำกำแหง คิดว่าเก่ง
    แต่ก็เท่ง หงายหลัง เพราะยุงร้าย
    เก่งกาจ แต่อวด วิชาพราย
    แค่ยุงลาย ตัวเล็ก ก็แพ้มัน




    ๐ หยุดด่า ข้าได้แล้ว องค์อิศวร!
    อย่ายียวน ข้านัก ชักรำคาญ
    ข้าจะขอ ล้างแค้น ล้างผลาญ
    เอาให้คลาน หมอบกับ เบื้องบาทา

    ๐ เมื่อนั้น...
    พญายักษ์ ก็จะซัด หอกใส่
    เราก็กลาย ร่างจากเหา เช่นเดิมหนา
    ใช้งวงรัด ปัดป้อง ศาสตรา
    -วุธพญา อย่าให้ โดนพ่อตน



    ๐ นั่นไง...ที่แท้ พระคเณศ
    ทำทุเรศ กลับกลาย เป็นเหาขน
    เทพยิ่งใหญ่ ดันมาขี้ บนหัวคน
    น่าขำจน ท้องแข็ง สินี่เรา...

    ๐ พ่อช้างที่ ใครใคร ก็กราบไหว้
    แต่ทำไม มีฤทธิ์ แค่เป็นเหา
    ไหนดูสิ อำนาจ ที่ไม่เบา
    จงเอามัน ออกมา สู้รบกัน...




    ๐ เรารบได้ แต่ท่าน อย่าหมาหมู่
    ต่อกรสู้ ตัวต่อตัว ดั่งชายนั่น
    เราจะล้าง มารแพ้ ไปเร็วพลัน
    ถ้าไม่มั่น ใจให้ถอน ทัพกลับไป!

    ๐ อันตัวเรา องค์ศิวบุตร
    ไม่เคยฉุด คร่าใคร เช่นเจ้าไซร้
    ถ้าเจ้าแน่ ก็เข้า มาได้
    อย่าช้าใย รีบมา ท้าประลอง!




    ๐ ได้เลย! องค์พิฆเณศวร
    อย่าชวนท้า ข้าจะหัก ให้เจ้ากอง
    ตัวต่อตัว ยิ่งดี ข้าสนอง
    อย่าเก็บดอง พลังงัด ซัดออกมา

    ๐ ทันใดนั้น...
    พญายักษ์ ก็พุ่ง เข้าตีต่อย
    เจอสอย ร่วงด้วยมัด คเณศา
    มารงุนงัน เห็นดาว ในพริบตา
    แต่ก็ยังมา งัดข้อเขวี่ยง เหวี่ยงหอกเพลิง




    [​IMG]

    ๐ เราจึงจัก ต้องใช้ อาวุธบ้าง
    เสกโล่ ข้างกาย ไว้กันเชิง
    และโต้กลับ ทันควัน ไม่ว่างเวิ้ง
    ทำหอกเพลิง หักด้วย ขวานจามอาคม

    ๐ หนอยแนะเจ้า คเณศา งาหัก!
    ช่างร้ายนัก ดั่งคำ เขานิยม
    อย่ามัวมา แต่บ้าชม
    เจ้าจงดม กลิ่นของ ความตาย




    ๐ เมื่อนั้น...
    ยักษา แปลงร่างใหม่
    กลับกลายเป็น พญายักษ์ ตัวสูงใหญ่
    สูงเกินหลังคา วิมาน ที่มอดไหม้
    แผลงฤทธิ์ไป เป็นอสูร ช่างน่ากลัว

    ๐ มีกร พันกร ครบอาวุธ
    มีมงกุฎ ใส่ทั้ง ห้าร้อยหัว
    ยักษ์โกรธา อย่างยิ่ง ไม่มีกลัว
    เพราะกายตัว สูงใหญ่ มหึมา



    ๐ เสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ครึ้นครึ้น
    เมฆทะมึน ปกคลุมหล้า
    มนุษย์อยู่ ที่โลกา
    มองขึ้นมา ที่ฟ้า คงตกใจ

