ศาสนาพุทธ กับ วิทยาศาสตร์

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย telwada, 10 พฤษภาคม 2008.

  1. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
    วิทยาศาสตร์ มีความหมายตาม พจนานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ดังนี้
    " น. ความรู้ที่ได้ โดยการสังเกต และค้นคว้า จากการประจักษ์ ทางธรรมชาติ แล้วจัดเข้าระเบียบ
    หรือ วิชาที่ค้นคว้าได้หลักฐาน และเหตุผล แล้วจัดเข้าเป็นระเบียบ "
    ข้อความข้างต้น ย่อมหมายความว่า วิชาวิทยาศาสตร์ นั้น เป็นความรู้ที่ได้จากการสังเกต และค้นคว้า จากการได้พบได้เห็น ได้สัมผัส ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ จนได้หลักฐาน และเหตุผล แล้วนำมาจัดเป็นหมวดหมู่ จัดลำดับ เป็นหมวดหมู่ เพื่อให้ง่ายต่อการเรียน การศึกษา หรือการสอน

    ศาสนา มีความหมาย ตามพจนานุกรมไทย ฉบับ ราชบัณฑิตยสถานว่า
    " น.ลัทธิความเชื่อถือของมนุษย์ อันมีหลัก คือ แสดงกำเนิดของโลก และสิ้นสุดของโลกเป็นต้น อันเป็นไปในฝ่ายปรมัตถ์ประการหนึ่ง ,แสดงหลักธรรม เกี่ยวกับบาปบุญ อันเป็นไปในฝ่าย ศีลธรรมประการหนึ่ง ,พร้อมทั้งพิธีที่กระทำตามความเห็น หรือตามคำสอนในความเชื่อถือนั้นๆ"
    ภาษา สันสฤต "ศาสนา คือ คำสอน ข้อบังคับ"

    พุทธ มีความหมาย ตามพจนานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถานว่า
    "ผู้ตรัสรู้ ผู้ตื่นแล้ว ผู้เบิกบานแล้ว (ใช้เฉพาะพุทธเจ้า)

    ดังนั้นคำว่า "ศาสนาพุทธ " จึงมีความหมายว่า
    "คำสอน ข้อบังคับ หรือลัทธิ ความเชื่อถือ ฯ แห่ง ผู้ตรัสรู้ ผู้ตื่นแล้ว ผู้เบิกบานแล้ว"

    ซึ่งตามลักษณะของความรู้ ในทางวิชา วิทยาศาสตร์ เป็นการศึกษา ค้นคว้า และทดลอง ในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เพื่อให้ได้หลักฐาน และเหตุผล แล้วจัดเป็นหมวดหมู่ ลำดับ เพื่อให้ง่ายต่อการศึกษา และการเรียนรู้

    ส่วน ลักษณะของความรู้ใน ทางพุทธศาสนานั้น ก็เป็นการศึกษา ค้นคว้า และทดลอง อันเกี่ยวกับมนุษย์ และเกี่ยวข้องสัมพันธ์ กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จนเป็น หลักฐาน และเหตุผล แล้วจัดเป็นหมวดหมู่ ลำดับ เพื่อให้ง่ายต่อการเรียนรู้ และศึกษา
    แต่ศาสนาเกิดขึ้นก่อนวิชาวิทยาศาสตร์ และวิธีการศึกษานั้น ก็เป็นแม่แบบแห่งวิชาวิทยาศาสตร์ ฉะนี้
     
  2. ท้องฟ้าและแผ่นดิน

    ท้องฟ้าและแผ่นดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +127
    [​IMG] พุทธมีไว้เพื่อรู้แจ้ง
    วิทยาศาสตร์มีไว้เพื่อรู้แจ้ง
    พุทธรู้ได้จากการปฏบัติด้วยตน
    วิทยาศาสตร์รู้ได้จากการทดลอง
    พุทธจากความไม่รู้ไปสู่ความรู้
    วิทยาศาสตร์จากความสงสัยไปสู่ความรู้

