สังสารวัฏ โดยสังเขป

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย tokyoo2, 25 พฤษภาคม 2013.

แท็ก: แก้ไข
  1. tokyoo2

    tokyoo2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2012
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +419
    การจองจำที่ยิ่งกว่า สังสารวัฏ ไม่มีอีกเเล้ว!

    คุณเคยคิดจิตนาการ ถึงโลกที่. ใครเข้าไปอยู่เเล้ว ต้องถูกใช้หนี้ ต้องโดนกักขัง ต้องเสวยความทุกข์อันเผ็ดร้อน สถานเดียว โดยมีบุรุษผู้เเข็งเเรง จะทำอะไรเราได้ตามอำเภอใจ ด้วยการทรมารต่างๆนาๆ บ้างหรือไม่
    คุณคิดไม่ผิดหรอก ปัจจุบันนี้ มันเป็นเช่นนั้น โลกที่ว่า มันมีอยู่จริง มันเกิดขึ้นเเล้ว
    เเต่เรากลับเห็น ภัยร้าย หรือหลุมถ่านเพลิง อย่างนั้น ว่าเป็นถิ่นเกษม
    เสมือนหมาขี้เลื้อนที่มันนั่งใกล้หลุ่มถ่านเพลิง มันก็จะใช้ปากเลียแผลของมันที่เกิดขึ้น สุขโสมนัสย่อมมี โดยมีแผลเป็นปัจจัย มันจะมองเห็นสุขโสมนัสที่เกิดขึ้น เเต่ไม่เห็นต้นเหตุว่าแผลนั่นคือทุกข์
    เมื่อยังมองไม่เห็น เห็นเเต่ความสุขที่ปรากฏ ความเพลินใจ ความพอใจ ย่อมเกิดขึ้น อุปทานในสิ่งที่ทุกข์ย่อมมี คือความสำคัญมั่นหมาย สุขโสมนัสกับสิ่งที่เป็นทุกข์ ภพชาติย่อมมีไม่สิ้นสุด
    คนเราฉันนั้นเหมือนกัน หิวข้าว ก็ไปมองที่รสอาหาร หิวน้ำก็ไปติดที่รสของน้ำ เมื่อยก็นั่ง เมื่อยก็ยืน ไม่เคยมองส่วนที่ทำให้ทุกข์ เกิดจากร่างกาย เพราะฉันทะเเท้ๆ ความพลัดพลาดจากสิ่งที่รัก ความประสบสิ่งทุกข์ต่างๆย่อมมี
    ฉนั้นถ้ามองดูให้ดีๆเเล้ว ความสุขโสมนัสทั้งหลายที่เกิดขึ้นนั้นเอง มันก็เสมือนหัวฝี กระดูก ชิ้นเนื้อ หรือ กรงดักนก บ่วงของมาร ไว้ล่อลวงไม่ยอมให้สัตว์ผู้โง่เขลาหลุดออกจากสังสารวัฏได้
    เมื่อยังไม่หลุดออกจากสังสารวัฏ คติของสัตว์ย่อมมี
    คติ1ใน5. คือสวรรค์ เป็นสถานที่สูงสุดให้สัตว์ทั้งหลาย กำหนัดยินดี เรียกว่า รางวัลของสัตว์ทั้งหลาย เป็นสถานที่ เพื่อให้ลุ่มหลง เพื่อให้ยึดมั่น เป็นธรรมดา
    อีก4 คือ เดรฉาน เปรตวิสัย มนุษย์ นรก นี้คือสถานที่ให้สัตว์พิสุจน์ความโง่เขลาที่มีอยู่

    พระสัมมาสัมพุทธะเจ้าพระองค์นั้น ผู้รู้ ผู้เห็น ผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธะ
    อธิบายการวนเวียนของสัตว์ทั้งหลายว่า
    สัตว์ที่ตายจากความเป็นมนุษย์ มีไม่ถึง1%. อุปมา เศษดินที่ปลายเล็บเทียบกับมหาปฐพี(ดินทั้งโลก).ไปสวรรค์ ที่เหลือเกิน99% พระองค์ใช้คำว่า กลับไป. นรก กำเนิดเดรฉาน เปรตวิสัย (คุณไม่ต้องแปลกใจหรอก ว่าพระองค์ใช้คำผิดหรือถูก เพราะนั้นคือหลักของสัตว์ที่ต้องอยู่อย่างเเท้จริง เรียกว่าบ้านของสัตว์ เสาหลักของสัตว์ )
    เมื่อไปเกิดในนรกเเล้ว สัตว์จะถูกฆ่า จองจำ มันจะเกิดตายในนรกซ้ำไปซ้ำมา การที่จะได้กลับเป็นมนุษย์อีก พระองค์เปรียบเทียบกับเต๋าตาบอด โอกาสที่มันจะเอาคอสวมเข้าไปในรูไม้ไผ่ ความยากของสัตว์ที่จะพ้นจากตรงนั้น ยากอย่างนี้ ซึ่งยากฉันเดียวกับ ที่พระพุทธเจ้าอุบัติด้วยซ้ำไป ความอุบัติของมหาบุรุษที่มีได้ไม่ง่ายฉันใด คนที่พ้นจากนรกกลับมาเป็นมนุษย์ก็ฉันนั้น
     
