วิบากกรรมของ กาย,วาจา,ใจ ที่ทำความชั่วให้ผลต่าง ๆ กันไป

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย deneta, 2 มกราคม 2008.

แท็ก: แก้ไข
  1. deneta

    deneta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    2,712
    ค่าพลัง:
    +5,723
    <CENTER>สรุปอกุศลกรรมบถ ๑๐ </CENTER>
    [​IMG]

    ความชั่วทางกาย ๓ ประการ
    ๑. ปาณาติบาต ( ฆ่าสัตว์ , เบียดเบียนสัตว์ )ที่จะให้ผลย่อมประกอบด้วยคุณสมบัติดังนี้ คือ
    ๑. สัตว์นั้นยังมีชีวิตอยู่จริงๆ
    ๒. เราก็รู้ว่าสัตว์นั้นมีชีวิตอยู่
    ๓. มีจิตหรือเจตนาที่จะฆ่าสัตว์นั้นให้ตาย
    ๔. ทำความเพียรเพื่อจะฆ่าสัตว์นั้น ( ความเพียรพยายามเพื่อฆ่าแบ่งออกเป็น ๖ ประการ )

    ๔.๑ ทำการฆ่าด้วยตนของตนเอง
    ๔.๒ ใช้ให้ผู้อื่นฆ่า หรือใช้วาจาทำการฆ่า
    ๔.๓ ใช้อาวุธเป็นเครื่องทำการฆ่า
    ๔.๔ ฆ่าด้วยหลุมพราง ( มีการวางแผนนานาประการเพื่อให้สัตว์นั้นตาย )
    ๔.๕ สังหารด้วยวิชาคุณ ( พิธีทางไสยศาสตร์ )
    ๔.๖ สังหารด้วยฤทธิ
    ๕. สัตว์นั้นก็ตายเพราะความเพียรนั้น

    ผลของ ปาณาติบาต

    ปฏิสนธิกาล คือ ทุคติภูมิ ๔ ได้แก่ นรก เปรต อสุรกาย เดรัจฉาน
    ปวัตติกาล
    ๑. ทุพพลภาพ
    ๒. รูปไม่งาม
    ๓. กำลังกายอ่อนแอ
    ๔. กำลังกายเฉื่อยชา
    ๕. กำลังปัญญาไม่ว่องไว
    ๖. เป็นคนขลาดหวาดกลัว
    ๗. ฆ่าตนเอง หรือถูกผู้อื่นฆ่า
    ๘. โรคภัยเบียดเบียน
    ๙. ความพินาศของบริวาร
    ๑๐. อายุสั้น

    ๒. อทินนาทาน ( ลักทรัพย์ )ที่จะให้ผลย่อมประกอบด้วยคุณสมบัติดังนี้ คือ
    ๑. ทรัพย์นั้นเป็นทรัพย์ของผู้อื่น
    ๒. ผู้กระทำการลักทรัพย์ก็รู้โดยชัดแจ้งว่าทรัพย์นั้นเป็นทรัพย์ของผู้อื่น
    ๓. มีจิตหรือมีเจตนาพยายามที่จะลักทรัพย์นั้นให้ได้
    ๔. มีความเพียรพยายามที่จะลักทรัพย์นั้น ( ความเพียรที่จะลักทรัพย์แบ่งออกเป็น ๖ ประการ )
    ๔.๑ ทำการลักทรัพย์นั้นด้วยตนของตนเอง
    ๔.๒ ใช้ให้ผู้อื่นทำการลักทรัพย์นั้น
    ๔.๓ ทำการลักทรัพย์นั้นโดยใช้อาวุธเป็นเครื่องประกอบ
    ๔.๔ ทำการลักทรัพย์โดยใช้เครื่องปกปิดไม่ให้จำหน้าตาได้
    ๔.๕ ทำการลักทรัพย์โดยใช้วิชาคุณ ( ไสยศาสตร์ เช่น สะกดให้เจ้าของทรัพย์หลับ )
    ๔.๖ ทำการลักทรัพย์ด้วยฤทธิ์เดช ( เช่น ดำดินไปลักทรัพย์ )
    ๕. ได้ทรัพย์มาสำเร็จเพราะความเพียรที่จะลักทรัพย์นั้น
    ผลของ อทินนาทาน

