1. เคยรู้จักพี่คนหนึ่ง พ่อคุณพี่เขาเป็นคนจีน แล้วพ่อพี่เขาก็ตาย แล้วเขาได้ไปบวชจนสมาธิก้าวถึงระดับถอดจิตได้ แล้วเขาก็ได้ถอดไปพบพ่อ ซึ่งเขาเล่าว่าเป็นสวรรค์ในภพภูมิคนจีน ซึ่งพ่อเขาชอบภพภูมิคนจีน เป็นบ้าน 2 ชั้นแบบจีน พ่อเขาใส่ชุดงิ้วสวยงามมาก แต่น้องเคยอ่านของไทย จะเป็นแบบชุดไทย บ้านแบบทรงไทย น้องเลยอยากรู้ว่ามีจริงไหม หรือว่าจิตยึดว่ามีสวรรค์-นรก ก็เลยมีสวรรค์-นรกเลยเป็นมายาตามภาพที่เราอยากให้เป็น ขอคำตอบประกอบเหตุผลด้วยนะคะ 2. แล้วการไม่เชื่อสวรรค์-นรกมีจริง เป็นอวิชชา แล้วบาปไหม 3. แล้วถ้าเชื่อว่ามีจริง แต่ไม่เห็นจริง เป็นอวิชชาไหม
หากยังไม่ได้พิสูจน์ ก็อย่าพึ่งด่วนตัดสินใจเชื่อหรือไม่เชื่อ 1.นรก และ สวรรค์ ก็เสมือนหน่วยงานๆหนึ่ง ที่ถูกก่อตั้งขึ้นมา สำหรับลงโทษและ/หรือ ให้รางวัลสำหรับการกระทำของผู้ที่อยู่ในวัฏสังสาร ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ในภูมิไหนก็ตาม แต่การที่จะเข้าไปรับบริการของหน่วยงานนั้นๆได้ ต้องมีคุณสมบัติถึงจะเข้าไปได้ เมื่อเข้าไปในเขตของหน่วยงานนั้น หากเป็นคนที่เรียนรู้ภาษาไทยไม่รู้ภาษาอื่น เมื่ออ่านป้ายภาษาอังกฤษ หรือภาษาจีน หรือภาษาแขก ก็คงจะอ่านไม่ออก ผู้มีหน้าที่ดูแลหน่วยงานในส่วนนั้นๆ ก็จำเป็นต้องใช้ป้ายเป็นภาษาของผู้ไปเยือน เพื่อให้สามารถสื่อสารได้ ในทำนองเดียวกันหากเป็นคนที่รู้ภาษาอื่นๆๆๆๆๆ **ดังนั้น การแต่งกายของเทวดาหรือสัตว์ในภูมิต่างๆ ก็เช่นกัน 2.และ3. "หากเชื่อ หรือไม่เชื่อ เป็นอวิชาหรือไม่" เป็นแน่นอน เพราะ อวิชชา คือ ไม่รู้ ยกตัวอย่างเช่น น้ำที่เขาเตรียมมาให้ดื่ม แต่คุณกลับเอาไปล้างมือ ก็ถือว่า คุณทำไปด้วยอวิชชา เพราะคุณไม่รู้ว่าน้ำนั้นเขาเตรียมมาสำหรับดื่ม แต่บาปหรือไม่ มาดูต่อไป ข้อความที่ว่า"อย่าเชื่อหรือไม่เชื่อ ถ้ายังไม่ได้พิสูจน์" หลายๆท่านคงคุ้นกันดีว่าเป็นพุทธดำรัสของพระพุทธเจ้า แต่ทำมัยพอไม่เชื่อว่าสวรรค์นรกมีจริงกลับต้องไปรับโทษล่ะ ฟังดูขัดแย้งเหมือนบังคับให้เชื่อตามพระพุทธเจ้า สาเหตุส่วนใหญ่ คือ คนโดยส่วนใหญ่ เมื่อไม่เชื่อว่า นรก สวรรค์ มีจริง ก็จะสรุปกับตัวเองว่า ไม่มีการลงโทษหรือตอบแทนในชาติต่อไป ชีวิตคือช่วงเวลานี้ ชาตินี้เท่านั้น เอาตัวเองให้รอดให้สบายไว้เป็นพอ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม หากไม่เชื่อว่า นรก มีจริง ส่วนใหญ่ก็เลยทำให้สามารถทำผิดทำเลวได้อย่างสบายใจไม่มีความละอายแม้แต่น้อย ผิดหนักบ้างเบาบ้างคละกันไป แบบเต็มๆ หากไม่เชื่อว่าสวรรค์ มีจริง ส่วนใหญ่ก็เหนื่อยหน่ายที่จะทำคุณประโยชน์เพื่อผู้อื่น เพราะทำไปแล้วก็เท่านั้น ไม่เห็นว่าจะมีอะไรดีๆเกิดขึ้น ไอ้ที่เห็นได้ดีกันก็มีแต่พวกเอารัดเอาเปรียบโกงคนอื่น เห็นอย่างนั้นแล้วก็เลยเอามั่ง เพราะได้พิสูจน์ด้วยสายตาแล้วว่าทำให้ได้ในสิ่งที่ต้องการจริง จึงทำเลวเพราะเหตุนี้ ด้วยเช่นกัน กรณีนี้จึงบาป แต่ กรณีต่อไปนี้ล่ะ - หากไม่เชื่อเรื่องนรกสวรรค์มีจริง ไม่ว่าจะไม่เชื่อเพราะเป็นคนยุคใหม่ หรือไม่เชื่อเพราะพิสูจน์ไม่ได้ ก็ตามแต่ แต่ก็ยังมีการละอายต่อความผิดที่ได้ทำ และมีการทำความดีอย่างเต็มใจและสบายใจ แบบนี้ เป็นการทำเลวและทำดีโดยเหตุจาก กมลสันดาน จริงๆ กรณีนี้ เป็นบุญ
