สัมผัส "พลังทิพย์" หลวงปู่ทวด วัดช้างให้

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย อดุลย์ เมธีกุล, 8 มีนาคม 2008.

  1. อดุลย์ เมธีกุล

    อดุลย์ เมธีกุล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7,363
    ค่าพลัง:
    +11,795
    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center></TD><TD vAlign=center>สัมผัส “พลังทิพย์” หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้
    « เมื่อ: สิงหาคม 11, 2007, 12:21:58 am »


    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" vAlign=bottom align=right height=20></TD></TR></TBODY></TABLE>


    <HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>ในความเชื่อเกี่ยวกับเรื่อง “เจ้ากรรมนายเวร” แม้แต่ในหลักของศาสนาอื่นเช่นศาสนาคริสต์ก็มีคำอธิบายที่คล้ายกับศาสนาพุทธของเรา คือเมื่อทำผิดก็จะมีพระผู้เป็นเจ้าคอยลงโทษ แต่ถ้าหากพระองค์ไม่เอาโทษเพราะเหตุที่เราได้ทำบางสิ่งบางอย่างให้เป็นที่ถูกใจของพระผู้เป็นเจ้า บาปทั้งหลายที่เราเคยทำมาก็อาจจะถูกยกเลิกได้ทั้งหมด แต่ในหลักของศาสนาพุทธเมื่อเราทำชั่ว กรรมชั่วนั้นก็จะลงโทษเราเช่นเคย ไปฆ่าเขาหรือเคยประทุษร้าย เบียดเบียนใครมา หากคนที่ถูกฆ่าตายไปเป็นวิญญาณหรือ “โอปปาติกะ” เขาก็ย่อมตามติดเรามาเพื่อแก้แค้น แม้ว่าเราจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้อย่างไรก็อาจจะไม่มีผล และทุกข์ โศก โรคภัยก็จะตามมาเบียดเบียนคนๆ นั้นทันทีเมื่อดวงตก แล้วจะมีวิธีการใดที่จะสามารถลดกำลังแรงของกรรมที่เคยทำไว้ได้

    [​IMG]

    ในกรณีนี้คุณรัฐนันท์เล่ายุทธากรสามารถคลี่คลายปมปัญหาดังกล่าวได้โดย “พลังทิพย์” ที่สื่อมาจากหลวงปู่ทวด แห่งวัดช้างไห้ จ.ปัตตานี วิธีการดังกล่าวคือการแก้กรรมโดยใช้หลัก “อริยสัจ 4” ซึ่งเป็นธรรมะแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยคุณรัฐนันท์ได้อธิบายให้ฟังว่า

    “พลังทิพย์ คือพลังที่สามารถพิสูจน์ได้ในเชิงวิทยาศาสตร์ อย่างการถ่ายออร่าเรายังสามารถเห็นสีต่างๆ ซึ่งมันพิสูจน์ได้ และพลังที่ผมสื่อสารได้จากหลวงปู่ทวดก็คือพลังทิพย์อันหนึ่ง หน้าที่ของผมเหมือนจานรับดาวเทียม ติดต่อจิตวิญญาณได้แล้วใช้พลังจากจิตใต้สำนึกประสานกับพลังจากจิตเหนือสำนึกหรือ พลังจากเบื้องบน เพื่อช่วยคนที่ทุกข์ร้อน วิธีการแก้กรรมของผมจะไม่ทำให้ใครต้องเดือดร้อน ไม่จำเป็นจะต้องสร้างเจ้าแม่กวนอิมองค์ละแสน นั่นไม่ใช่การแก้กรรมแต่มันเป็นการเพิ่มภาระ บาปนะ คนจนๆ ยิ่งแย่สิครับ

    คุณรัฐนันท์ได้เปิดเผยให้ผู้เขียนฟังว่าร้อยละ 95 ของผู้ที่มาหาที่เป็นผู้หญิงส่วนมากทำกรรมโดยการทำแท้งลูกทั้งนั้น และการแก้กรรมในเรื่องนี้คุณรัฐนันท์บอกว่าไม่มีใครแก้ได้นอกจาก “พระโพธิสัตว์