    ๐ บิดาข้า ตกตะลึง ถึงความยักษ์
    ที่มันชัก เหิมเกริม ไม่ปราศรัย
    ใช้แสง ตรีสูรย์ เข้าสาดใส่
    ไม่เป็นไร มันแค่ น่ารำคาญ




    ๐ เหม๋เหม๋ ดู๊ดู ศิวเทพ
    แสงเท่าขี้เล็บ จะเผาข้า ให้รอนราน
    ตัวข้านั้น เป็นดั่ง พญามาร
    ตัวท่าน ก็เล็ก เพี้ยงธุลี

    ๐ ข้านี้ พญา ยักษา
    จะใช้ บาทา ขยี้
    เอาให้ มหาเทพ ป่นปี้
    อีกทีก็ จะบี้ คเณชา




    ๐ แดนสรวง ของข้า จงอย่าแตะ!
    ไม่ใช่แวะ มาเที่ยว เล่นหรอกหนา
    ข้าจะเอา จริงจริง ทุกหลังคา
    -วิมานนี่หนา จะสยบ ทุกชั้นไป

    ๐ ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าพญา ยักษา
    เอกเอกา ใหญ่ใน จักรวาลได้
    ข้าดูด ความเลว มาเต็มไว้
    ตราบใด คนชั่วมี ข้าไม่ตาย!




    ๐ สาส์นฉบับนี้ พ่อขอจบ
    เรื่องการรบ ยังไม่สงบ ลงง่ายง่าย
    เจ้ายักษ์มัน เล่นเวทย์ เสกคุณไสย
    ขยายใหญ่ เอาเปรียบไซร้ พวกเทพเรา

    ๐ ขอไปวาง แผนการ รบพุ่ง
    ไว้วันรุ่ง จะมา ส่งสาส์นเก้า
    คืนนี้จบ สาส์นแปด เถอะเรา
    จะคอยเฝ้า เพียรเตือน ทุกทุกคน...




    ๐ ดั่งคำที่ พญามาร ได้กล่าวบอก
    การจะตอก มันให้ บรรลัยป่น
    จะต้องไร้ คนทำชั่ว ทุกทุกคน
    มารผจญ จะได้ ไร้ฤทธี...

    ๐ เมื่อทราบแล้ว ขอให้ ท่านจงช่วย
    ‘ธรรมะ’ ด้วย จัดเป็น อาวุธดี
    ทำทาน รักษาศีล ภาวนาบังเกิดมี
    และส่งรี่ มาช่วย ขจัดมาร...



    [​IMG]








    ---สาส์นฉบับที่ ๙---

    [​IMG]
    โคลงสี่สุภาพ




    ๐พญายักษ์ตัวใหญ่กล้า เกินหัก ลงเอย
    กองทัพเทพหลบพักตร์ ไม่ต้าน
    สรวงมีแต่ยักษ์ เต็มแผ่น ฟ้าเฮย
    บุกแต่ล้างสรวงกว้าน มืดฟ้ามัวดิน




    ๐องค์อินทร์ป่วยล้ม บัลลังก์
    พลยักษ์เยาะเย้ยชิงชัง อวดอ้าง
    ครอบครองทำฟ้าพัง ปี้ป่น เมืองแมน
    เทพทุกข์ทรวงมล้าง หมดสิ้นบารมี


    ๐คนดีดีอยู่ใกล้ ไม่มี
    คนชั่วไล่คนทำดี หมดฟ้า
    คนดีไม่กล้าทำดี หลบอยู่ ไหนเอย
    จงอย่าให้แผ่นหล้า จบสิ้นความดี



    ๐คนดีมีพระคุ้ม เทพอยาก พบเอย
    ฟ้าย่อมต้องการมาก เอ่ยไว้
    อย่าให้โลกลำบาก มีแต่ คนเลว
    โลกย่อมอยู่ทนได้ หากไร้คนทราม


    ๐อย่าทำความเดือดร้อน อยู่บน โลกเอย
    จงอย่าสรรเสริญคน ชั่วช้า
    โลกเราย่อมปะปน ดีชั่ว คละกัน
    ใครทำดีประดับหล้า โลกล้วนสรรเสริญ



    ๐คนเลวเชิญมารเสด็จฟ้า อยู่เต็ม เมืองอินทร์
    ยกย่องและแทะเล็ม หลอกหน้า
    หน้ายิ้มแต่ใจเค็ม เกลือย่อม แพ้เอย
    โกงย่อมกินหมดหล้า แผ่นฟ้าบรรลัย...


