วิวัฒนาการของโลกและจักรวาล

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย อารยเมตตรัยพุทธเจ้า, 14 ธันวาคม 2004.

แท็ก: เพิ่มแท็ก
  1. อารยเมตตรัยพุทธเจ้า

    อารยเมตตรัยพุทธเจ้า บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    วิวัฒนาการของโลก(ธรรมจักรกัปวัฏสูตร)

    เมื่อโลกอุบัติขึ้นได้ 1,000,000 ปี หมายถึง กรงล้อแห่งจักรวาล หมุนครบ 1 รอบ
    ( กัป ) ดาวเคราะห์ทั้งหลายเริ่มเย็นลง ผู้เฒ่าศักดิ์สิทธิ์ (องค์อินทร์)ได้เนรมิต ธารน้ำแข็งไว้ที่ขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ เพื่อให้โลกเย็นลงอีก จนน้ำแข็งละลายกลายเป็นทะเลเพลิง น้ำทะเลที่ห่อหุ้มโลกไว้ได้เดือดระเหยกลายเป็นไอน้ำขึ้นไปบนอากาศ พร้อมกับกลุ่มควันที่พวยพุ่งขึ้นกลายเป็นชั้นบรรยากาศ หลังจากนั้นทุก ๆ 1 กัป ผู้เฒ่าศักดิ์สิทธิ์(องค์อินทร์) กำหนดจิต เนรมิตธารน้ำแข็งไว้ที่ขั้วโลก ธารน้ำแข็งที่เนรมิตไว้ล้วนละลายกลายเป็นทะเล และระเหยกลับขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ทำให้ชั้นบรรยากาศหนาแน่นขึ้น จนกระทั่งเวลาผ่านไป 3,000 กัป (3,000 ล้านปี) โลกเย็นลงมาก ธารน้ำแข็งที่เนรมิตไว้ละลายจนเกิดน้ำทะเลท่วมโลกทั้งโลกไว้ อีกทั้งน้ำทะเลที่ท่วมโลกถูกเผาผลาญด้วยความร้อนจากภายในโลก และความร้อนจากดวงอาทิตย์ ระเหยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศมีความหนาแน่นสูงมากขึ้น กลั่นตัวเป็นหยดน้ำบังเกิดเป็นฝน ตกลงสู่พื้นน้ำที่ห่อหุ้มโลกไว้ ณ บัดนั้นผู้เฒ่าศักดิ์สิทธิ์ (องค์อินทร์)ไม่จำเป็นต้องเนรมิตธารน้ำแข็งไว้ที่ขั้วโลกอีกต่อไป หลังจากนั้นกรงล้อแห่งจักรวาลได้หมุนต่อไปอีก 2,000 รอบ ( 2,000 กัป) น้ำทะเลที่ท่วมโลกอยู่เริ่มเหือดแห้งลง บังเกิดเป็นพื้นพสุธาขึ้นมา นั่นหมายถึงว่าบังเกิดพื้นพสุธาขึ้นมาภายหลังจากอุบัติโลกและจักรวาลขึ้น 5,000 ล้านปี(5,000 กัป)นั่นเอง เริ่มแรกทั่วทั้งโลกประกอบด้วยกลุ่มแก๊ส ปราศจากของแข็ง หลังจากกำหนด (เนรมิต) ธารน้ำแข็งที่ขั้วโลก ทุกโลก ทุกจักรวาล จนบังเกิดทะเลห่อหุ้มโลก หมายถึง ดาวเคราะห์ทุกดวง ในมหาสากลจักรวาล ภายหลังจากนั้นกลุ่มแก๊สจึงเริ่มเย็นตัวลงปรากฏเป็นของแข็งคือภูเขา และพื้นพสุธาขึ้นมา (พุทธวจนะ และ อธิปัญญา วัตถุประสงค์ของพระผู้สร้างในการสร้าง ดวงอาทิตย์ คือ ต้องการสร้างโลก ที่มีแสงในตัวเองเพื่อให้ความสว่างแก่โลกของพระผู้สร้างเองและจักรวาล แต่สิ่งที่ตามมาคือ ความร้อนที่มากมายมหาศาล จึงได้กำหนดให้ดวงอาทิตย์ทุกดวงที่อุบัติขึ้น หมุนเข้าหาโลกของพระผู้สร้าง ด้วยความมุ่งหวังว่าจะทำให้จักรวาลและโลกของพระผู้สร้างเย็นลงแต่พลังความร้อนหาลดลงไม่ จึงได้คิดที่จะสร้างโลกที่ไม่มีแสงในตัวเอง ไม่มีความร้อน โดยมีต้นแบบจากโลกของพระผู้สร้าง ก็คือดาวเคราะห์ ทุก ๆ ดวง ทุกวงโคจร