    พุทธเกิดจากธรรม
    วิทยาศาตร์เกิดจากความสนใจ
    ธรรมคือความจริง
    วิทยาศาสตร์ก็สนใจในความจริง
    ธรรมคือทุกสิ่ง
    วิทยาศาสตร์ก็สนใจในทุกสิ่ง

    คุณอาจถามว่า
    วิทยาศาสตร์เชื่อเฉพาะสิ่งที่พิสูจน์ได้เท่านั้น

    พุทธเข้าใจวิทยาศาตร์
    สักวันหนึ่งวิทยาศาสตร์ก็จะรู้ว่า
    พุทธกับวิทยาศาสตร์
    ต่างกันแค่ห้วงเวลาและบุคคล
    แต่เหมือนกัน
    ในหนทาง

    และเมื่อวิทยาการแห่งวิทยาศาสตร์ไปถึง
    วิทยาศาตร์นั่นแหละ
    จะพิสูจน์ได้ว่า
    พุทธเป็นจริง
    เช่นเดียวกัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 05.jpg
      05.jpg
      ขนาดไฟล์:
      71 KB
      เปิดดู:
      150
  3. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
    การปฏิบัตตน
    กับการทดลอง ไม่แตกต่างกันดอกนะ คุณ
    พิจารณาดูเถิด
    และศาสนาพุทธ ก็ไม่ต้องรอให้ วิชาวิทยาศาสตร์มาพิสูจน์ ดอกขอรับ
    เพราะ ไม่ต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์ ก็พิสุจน์ได้ด้วยตัวเองแล้วว่า มีจริง เป็นจริง
    มีแต่ศาสนาเท่านั้น จะพิสูจน์ว่า ในหลักวิทยาศาสตร์ บางอย่าง บางเรื่อง เป็นจริง หรือไม่เท่านั้น
     
  4. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
    การปฏิบัติตน
    กับการทดลอง ไม่แตกต่างกันดอกนะ คุณ
    เพราะการปฏิบัติตน ก็เป็นการทดลองอย่างหนึ่ง ขอรับ พิจารณาดูให้ดี
    และศาสนาพุทธ ก็ไม่ต้องรอให้ วิชาวิทยาศาสตร์มาพิสูจน์ ดอกขอรับ
    เพราะ ไม่ต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์ ก็พิสุจน์ได้ด้วยตัวเองแล้วว่า มีจริง เป็นจริง
    มีแต่ศาสนาเท่านั้น จะพิสูจน์ว่า ในหลักวิทยาศาสตร์ บางอย่าง บางเรื่อง เป็นจริง หรือไม่เท่านั้น
     
  5. Greenshade

    Greenshade เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +103
    เทียบกันไม่ได้ เหมือนหยดนํ้า กับนํ้าในมหาสมุทธ
     
  6. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
    สิ่งที่เปรียบเทียบนั้น เปรียบเทียบ ในรูปลักษณะ ไม่ได้เปรียบเทียบ ที่วิชาการ ความรู้ นะคุณ
     
  7. โอซารัน

    โอซารัน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    873
    ค่าพลัง:
    +91

    ไม่ทราบว่า ฝ่ายไหนเป็นมหาสมุทร ฝ่ายไหนเป็นหยด น้ำ

    เหอๆ โปรดระบุ เพราะข้าพเจ้า หาประเด็นที่จะตอบให้ตรงไม่ได้

    ผมเห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ว่า ศาสตร์ทั้ง2นั้นไม่กินกันมากหรอก

    ดีไม่ดีเรื่องจิตวิทยา พุทธชนะวิทย์ขาดลอยเลย

    เพราะวิทย์สมัยนี้มีโทษมากกว่าคุณ
     
  8. Saint Telwada

    Saint Telwada สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2008
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +5
    ศาสนา เป็น แนวทาง เป็น แนวคิด เป็น ปรัชญา เป็นต้นกำเนิดสาขาวิชาต่างๆ
    บางคน หรือคนบางกลุ่ม คิดว่าพวกเขาไม่มีศาสนา ไม่ได้นับถือศาสนา แต่ความจริงแล้ว พวกเขาเหล่านั้น ได้รับการขัดเกลาทางศาสนาจากสังคมที่เขาร่วมอยู่ โดยที่พวกเขาไม่รู้ตัวว่า ศีลธรรมทางศาสนา ได้แทรกซึม เข้าไปในจิตใจของพวกเขา ทั้งๆที่ความจริงแล้ว ศีลธรรมเหล่านั้น ก็คือสิ่งที่มีอยู่ในตัวเขานั่นแหละ
     
