วิปัสสนา..พักใจเถลิงศกปีใหม่ 2550

'วิปัสสนา..พักใจ'เถลิงศกปีใหม่ 2550

วิปัสสนา...พักใจ เถลิงศกปีใหม่ 2550

​

เจองานหนักมาตลอดทั้งปี ไม่แปลกที่ชุดวันหยุดยาวของเหล่าชาวกรุงอาจจะถูกจับจองจากแหล่งเที่ยว เพื่อพักผ่อนหย่อนใจไกลๆ

ใครขี้เกียจเหนื่อยเดินทางไกล ลองเปลี่ยนใหม่พาใจไป "พัก" กันดูดีมั้ย ?! ไม่ไกลไปไม่ยาก "เข้าวัด ปฏิบัติธรรม" ในกรุงนี่แหละ

แหล่งฟอกใจใกล้กรุง

ท่านพระครูเกษมธรรมทัต วัดมเหยงค์ จ.พระนครศรีอยุธยา, หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี, พระอาจารย์ธัมมานันทมหาเถระ วัดท่ามะโอ จ.ลำปาง... ฯลฯ

นอกเหนือจากสารพัดวัดเกจิอาจารย์ดัง ที่กระจัดกระจายตามจังหวัดต่างๆ แล้ว หากถามถึงแหล่งปฏิบัติธรรมสำหรับเหล่าชาวกรุงลูกศิษย์แม่ชีศันสนีย์ ก็คงจะหนีไม่พ้น "เสถียรธรรมสถาน" ซอยวัชรพล รามอินทรา 55

ด้วยจุดเด่นเรื่องสถานที่ที่เป็นสวนป่ากลางเมือง ก่อให้เกิดความร่มรื่นล้อมกั้นความวุ่นวายเอาไว้ภายนอก เสถียรธรรมสถานจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ตั้งใจอยากทำจิต ทำสมาธิให้นิ่ง แถมกล่อมเกลาจิตใจด้วยบทธรรมะทันสมัยสไตล์แม่ชีศันสนีย์ที่ทำให้ไม่ว่าใครก็ สามารถลิงก์เรื่องราวในโลกธรรมะเข้าสู่โลกปัจจุบันได้ไม่ยาก

ว่ากันว่า ผู้ร่วมสมัครปฏิบัติธรรมแบบค้างคืนมีไม่ต่ำกว่ารอบละ 200 คน ซึ่งในช่วงชุดวันหยุดยาวมียอดลงทะเบียนแล้วกว่า 300 คน !!!

ที่น่าสนใจคือ วัยตั้งแต่ 19-30 ปีขึ้นไป เป็นกลุ่มนักศึกษาและคนรุ่นใหม่วัยทำงาน เป็นกลุ่มใหญ่มากที่สุด มียอดถึง 40 เปอร์เซ็นต์ !!!

โดยกิจกรรมรับปีใหม่ 29 ธ.ค.49-1 ม.ค.50 พบกับ "ชีวิตผ่องใส ที่ใครๆ ปรารถนาดี" โปรแกรมคร่าวๆ เริ่มตั้งแต่เย็นวันศุกร์

ปฐมนิเทศและฟังธรรมช่วงแรกโดย แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต รุ่งขึ้นตี 4 ทำวัตรเช้า มีสอนโยคะ ทำสมาธิตี 5-6 โมง ตอนบ่ายพาเดินจงกรม เจริญภาวนา ทำสมาธิ ฯลฯ ทุกวันก็มีกิจกรรมทำวัตรสวดมนต์เช้าตั้งแต่ 9 โมงเช้า-10 โมง และทำวัตรเย็น 6 โมงเย็น-ทุ่มตรง (คลิกอ่านรายละเอียดแบบเต็มๆ พร้อมดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.sdsweb.org/th)

นอกจากนี้ ยังมีสถานปฏิบัติธรรมสายคุณแม่สิริ กรินชัย ซึ่งถือเป็นแหล่งปฏิบัติธรรมยอดฮิตอีกแห่งหนึ่ง รู้จักกันดีในชื่อย่อๆ ว่า "ยุวพุทธ" หรือ "ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์" ซ.เพชรเกษม 54