แต่ผลที่เกิดขึ้นดาวเคราะห์ทุก ๆ ดวง ในทุกๆวงโคจรที่อุบัติขึ้น ล้วนถูกเผาผลาญด้วยพลังความร้อนจากดวงอาทิตย์ จนกระทั่งกลายเป็นกลุ่มแก๊สทั้งสิ้น) ภายหลังจากสร้างดาวเคราะห์ครบ 7 วงโคจร โดยแต่ละวงโคจร ยึดโยงกันเป็นวงกลมด้วยความสัมพันธ์ระหว่างแรงดึงดูดของขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ของดวงดาว หมายถึง ดวงอาทิตย์และดาวเคราะห์ทุกดวง ซึ่งอุบัติขึ้นล้วนแล้วแต่มีขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ ในวงโคจรเดียวกันยึดโยงกันแรงดึงดูดของสนามแม่เหล็กจากขั้วโลกเหนือของจักรวาลหนึ่ง กับแรงดึงดูดของสนามแม่เหล็กจากขั้วโลกใต้ของจักรวาลซึ่งอยู่ถัดไป ยึดโยงกันเป็นวงกลม และไขว้ประสานกันด้วยแรงผลักจากขั้วแม่เหล็กซึ่งเหมือนกันระหว่างวงโคจรซึ่งอยู่ถัดออกไป ดึงดูดกันในแนวทแยงผลักกันในแนวตรง ยึดโยงกันไว้เปรียบเสมือนแขนที่แข็งแกร่งไขว้ประสานกันอยู่ ยึดโยงดาวเคราะห์ทุกดวงรวมทั้งดวงอาทิตย์ซึ่งกอรปขึ้นเป็นสากลจักรวาล(กาแลกซี่) สัมพันธ์กันทั้ง 10,000 สากลจักรวาล ทั่วทั้งมหาสากลจักรวาล ยึดโยงกันไว้ด้วยแรงดึงดูด และแรงผลัก ของสนามแม่เหล็กจากขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ของทุกจักรวาล ทั้งสากลจักรวาล ทั่วทั้งมหาสากลจักรวาล มิอาจแยกจากกันได้ นำพาโลกของพระผู้สร้างซึ่งอยู่ใจกลางของจักรวาลให้หมุนตามกัน เป็นกรงล้อแห่งจักรวาล หรือธรรมจักรนั่นเอง นั่นหมายถึงว่าดาวเคราะห์ทุกดวงซึ่งอุบัติขึ้นมาพร้อมเพรียงกันทั้ง 10,000 ดวง ในแต่ละวงโคจรตั้งแต่วงโคจรที่ 1 ถึงวงโคจรที่ 7 ล้วนยึดโยงกัน และหมุนตามกันคือหมุนเข้าหาโลกของพระผู้สร้าง แต่ไม่สามารถทำให้โลกของพระผู้สร้างและจักรวาลเย็นลงได้ จึงมีความคิดที่จะทำให้ดาวเคราะห์ทุกดวง รวมทั้งดวงอาทิตย์ทุกดวงทั้ง 10,000 ดวง ที่ทรงสร้างขึ้นหมุนไปในแนวนอน(แนวระนาบ) องค์ศิวะเทพ จึงกำหนดจิต(เนรมิต)อุบัติดาวเคราะห์วงโคจรที่ 8 ขึ้นมา แต่อุบัติเพียง 2 จักรวาล คือสากลจักรวาลที่ 1 และสากลจักรวาลที่ 10,000 ยึดโยงกันในวงโคจรและสัมพันธ์กับขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ของวงโคจรที่ 7 แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนั้นคือ สมดุล คือจักรวาลไม่หมุน หมุนรอบตัวเองอย่างเดียวโดยมีทิศทางชี้เข้าหาโลกของพระผู้สร้าง ดังแผนภูมิอธิบายความสัมพันธ์ของจักรวาลที่ข้าพเจ้าได้อรรถาธิบายไว้แล้ว ภายหลังจากนั้นจึงอุบัติดาวเคราะห์วงโคจรที่ 9 ขึ้นมาแต่อุบัติเพียงหนึ่งสากลจักรวาล คือสากลจักรวาลที่ 1 เท่านั้น ทำให้ขั้วโลกเหนือของดาวพลูโตของสากลจักรวาลที่ 1 ดึงดูดกับขั้วโลกใต้ของดาวเนปจูนของจักรวาลที่ 10,000 แต่ขั้วโลกใต้ของดาวพลูโตอยู่ห่างจากขั้วโลกเหนือของดาวยูเรนัสในสากลจักรวาลที่ 2 มากกว่า อีกทั้งการยึดโยงกันในสากลจักรวาลยังคงเป็นเช่นเดิม