  9. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
    ดังที่ได้กล่าวไปว่า หลักศีลธรรมทางศาสนา ล้วนมีอยู่ในตัวของแต่ละบุคคลอยู่แล้ว(หมายเอาเฉพาะมนุษย์) และศีลธรรมในตัวทุกคน ก็ล้วนต้องเกี่ยวข้อง ปฏิสัมพันธ์ กับสภาพสิ่งแวดล้อม อื่นๆ ที่มีอยู่ ไม่ว่าจะมีอยู่ตามปกติของโลก หรือถูกสร้างขึ้น ตามหลักวิชาการด้านต่างๆ ก็ตามแต่

    วิทยาศาสตร์ ก็เช่นกัน หลักวิชาศาสตร์ ก็เป็นสิ่งที่มีอยู่ตามธรรมชาติ เพียงแต่มนุษย์นำสิ่งเหล่านั้นมาผสมผสาน โดยหลักการสังเกต ด้วยเหตุ ด้วยผล แล้วจัดระเบียบให้เป็นหมวดหมู่ แล้วนำมาใช้ ซึ่งถ้าจะกล่าวถึงความแตกต่างกับศาสนาแล้ว ไม่มีเลย เพราะพฤติกรรมทางหลักการทางวิทยาศาสตร์นั้น เป็นเพียงแขนงวิชาหนึ่ง ในทางศาสนาเท่านั้น
    เหตุเพราะ หลักศีลธรรม ทางศาสนามีอยุ่ในตัวมนุษย์อยู่แล้วนั่นเอง
     
  10. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,705
    ค่าพลัง:
    +51,934
    *** วิทยาศาสตร์ กับ ศาสนศาสตร์ ****

    ต่างอยู่ภายใต้...หลักเดียวกัน
    คือ.... "หลักสัจจะธรรม"

    อยู่ที่การนำ ...หลักสัจจะธรรม ไปใช้ประโยชน์
    นักวิทยาศาสตร์....พยายาม ค้นคว้าความจริง... เพื่อประโยชน์สุขชั่วคราว สะดวก สะบาย
    พระพุทธเจ้า...พยายาม ค้นคว้าหาแก่นสารความจริง....เพื่อหาทางพ้นทุกข์ถาวร

    พระพุทธเจ้า...จึงค้นพบว่า "สัจจะธรรม" เป็นหลักเดียวสูงสุด
    ...ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน....
    พระพุทธเจ้า....จึงพยายามค้นหา "คำสอน"

    สุดท้าย...พระพุทธเจ้า พบว่า... "สัจจะ" คือ หนทางพ้นทุกข์ได้จริง
    เพราะ...สัจจะ สามารถนำมาใช้ขจัดกิเลสนิสัย ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดได้จริง


    วิทยาศาสตร์ กับ ศาสนศาสตร์...จึงเป็นเรื่องของเหตุผล
    หลักสัจจะธรรม....เป็นแก่นสารของเหตุผลทั้งมวล
    เพียงแต่...นักวิทยาศาสตร์ ยังไม่ได้ปฏิบัติเอง
    คือ... การทดลองฝึกฝนจิตใจตนเอง ด้วย "สัจจะ ขจัดกิเลสนิสัย"

    เมื่อ ปฏิบัติได้...ก็จะรู้ได้เอง
    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  11. หล่อลำน้ำ

    หล่อลำน้ำ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    487
    ค่าพลัง:
    +40
    ^
    ^