    ปฏิสนธิกาล คือ ทุคติภูมิ ๔ ได้แก่ นรก เปรต อสุรกาย เดรัจฉาน
    ปวัตติกาล
    ๑. ด้อยทรัพย์
    ๒. ยากจนค่นแค้น
    ๓. มีความอดอยาก
    ๔. ไม่ได้สิ่งที่ตนปรารถนา
    ๕. พินาศในการค้า การขาย
    ๖. ทรัพย์ของตนพินาศเพราะอัคคีภัย อุทกภัย ราชภัย และโจรภัย เป็นต้น

    ๓. กาเมสุมิจฉาจาร ( ผิดประเวณี )ที่จะให้ผลย่อมประกอบด้วยคุณสมบัติดังนี้ คือ
    ๑. วัตถุที่ไม่ควรไป ( ผู้ที่ไม่สมควรเสพตามกฏหมายหรือตามประเพณี )
    ๒. มีจิตคิดที่จะเสพ
    ๓. มีความพากเพียรพยายามที่จะเสพ ( กระทำเองด้วยความเพียรเพื่อได้เสพรสกามคุณ )
    ๔. พอใจในการทำมัคคให้ล่วงมัคค ( พอใจในการเดินทางที่ผิด )
    ผลของ กาเมสุมิจฉาจาร

    ปฏิสนธิกาล คือ ทุคติภูมิ ๔ ได้แก่ นรก เปรต อสุรกาย เดรัจฉาน
    ปวัตติกาล
    ๑. มีผู้เกลียดชังมาก
    ๒. มีผู้ปองร้ายมาก
    ๓. ขัดสนในทรัพย์
    ๔. ยากจนอดอยาก
    ๕. เป็นผู้หญิง
    ๖. เป็นกะเทย
    ๗. เป็นชายในตระกูลต่ำ
    ๘. ได้รับความอับอายเป็นอาจิณ
    ๙. ร่างกายไม่สมประกอบ
    ๑๐. มากไปด้วยความวิตกห่วงใย
    ๑๑. พลัดพรากจากผู้ที่ตนรัก

    การดื่มสุรา หมายถึงการเสพของมึนเมาจัดอยู่ในอกุศลกรรมประเภท " กาเมสุมิจฉาจาร "
    องค์ประกอบของการดื่มสุรา
    ๑. สิ่งนั้นเป็นของมึนเมา
    ๒. มีเจตนาเพื่อที่จะดื่มหรือเสพหรือกิน
    ๓. กระทำการดื่ม การเสพ การกิน
    ๔. สุรานั้นล่วงลำคอลงไปแล้ว
    ผลของ การดื่มสุรา หรือการเสพของมึนเมา

    ปฏิสนธิกาล คือ ทุคติภูมิ ๔ ได้แก่ นรก เปรต อสุรกาย เดรัจฉาน
    ปวัตติกาล
    ๑. ทรัพย์ถูกทำลาย
    ๒. เกิดวิวาทบาดหมาง
    ๓. เป็นบ่อเกิดของโรค
    ๔. เสื่อมเกียรติ
    ๕. หมดยางอาย
    ๖. ปัญญาเสื่อมถอย

    ความชั่วทางวาจา ๔ ประการ[​IMG]
    ๔. มุสาวาท ( พูดโกหก )ที่จะให้ผลย่อมประกอบด้วยคุณสมบัติดังนี้ คือ
    ๑. เรื่องที่พูดนั้นเป็นเรื่องที่ไม่จริง ( วัตถุเทียม )
    ๒. มีจิตหรือเจตนาที่คิดจะพูดโกหก
    ๓. ประกอบด้วยความเพียรที่โกหกให้คนเชื่อ ( โดยหลักการที่จะให้คนเชื่อ ๓ ประการ )
    ๓.๑ พูดมุสาด้วยตนของตนเอง
    ๓.๒ ให้ผู้อื่นกล่าวคำโกหกแทนตัว
    ๓.๓ พูดหรือโฆษณาคำโกหกออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร
    ๔. ผู้ที่ได้ฟังหรืออ่านลายลักษณ์อักษรแล้วก็มีความเชื่อตามนั้น
    ผลของ มุสาวาท