แรงดึงดูดระหว่างขั้วโลกเหนือของดาวพลูโตในสากลจักรวาลที่ 1 กับขั้วโลกใต้ของดาวเนปจูนในสากลจักรวาลที่ 10,000 มีมากกว่าแรงดึงดูดระหว่างขั้วโลกใต้ของดาวพลูโตในสากลจักรวาลที่ 1 และขั้วโลกเหนือของดาวยูเรนัสในสากลจักรวาลที่ 2 จึงทำให้เกิดแรงสะบัดเหมือนแรงสะบัดของมอเตอร์ไฟฟ้าเมื่อตอนเริ่มหมุน ทำให้ทั้งมหาสากลจักรวาลเริ่มหมุน โดยหมุนตามกันเวียนขวาในแนวระนาบตามแรงดึงดูดระหว่างขั้วโลกเหนือของดาวพลูโตในสากลจักรวาลที่ หนึ่ง และขั้วโลกใต้ของดาวเนปจูนในสากลจักรวาลที่ 10,000 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมากรงล้อแห่งจักรวาลเริ่มหมุน โดยนำพาโลกของพระผู้สร้างหมุนตามกันไปด้วย ทั่วทั้งมหาสากลจักรวาลเริ่มเย็นลงมีการเคลื่อนไหวในสองแนว คือ แนวตั้ง ดาวฤกษ์และดาวเคราะห์ทุกดวงหมุนรอบตัวเองมีทิศทางชี้ไปทางโลกของพระผู้สร้าง และหมุนตามกันใน แนวระนาบ ตามแรงดึงดูดของดาวเคราะห์สองดวงคือ ดาวพลูโตในสากลจักรวาลที่ 1 และดาวเนปจูนในสากลจักรวาลที่ 10,000 นั่นเอง ในการเริ่มหมุนของกรงล้อแห่งจักรวาลในครั้งนั้น แรงสะบัดเป็นเหตุให้กลุ่มแก๊สซึ่งกอรปกันขึ้นเป็นดาวฤกษ์ คือดวงอาทิตย์ ได้หลุดออกจากดวงอาทิตย์ทั้ง 10,000 ดวง บังเกิดเป็นหลุมดำขึ้นที่ดวงอาทิตย์ทุกดวง ส่วนที่หลุดออกไปกลายเป็นดวงดาวระยิบระยับอยู่บนท้องฟ้าในยามราตรี ล้วนบังเกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ หลุมดำบนดวงอาทิตย์จักไม่เพิ่มขึ้น ดวงอาทิตย์จักอยู่คู่จักรวาลไปตลอดกาล อีกทั้งการสะบัดตัวของกรงล้อแห่งจักรวาลในครั้งนั้น เป็นเหตุให้ดาวเคราะห์ทุกดวง ทุกวงโคจรซึ่ง กอรปด้วยกลุ่มแก๊สเฉกเช่นกัน หลุดออกจากตัวดาวเคราะห์ กลายเป็นดวงจันทร์หมุนรอบดาวเคราะห์แต่ละดวง โลกทุกโลกทั้ง 10,000 จักรวาลล้วน กอรปด้วยดวงจันทร์เพียงหนึ่งดวง ให้แสงสว่างในยามค่ำคืน ล้วนบังเกิดขึ้นด้วยความบังเอิญและจงใจให้เป็นเช่นนี้ เนื่องเพราะการหมุนรอบตัวเอง และหมุนรอบโลกของดวงจันทร์ ล้วนใช้บอกวันเวลา หมุนรอบโลกใช้เวลาหนึ่งเดือน หมุนรอบตัวเองทำให้เกิด ข้างขึ้น-ข้างแรม แรงดึงดูดระหว่างโลกและดวงจันทร์ทำให้เกิดน้ำขึ้น-น้ำลง นั่นหมายถึงว่าการอุบัติขึ้นของโลกและจักรวาล ล้วนอุบัติขึ้นด้วยความจงใจให้บังเกิดขึ้น ซึ่งดูเหมือนกับการบังเอิญการกำหนดการนับวันเวลา โลกหมุนรอบตัวเองใช้เวลา 1 วัน ดวงจันทร์หมุนรอบโลกใช้เวลา 1 เดือนล้วนถูกกำหนดขึ้น เพียงแต่นักวิทยาศาสตร์ครุ่นคิดว่าโลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ใช้เวลา 1 ปี ความจริงแล้วหาเป็นเช่นนั้นไม่ โลกมิได้หมุนรอบดวงอาทิตย์ หากเพียงแต่ว่านำพาทั้งมหาสากลจักรวาลหมุนตามกันในแนวระนาบ โดยแบ่งคาบแห่งกาลเวลาออกเป็นส่วน ๆ กรงล้อแห่งจักรวาลหมุน 1 รอบ ใช้เวลา 1,000,000 ปี (หนึ่งกัป)หากนับเป็นศตวรรษ กอรปด้วย 10,000 ศตวรรษ หรือ
     
