ศีล,สมาธิ,ปัญญา กับ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย telwada, 14 พฤศจิกายน 2011.

  1. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
    “ศีล, สมาธิ, ปัญญา, กับ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค”
    ท่านทั้งหลาย จงพากันมาทำความเข้าใจในเรื่องของ ศีล,สมาธิ,ปัญญา กับ ทุกข์,สมุทัย,นิโรธ,มรรค กันพอสังเขป ดังนี้
    "ไตร"หมายถึง สาม
    "สิกขา" หมายถึง การศึกษา, การสำเหนียก, ข้อที่จะต้องศึกษา, ข้อปฏิบัติสำหรับฝึกอบรม มี ๓ อย่างคือ ๑.อธิสีลสิกขา ฝึกอบรมในเรื่องศีล ๒.อธิจิตตสิกขา ฝึกอบรมในเรื่องจิต เรียกง่าย ๆ ว่า สมาธิ ๓.อธิปัญญาสิกขา ฝึกอบรมในเรื่องปัญญา รวมเรียกว่า ไตรสิกขา (จากพจนานุกรมพุทธศาสนา ฉบับพระธรรมปิฎก)
    ทำไมในทางพุทธศาสนาจึงมีข้อ ไตรสิกขา เพราะนั่นเป็นคำสอน หรือเป็นวิธีการ เริ่มต้น สำหรับผู้ที่ศรัทธาในพุทธศาสนา จักต้อง ทำการศึกษา ปฏิบัติ และฝึกอบรม จะเรียกว่า เป็นพื้นฐานหรือบันไดขั้นแรก ในการที่จะก้าวไปสู่ขั้นต่อๆไป บุคคลผู้ศรัทธาในพุทธศาสนา จักต้อง เรียนรู้ ศึกษา ปฏิบัติ และฝึกอบรม ในเรื่องของ ศีล เพื่อความสะอาดของความคิดและจิตใจ อีกทั้ง จักต้องเรียนรู้ ศึกษา ปฏิบัติ และฝึกอบรม ในเรื่องของจิต คือการรู้จักควบคุมจิต คือควบคุมตัวเองให้มี สติ,สัมปชัญญะ อยู่เป็นนิจ จะเรียกว่า ต้องมีสมาธิอยู่ตลอด ก็ว่าได้ เมื่อได้เรียนรู้ ศึกษา ปฏิบัติ และฝึกอบรม ในศีล และการควบคุมจิตแล้ว ก็ต้องมีการพัฒนาตัวเอง นั่นย่อมหมายถึง ต้องมีการศึกษา ปฏิบัติ และฝึกอบรม ในด้านความรู้ต่างๆอันเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันในการสังคมเป็นอยู่ร่วมกัน ไม่ใช่หนีปลีกวิเวก อย่างนั้นไปเกิดปัญญา ไม่เกิดความรู้ แต่จะเกิดเพียงความเงียบ ไม่หนวกหู จิตใจอาจจะสงบก็ได้ ไม่สงบก็ได้ และเมื่อมีการพัฒนาตนเองให้เกิดความรู้คือปัญญาแล้ว ทั้ง 3 ข้อ คือ ไตรสิกขา ก็จะเป็นเครื่องมือในการที่จะนำบุคคลไปสู่การปฏิบัติ ไปสู่การศึกษา ไปสู่การฝึกอบรมตนเอง ให้ได้รู้ว่า อะไรคือทุกข์, อะไรคือสมุทัย, อะไรคือนิโรธ ,อะไรคือมรรค และเป็นการรู้ลึกซึ้งในรายละเอียดว่า ทุกข์เกิดจากสิ่งใด,สมุทัยเกิดจากสิ่งใด ,นิโรธเกิดจากสิ่งใด และ มรรคเกิดจากสิ่งใด
    ทุกข์ ย่อมเกิดจาก ความคิด เมื่อได้สัมผัสจากอายตนะภายนอก หากบุคคลได้รับการอบรมขัดเกลาทั้ง ๓ ทาง คือ อบรมขัดเกลา ให้มี ศีล ให้มีสมาธิ ให้มีปัญญา ก็ย่อมสามารถควบคุม ขจัด ความทุกข์ อันเกิดจากความคิดได้
    สมุทัย คือ พฤติกรรม ,การกระทำ และรวมไปถึงการได้รับพฤติกรรม,การกระทำจากสิ่งต่างๆ ทั้งด้วยตัวเองเป็นผู้ประพฤติ,กระทำ และโดยถูกผู้อื่นประพฤติ กระทำ ซึ่งย่อมทำให้เกิดอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง ทั้งทางร่างกาย ทางความคิด หรือ ทางจิตใจ หากบุคคลได้รับการขัดเกลาอบรม จนเกิดมี ศีล ,มีสมาธิ ,มีปัญญา พฤติกรรม,การกระทำ ที่ประพฤติหรือกระทำ ด้วยตัวเอง และด้วยผู้อื่น ย่อมเกิดขึ้นได้ยาก หรือไม่เกิดขึ้นเลย
    นิโรธ คือ การดับเหตุที่ให้เกิดทุกข์ เมื่อดับเหตุที่ให้เกิดทุกข์ นั่นย่อมหมายถึง ดับทุกข์ อันเกิดจาก ความคิด เกิดจากพฤติกรรม การกระทำ ด้วยตัวเอง หรือ ด้วยผู้อื่น หากบุคคลมีการอบรมขัดเกลาจนเกิดมีศีล สมาธิ ปัญญา ก็ย่อมสามารถรู้จักวิธีการดับเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ รู้และเข้าใจได้ว่า การดับเหตุที่ให้เกิดทุกข์นั้น ดับอย่างไร เยี่ยงไร
    มรรค อันมีองค์๘ เป็นหนทางที่ให้ถึงความดับทุกข์ ย่อมหมายถึง วิธีการปฏิบัติเพื่อให้หลุดพ้นจากทุกข์ หรือปฏิบัติเพื่อให้ถึงความดับทุกข์ ชั้นพื้นฐาน มรรค อัน มีองค์ ๘ที่มีอยู่ในทางพุทธศาสนา ไม่ใช่ข้อศีล และแตกต่างจากข้อศีล ตรงที่ มรรค เป็นหนทาง ศีลเป็น เครื่องช่วยในการเดินทางตาม มรรค เหล่านั้น รวมไปถึง การมีสมาธิ และปัญญาก็เป็นเครื่องช่วยในการเดินทางตามหนทางที่ให้ถึงความดับทุกข์ กล่าวอย่างนี้คงพอจะเข้าใจนะขอรับ
    จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ ทูลพันธ์
    ๑๔ พ.ย. ๒๕๕๔
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2011

แชร์หน้านี้

Loading...