    “ในการทำแท้งแม้ว่าเราจะทำเองหรือว่าเราไม่ได้ทำแต่เราไปเป็นเพื่อนด้วยความสงสาร หรือไปให้เงินก็ดี ส่วนใหญ่วิบัติ โดนเล่นงานหมด และเจ้ากรรมนายเวรเขาจะอยู่ติดตามเราตลอดไป แม้ว่าเราจะทำบุญกุศลไปให้ยังไงก็ไม่มีประโยชน์ เพราะถ้ามันแก้กรรมกันได้แค่นี้โลกไม่วิบัติเหรอ ก็ถ้าเขาฆ่าคุณเสร็จแล้ว เขาแค่ไปทำสังฆทานให้แค่นั้น ดังนั้นผู้ที่จะช่วยได้ก็คือ หลวงปู่ทวด เพราะท่านจะเป็นสื่อกลาง”

    แม้ว่าหนทางในการผ่อนกรรมหนักให้กลายเป็นเบาจะพอมีอยู่แต่คนเราก็ไม่ควรใช้ชีวิตด้วยความประมาท ควรมีสติระลึกรู้ พึงดำเนินชีวิตโดยทางสายกลาง ดังที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้และลด ละกิเลสความชั่วทั้งปวง เพราะคุณรัฐนันท์ฝากบอกว่า “ในที่ลับนั้นมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ เมื่อเรารู้แล้ว เราอย่าทำบาป เราคิดว่าเราทำชั่วแล้วคนอื่นไม่รู้ แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์รู้”

    สำหรับเรื่องราวที่เป็นปาฏิหาริย์ของ “หลวงปู่ทวด” จากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นโดยตรงกับลูกศิษย์ของคุณรัฐนันท์มีอยู่เรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ คุณประภาส ทองเป็ญญ์เจ้าหน้าที่บริหารงานสงเคราะห์ ของกรมประชาสงเคราะห์ จ.ยะลา โดยคุณประภาส กำลังมีปัญหาในหน้าที่การงาน จึงได้ไปพบคุณรัฐนันท์เพื่อให้ “หลวงปู่ทวด” ที่ผ่านร่างคุณรัฐนันท์ช่วยตรวจดูดวงชะตาให้ปรากฏว่าสามารถทำนายเรื่องทุกอย่างในอดีตของคุณประภาสได้เหมือนตาเห็น นอกจากนั้นยังได้แนะนำให้คุณประภาสปล่อยปลาช่อน 9 ตัว ปลาไหล 9 ตัวถึง 2 ครั้ง เพื่อให้เรื่องร้ายๆ ค่อยดีขึ้น ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานคุณประภาสก็ได้ย้ายกลับภูมิลำเนาเดิมดังที่ต้องการพร้อมทั้งได้ตำแหน่งใหม่ที่ดีขึ้นด้วย

    แต่ต่อมาวันหนึ่งในเดือนพฤษภาคม ปี 2537 คุณประภาสได้กลับไปเยี่ยมคุณแม่ที่จังหวัดนครนายก ในระหว่างเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯเขาได้รับรถยนต์ส่วนตัวมาถึงบริเวณระหว่างอำเภอวังน้อย กับบางประอินทร์ จ.อยุธยา เกิดหลับในและฝันไปว่าเห็น “หลวงปู่ทวด” มานั่งขวางอยู่ ขณะเดียวกันนั้นโทรศัพท์มือถือได้ดังขึ้น ทำให้คุณประภาสตกใจเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์แล้วก็ได้เห็นภาพสิบล้อกำลังวิ่งมุ่งตรงมาชน จึงหักรถหลบสิบล้อได้ทัน รอดตายราวปฏิหาริย์เพราะบารมีของหลวงปู่ทวด

    [​IMG]

    เมื่อกลับมาถึงยะลา คุณประภาสมีโอกาสได้ไปกราบหลวงปู่ทวดอีกครั้งหนึ่ง เมื่อหลวงปู่(ใรร่างคุณรัฐนันท์) เห็นเข้าก็ทักว่า “เป็นไงเกือบตายแล้วซิ ถ้ากูไม่ไปช่วยมึง มึงจะเหลือแต่ชื่อ” ทำให้ทุกคนที่ไปหาหลวงปู่วันนั้นงุนงงไปตามๆ กัน

    คุณรัฐนันท์ได้ฝากคาถาหลวงปู่ทวดเปิดโลกมายังผู้อ่าน คอลัมน์ “ประสบการณ์ลี้ลับ เพื่อที่จะใช้เป็นคาถาคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายต่างๆ เวลาสวดให้นึกถึง “หลวงปู่ทวด” และอธิษบานขอพรก็จะประสบความสำเร็จทุกประการ โดยคาถานั้นมีว่า