    อารยเมตตรัยพุทธเจ้า, 14 ธันวาคม 2004

    #1
  2. NiNe

    NiNe บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ฮะฮะฮ่า
     
    NiNe, 20 ธันวาคม 2004

    #2
  3. NiNe

    NiNe บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ยำใหญ่ใส่สาระพัด
     
    NiNe, 21 ธันวาคม 2004

    #3
  4. YoKee

    YoKee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2005
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +225
    5555

    เล่นอะไรกันเนี่ย
     
    YoKee, 16 กุมภาพันธ์ 2005

    #4
  5. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998

    มาใหม่เหรอ นี่ ไม่รู้อะไร เขาประลองฤทธิ์ผ่าน เว็บพลังจิตกัน บ่อยมาก อันนี้คู่ล่าสุด (b-malang)
     
    Kamen rider, 16 กุมภาพันธ์ 2005

    #5
  6. ดาวหางสีเงิน

    ดาวหางสีเงิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2005
    โพสต์:
    726
    ค่าพลัง:
    +795
    555 พี่เขมนก็ไปแซวเค้า
    เออว่าแต่... มวยคู่ล่าสุดที่ชกกันไปเมื่อเดือนที่แล้วนี่เสมอกันหรือยังไงครับเนี่ย
     
    ดาวหางสีเงิน, 17 กุมภาพันธ์ 2005

    #6
  7. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    ปู่แกถอย ไปรักษาตัว [b-nurse] น่าฉงฉาน
     
    Kamen rider, 17 กุมภาพันธ์ 2005

    #7
  8. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=740 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>แม่ไม้มวยไทย ๑๕ ไม้
    [​IMG] สลับฟันปลา
    [​IMG] ปักษาแหวกรัง
    [​IMG] ชวาซัดหอก
    [​IMG] อิเหนาแทงกริช
    [​IMG] ยอเขาพระสุเมรุ
    [​IMG] ตาเถรค้ำฝัก
    [​IMG] มอญยันหลัก
    [​IMG] ปักลูกทอย
    [​IMG] จระเข้ฟาดหาง
    [​IMG] หักงวงไอยรา
    [​IMG] นาคาบิดหาง
    [​IMG] วิรุฬหกกลับ
    [​IMG] ดับชวาลา
    [​IMG] ขุนยักษ์จับลิง
    [​IMG] หักคอเอราวัณ

    [​IMG] ลูกไม้มวยไทย ๑๕ ไม้
    [​IMG] เอราวัณเสยงา
    [​IMG] บาทาลูบพักตร์
    [​IMG] ขุนยักษ์พานาง
    [​IMG] พระรามน้าวศร
    [​IMG] ไกรสรข้ามห้วย
    [​IMG] กวางเหลียวหลัง
    [​IMG] หิรัญม้วนแผ่นดิน
    [​IMG] นาคมุดบาดาล
    [​IMG] หนุมานถวายแหวน
    [​IMG] ญวณทอดแห
    [​IMG] ทะแยค้ำเสา
    [​IMG] หงส์ปีกหัก
    [​IMG] สักพวงมาลัย
    [​IMG] เถรกวาดลาน
    [​IMG] ฝานลูกบวบ