    ปฏิสนธิกาล คือ ทุคติภูมิ ๔ ได้แก่ นรก เปรต อสุรกาย เดรัจฉาน
    ปวัตติกาล
    ๑. พูดไม่ชัด
    ๒. ฟันไม่มีระเบียบ
    ๓. ปากเหม็นมาก
    ๔. ไอตัวร้อนจัด
    ๕. ตาไม่อยู่ในระดับปกติ
    ๖. พูดด้วยปลายลิ้น หรือปลายปาก
    ๗. ท่าทางไม่สง่าผ่าเผย
    ๘. จิตไม่เที่ยงคล้ายวิกลจริต

    ๕. ปิสุณาวาท ( พูดส่อเสียด )ที่จะให้ผลย่อมประกอบด้วยคุณสมบัติดังนี้ คือ
    ๑. มีคนหมู่มากหรือน้อยที่ต้องการให้เขามีความแตกแยกซึ่งกันและกันเกิดขึ้น
    ๒. มีความปรารถนาหรือเจตนาต้องการให้คนหมู่นั้นแตกแยกกัน
    ๓. เพียรพยายามที่ให้เขาแตกแยกกัน ( โดยหลักการทำได้ ๒ ประการ )
    ๓.๑ วจีปโยค คือ กล่าวด้วยวาจาให้เขามีความแตกแยกกัน
    ๓.๒ กายปโยค คือ การแสดงกิริยาบุ้ยใบ้ให้เขาแตกแยกกันโดยไม่ออกเสียง
    ๔. คนในหมู่คณะนั้นก็ปักใจเชื่อใน " วจีปโยค หรือ กายปโยค " ที่แสดงออกไป
    ผลของ ปิสุณาสวาท

    ปฏิสนธิกาล คือ ทุคติภูมิ ๔ ได้แก่ นรก เปรต อสุรกาย เดรัจฉาน
    ปวัตติกาล
    ๑. ตำหนิตนของตนเอง
    ๒. แตกมิตรสหาย
    ๓. มักถูกลือโดยไม่มีความจริง
    ๔. ถูกบัณฑิตตำหนิติเตียน

    ๖. ผรุสวาท ( กล่าวคำหยาบ ) ที่จะให้ผลย่อมประกอบด้วยคุณสมบัติดังนี้ คือ
    ๑. มีคนอื่นที่จะพึงด่าว่าให้เขามีความเจ็บช้ำน้ำใจ
    ๒. เหตุที่จะกล่าวให้เขามีความเจ็บช้ำน้ำใจนั้น เพราะเหตุว่ามีจิตโกรธเคืองเขา
    ๓. จึงแสดงคำหยาบหรือแสดงอาการหยาบ เพื่อให้เขาเจ็บช้ำใจ ( โดยหลักการทำได้ ๒ ประการ )
    ๓.๑ วจีปโยค คือ กล่าวทางวาจาให้เขามีความเจ็บช้ำน้ำใจ
    ๓.๒ กายปโยค คือ การแสดงอาการกิริยาบุ้ยใบ้ให้เขามีความเจ็บช้ำน้ำใจ
    ผลของ ผรุสวาท

    ปฏิสนธิกาล คือ ทุคติภูมิ ๔ ได้แก่ นรก เปรต อสุรกาย เดรัจฉาน
    ปวัตติกาล
    ๑. พินาศในทรัพย์
    ๒. มีกายวาจาหยาบ
    ๓. ได้ยินเสียง เกิดความไม่พอใจ
    ๔. ตายด้วยอาการงงงวย

