เรื่องเด่น วิเคราะห์วิจัยและแยกแยะสภาพจิตตนเอง

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 28 พฤศจิกายน 2019.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,672
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,552
    ค่าพลัง:
    +26,393
    lp001.jpg

    วิเคราะห์วิจัยและแยกแยะสภาพจิตตนเอง

    การปฏิบัติเราต้องทำได้ทุกอิริยาบถ ทุกเวลา เพราะกิเลสไม่ได้เล่นงานเราเป็นเวลา แต่กิเลสเล่นงานเราตลอดเวลา ถ้าอยู่ในอิริยาบถอื่น ๆ ที่ไม่ใช่การนั่งภาวนา แล้วเราไม่สามารถจะระงับกิเลสได้ แปลว่าเรายังห่างไกลความดีอยู่มาก

    อย่างพวกเรานั่งฟังอาตมาอยู่ตอนนี้ อาจจะสงสัยว่าทำไมนิวรณ์ ๕ หรือว่ารัก โลภ โกรธ หลง ทำไมกินใจเราไม่ได้ ? เราต้องมานั่งวิจัยอารมณ์จิตตัวเองว่าเป็นเพราะอะไร ?

    เพราะเราได้ยินได้ฟังแต่สิ่งที่ดี ไม่ก่อให้เกิดรัก โลภ โกรธ หลง หรือเปล่า ? เพราะกำลังใจของเราคิดตามไปในสิ่งที่ดีทั้งหลายเหล่านั้น ไม่ไปข้องแวะในรัก โลภ โกรธ หลง หรือเปล่า ?

    ถ้าสามารถที่จะแยกแยะได้ว่าเป็นอย่างไร ต่อไปเราก็ทำเองแบบนั้น ในเมื่อเราทำเองได้แบบนั้น ต่อไปผลดีก็จะเกิดแบบนั้น

    เรื่องพวกนี้ พวกเราอ่อนมาก ขาดการวิเคราะห์วิจัยและแยกแยะสภาพจิตของตน ว่าสภาพจิตเราดีเพราะอะไร ? แล้วสภาพจิตไม่ดีเพราะอะไร ? ถ้าเราสามารถวิเคราะห์ได้ แยกแยะออก เราก็เว้นในสิ่งที่ไม่ดี แล้วก็เลือกทำแต่สิ่งที่ดี สภาพจิตก็จะเคยชินกับด้านดี

    ดีกับชั่วก็เหมือนกับคนแย่งกันนั่งเก้าอี้ เก้าอี้มีอยู่ตัวเดียว ถ้าดีนั่งได้ ชั่วก็นั่งไม่ได้ เมื่อสภาพจิตรับความดีเข้ามา ความชั่วก็เข้าไม่ได้

    ในส่วนนี้ ถ้าจัดอยู่ในโพชฌงค์ ๗ เขาเรียกว่า ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ คือ องค์คุณเป็นเครื่องตรัสรู้โดยการแยกแยะในธรรม

    ถ้าจัดอยู่ในมหาสติปัฏฐานสูตรก็เป็นส่วนของ เวทนาในเวทนา จิตในจิต และธรรมในธรรม

    ในเมื่อรู้ว่าเราบกพร่องตรงจุดไหน ? อ่อนตรงจุดไหน ? เราก็แก้ไขตรงจุดนั้น ถ้าเราเคยเล่นกีฬา เราจะรู้ว่าเรามีข้อบกพร่องตรงไหน

    สมัยก่อนอาตมาเล่นกีฬาแทบทุกชนิด มีกีฬาบางชนิด เช่น ปิงปองหรือแบดมินตัน อาตมาไปเจอคู่ต่อสู้เก่ง ๆ ชนิดที่ถูกเขาโยกจนหัวทิ่มหัวตำ อาตมาก็ต้องหาทางแก้ไขจุดอ่อนของตัวเอง และท้ายสุดก็ฝึกการใช้สองมือ สามารถใช้มือซ้ายได้เกือบเท่ามือขวา

    พอคู่ต่อสู้ตีลูกโยกมา คราวนี้ก็ไม่ต้องวิ่งมากแล้ว แค่ก้าวยาว ๆ ก้าวเดียวก็เปลี่ยนมือรับได้เลย เพราะฉะนั้น..ต้องรู้จักแก้ไขจุดบกพร่องตัวเอง ถ้าไม่รู้จักแก้ไข กี่ที ๆ มาท่านั้นก็ร่วงทุกที ถ้าอย่างนี้ ชาตินี้ปฏิบัติไปก็ไม่รู้จะเอาดีได้เมื่อไร

    ลีลาของกิเลสจะมาแค่ รัก โลภ โกรธ หลง ๔ อย่าง แต่แตกแขนงแยกย่อยออกไปเป็นหัวข้อนับไม่ถ้วน ถึงแม้ว่าเป็นวิชารัก ก็แยกออกไปไม่รู้ว่ากี่แขนง วิชาโลภ วิชาโกรธ วิชาหลง ก็นัยเดียวกัน เมื่อเป็นดังนั้น เราก็จำเป็นที่จะต้องแก้ไขจุดบกพร่องของตัวเองให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะไม่มีวันเอาชนะเขาได้เลย..!

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เดือนตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๓ ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ

    ที่มา : www.watthakhanun.com
    #๖๐ปีพระครูวิลาศกาญจนธรรม
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...