    คนบ้า คุยกับคนบ้า รู้เรื่องด้วย เท่ห์จริงๆ

    ศรีธัญญามีแยะ ร่างทรงองค์เทพ สีอาน มีเพียบครับพี่น้อง

    หึหึ
     
  12. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
    ธรรมชาติของคนทุกชนชั้น ทุกอาชีพ ล้วนได้รับการขัดเกลาทางสังคม เมื่อสังคมใด มีศาสนาใด คนในสังคมนั้นๆ ก็ย่อมได้รับการขัดเกลาทางศาสนาไปด้วย
    แต่ถึงแม้ว่า สังคมนั้นจะไม่มีศาสนา คนในสังคมนั้นๆ ก็ยังมีศ๊ลธรรม ทางศาสนาอยู่ในจิตใจ และสมอง ทั้งนี้ก็เพราะ หลักธรรม คำสอนทางศาสนา เป็นหลักความจริง ไม่ว่าคนเหล่านั้นในสังคมใดใด จะนับถือศาสนาหรือไม่ก็ตาม
    ผู้ประกอบอาชีพ ใดใด หรือผุ้สึกษา ค้นคว้า ในสาขาวิชาใดใดก็ตามแต่ ล้วนต้องอาศัย สภาพสภาวะจิตใจ อันเป็นหลักธรรมคำสอนทางศาสนา อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะมันเป็นธรรมชาติของมนุษย์(ในที่นี้หมายเอาเฉพาะมนุษย์) ธรรมชาติของมนุษย์หรือพฤติกรรมของมนุษย์ ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดใด หรือไม่ได้นับถือศาสนาใดใด ก็ล้วน ขึ้นอยู่กับปัจจัย หรือล้วนต้องมีพฤติกรรม ตามหลักธรรมคำสอนดังต่อไปนี้.-

    บุคคลใดใด ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดใดก็ตาม หรือไม่นับถือศาสนาใดใด ล้วนต้อง มี

    การครองเรือน , การให้ทาน

    ล้วนต้องมี

    การ กตัญญู รู้คุณ , การเจรจา หรือ ติดต่อสื่อสาร

    ล้วนต้องมี

    สรรพอาชีพ , การประพฤติ

    ล้วนต้องมี

    ระลึก คือความคิดถึงนึกถึง , ดำริ คือ ความคิด

    และหลักธรรมคำสอน ทั้ง 4 คู่ 8 ข้อนี้ ย่อมเป็นบรรทัดฐาน ในอันที่จะทำให้มนุษย์ มีการสังคมเป็นอยู่ร่วมกัน มีการศึกษาค้นคว้า ไม่ว่าจะเป็นหลักวิชาการใดใด ย่อมต้องอาศัยปัจจัยหรือเป็นไปตามหลักธรรมคำสอน ดังกล่าวข้างต้น

    ดังนั้น ศาสนา กับ วิทยาศาสตร์ ถ้าจะว่าไปแล้ว ย่อมไม่มีข้อแตกต่างจากกัน ในด้านการศึกษาค้นคว้า และวิธีการ
    แต่อาจจะแตกต่างกันในด้านองค์ความรุ้ ในบางเรื่องบางอย่าง ฉะนี้
     
  13. O๐.AnGle.๐O

    O๐.AnGle.๐O เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    974
    ค่าพลัง:
    +861
    จะ สื่อ อะไร กัน ครับ ??
     
  14. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
    ตอบ...
    อ่านแล้ว คงไม่เข้าใจ เพราะการเขียน กับการพูด จะแตกต่างจากกัน คิดแล้วพูด กับพุดแล้วเขียน กับเขียน และพูด มันไม่เหมือนกัน
    ความจริง แล้ว ข้าพเจ้าจะสื่อ ให้ ผู้ศรัทธาในศาสนาทั้งหลาย ได้เกิดข้อคิด ข้อเตือนใจ และทำให้เกิดความเข้าใจในทางที่ถูกต้องว่า
    พุทธศาสนา หรือ จะเป็นศาสนาใดใดก็ตาม ล้วน เป็นต้นแบบ ต้นกำเนิด ของวิชา วิทยาศาสตร์ ในที่นี้จะหมายเอาเฉพาะ "ศาสนาพุทธ"