    [​IMG] กลมวยแก้หมัด ๒๙ กล
    [​IMG] สลับฟันปลา
    [​IMG] ปักษาแหวกรัง
    [​IMG] ชวาชัดหอก
    [​IMG] อิเหนาแทงกริช
    [​IMG] ยอเขาพระสุเมรุ
    [​IMG] ตาเถรค้ำฝัก
    [​IMG] มอญยันหลัก
    [​IMG] ขุนศึกตีทวน
    [​IMG] ดับชวาลา
    [​IMG] หนูไต่ราว
    [​IMG] เอราวัณเสยงา
    [​IMG] หนุมานถวยแหวน
    [​IMG] หงส์ปีกหัก
    [​IMG] สักพวงมาลัย
    [​IMG] ฝานลูกบวบ
    [​IMG] ปิดปกชกด้วยศอก
    [​IMG] สวนทวน
    [​IMG] คลื่นกระทบฝั่ง
    [​IMG] บาทาลูบพักตร์
    [​IMG] ขุนยักษ์พานาง
    [​IMG] พระรามจองถนน
    [​IMG] นารายณ์บั่นเศียร
    [​IMG] ลูกคางจับหมัด
    [​IMG] รักแร้หักแขน
    [​IMG] ศอกท้ายทอย
    [​IMG] นารายณ์ขว้างจักร
    [​IMG] ล้มขุนทวน
    [​IMG] หนุมานหักด่าน
    [​IMG] จระเข้ฟาดหาง

    </TD><TD> </TD><TD width=1 background=Images/lineblack2.gif>[​IMG]</TD><TD> </TD><TD vAlign=top>[​IMG] เชิงศอก ๒๔ เชิง
    [​IMG] พุ่งหอก
    [​IMG] ศอกฝานหน้า
    [​IMG] พร้ายายแก่
    [​IMG] แง่ลูกคาง
    [​IMG] ถางป่า
    [​IMG] ฟ้าลั่น
    [​IMG] ยันพยัคฆ์
    [​IMG] จักรนารายณ์
    [​IMG] ทรายเหลียวหลัง
    [​IMG] กวางสบัดหน้า
    [​IMG] คชาตกมัน
    [​IMG] พสุธาสะท้าน
    [​IMG] ยันโยธี
    [​IMG] อัคคีส่องแสง
    [​IMG] กำแพงภูผา
    [​IMG] นาคาคาบหาง
    [​IMG] ช้างประสานงา
    [​IMG] สู่แดนนาคา
    [​IMG] โยธาเคลื่อนทัพ
    [​IMG] ยันสองกร
    [​IMG] ฆ้อนตีทั่ง
    [​IMG] ขว้างพสุธา
    [​IMG] ฤาษีบดยา
    [​IMG] นาคาเคลื่อนกาย

    [​IMG] เชิงเท้า ๑๕ เชิง
    [​IMG] เปิดทวาร
    [​IMG] ลงดานประตู
    [​IMG] กระทู้ขรัวตา
    [​IMG] โยธาสินธพ
    [​IMG] มานพเล่นขา
    [​IMG] มัจฉาเล่นหาง
    [​IMG] กวางเล่นโป่ง
    [​IMG] ณรงค์พยุหบาท
    [​IMG] จระเข้ฟาดหาง
    [​IMG] กินรีเล่นน้ำ
    [​IMG] ตามด้วยแข้ง
    [​IMG] แปลงอินทรีย์
    [​IMG] พาชีสะบัดย่าง
    [​IMG] นางสลับบาท
    [​IMG] กวาดธรณี

    [​IMG] กลมวยแก้เท้า ๒๓ กล
    [​IMG] ปักลูกทอย
    [​IMG] นาคาบิดหาง
    [​IMG] หักงวงไอยรา
    [​IMG] วิรุฬหกกลับ
    [​IMG] ไกรสรข้ามห้วย
    [​IMG] หิรัญม้วนแผ่นดิน
    [​IMG] นาคมุดบาดาล
    [​IMG] ทะแยค้ำเสา
    [​IMG] ฤาษีเหิร
    [​IMG] พระรามเดินดง
    [​IMG] บรรณพตถล่ม
    [​IMG] นางมลโทนั่งแท่น
    [​IMG] รัดงวงเอราวัณ
    [​IMG] ยันรุกขมูล
    [​IMG] โค่นรุกขมูล
    [​IMG] นางมลโทนั่งตัก
    [​IMG] หักเหล็กเพชร
    [​IMG] หนุมานฟาดกุมภัณฑ์
    [​IMG] ลิงพลิ้ว
    [​IMG] ญวนทอดแห
    [​IMG] ขุนศึกตีทวน
    [​IMG] กวาดมาร
    [​IMG] หนุมานแบกแข้ง

