ศีล ๕ คืออุบายสร้างความรัก (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย TupLuang, 20 กันยายน 2008.

  1. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    ศีล ๕ คืออุบายสร้างความรัก

    พระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)

    แสดงธรรมที่มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต กรุงเทพฯ
    เมื่อ พ.ศ ๒๕๓๒


    ขอโอกาสต่อครูบาอาจารย์ ขอแสดงเมตตาจิต ต่อบรรดาท่านพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย และขอกล่าวว่า ขอแสดงความยินดี ที่เราท่านทั้งหลาย มีชีวิตรอดจากอันตราย มาจนกระทั่งจวบถึงวันขึ้นปีใหม่ ปีเก่าที่ผ่านไป เราได้สร้างคุณงามความดีโดยอาศัย กาย วาจา และใจ เป็นพื้นฐานแห่งการสร้างคุณงามความดี เพราะอาศัยคุณงามความดีนั้น ๆ เราจึงมีอายุผ่านพ้นอันตรายมาได้ด้วยดี เพราะอาศัยการที่เรามีคุณงามความดี คือบุญกุศล ส่งให้เรามีชีวิตยืนยาวมาถึงขนาดนี้ ทุกท่านไม่ควรประมาท ในการที่จะบำเพ็ญทาน ศีล ภาวนา ทาน ศีล ภาวนา เป็นแผนการสร้างคุณงามความดี

    โดยปกติแล้ว กายกับใจของเรา เป็นสภาวธรรมอย่างหนึ่ง ซึ่งจัดเข้าในหมวดหลักธรรม ซึ่งเรียกว่า
     
  2. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    หากสิ่งใดที่มันมัวเมาเกินไป จนทำให้เราเสียผู้เสียคน มัวเมาในการพนัน มัวเมาในการเที่ยว มัวเมาในการใช้จ่ายโดยไม่มีขอบเขต นึกถึงศีลข้อสุราเอาไว้ สุราตัวนี้ไม่เฉพาะแค่ดื่มเหล้าอย่างเดียวนะ ความเมานี้โดยปกติคนเรามีความเมาอยู่ ๒๕ เปอร์เซ็นต์ทุกคน เมื่อเรามีความเมาเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว เอาสิ่งซึ่งไปทำลายประสาทเพิ่มความเมาแล้วจะปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าจะเอาดีกับพระพุทธเจ้า ก็ต้องนึกถึงศีลข้อนี้ โดยอาศัยความอดทน

    ศีล ๕ นี้ ถ้าใครปฏิบัติได้

    ๑. ได้บำเพ็ญอภัยทาน

    ๒. ทำให้จิตเกิดความเมตตาปรานี

    ๓. ได้ความรัก

    ๔. ป้องกันไม่ให้เกิดมีการฆ่ากัน

    ๕. ปรับพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ให้สมบูรณ์


    เมื่อเรามีศีล ๕ บริสุทธิ์บริบูรณ์ดี ความเป็นมนุษย์ของเราก็สมบูรณ์ กายเป็นปกติ วาจาก็ปกติ ในมือกาย วาจา ปกติ ใจก็พลอยปกติไปด้วย เมื่อเราไม่ฆ่าใคร ใครหนอจะมาฆ่าเรา เมื่อเราไม่ประทุษร้ายใคร ใครหนอจะมาประทุษร้ายเรา เราเคารพในสิทธิเสรีภาพของมวลมนุษย์ด้วยกัน คนอื่นเขาก็ต้องเคารพต่อเรา วันทะโก ปฏิวันทะนัง ผู้ไหว้ย่อมได้รับการไหว้ตอบ โปชะโก ชะพะเตโปชัง ผู้บูชาย่อมได้บูชาตอบ นี่คือแผนการปฏิบัติเพื่อละชั่วและเป็นอุบายตัดผลเพิ่มของกิเลส เป็นอุบายตัดผลเพิ่มของบาปกรรม

    กิเลสมันจะถูกบั่นทอนกำลังลงได้เพราะเรายึดมั่นในการปฏิบัติศีล ๕ ถ้าใครเคร่งในการปฏิบัติศีล ๕ โลภ โกรธ หลง มีในใจก็ช่างมัน อย่าไปสนใจ แต่เราเอาอย่างเดียวคือไม่ลุอำนาจ เมื่อโกรธแล้วอดทน เมื่อโลภแล้วอดทน ไม่ละเมิดศีล ๕ ข้อ ก็จะเป็นการบั่นทอนพลังของความโลภ ความโกรธ ความหลงให้น้อยลง เมื่อเราหัดอดทน จิตของเราคล่องตัวต่อการตัวต่อการอด อดเสียจนกระทั่งกลายเป็นความเคยชิน ทีแรกเราตั้งใจอดทน บางทีก็นึกจะละเมิดเหมือนกัน แต่ก็อดทนไป อดไปจนใจมันทนต่อความอด มันชำนาญต่อความอด คล่องตัวต่อความอดมันก็กลายเป็นความเป็นไปเองโดยธรรมชาติ ต่อไปเจตนาก็ตาม ไม่เจตนาก็ตาม ตั้งใจก็ตาม ไม่ตั้งใจก็ตามเราจะมีศีล ๕ เป็นเครื่องแระกันความปลอดภัยของสังคมอยู่ตลอดเวลา นี่คือแผนการปฏิบัติเพื่อละความชั่ว ทีนี้เมื่อเราตั้งใจละชั่วได้โดยเด็ดขาด มันก็กลายเป็นความดี

    ในสมัยปัจจุบัน มีสิ่งที่เราจะต้องระมัดระวังกันอยู่ไม่น้อย พุทธบริษัทของเราโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักปฏิบัตินี่แหละ เผลอ ๆ ก็ไปเปลี่ยนศาสนาพุทธให้กลายเป็นศาสนาอื่นโดยไม่รู้ตัว จุดเริ่มมันอยู่ตรงเมื่อภาวนา พุทโธ พุทโธ
     
  3. Wat Pa Gothenburg

    Wat Pa Gothenburg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    920
    ค่าพลัง:
    +260
    การทำการงานชอบ ...ความเพียรชอบ...สติชอบ ก็คือ งานถอดงานถอน เพียรถอดเพียรถอน สติจดจ่ออยู่กับการถอดถอนกิเลสอาสวะออกจากจิตจากใจตัวเองนั่นแหละ
     
  4. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ธรรมะที่มีแต่แก่นไม่มีเปลือกหุ้มก็อยู่ไม่ได้…….การปฏิบัติศีล ๕……..ศีล ๘…ศีล ๑๐…… ศีล ๒๒๗ อันนี้คือวิธีการ เป็นเปลือกหุ้มแก่นธรรม

    เพราะฉะนั้น ผู้ที่มุ่งหวังจะปฏิบัติธรรมไห้ถึงแก่น ต้องรักษาเปลือกให้ดี อย่าไปกระเทาะเปลือกมันเสีย"


    อนุโมทนา สาธุ ค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...