    ๗. สัมผัปปลาปะ ( กล่าวคำเพ้อเจ้อ )ที่จะให้ผลย่อมประกอบด้วยคุณสมบัติดังนี้ คือ
    ๑. มุ่งกล่าวคำที่ไร้แก่นสารไม่มีประโยชน์ หรือเจตนานั่นเอง
    ๒. กล่าวคำที่ไม่มีประโยชน์นั้นออกไป
    ผลของ สัมผัปปลาปะ

    ปฏิสนธิกาล คือ ทุคติภูมิ ๔ ได้แก่ นรก เปรต อสุรกาย เดรัจฉาน
    ปวัตติกาล
    ๑. เป็นอธัมมวาทบุคคล
    ๒. ไม่มีอำนาจ
    ๓. ไม่มีผู้เลื่อมใสในคำพูด
    ๔. จิตไม่เที่ยง คือวิกลจริต

    ความชั่วทางใจ ๓ ประการ[​IMG]
    ๘. อภิชฌา ( อยากได้ของผู้อื่น )ที่จะให้ผลย่อมประกอบด้วยคุณสมบัติดังนี้ คือ
    ๑. ทรัพย์หรือของเหล่านั้นเป็นของผู้อื่น
    ๒. มีความเพ่งเล็งที่จะให้ได้ทรัพย์หรือของเหล่านั้นมาเป็นของตน
    ผลของ อภิชฌา

    ปฏิสนธิกาล คือ ทุคติภูมิ ๔ ได้แก่ นรก เปรต อสุรกาย เดรัจฉาน
    ปวัตติกาล
    ๑. ปฏิสนธิในตระกูลต่ำ
    ๒. มักได้รับคำติเตียน
    ๓. ขัดสนในลาภสักการะ
    ๔. เสื่อมในทรัพย์และคุณงามความดี

    ๙. พยาบาท ( ผูกใจเจ็บ )ที่จะให้ผลย่อมประกอบด้วยคุณสมบัติดังนี้ คือ
    ๑. มีสัตว์อื่นเพื่อทำลาย
    ๒. มีจิตหรือเจตนาคิดทำลายเพื่อให้สัตว์นั้นประสพความพินาศ
    ผลของ พยาบาท

    ปฏิสนธิกาล คือ ทุคติภูมิ ๔ ได้แก่ นรก เปรต อสุรกาย เดรัจฉาน
    ปวัตติกาล
    ๑. มีรูปทราม
    ๒. อายุสั้น
    ๓. มีโรคภัยเบียดเบียน
    ๔. ตายโดยถูกประทุษร้าย

    ๑๐. มิจฉาทิฏฐิ ( ความเห็นผิด )ที่จะให้ผลย่อมประกอบด้วยคุณสมบัติดังนี้ คือ
    ๑. มีความตั้งมั่นอยู่ในอารมณ์ที่ผิด
    ๒. เชื่อและยินดีพอใจในอารมณ์ที่ผิดนั้น
    ผลของ มิจฉาทิฏฐิ

    ปฏิสนธิกาล คือ ทุคติภูมิ ๔ ได้แก่ นรก เปรต อสุรกาย เดรัจฉาน
    ปวัตติกาล
    ๑. มีปัญญาทราม
    ๒. เป็นผู้มีฐานะไม่เทียมคน
    ๓. ปฏิสนธิในพวกคนป่าที่ไม่รู้อะไร
    ๔. ห่างไกลรัศมีแห่งพระธรรม
    http://www.geocities.com/SouthBeach/Terrace/4587/10bad.htm
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • a1.jpg
      a1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.3 KB
      เปิดดู:
      2,292
    • resizer.jpg
      resizer.jpg
      ขนาดไฟล์:
      12.9 KB
      เปิดดู:
      1,173
    • 16.jpg
      16.jpg
      ขนาดไฟล์:
      75.6 KB
      เปิดดู:
      1,056
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กุมภาพันธ์ 2009

แชร์หน้านี้

Loading...