"สร้างเป็นรูประฆังสิ ดังดี"

ในห้อง 'สมเด็จโต พรหมรังสี' ตั้งกระทู้โดย pongio, 28 ตุลาคม 2015.

  1. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,850
    เหรียญสิริมงคล รูประฆัง ในขณะที่กำลังดำเนินการสร้างเหรียญสิริมงคล รูประฆัง เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๖ มีศิษย์ซึ่งเป็นคณะกรรมการจัดสร้างท่านหนึ่ง เรียนถามหลวงพ่อเกษม เขมโก ว่าจะสร้างเหรียญเป็นรูปอะไรดี หลวงพ่อตอบว่า"สร้างเป็นรูประฆังสิ ดังดี" คณะกรรมการจึงได้จัดสร้างด้วยเนื้อทองแดงบริสุทธิ์ จำนวนทั้งสิ้น ๕๐,๐๐๐ เหรียญ แม้เหรียญจะมีขนาดใหญ่กว่าเหรียญรูปไข่ หรือ รูปทรงกลม แต่ก็มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ ไม่เทอะทะจนเกินไป


    เหรียญทรงระฆัง หลวงพ่อเกษม เขมโก หลังยันต์ย่อ คาถาชินบัญชร
    เหรียญทรงระฆัง หลวงพ่อเกษม เขมโก หลังยันต์ย่อ คาถาชินบัญชร
    ออกวัดสุสานไตรลักษณ์ ลำปาง สคส. ปีใหม่ 1 ม.ค. 2532