    องค์ ความรุ้ ทางศาสนาพุทธ เป็นต้นกำเนิด เป็นแม่แบบ ของ วิชา วิทยาศาสตร์ หมายความว่า องค์ควานมรุ้ ทางพุทธศาสนานั้น เป็นหัวข้อหลักใหญ่ ส่วนองค์ความรู้ทางวิชาวิทยาศาสตร์เป็นรายละเอียด ขององค์ความรุ้ทางพุทธศาสนา
    ดังนั้น ผู้ศรัทธา ในพุทธศาสนา ควรได้เรียนรู้ หลักและวิธีการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อใช้เป็นปัจจัยประกอบในการปฏิบัติ ธรรม ประพฤติตามหลักธรรมคำสอน ไม่ใช่อ่านเพียงตัวหนังสือ แล้วไม่ศึกษาค้นคว้า คิดพิจารณา ให้เกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ ไม่คิดพิจารณาให้เป็นไปตามหลักความจริง อันสามารถพิสูจน์ได้ ว่าเป็นจริงมีจริง
    ทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นบุคคลากรทางศาสนา หรือวิทยากรทางศาสนา หรือผู้เกี่ยวข้องทางศาสนา ล้วนเข้าใจผิดในพุทธศาสนา โดยไม่คิดพิจารณา ตรวจสอบ ค้นคว้า ศึกษา เพื่อได้เข้าใจ และพิสุจน์ได้ด้วยตัวเองว่า มีจริง เป็นจริง ตามหลักความจริงของธรรมชาติ ไม่ได้สนใจตัวเอง ไม่รู้ว่าไปสนใจอะไร
    องค์ความรู้ ทางพุทธศาสนา นั้น เป็นหลักสภาพสภาวะจิตใจ เป็นหลักพฤติกรรม ทางภายในภายนอก อีกทั้งยังเกี่ยวข้องสัมพันธ์ กับ คน สัตว์ สิ่งของ ตามสังคมนั้นๆ
    องค์ ความรุ้ ทางวิชา วิทยาศาสตร์ นั้น ก็ต้องอาศัย สภาพสภาวะจิตใจ พฤติกรรม ทั้งภายในและนอกของตัวเอง และเกี่ยวข้องสัมพันธ์ กับ คนสัตว์ สิ่งของ ตามสังคมนั้นๆ เช่นกัน
    เพราะองค์ความรู้ทางพุทธศาสนา นั้น มีอยู่ใน เป็นธรรมชาติที่มีอยู่ใน ตัวมนุษย์ ทุกผู้ทุกนามอยู่แล้ว(ในที่นี้หมายเอาเฉพาะมนุษย์)
    หากบุคคลที่เกี่ยวข้องกับศาสนาที่ข้าพเจ้าได้กล่าวไป ได้เรียนรู้ ได้เข้าใจว่า หลักวิธีการพิจารณา ค้นคว้า ศึกษา ทางวิทยาศาสตร์ นั้น เป็นส่วนรายละเอียดของ องค์ความรู้ทางพุทธศาสนา ก็จะได้รู้และเข้าใจ ในอันที่ศึกษา ประพฤติ ปฏิบัติ ตามหลักธรรม คำสอน ศึกษา ค้นคว้า คิดพิจารณา ให้เป็นไปตามวิธีทางวิทยาศาสตร์ อันนี้หมายความว่า ปัจจุบัน และที่ผ่านมา ทุกคน ไม่เข้าใจว่า พุทธศาสนา เป็นต้นแบบ เป็นแม่แบบ ของวิชาวิทยาศาสตร์ และวิชาอื่นๆด้วย
    ส่วนในเรื่อง ขององค์ ความรู้นั้น ในที่นี้จะไม่อธิบาย แต่ให้ท่านทั้งหลายลองพิจารณาดูด้วยตัวเองซิว่า องค์ความรู้ ทางพุทธศาสนา เป็นต้นแบบ เป็นแม่แบบ เป็นหัวข้อหลัก ของ วิชาวิทยาศาสตร์ จริงหรือไม่
    อนึ่ง ต้องอย่าลืมว่า ศาสนา เกิดขึ้นก่อน วิชาวิทยาศาสตร์ หลายพัน ปี นะขอรับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...