  2. tokyoo2

    tokyoo2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2012
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +419
    [๔๔๗] พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้น
    เบื้องปลายไม่ได้ เมื่อเหล่าสัตว์ผู้ยังมีอวิชชาเป็นที่กางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้
    ท่องเที่ยวไปมาอยู่ ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฏ พวกเธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน โลหิตที่
    หลั่งไหลออกของพวกเธอผู้ท่องเที่ยวไปมาซึ่งถูกตัดศีรษะโดยกาลนานนี้ กับน้ำในมหาสมุทรทั้ง
    ๔ สิ่งไหนจะมากกว่ากันภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ทั้งหลาย
    ย่อมทราบธรรมตามที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงแล้วว่า โลหิตที่หลั่งไหลออกของพวกข้าพระองค์
    ผู้ท่องเที่ยวไปมา ซึ่งถูกตัดศีรษะโดยกาลนานนี้แหละมากกว่า ส่วนน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ ไม่มาก
    กว่าเลย ดังนี้ ฯ
    [๔๔๘] พ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถูกละๆ พวกเธอทราบธรรมที่เราแสดงแล้วอย่างนี้
    ถูกแล้ว โลหิตที่หลั่งไหลออกของพวกเธอ ผู้ท่องเที่ยวไปมาซึ่งถูกตัดศีรษะโดยกาลนานนี้
    นี้แหละมากกว่า ส่วนน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ ไม่มากกว่าเลย
    เมื่อเธอทั้งหลายเกิดเป็นโค ซึ่งถูก
    ตัดศีรษะตลอดกาลนาน โลหิตที่หลั่งไหลออกนั่นแหละมากกว่า ส่วนน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔
    ไม่มากกว่าเลย เมื่อเธอทั้งหลายเกิดเป็นกระบือ ซึ่งถูกตัดศีรษะตลอดกาลนาน โลหิตที่หลั่งไหล
    ออกนั่นแหละมากกว่า ... เมื่อเธอทั้งหลายเกิดเป็นแกะ ... เกิดเป็นแพะ ... เกิดเป็นเนื้อ ... เกิด
    เป็นสุกร ... เกิดเป็นไก่ ... เมื่อพวกเธอถูกจับตัดศีรษะโดยข้อหาว่า เป็นโจรฆ่าชาวบ้านตลอดกาล
    นาน โลหิตที่หลั่งไหลออกนั่นแหละมากกว่า ... ถูกจับตัดศีรษะโดยข้อหาว่าเป็นโจรคิดปล้น ...
    ถูกจับตัดศีรษะ โดยข้อหาว่าเป็นโจรประพฤติผิดในภรรยาของผู้อื่น ตลอดกาลนาน โลหิต
    ที่หลั่งไหลออกนั่นแหละมากกว่า น้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ ไม่มากกว่าเลย ข้อนั้นเพราะเหตุไร
    เพราะว่าสงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ ... พอเพื่อจะหลุดพ้น ดังนี้ ฯ
     
  3. tokyoo2

    tokyoo2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2012
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +419
    มหาปฐพี หรือว่า ดินทั่งโลก คือสัตว์ที่ตายจากความเป็นมนุษย์กลับไปนรก กำเนิดเดรฉาน เปรตวิสัย
    ส่วนดินที่ช้อนขึ้นมาด้วยปลายเล็บของพระองค์ นั้นคือสัตว์ที่จะได้ไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์
    ขนาดได้รับอัตภาพมนุษย์ที่สามารถสร้างกุศลได้ เเต่สัตว์โลกกลับไปนรก เป็นจำนวนมาก
    เพราะว่าสัตว์โลกทำกรรมทั่ง3คือ กาย วาจา ใจ ในทางทุจริต หาความสุขกันส่วนใหญ่
    เเต่ในอัตภาพของ นรก กำเนิด เดรฉาน เปรตวิสัย ความคิดของมัน. จะมีเเต่ความคับเเค้นใจ มีเเต่ความทุกข์ใจ มีเเต่ความยึดมั่น มีเเต่อกุศล สัตว์ใหญ่เคี้ยวกินสัตว์เล็ก
    พอตายจากเดรฉาน กลับนรก
    ตายจากเปรตวิสัย กลับนรก
    ตายจากนรก ก็เกิดในนรก หรือไปเกิดในเดรฉาน วนเวียนอยู่เเบบนี้