    วัตรปฏิบัติของหลวงพ่อเกษม เขมโก
    หลวงพ่อเกษม เขมโก ได้ฝึกฝนตนเองอย่างเคร่งครัด ขณะที่หลวงพ่อมีร่างกายแข็งแรงจะออกบิณฑบาตเป็นวัตร ตามหมู่บ้านใกล้ป่าช้า และฉันอาหารเพียงมื้อเดียว ฉันเฉพาะในบาตรเป็นวัตร นั่งฉันอาหาร ณ อาสนะเดียวเป็นวัตร อาหารที่ฉันนั้นเป็นอาหารที่บูดและเสียแล้ว ซึ่งคนทั่วไปกินแล้วจะต้องหายารับประทาน หรือถึงกับไปโรงพยาบาลให้หมอรักษาก็ได้ หลวงพ่อฝึกฉันอาหารที่บูดและเสียแล้วโดยไม่มีอาการท้องเสียหรือท้องร่วง เป็นที่ฉงนสนเท่ห์ของผู้ที่อยู่ใกล้ชิด และก็ไม่เคยเห็นหลวงพ่อป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหารแต่อย่างใด การฉันอาหารมื้อเดียวหลวงพ่อจะจัดอาหารเป็นอย่าง ๆ เช่น ผัก น้ำพริก ผลไม้ ขนม พอสำหรับฉันมื้อนั้นไว้ในบาตร และจะฉัน ณ อาสนะเดียวเท่านั้นเป็นประจำ บางครั้งหลวงพ่อจะไม่ฉันอาหารเป็นเวลาหลาย ๆ วันติดต่อกัน บางครั้ง ๓ วัน บางครั้ง ๕ วัน บางครั้งเป็นเวลาถึง ๗ วัน จะฉันแต่น้ำ น้ำหวาน ผลไม้เท่านั้น และฉันเพียงเล็กน้อยมื้อเดียว ร่างกายของหลวงพ่อจะทรงอยู่และผอมลง ขณะนี้เหลือแต่หนังหุ้มกระดูก หลวงพ่อบำเพ็ญสมณธรรมให้กิเลสสิ้นไปจากจิตเพื่อความหลุดพ้นเข้าสู่นิพพานตามธรรมบัญญัติ
    ในด้านการประพฤติปฏิบัติธรรมโดยทั่วไปนั้น คือ ท่านบำเพ็ญอยู่ในธุดงควัตร อยู่ป่าช้าเป็นวัตร ฉันมื้อเดียวเป็นวัตร นุ่งห่มจีวร ๓ ผืนเป็นวัตร นุ่งห่มผ้าบังสุกุลเป็นวัตร และสิ่งที่นำความมหัศจรรย์ใจมาสู่ปวงศิษย์ก็คือ ในยามสมาทานวัตรของหลวงพ่อ ท่านจะนอนหมอบอยู่ที่เชิงตะกอนทั้งวันทั้งคืน โดยไม่คำนึงถึงแดดและฝน และแม้แต่ความหนาวจะเยือกเย็นสักปานใด ซึ่งวิสัยคนธรรมดายากที่จะอดทนเช่นนั้นได้ ท่านมักสอนว่า เมื่อมันร้อน มันหนาว เราก็อย่าร้อนอย่าหนาวกับมัน คุณธรรมอันนี้เองก่อให้เกิดศรัทธาปสาทะแก่ปวงศิษย์ และยังความเคารพนับถือแก่พระเถรานุเถระในจังหวัดลำปางยิ่งนัก การปฏิบัติธุดงควัตรอันเคร่งครัดมิใช่เพียงแต่โสสานิกธุดงค์ ถือการอยู่ป่าช้าเป็นวัตรเท่านั้น แต่หลวงพ่อเกษมยังได้ปฏิบัติธุดงควัตรหลาย ๆ ข้อไปพร้อม ๆ กัน เป็นการฝึกฝนตนเองเพื่อให้เป็นคนมักน้อย สันโดษ และเผากิเลสให้เหือดแห้ง
    ที่สุสานไตรลักษณ์เมื่อมีการเผาศพครั้งใด ตกดึกหลวงพ่อท่านจะไปพิจารณาปฏิบัติกรรมฐานที่เชิงตะกอน เพื่อแผ่เมตตาและโปรดสัตว์ในลักษณะนั่ง ยืน นอนและคุกเข่าก้มนอนท่ากบเป็นเวลานาน ท่านเป็นผู้ที่พูดน้อยเสียงเบาเหมือนกระซิบ หลวงพ่อท่านไม่ค่อยสรงน้ำ แต่กลิ่นกายท่านสะอาดมาก
    ในหนังสือที่ระลึกคล้ายวันเกิดหลวงพ่อเกษม เขมโก ยังได้กล่าวถึงการฝึกฝนตนเองอย่างเคร่งครัดของหลวงพ่อเกษม ความตอนหนึ่งว่า หลวงพ่อนั่งวิปัสสนากัมมัฏฐานอยู่กลางแจ้งทั้งกลางวันและกลางคืนในช่วงเดือนเมษายน ซึ่งเป็นฤดูกาลที่มีอากาศร้อนที่สุดในเดือนนี้ หลวงพ่อได้ปฏิบัติเช่นนี้จนร่างกายกร้านเป็นสีน้ำตาลไหม้ โดยไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ไม่เอนหลังลงนอน ได้แต่นั่งวิปัสสนากัมมัฏฐาน ยืน และเดินจงกรม ฉันอาหาร ณ ที่นั้น กลางคืนนั่งหลับ ณ ที่อาสนะโต๊ะนั่ง เอาฝ่ามือรองหน้าผากไว้นั่งหลับ ปกคลุมด้วยผ้าจีวรและหลับเพียงชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้น หลวงพ่อทนต่อความร้อนของแสงอาทิตย์ได้ตลอดทั้งวันโดยไม่มีอะไรกำบัง การอยู่ในที่กลางแจ้งเป็นวัตร ซึ่งหลวงพ่อเรียกว่า ออกอากาศ การนั่งในที่กลางแจ้งตากแดดอย่างนั้น ก็เพื่อเป็นการฝึกแยกจิตออกจากกาย บางปีในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นเดือนที่อากาศหนาวมากที่สุดในภาคเหนือ หลวงพ่อจะ่นั่งวิปัสสนากัมมัฎฐานอยู่กลางแจ้ง ตลอดทั้งกลางวันทั้งกลางวันเป็นเวลาแรมเดือน โดยปฏิบัติเช่นเดียวกับอยู่ในที่แจ้งในเดือนเมษายนของทุกปี ครองแต่ผ้าไตรจีวรเท่านั้น ในที่โล่งแจ้งในเวลากลางคืน ปลายเดือนธันวาคม อุณหภูมิลดลงถึงศูนย์องศาเซลเซียส หลวงพ่อสามารถทนต่อความหนาวเหน็บในเวลากลางวันได้ โดยการฝึกแยกจิตออกจากกาย ถ้าเป็นบุคคลธรรมดาคงเป็นโรคปอดบวมตายอย่างแน่นอน ธุดงควัตรเช่นนี้ หลวงพ่อทำได้สำเร็จมาแล้ว หลวงพ่อปฏิบัติธุดงค์มาโดยตลอด เพื่อละกิเลสอันละเอียดออกจากจิตใจให้หมดสิ้น การปฏิบัติธุดงควัตรของหลวงพ่อดังกล่าวมาทั้งหมดนั้น สิ่งที่น่าแปลกก็คือว่าตามร่างกายของท่านไม่ปรากฏรอยกัดของยุงเลย อีกอย่างปกติหลวงพ่อจะสรงน้ำปีละหนึ่งครั้ง แต่ไม่มีกลิ่นตัวเลย ท่านงดการสรงน้ำมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๔ จนถึงปัจจุบัน (๒๕๓๘)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...