    ๐มารได้วางแผนโค่นฟ้า สำเร็จ ลงเอย
    ฟ้าแทบเหมือนถูกเด็ด จากก้าน
    น้ำตาเทพไหลเช็ด หัวเข่า ทุกข์นา
    อินทร์ไม่ยอมทนต้าน หลบหน้าสิ้นบัลลังก์



    ๐ยักษ์ยังครองอยู่ได้ พระสุเมรุ
    ท้าวนั่งบัลลังก์เอน อวดหน้า
    ยักษ์ก็กล่าวเบี่ยงเบน ตำแหน่ง แทนอินทร์
    กล่าวว่าตนช่วยหล้า โลกต้องเปรมปรี


    ๐ไทยนี้คงยับสิ้น บรรลัย
    คนเลวปกครองไป ทั่วหล้า
    คนเราย่อมรู้แก่ใจ ว่าชั่ว ยังเอา
    ดีกว่าอินทร์เหนือฟ้า ชั่วได้ไทยเจริญ



    ๐ศิวะเดินปิดหน้า หมดหวัง หนทาง
    ท่านพ่อไร้พลัง อ่อนล้า
    มนตราอ่อนความขลัง เกินรบ กับมาร
    พาท่านจากแดนฟ้า พ่ายสิ้นแก่ศัตรู


    ๐ท่านจงรู้ว่านี้ เราเตือน
    โปรดอย่าทำแชเชือน หลบหน้า
    สวรรค์เราถูกเบือน -บิดจาก พวกทราม
    เทพบ่มีแรงกล้า ปล่อยให้คนระยำ



    ๐โปรดนำคำพ่อนี้ ให้คน ลูกเอย
    ขอกิเลสในใจตน มอดม้วย
    อย่าให้มารเกิดฤทธิ์จน -ยิ่งใหญ่ กว่าเดิม
    ขอท่านช่วยเราด้วย เทพต้องคืนสวรรค์


    ๐ส่งสาส์นวันที่เก้า สุดทรมาน
    เพราะเกิดศึกร้าวราน วอดไหม้
    มารครองเทพจนผลาญ ไหม้มอด สำเร็จเอย
    มีแต่ท่านโค่นได้ เร่งสร้างภาวนา



    ๐สวดมนตรายับยั้ง หมู่มาร กันนา
    ปฏิบัติธรรมทุกคืนวาร จิตกล้า
    เกิดมีเรี่ยวแรงผลาญ หมู่ยักษ์ พรรคทราม
    ให้ตกบัลลังก์ฟ้า ขาดม้วยชีวัน


    ๐เร่งกันส่งสาส์นฉบับนี้ โดยพลัน
    ให้เขาได้อ่านกัน ทั่วหน้า
    ความนัยใดแฝงควัน -จางอยู่ พินิจเอง
    โปรดอย่ามัวชักช้า รีบล้างกำจัดมาร



    ๐อวตารคเณศนี้ มาบอก องค์เอง
    พ่อไม่มีใดหลอก โปรดรู้
    โปรดท่านอย่ากลับกลอก ปฏิบัติ ธรรมนา
    ขอรีบเร่งช่วยกู้ เทพไท้คืนสรวง