    “นะ เปิด โม เปิด พุท เปิด ธา เปิด ยะ เปิดโลกด้วย นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวายะธาพุทโมนะ”

    ในเรื่องของวิธีการทำนายของคุณรัฐนันท์ได้อธิบายให้เข้าใจยิ่งขึ้นว่า

    “การดูกรรมแม้แต่การดูทางโทรศัพท์ก็ทำได้คือถ้า” เจ้ากรรมนายเวร “เปิดเราจะสามารถทำนายทายทักได้ 90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถ้าผมทายไม่ถูกต้องผมจะไม่เอาค่าครู(200 บาท) คนที่ผมดูให้ไม่ให้แสดงว่าคนๆ นั้นมีกรรมหนักมากจน “เจ้ากรรมนายเวร” เขาไม่ให้ดู และการทำนายทายทักอะไรต่างๆ เมื่อเขามาดูเราจะไม่ให้เล่าหรือบอกวันเดือนปีเกิดอะไรทั้งสิ้น เพราะมันจะมีสื่อมาให้เราพูดเอง คือ “ตัวรู้” มันจะเกิดขึ้นเอง และในการรักษาหรือตรวจกรรมแต่ละครั้งเราดูได้ทันที คือเห็นหน้าแล้วทักได้เลยไม่ใช่ต้องมานั่งสั่นพึ่บๆ ก่อน แต่ใหม่ๆ จะสั่นที่สั่นเพราะว่ามันเป็น 1 ร่างแต่ 2 จิต แล้วจิตเราเองไม่รับที่มีจิตอื่นมาใช้จิตเรา แต่พอนานๆ ไปพอเราฝึกสมาธิพอจิตเราสงบ เราก็จะสามารถประสานจิตได้ง่ายขึ้น”

    คุณรัฐนันท์ยังได้บอกเหตุเดือดร้อนที่คนมักมาต้องการให้ช่วยอยู่เสมอๆ ว่า

    ที่มาหาผมส่วนใหญ่ก็เดือดร้อนเรื่องชีวิตไม่ประสบความสำเร็จ การงาน การเงิน ครอบครัวและสุขภาพ มีโรคภัยต่างๆ ซึ่งโรคภัยที่เกิดกับคนมันแยกได้ 2 ประเภท เราจะดูว่าเขาเป็นโรคทีเกิดจากสังขารหรือโรคจากจิตวิญญาณคือ เจ้ากรรมนายเวร ถ้าโรจจากสังขารนี่คุณต้องไปหาหมอแล้ว ก็จะบอกไปเลยให้เขาไปหาหมอ แต่ถ้าโรคที่เกิดจาก เจ้ากรรมนายเวร เราบำบัดได้โดย พลังทิพย์ปรับธาตุลปราณ”

    “เพราะฉะนั้นการตรวจกรรมของผมสรุปแล้วก็คือการดูอริยสัจ 4 ดูทุกข์ สมุทัย นิโรธมรรค เราจะหาสาเหตุจากทุกข์ ก่อน คุณไปทำอะไรมาทำไมจึงมีปัญหาอย่างนี้ นิโรธ คือจะแก้ปัญหายังไงกับสิ่งที่เกิด มรรค คือหนทาง ทำยังไงให้หลุดพ้นจากปัญหาที่มีอยู่ เราก็ต้องดู กายทิพย์ ของเขาและอ่านใจเขาคือใช้ เจโตปริยญาน ญานหยั่งรู้วาระจิตของผู้อื่น

    เมื่อ “กรรม” จากอดีตเป็นเรื่องที่มนุษย์ทุกคนต้องชดใช้แต่เราจะสามารถแก้กรรมนั้นให้หมดภายในชาติหนึ่งชาตดใดได้หรือไม่ ตรงนี้คุณรัฐนันท์ได้อธิบายให้ฟังว่า

    “เราจะสามารถชดใช้กรรมให้หมดภายในชาติเดียวได้ขึ้นอยู่กับบุญบารมี ยกตัวอย่างกรรมจากการฆ่าพ่อแม่พี่น้องอย่างราชวงศ์เนปาลนี่ต้องชดใช้กันนาน เพราะมันเป็นคำสาปแช่งของราชวงศ์ที่ผูกพันกันมาหลานภพหลายชาติไม่สิ้นสุด และอีกอย่างที่น่าสนใจคือคนฆ่าตัวตายในชาติที่แล้ว ชาตินี้ก็ยังจะฆ่าตัวตายอีก มันเป็นนิสัย แต่ถ้ารู้แล้วจะแก้ ก็จะทำได้โดยการล้างกรรม เปลี่ยนจิตใต้สำนึกของเขาเสียใหม่”