เทวดา นรก สวรรค์มีจริง นิพพาน มีจริง พระพุทธเจ้ายังอยู่ วัฏสงสารมี ภพภูมิต่างๆ มีจริง อยากรู้ว่าเทวดามีจริงก็ หมั่นทำสมาธิ อธิฐานจิต ให้ท่าน ลงมายังร่างของเรา เพื่อพิสูจน์ สิ เมื่อคิดดี ทำดี เทวดาย่อมคุ้มครอง และทดสอบได้ด้วยตัวเองก่อนจะเชื่อ ยึดมั่นใน พระพุทธ พระธรรม พระสงค์ ด้วยนะอย่าลืม หากเกิด ปฏิกริยาอะไร กับร่างกาย ไม่ต้องตกใจ ใช้จิต ตามรู้ สติตลอด ดีมาก สมาธิดีด้วย ลองดูนะ แต่ก่อนเวลาผมสวดมนต์ ก็เป็นภาษาอื่นเลยก็มี สวดชินะบัญชร ได้ โดยที่ สวดไม่ได้ เป็นต้น เนี่ยลองดูนะ
ถ้าคิดตามหลักวิทยาศาสตร์ ก็เหมือนกับอะไรซักอย่างท่ียังไม่มีเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ เหมือนกับ แบคทีเรีย ที่ดูเหมือนไม่มี จนค้นพบกล้องจุลทรรศ์ ปรากฎว่ามีอยู่จริง...แต่เพราะเรายึดติดกับตาเนื้อ เพราะฉะนั้น...เรามาฝึกสมาธิกันเถอะ
ตอบ... การฝึกสมาธิ ไม่สามารถถอดจิตได้ ถ้าใครมาคุย หรือมาพูดว่า ฝึกสมาธิ แล้วถอดจิตได้ ก็ให้หนีให้ห่าง เพราะเขาคนนั้น จัดอยู่ในผู้ป่วยโรคจิตประสาท ชนิด คิดเอาเอง 2. อวิชชา คือ ความไม่รู้จริง ไม่เห็นแจ้ง ตามหลักอริยะสัจจสี่ ไม่เกี่ยวกับการเชื่อหรือไม่เชื่อว่านรกสวรรค์มีจริงหรือไม่มีจริง 3. กลับไปอ่านข้อสองขอรับ
พระพุทธองค์ทรงกล่าวธรรมพึงรู้ได้ด้วยตนเอง อยากรู้ว่าเป็นอย่างไร ก็ต้องพิสูจน์ดูนะ ลองปฏิบัติดู ไม่เสียหาย ไม่เห็นก็ไม่เป็นไร มันทำให้ใจเราสงบขึ้นมีสติและสมาธิในการดำเนินชีวิตมากขึ้น ก็ถือว่าเป็นกำไรแล้ว มีอานิสงนะครับ ลองดู
เมื่อใดที่สุข สวรรค์ก็อยู่ตรงนั้น เมื่อใดที่ทุกข์ นรกก็อยู่ที่นั่น ไม่ว่าอยู่ ณ ที่ใด เราก็ถือเอาจิตใจนี้ไปรับสุขรับทุกข์อยู่ ณ ที่นั้น ไม่เป็นอื่น เพราะเรายังถือจิตถือใจกันอยู่
ตอบ 1. มีจริง แต่ที่เขาเล่ามานั้น ไม่จริง 2. เป็นอวิชชา แต่ไม่บาป แต่ทำให้มีโอกาสทำบาปได้ง่าย 3. พระอรหันต์สุขวิปัสสโก เชื่อว่านรก/สวรรค์มีจริง แต่ไม่เคยเห็น
1. นรกสวรรค์มีจริง และเขาอาจเห็นได้จริง แต่สิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่สภาพจริง อาจเป็นสิ่งที่เทวดาต้องการแสดงให้เห็นก็ได้ 2. การไม่เชื่อนรกสวรรค์ ว่ามีจริง เป็นมิจฉาทิฏฐิ เป็นความเห็นผิด ปิดกั้นมรรคผลนิพพาน จึงถือว่าเป็นกรรมหนักด้วย อวิชชา คือ ความโง่ หลงติดในภพ หลงติดในราคะ โทสะ โมหะ อวิชชานั้นกินความหมายคลอบคลุมมากมาย