ล่าสุดกับโปรแกรมปฏิบัติธรรม "เสริมมงคลชีวิตประสิทธิ์พรปีใหม่" 31 ธ.ค.49-1 ม.ค.50 ฝึกสมาทานศีล และฟังธรรมบรรยายเรื่อง "พรหมวิหาร 4 พรดีเสริมมงคลชีวิต" โดยพระพรหมโมลี วัดพิชยญาติการาม, ปฏิบัติธรรมเดินจงกรม-นั่งสมาธิ นำโดยคณะวิทยากร

ยุวพุทธ, ปิดท้ายด้วยธรรมบรรยายเรื่อง "พัฒนาจิตอย่างไรให้เป็นสุข" โดยพระมหาบุญช่วย ปัญญาวชิโร วัดบางยี่ขัน ฯลฯ (รายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.ybat.org)

วิชิต เที่ยงธรรม หัวหน้าฝ่ายกิจกรรมแห่งยุวพุทธ เล่าให้ฟังว่า

ยุวพุทธก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2535 ซึ่งที่ผ่านมามีลูกศิษย์ลูกหาสนใจปฏิบัติธรรมไม่ต่ำกว่าปีละ 10,000 คน !!!

"บางคนมาแล้วก็มาอีก แต่ถ้ามาแล้ว 3 ครั้งทางเราก็จะให้โอกาสคนที่ยังไม่เคยมาบ้าง เพราะสถานที่มีจำกัดสำหรับคนที่สามารถปฏิบัติได้เอง แล้วอยากฝึกปฏิบัติต่อเนื่องเพื่อยกระดับธรรมขึ้นไปอีกก็มีศูนย์ ยุวพุทธที่ปทุมธานี ชุมพร นอกจากนี้ยังมีที่พระนครศรีอยุธยา และระยอง ซึ่งอยู่ในช่วงการก่อสร้าง"

สำหรับเนื้อหากิจกรรม เบื้องต้นจะปูความรู้เรื่องทางพระพุทธศาสนา กฎแห่งกรรม เรื่องบาปบุญคุณโทษ ความกตัญญู การทำบุญ โดยเชื่อว่าผลที่ตามมาหลังจากฝึกปฏิบัติธรรม ก็คือเรื่องของสมาธิ

"หลายคนว่ามาแล้วมีสมาธิมากขึ้น ใจเย็นขึ้น สามารถกำหนดความรู้คิด คิดก่อนพูด อะไรถูกผิด บางคนก็ถือโอกาสนี้เลิกเหล้าเลิกบุหรี่ไปด้วยเลย หรืออย่างบางคนพ่อแม่จ้างมา ก็เลยมา แต่พอฝึกจบ ได้ผลก็กลับบ้านไปคืนเงินพ่อแม่ก็มี หรือแม้แต่ดารานักร้องดังๆ ก็เคยมาปฏิบัติธรรม อาทิ แอน-สิเรียม, มะลิวัลย์, ใหม่ เจริญปุระ และเบนซ์-พรชิตา ณ สงขลา ฯลฯ"

คนรุ่นใหม่ ไม่ไกลวัด

"บุ๋ม-นิธิวรรณ ฟักสุวรรณ์" สาวพี.อาร์.หน้าใสวัย 26 ปีแห่งพับบลิคฮิต เป็นอีกหนึ่งคนรุ่นใหม่ที่เลือกปลีกเวลาจากงานยุ่งๆ หลบไปฟอกใจในค่ายยุวพุทธ เธอเล่าที่มาที่ไปให้ฟังว่า ความคิดเรื่องเข้าวัดปฏิบัติธรรมมีมานานแล้ว แต่ก็เพิ่งมีโอกาส...