    เเสดงให้เห็นว่า โอกาสน้อยจริงๆ เหมือนเต๋าตาบอด. 100ปีมันจะผุดขึ้นมา1ครั้ง เป็นไปได้ยากที่จะเอาคอเข้าไปสวมในรูไม่ไผ่ ถ้าหากได้อรรถภาพมนุษย์ เเต่พระพุทธเจ้าไม่อุบัติขึ้นมา ก็จะไม่รู้ว่าอะไรคือกุศล อะไรอกุศล อะไรมีโทษ อะไรไม่มีโทษ
    หรือ พระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมาก็จริง เเต่สัตว์ไม่สนใจ พยองในความรู้ที่ตนเองสร้างสรรค์ นี่ก็จะเสียประโยชน์ของการเป็นมนุษย์
     
  4. tokyoo2

    tokyoo2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2012
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +419
    ๓. อัสสุสูตร
    [๔๒๕] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี
    เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย ... แล้วได้ตรัสว่า ดูกร
    ภิกษุทั้งหลาย สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ ฯลฯ พวกเธอจะสำคัญความข้อนั้น
    เป็นไฉน น้ำตาที่หลั่งไหลของพวกเธอผู้ท่องเที่ยวไปมา คร่ำครวญร้องไห้อยู่ เพราะประสบสิ่งที่
    ไม่พอใจ เพราะพลัดพรากจากสิ่งที่พอใจ โดยกาลนานนี้ กับน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔สิ่งไหนจะ
    มากกว่ากัน ฯ
    ภิกษุเหล่านั้นทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พวกข้าพระองค์ ย่อมทราบธรรมตามที่พระ
    ผู้มีพระภาคทรงแสดงแล้วว่า น้ำตาที่หลั่งไหลออกของพวกข้าพระองค์ ผู้ท่องเที่ยวไปมา คร่ำครวญ
    ร้องไห้อยู่ เพราะการประสบสิ่งที่ไม่พอใจเพราะการพลัดพรากจากสิ่งที่พอใจ โดยกาลนานนี้
    แหละ มากกว่า ส่วนน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ ไม่มากกว่าเลย ฯ
    [๔๒๖] พ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถูกละๆ พวกเธอทราบธรรมที่เราแสดงแล้วอย่างนี้
    ถูกแล้ว น้ำตาที่หลั่งไหลออกของพวกเธอ ผู้ท่องเที่ยวไปมา ฯลฯโดยกาลนานนี้แหละ มากกว่า
    ส่วนน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ ไม่มากกว่าเลย

    พวกเธอได้ประสบมรณกรรมของมารดาตลอดกาลนาน
    น้ำตาที่หลั่งไหลออกของเธอเหล่านั้น ผู้ประสบมรณกรรมของมารดา คร่ำครวญร้องไห้อยู่ เพราะ
    ประสบสิ่งที่ไม่พอใจ เพราะพลัดพรากจากสิ่งที่พอใจ นั่นแหละ มากกว่า ส่วนน้ำในมหาสมุทร
    ทั้ง ๔ ไม่มากกว่าเลย
    พวกเธอได้ประสบมรณกรรมของบิดา ... ของพี่ชายน้องชาย พี่สาว
    น้องสาว ... ของบุตร ... ของธิดา ... ความเสื่อมแห่งญาติ ...ความเสื่อมแห่งโภคะ ... ได้ประ
    สบความเสื่อมเพราะโรค ตลอดกาลนาน น้ำตาที่หลั่งไหลออกของเธอเหล่านั้น ผู้ประสบความ
    เสื่อมเพราะโรค คร่ำครวญร้องไห้อยู่ เพราะประสบสิ่งที่ไม่พอใจ เพราะพลัดพรากจากสิ่งที่พอใจ
    นั่นแหละมากกว่า ส่วนน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ ไม่มากกว่าเลย
    ข้อนั้นเพราะเหตุไร
    เพราะว่าสงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็เหตุเพียงเท่านี้ พอทีเดียว
    เพื่อจะเบื่อหน่ายในสังขารทั้งปวง พอเพื่อจะคลายกำหนัดพอเพื่อจะหลุดพ้น ดังนี้ ฯ
     

แชร์หน้านี้

Loading...