    จาก
    เรา “คณปติ”
    ---ยุติการส่งสาส์น






    ทั่วโลกฝนไม่ตกต้องตามฤดู ​
    เพราะมีมารปกครองฟ้า​
    เกิดแผ่นดินไหวแตกแยกทั่วโลกา ​
    เพราะมีมารปกครองดิน​
    คลื่นยักษ์ซัดถาโถมโลก ​
    เพราะมีมารปกครองน้ำ​
    ไฟไหม้ทุกเมืองใหญ่และเมืองเล็ก ​
    เพราะมีมารปกครองอัคคี​
    พระอินทร์ไม่คุ้มฟ้า พญาพิรุณไม่คุ้มฝน​
    เทพไท้ไม่ทำหน้าที่ตน ไม่ช่วยโลกคน ตามถนนคนดีไม่กล้าเดิน​
    มัวหลบซ่อนเร้นหวาดกลัวอำนาจพาล...​
    อย่าปล่อยให้พาลครองแผ่นดิน ​
    คนดีอย่าอ่อนแอ !​
    ช่วยกันสวดอาราธนาพระพุทธองค์มาสยบมารให้ตกจากบัลลังก์​
    ส่งคนดีขึ้นสวรรค์ ​
    ช่วยงานทวยเทพด้วยภาวนา อย่ามัวบูชาแต่งมงาย ​
    [​IMG]
    บทความทั้งหมดจากทั้ง 9 สาส์นจากองค์พระพิฆเนศ
    จารขึ้น 9 ราตรี ตามคำสั่งของพ่อคเณศ ใครจะหาว่าผมเพี้ยนก็ช่าง
    แต่คือสิ่งที่ผมสัมผัสได้ ผมใช้เวลาตั้งแต่เที่ยงคืน ถึง ตีสาม ติดต่อกัน 9 คืนในการเขียน
    ตอนเขียนช่างลื่นไหล แม้สมองจะเบลอและง่วงมากแค่ไหน
    เมื่อเขียนเสร็จมาอ่านดู ก็ตกใจตัวเองที่เขียนได้มากมาย และเป็นเรื่องราวที่เข้ากับเหตุการณ์
    ในขณะนี้ของบ้านเมือง ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติจากน้ำ และภัยพิบัติจากคนในประเทศ
    ผมถึงอุทาน... โอ้ นี่หรือที่เราเขียน เราไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
    คืนหนึ่ง ที่ผมหลับใหล พร้อมกับหนังสือบนหัวเตียงที่เขียนเสร็จไปหนึ่งสาส์น
    ก็เหมือนมีแรงหนักๆ ของน้ำหนักใครบางคน มานอนข้างๆ
    (รู้สึกได้ ว่า เตียงมันยุบฮวบลงไปข้างตัวเรา จะกระดิกตัว หันกลับไปมองก็ไม่ได้ ราวถูกสะกด)
    ทันใดนั้น ผมก็ได้ยินเสียงเปิดสมุด ดังพรึ่บๆ ข้างๆ ตัวผม เหมือนคนบางคนนั้น กำลังเปิดสาส์นจาก
    พ่อคเณศที่ผมเขียนไว้ อ่านอย่างตั้งใจ เสียงเปิดพลิก หน้าแล้วหน้าเล่า เป็นเสียงของมือพลิกหน้า
    กระดาษจริงๆ ไม่ใช้เสียงลมพัดหน้ากระดาษเปิด เพราะไม่ได้เปิดพัดลม ผมเปิดแอร์ ลมไม่น่าแรง
    ปานนั้น และเสียง ลมพัดหน้ากระดาษ กับเสียงมือคนเปิดอ่าน มันต่างกัน ผมแยกออก ลองดูสิครับ
    แล้วใครกันนะที่อ่านสาส์นจากองค์พ่อที่ผมเขียนใกล้เสร็จแล้ว
    พอได้สติตื่นขึ้นมา ก็หันกลับไปมองที่หนังสือที่ตนวางไว้ ก็ไม่พบว่ามันจะเลื่อนไปจากตำแหน่งเดิมเลย หน้าสมุดก็ปิดไว้เช่นเดิม
    ที่สำคัญไม่มีใครนอนอยู่ข้างผมด้วย
    ก็แปลกดี แล้วเมื่อกี้ใครเป็นคนเปิดอ่าน !!
    หากไม่ใช่พ่อคเณศ
    สาส์นทั้ง 9 ฉบับ ท่านพ่อไม่อนุญาตให้ตีพิมพ์เพื่อพาณิชย์เด็ดขาด!!
    อย่าเอาคำพ่อมาหากิน พ่อสาปแช่งมา!
    แต่ครั้นเราจะตีพิมพ์แจกฟรี ทุนทรัพย์ก็ไม่มากพอ
    จึงนำมาเผยแพร่ที่นี่ และขอความช่วยเหลือ
    จากทุกคนที่เข้ามาอ่าน
    ช่วยส่งต่อๆ กันไป
    ก็อปปี้ได้ ไม่สงวนสิทธิ์
    เวลานี้เราต้องช่วยกัน ส่งสาส์นจากสวรรค์
    นี่คือคำขอร้องจากเทพเบื้องบน ให้ช่วย
    แล้วสถานการณ์วุ่นวายบนโลกเราจะเบาบางลงในทุกเรื่องครับ
    ขอบคุณครับ
    แบงค์สเกตช์กรรม
    [​IMG]
    ขอบคุณภาพประกอบ : ราชัน แสงทอง www.rachanthaiganesh.com
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 ธันวาคม 2011
  3. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    สรุปง่ายได้ไหมครับ ผมอ่านไม่จบ ยาวเกิน