    โดย : สายทิพย์

    ที่มา : http://www.yingthai-mag.com/detail.asp
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มีนาคม 2008
  2. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
     
  3. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    อ นุ โ ม ท น า ส า ธุ
     
  4. jsoc

    jsoc Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +54

    แปลกมาก ผมไม่เห้นด้วยครับ

    ดูกรรมได้ทางมือถืองั้นเหรอครับ ไม่คิดว่ามันออกจะประหลาดไปหน่อยเหรอครับท่าน
     
  5. peekwan

    peekwan สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +1
    แต่เราเชื่อนะคะ เพราะพลังแบบนี้แค่คนธรรมดาที่ปฏิบัติถึงขั้นหนึ่งก็สามารถได้พลังทิพย์แล้วอยู่ที่เขาผู้นั้นเคยสะสมมานานแค่ไหนถึงขั้นไหน และเคยทำได้แบบไหนไว้ เช่นตาทิพย์ หูทิพย์ ของแบบนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ถ้าขั้นโลกิยะ ไม่ทำบ่อยๆ ให้ชำนาญก็เสื่อมได้ แต่ถ้าถึงขั้นโลกุตระแล้วก็ไม่เสื่อม แต่ของแบบนี้ถ้าแค่โลกิยะ(จิตยังข้องอยู่ในกาม) ก็เป็นเพียงแค่ของแถมที่ได้มาจากการปฏิบัติให้ชื่นอกชื่นใจเท่านั้น หากหลงติดไม่ใช้เป็นกำลังใจให้เพียรพยายามให้หลุดพันก็อาจเสื่อมและธรรมะขั้นสูงก็เกิดช้าหรือไม่รุดหน้าไปก็ได้ ในโลกนี้อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ แม้ตัวเรายังมีได้แล้วคนอื่นจะมีไม่ได้เชียวหรือ แม้การรู้เห็นอดีตไปมากๆหลาย ๆชาติ ทำใมจะทำไม่ได้ เพราะคนธรรมดายังไม่ได้นั่งสมาชิเลยยังคิดได้ถึงอดีตเมื่อวาน เดือนที่แล้ว ปีที่แล้ว หรือเมื่อเป็นเด็กๆได้ แล้วยิ่งคนที่ปฏิติทางจิตตายไปแล้วเกิดมาใหม่ทำใมจะจำหรือเก็บเอาสิ่งที่เคยประพฤติปฏิบัติไว้กลับมาใช้ในชาติต่อๆมาไม่ได้ แล้วยิ่งคนที่มีพลังแก่กล้ายังสามารถชักนำหรือเชื่อมโยงความรู้ความสามารถให้คนที่อยู่ในสายทางเดียวกันให้ได้รู้ได้เห็นแล้วทำได้โดยไม่ต้องไปร่ำเรียนด้วยซ้ำเพียงแค่นอนหลับไปยังฝันเรียนรู้วิชาบางสิ่งทางจิตได้เลย ไม่เชื่อลองตั้งใจปฏิบัติดูเองใชเวาไม่มากหรอกหากเคยทำไว้ 7 วัน 7 เดือน 7 ปี และ 7 ชาติ แต่บอกก่อนนะหากตั้งใจทำแบบทั้งตัวและหัวใจถ้าทำนานติดต่อกัน 7 เดือน 7 ปี ไม่ต้องถึง 7 ชาติก็น่าจะได้อะไรดีๆ มากกว่าแค่ของแถมอย่างหูทิพย์ ตาทิพย์ เสียอีกนะคะ เพราะคำว่า ทิพย์ ทางธรรม เขาแปลว่า แถม น่ะค่ะ ขออภัยด้วยนะคะหากพูดอะไรบางคำไม่ถูกใจแอะ ถ้าคนมีธรรมะบ้างแล้วคงไม่ถือสาเอาคำพูดบางคำไปทำให้อารมณ์เสียนะคะ ก็แค่อยากคุยน่ะค่ะ ขออภัยที่รบกวนนะคะ บธรรมะรักษานะคะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...