รวมไปถึงมิจฉาทิฏฐิด้วย ซึ่งก็คือ การหลงติดในโมหะ คือ ตัวเองโง่ แล้วยังหลง ว่าตัวฉลาด, สิ่งที่ยึดไว้ สิ่งที่เชื่อถือ มันผิด ยังเห็นว่าถูก ดังนั้น หากจะว่าไป การไม่เชื่อในนรกสวรรค์ ก็ย่อมจัดอยู่ในข่ายของอวิชชาด้วย 3. ดูคำตอบในข้อ 2 และอย่างที่หลวงพ่อสอน พระสุกขวิปัสสโก ไม่มีความรู้พิเศษ ไม่สามารถเห็นนรกสวรรค์ได้ แต่อาศัยความเชื่อตามธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ แล้วปฏิบัติตามด้วยความเอาจริงเอาจัง ด้วยความเคารพในพระธรรม ก็สามารถเข้าถึงพระอริยมรรคเป็นต้น พระอริยผลเป็นท่ามกลาง พระนิพพานเป็นที่สุด ถึงจุดเดียวกันหมดได้
สวรรค์-นรก เป็นสิ่งที่มีจริง และสามารถพิศูจน์ได้หลายวิธี ๑. ปฏิบัติพระกรรมฐาน มโนมยิทธิ ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ที่วัดท่าซุง และบ้านสายลม แต่เมื่อไปฝึกแล้วฝึกไม่ได้ก็อย่าหาว่าไม่มีนะครับ เพราะคนที่เขาฝึกได้มีมากมาย ๒. ศึกษาจากเรื่องราวของคนที่ตายแล้วฟื้น ซึ่งมีมากมายหลายเรื่อง ที่น่าจะศึกษาคือเรื่องการตายแล้วฟื้นของ พลโทสมาน วีระไวทยะ ครูบุญชู ศรีผ่อง จ.อ่างทอง ทั้งสองท่านนี้พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษี เคยพูดถึง อีกท่านที่เป็นข่าวโด่งดัง คือ พ.อ.เสนาะ จินตรัตน์ ๓. ศึกษาจากเรื่องราวของคนระลึกชาติได้ ๔. ที่แน่นอนที่สุดในตอนที่ท่านไปพิศูจน์ด้วยตนเอง ตอนตาย คนไม่เชื่อและ ปรามาสพระรัตนตรัย คงพิศูจน์ได้อย่างเดียวคือนรกภูมิ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เป็นคำที่คนที่ไม่เชื่อเรื่องสวรรค์-นรก น่าจะนำไปพิจารณา โดยเฉพาะการลบหลู่ต่อคำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นการปรามาสพระรัตนตรัย โทษหนักนะครับ ขอเชิญทุกท่านได้โมทนาบุญผ้าป่า ๓ กองบุญร่วมกันครับ http://palungjit.org/showthrea...=158315&page=3 ศูนย์พุทธศรัทธา สำนักปฏิบัติพระกรรมฐานสาขาวัดท่าซุง เพียงท่านแวะชมและโมทนาท่านก็จะได้บุญได้กุศลตามกำลังใจของแต่ละท่าน
มีหรือไม่มี...ไม่สำคัญ ทำดีเอาไว้ไม่เสียหาย เป็นหลักประกันว่า ไม่ลงแน่ ๆ นรก ถ้าไม่มีก็ไม่เสียหาย ถ้ามีขึ้นมาก็สบายไป เพราะทำดีเอาไว้แล้ว ไม่ต้องลงนรก แต่ สวรรค์ นรก...มีจริงแท้แน่นอน
เคยได้ยินแต่ว่า ...สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ... ลองทำชั่วดูสิ แล้วสบายใจไหม.... เมื่อเปรียบเทียบกับการทำความดีช่วยเหลือผู้อื่น ความรู้สึกแตกต่างกันไหม... ^-^
ขออนุโมทนา ณ.โอกาศนี้ ขอน้อมองค์คุณ พระพุทธะอรหันต์ พระมหาพุทธะอรหันต์ พระอรหันต์ พระมหาอรหันต์ พระโพธิสัตว์ พระมหาโพธิสัตว์ จงบันดาลให้ทุกท่าน ไม่ติด ไม่ขัด ไม่ข้อง ไม่คา ลุล่วงพ้นทุกข์ ตามพุทธะประสงค์ ตรงต่อพระนิพพาน ในชาติปัจจุบันกาลนี้ด้วยเทอญ <!-- / message --><!-- attachments -->