    พระพิคเณศ ก็คือ พรหม เทวดา มีกายทิพย์หล่อกว่าผมเยอะหล่อกว่าดาราเยอะ ที่พวก ฮินดู ไรพวกนี้ ไปว่าหัวช้าง ลองคิดดูพวกแขก ฮินดู ไปบอกว่า พระอินทร์ ไปมีชู้ โดนสาป หน้าเป็นอวัยะวะเพศ คิดดู พวกแขกทําไปได้ไง ไม่กลัวบาปกลัวกรรม
     
  4. iivv

    iivv เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +201
    เรื่ิงแต่งขึ้นทั้งนั้ง จิตนาการ
     
  5. starcom1

    starcom1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +726
    สาส์สาส์นจากพ่อคเณศ

    สาส์นจากพ่อคเณศ อ่านแล้วเศร้าใจครับ
    ปกติก็ไม่อ่านอะไรที่มันยาวๆเอาตรงๆ แต่มาอ่านข้อความนี้จนจบได้ก็เหนื่อยพอควร

    ข้อความที่อ่านเป็นของคุณแบงค์ขยำกระดาษ ที่เขียนไว้ใช้เวลา 9 คืน หลังเที่ยงคืนถึงตี3 ติดต่อกัน9วัน เป็นสาส์นจากพระพิฆเนตรที่ท่านให้มาเผยแพ่ร ห้ามขาย และบอกว่ามันดูจะเพี้ยร แต่ท่านสื่อมาก็ต้องนำมาเผยแพ่ร และมีความสำคัญมาก
    ส่วนตัวผมเคยดูกับคุณแบงค์ตอนยังไม่ดัง นั้งดู 2 ชั่วโมง ทึ่งที่ดูผมได้ตรง บอกมีพระที่มีลิงกับช้างคุ้มครอง ( พระประจำวันเกิดผมกับแฟน ) และตะโกนทักตั้งแต่ผมจอดรถ บอกผมไม่ได้มาคนเดียว ผมก็ไม่คิดอะไรบอกว่า งานยุ่งเลยไม่ได้พาไครมาด้วย บอกว่าลูกผมซึ่งเกิดจากทำแท้งมาด้วย แต่อโหสิกรรมแล้วและมีพญานาคมาด้วย แกบอกแบบว่ามันฟังดูเกินจริงและคิดว่าให้ผมฟังเล่นๆไม่ต้องเชื่อก็ได้ มองเห็นผมเป็นพระ ยกมือใหว้ด้วย ผมจะได้บวชและออกธุดงในวันหน้าผมไปเพื่อถามคำถามเดียวคือผมจะได้บวชไหม เพราะมันเบื่อคนครับ