    </TD><TD> </TD><TD width=1 background=Images/lineblack2.gif>[​IMG]</TD><TD> </TD><TD vAlign=top>[​IMG] เชิงหมัด ๑๕ เชิง
    [​IMG] กาจิกไข่
    [​IMG] พระพรายล้มสิงขร
    [​IMG] วานรหักด่าน
    [​IMG] พระกาฬเปิดโลก
    [​IMG] โขกนาสา
    [​IMG] อินทราขว้างจักร
    [​IMG] พระลักษณ์ห้ามพล
    [​IMG] ผจญช้างสาร
    [​IMG] หนุมานถวายแหวน
    [​IMG] ล่วงแดนเหรา
    [​IMG] นาคาพ่นไฟกาฬ
    [​IMG] หักด่านล่มกรด
    [​IMG] องคตพระขรรค์
    [​IMG] ฤาษีลืมญาณ
    [​IMG] หนุมานจองถนน

    [​IMG] เชิงเข่า ๑๑ เชิง
    [​IMG] กุมภัณฑ์พุ่งหอก
    [​IMG] หยอกนาง
    [​IMG] เชยคาง
    [​IMG] พรางศัตรู
    [​IMG] งูไล่ตู๊กแก
    [​IMG] ตาแก่ตีชุด
    [​IMG] หยุดโยธา
    [​IMG] ภูผาสะท้าน
    [​IMG] หักคอช้างเอราวัณ
    [​IMG] ดั้นภูผา
    [​IMG] ศิลากระทบ


    [​IMG] กลมวยจู่โจม ๒๓ กล
    [​IMG] หักคอไอยรา
    [​IMG] ขุนยักษ์จับลิง
    [​IMG] กวางเหลียวหลัง
    [​IMG] ตะลบขึ้น
    [​IMG] อีกาฉีกรัง
    [​IMG] ตะลบลง
    [​IMG] หนุมานแหวกฟอง
    [​IMG] นกคุ้มเข้ารัง
    [​IMG] ฤาษีมุดสระ
    [​IMG] หนุมานทะยาน
    [​IMG] หักคอเอราวัณ
    [​IMG] ตะเพียนแฝงตอ
    [​IMG] จระเข้ฟาดหาง
    [​IMG] ยันเอราวัณ
    [​IMG] เถรกวาดลาน
    [​IMG] พระรามตีทัพ
    [​IMG] พระรามสะกดทัพ
    [​IMG] บั่นเศียรทศกัณฐ์
    [​IMG] ขว้างจักรนารายณ์
    [​IMG] พระรามเหยียบลงกา
    [​IMG] รามสูรขว้างขวาน
    [​IMG] หนุมานข้ามลงกา
    [​IMG] นารายณ์ข้ามสมุทร

    [​IMG] กลแก้เท้า ๓ กล
    [​IMG] พลิกแผ่นดิน
    [​IMG] กังหันต้องลม
    [​IMG] เบนสุเมรุ

    [​IMG] กลแก้ศอก ๔ กล
    [​IMG] พระรามน้าวศร
    [​IMG] พระรามหักศร
    [​IMG] พระรามฟาดศร
    [​IMG] พระรามยันศร

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    Kamen rider, 17 กุมภาพันธ์ 2005

    #8
  9. undeath13

    undeath13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    1,479
    ค่าพลัง:
    +1,830
    ขี้เกียจอ่านว่ะ ไร้สาระ เอาเวลาไปขี้ดีกว่า ตู ~_~


    ปล. สรุป น่ะสะกดเปนมะ - -* รึทั่นอารยเมตตรัย เจ้าของกระทู้ นั่นไม่ไกด้จบม.ต้น เรียน การย่อความ มาคับ - -
     
    undeath13, 18 กุมภาพันธ์ 2005

    #9

แชร์หน้านี้

Loading...