"เริ่มต้นจากที่ได้อ่านหนังสือเข็มทิศชีวิต ของฐิตินาถ ณ พัทลุง ซึ่งเขาก็มาฟื้นฟูจิตใจที่นี่ เราก็รู้สึกว่าเจ๋ง แล้วพี่ที่ทำงานก็เคยไปมาแล้ว เขาก็เล่าให้ฟังว่า ดี ที่สำคัญคือเหมาะกับช่วงเวลางานว่าง ลงตัวพอดี ในที่สุดก็เลยได้ไปปฏิบัติธรรมรวมเวลา 8 วัน 7 คืน"

...ตั้งแต่ตอนเราเรียนจบจนทำงานก็รู้สึกว่าตัวเองงานยุ่ง วุ่นทำงานตลอด เครียดง่าย มีเรื่องนิดๆ หน่อยๆ ก็โกรธ บางวันเจอมาหลายๆ เรื่อง แค่คนเดินแซงยังโกรธเลย หรือบางทีโกรธกับแฟน มาเจอเรื่องงานอีก มันเหนื่อย ไม่มีอะไรยึดเหนี่ยวจิตใจ เรียกว่าเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่พอโดนกดดันก็พร้อมสติแตกได้ง่ายๆ ซึ่งเราก็ไม่อยากโกรธ ไม่อยากเป็นอย่างนั้น การปฏิบัติธรรมเป็นการฝึกให้เราตามใจตัวเองทัน เพราะเมื่อใดเรามีสติ ไม่ทำตามอารมณ์ ปัญหาทุกเรื่องก็จะผ่านไปได้...

"ระหว่างปฏิบัติธรรม บอกตามตรงก็มีง่วงบ้างนะ ซึ่งถ้าเรา จิตนิ่ง เราจะไม่รู้สึกง่วงเลย ซึ่งเราก็ไม่ได้ฝืนตัวเอง ไปพอให้รู้เป็นไกด์ทางสายกลางว่าเป็นยังไง อย่างวันใดวันหนึ่งที่เราโกรธ เราก็จะรู้ตัวว่ากำลังโกรธ แล้วจะได้ควบคุมมันได้ทัน ที่นั่นเขายังสอนให้เราคิดทีละอย่าง พยายามอย่าเก็บเอาเรื่องเก่าๆ มาให้รกหัว แม้แต่ตอนกินเขาก็ยังสอนให้หยุดคิด ปกติถ้าเลือกได้ก็กินอาหารดีๆ แต่ที่นี่เขาจะสอนไม่ให้ยึดติด"

...ทำให้รู้ว่าความทุกข์มันไม่ได้อยู่กับเรานาน เดี๋ยวเดียวมันก็ ผ่านไป หรือถ้ารู้ว่าอะไรทุกข์ เราก็ไม่ต้องวิ่งไปหามันก็เท่านั้นเอง...

"หลังกลับมาคนรอบข้างบอกว่าอารมณ์ดีขึ้น ปกติส่วนมากเวลารีบเราจะรนจนมีอุบัติเหตุบ่อยๆ เขาก็สอนให้เรานึกซ้ายหนอ ขวาหนอตลอด ซึ่งปกติเราก็จะขวาซ้ายๆๆๆ เวลามีปัญหาก็เริ่มมองมันแบบเข้าใจมากขึ้น เหมือนกับที่ใครเคยบอกว่าเมื่อโกรธให้นับ 1-10 ก็เพิ่งเข้าใจมันเดี๋ยวนี้เอง แต่ถ้าไม่หายยังไงก็ไม่หยุดโกรธ ไม้ตายก็ให้แผ่เมตตาไปเลย"

...

แม้ไม่ได้เที่ยวเดินทางด้วยสองเท้า ปีใหม่ที่ใกล้จะมาถึงนี้ใครได้เข้าวัดปฏิบัติธรรม ก็ถือเป็นการฝึกเดินทางของจิต เป็นการพาใจ ไปพัก...

เพื่อเตรียมใจให้พร้อมรับมือกับชีวิตที่กำลังจะมาถึงในปี 2550 !!!


-----------------------------

ที่มา:ประชาชาติธุรกิจ
http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02lif01281249&day=2006/12/28