    ข้อความข้างบนอยากให้อ่านเองนะครับ เอาเท่าที่ได้ สาส์นที่จะบอก บอกตรงๆไม่ได้มันเป็นกฎ เขาบอกกันอ้อมๆให้คนที่ประมาทนั้นไปตามทางเขา ให้คนที่ควรรู้ก็จะได้ไม่ประมาท หน้าที่ผมคือเผยแพร่ออกไป ให้กลุ่มคนทุกชนชั้น แต่มนุษย์ยุคนี้ทำให้ข้างบนเขาลำบากมากและความลำบากกำลังจะสะท้อนมาที่พวก เราครับ
    วิงวอนขอให้ทุกคนใหว้พระ สวดมนต์ ทำความดีกันมากๆครับ มีสติไว้ยาม ทุกข์มาสามารถผ่านพ้นไปได้

    http://www.banksketchkarma.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539322168
    http://www.banksketchkarma.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539322169
    http://www.banksketchkarma.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539322170
    http://www.banksketchkarma.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539322171
    http://www.banksketchkarma.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539322172
    http://www.banksketchkarma.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539322173
    http://www.banksketchkarma.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539322174
    http://www.banksketchkarma.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539322175
    http://www.banksketchkarma.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539322176

    ๐ คลื่นยักษ์สูง ค้ำฟ้า ถาโถมฝั่ง
    ด้วยพลัง แรงกล้า มหาศาล
    ดั่งสัตว์ร้าย หมายชีวิต ปลิดดวงมาน
    มุ่งเผาผลาญ สินทรัพย์ นับอนันต์

    ๐ เสียงโหยหวน พร่ำเพรียก เรียกร้องหา
    สุดไขว้คว้า อกใจ ให้ไหวหวั่น
    ลูกแนบอก คลื่นกระชาก ต้องพรากพลัน
    เพื่อนพี่น้อง พลัดผัน ในพริบตา




    ๐ ความสูญเสีย ใหญ่หลวง ทะลวงอก
    น้ำตาตก ร่วงหล่น จากใบหน้า
    ต่อแต่นี้ อยู่อย่างไร ใครเมตตา
    เห็นแต่ฟ้า กับหาดทราย ร้างวิญญาณ

    ๐ เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อใด คงจำได้
    ธรรมชาติไซร้ โกรธา แต่ล้างผลาญ
    กวาดชีวิต หมดไป เกินครึ่งล้าน
    ‘อันดามัน’ ต้องรีบซับ น้ำตาริน

    ----------------------------------------------------------------


    ๐ นี่ก็คือ ผลกรรม จากคนก่อ
    อย่าตัดพ้อ โทษโลก จะแตกสิ้น
    ‘ผลกรรมหมู่’ สวรรค์รู้ โลกได้ยิน
    อย่าติดสิน โทษฟ้า ให้โทษคน


    ๐ ถึงคราวที่ ธรรมชาติ เอาคืนบ้าง
    ไม่เข้าข้าง เอาใจใคร ไม่เคยสน
    คนบุกรุก ธรรมชาติ เกินจะทน
    นี่แหละผล คืนสนอง ย้อนกลับมา



    ๐ ให้เทพช่วย คนไม่ช่วย โลกเองก่อน
    มัวแต่อ้อน เทพปกปักษ์ อารักขา
    มัวแต่เอา เอาแต่ได้ จนปัญญา
    เมื่อถึงครา ต้องมาซวย ด้วยเภทภัย

    ----------------------------------------------------------------

    ๐ เดี๋ยวไม่นาน ก็เกิดอีก ระลอกใหญ่
    พ่อเตือนไว้ ด้วยจิต อันหวั่นไหว
    ถึงให้มี คนจารสาส์น ของพ่อไป
    ส่งเร็วไว้ เตือนสติ ทุกครัวเรือน



    ๐ จะเกิดซ้ำ พาให้ ชีวิตร่วง
    ดับสิ้นดวง วิญญาณ ไม่มีเลื่อน
    พ่อมองเห็น ซากศพ คนตายเกลื่อน
    ทั้งเพื่อนบ้าน ประเทศ ในแดนไกล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 ธันวาคม 2011
  6. toyhonda

    toyhonda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    542
    ค่าพลัง:
    +1,782
    เราว่านะตอนนี้ คำทำนาย มันตรงกันทุกสำนักเลย มันเป็นการบังเอิญ หรือลอกกันมาก็ไม่รู้...อะไรมันจะเลวร้ายขนาดนั้น ได้อ่าน ได้ฟัง เชื่อว่าส่วนใหญ่ทำให้คนเครียด และจิตตก หดหู่แน่นอนกับคำทำนายของทุกสำนัก /และบรรดาโหรทั้งหลาย แต่ก็มิได้ประมาท เพราะคิดว่าเราก็ทำดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว อย่างน้อยก็ถือศีลห้า สวดมนต์ เป็นปกติ แต่ถ้าเหตุการณ์ดังกล่าวมันเกิดขึ้นจริงก็ต้องยอมรับมันให้ได้ และมีสติ ก็ไม่รู้ว่าจะเร่งทำบุญอะไรได้มากน้อยแค่ไหน รู้แต่ว่าทุกวันนี้ทำดีแ้ล้ว ถ้ากรรมมันจะเกิดก็ยินดีรับนะ ถามว่าเชื่อไหม ไม่มีคำตอบให้ตัวเองนะ รู้แต่ว่าจงอยู่ในความไม่ประมาทดีที่สุด อนุโมทนา ขจกท.
     
  7. starcom1

    starcom1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +726
    ในสาส์นบอกถึงการทำสงครามของเทพ และมาร เทพนั้นอ่อนแรง มารแข็งแกร่งด้วยพลังจากคนที่ทำไม่ดีมากมายบนโลก องค์อินทร์พ่ายแพ้ ดาวดึงส์มารตีแตกแล้ว เทพเทวดาถูกสอยตกจากสวรรค์แทบหมด พระพิฆเนตรไปกับพระศิวะก็พ่ายแพ้กลับมา มารมีมากเหลือเกิน พรหมก็หมดกำลังหน้าตาเศร้าทั้งสี่หน้า มนุษย์ที่พรหมสร้างขึ้น กลับสร้างมารขึ้นมาทำลายสวรรค์ โลกไร้สิ่งศักดิ์สิทธ์คุ้มครอง นารายณ์ไม่บรรทมสินหน้าตาเศร้าหมอง มารบุกมาทำลายทุกอย่าง และจะเกิดภัยกับมนุษย์ในไม่นาน บอกไม่ได้ เป็นเรื่องของฟ้าดิน มนุษย์ไร้ศิล สวรรค์ก็ลุกเป็นไฟ เบื้องบนขอมนุษย์ทำความดี หมั่นสวดมนต์ มารจะอ่อนแรงและหายไป ปัจจุบันสวรรค์มารครอง พื้นดินมารครอง พื้นน้ำมารครอง บนอากาศมารครอง แล้วมารจะทำให้ทุกอย่างพินาศ ทั้งสวรรค์และมนุษย์ คนดีจะรอด คนขาดศิลจะต้องตายเมื่อวันที่ฟ้าดินกำหนดมาถึง เร็วช้าไม่ให้บอก แต่สวรรค์ทุกวันนี้ไร้เทพเทวดาครับ อ่านมาใจความบางส่วน เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ อย่างมงาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 ธันวาคม 2011
  8. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,728
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,136
    ค่าพลัง:
    +70,534
    .........................


    เมื่อมนุษย์ที่ดียังมีอยู่
    รวมใจสู้ กิเลสภายใน ใจใสสว่าง
    เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก พุทธองค์กล่าวไว้เนิ่นนาน
    จะบันดาล ให้เกิดสิ่ง พิชิตชัย

    .......




     

แชร์หน้านี้

Loading...