วิญญานเกิดจากอะไรครับ

อยากถามว่า
1.วิญญานเกิดจากอะไรครับ เกิดได้อย่างไรครับ เกิดมาเพื่ออะไรครับ
2. แล้วตอนนี้จะมีวิญญานใหม่ๆ วิญญานบริสุทธิ์ ที่ไม่ผ่านภพชาติใดๆ มากก่อนเกิดขึ้นรึป่าวครับ
3. ถ้ามีวิญญานบริสุทธิ์เกิดใหม่ก็ยังไม่ได้สร้างบุญ หรือ บาป แล้ววิญญานเหล่านี้จะได้เกิดในที่ใดครับ
นรก สวรรค์ หรือ โลกมนุษย์ครับ


ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ
เดี่ยวจะเข้ามาปรึกษาธรรมบ่อยๆ น่ะครับไม่ให้เหงาครับ อิอิ

 

1. วิญญาน หรือจิตเป็นคำเดียวกันนะ หมายถึง ตัวรู้ คือสภาวะรู้ ในพระอภิธรรม ไม่มีกล่าวไว้ว่าเกิดได้อย่างไร

เพราะไม่มีทางที่จะสาวไปหาต้นกำเนิดวิญญาณของตนเองได้ เพราะ วิญญาณดวงนี้ของเรานี่แหละเกิดมาเป็นหลายแสนชาติแล้ว ท่านไม่ได้สอนให้ย้อนหาว่ามาจากไหน แต่ท่านสอนให้ดับวิญญาณให้สนิทแบบไม่มีเชื้อเหลือ

เมื่อมีวิญญาณหรือจิต ก็ต้องมีเจตสิกคือความรู้สึกนึกคิด(เวทนา สัญญา สังขาร) นี่แหละตัวก่อภพก่อชาติสร้างเวรสร้างกรรม ถ้าดับวิญญาณแบบไม่มีเชื้อเหลือได้ เจตสิกก็ดับ ก็เป็นอันว่าไม่ต้องมาเกิดอีกแล้ว

สรุปก็คือไม่ต้องไปสาวหาว่าจิตหรือวิญญาณของเราครั้งแรกมาจากไหน เพราะไม่มีประโยชน์อะไรที่จะรู้ แต่สิ่งที่ควรทำคือ หาวิธีและทำว่าจะทำอย่างไร เพื่อให้จิตหรือวิญญาณของเรานี้ดับแบบไม่มีเชื้อเหลือ (ทำตามแนวสติปักฐาน 4)

2. ไม่มีวิญญาณหรือจิตดวงใดเลยที่บริสุทธิ์และไม่เคยผ่านภพชาติ เพราะถ้าจิตบริสุทธิ์ (ดูเรื่องการทำจิตให้บริสุทธิ์:วิสุทธิมรรค 7) ก็ไม่ต้องมาเกิดอีกแล้ว จิตดวงนี้จะดับไม่มีเชื้อเหลือ

ท่านฯ กล่าวว่าไม่มีสัตว์ใด ๆ ใน 31 ภพภูมินี้ไม่มีกรรมติดตัว(ติดจิต) แม้แต่เทวดา อินทร์ และพรหม ทุกดวงจิตมีกรรมเป็นของตนทั้งสิ้น

ตรงจุดนี้อีกเช่นกันไม่ต้องกังวลในสิ่งที่เกิดขึ้นผ่านมาแล้วมันหลายแสนชาติ แต่ให้หาทางทำจิตนี้บริสุทธิ์ เพื่อละเสียซึ่งวิบากกรรมทั้งเก่าและใหม่ เมื่อจิตบริสุทธิ์สิ้นเชิงคือหมดกิเลสแล้ว ก็เป็นอันว่าถึงที่สุดแล้ว จะได้ไม่ต้องมาเวียนตายเวียนเกิดให้ได้รับทุกข์ทรมานอีกในชาติต่อ ๆ ไป

3. ตอบข้อ ๓ วิญญาณ(จิต)บริสุทธิ์ที่มาเกิดไม่มีหรอก เพราะจิตบริสุทธิ์นั่นหมายถึงหมดกิเลสแล้ว จักไม่มาเกิดที่ใด ๆ อีกแล้ว ซึ่งต้องนิพพานไป

 

จิควิญญาณเมื่อแรกเกืดขึ้นนั้นท่านว่าบริสุทธิ์ แล้วก็ค่อยมาสร้างสมผสมกับกิเลสในภายหลัง ซึ่งไอ้กิเลสนี่แหละเป็นตัวสร้างภพสร้างชาติ เป็นเหตุที่ทำให้เราต้องมาเวียนว่ายอยู่ในวัฏฏสงสารนี่ รับทุกข์บ้าง สุขบ้าง สวรรค์บ้าง นรกบ้างฯ แล้วแต่ว่าเราจะมาทำกรรมอะไรใว้ตามอำนาจของกิเลสมัน ไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน ทีนี้เมื่อเป็นอย่างนี้ก็เริ่มมีผู้ที่คิดว่าทำอย่างไรจะออกจากวังวนตรงนี้ไปได้ เพราะธรรมชาติแล้วคนเป็นสัตว์โลกที่มีปัญญา และสามารถที่จะคิดรู้และมองเห็นความไม่แน่นอนตรงนี้ ก็เริ่มที่จะหาหนทางละโน่นคลายนี่เลิกนั่นละนี่ไปเรื่อยๆ หลายวันเข้าหลายชาติเข้าก็กลายเป็นบารมีสร้างสมยิ่งขึ้นไปจนสามารถที่จะทำให้รูแจ้งถึงวิธีการที่จะละกิเลสได้หมดสิ้น โดยที่กิเลสไม่สามารถที่จะเข้ามาแปดเปื้อนดวงจิตได้อีก และที่สำคัญคือสามารถที่จะมาสั่งสอนบอกวิธีละกิเลสนี้ให้กับคนอื่นรู้ตามไปได้ด้วย นี่คือต้นกำเนิดของพระพุทธเจ้า ส่วนจิตวิญญาณเมื่อแรกเริ่มจะเกิดขึ้นมาอย่างไรนั้นผมคลับคล้ายว่าเคยอ่านแต่จำไม่ได้ ว่าที่ไหน แต่อย่าไปสนใจมันเลยครับมันเป็นเรื่องอจินไตย เป็นเรื่องที่ไม่ควรไปคิดถึง เอาเป็นว่าเวลานี้เรามาอยู่ที่นี่เรามาเป็นคนอย่างนี้แล้ว ทำอย่างไรเราจึงจะไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกืดอีกดีกว่า สำหรับเราแล้วไม่ยากเพราะพระพุทธเจ้าท่านบอกวิธีชี้ทางให้เราหมดแล้วอย่างว่า เราไม่ต้องมานั่งคิดเอง ส่วนใครจะทำได้แค่ไหนก็แล้วแต่ความตั้งใจ และบารมีที่สร้างสมมา ที่กระผมว่ามานี่ผิดถูกประการใดเป็นความคิดความเห็นของกระผมเอง ผิดถูกประการใดกระผมกราบขออภัยและวอนท่านผู้ที่รู้ชี้แจงด้วย

 

อวิชชา ความไม่รู้ ทำให้เกิด รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาน หรือขันธ์ 5

 

แล้วจิตเรา เป็นประภัสสร เป็นจิตที่ไม่มีกิเลส แล้วเราจะเกิดมารับกรรม อะไรหรอครับ

เหมือนกับว่า เรานิพานอยู่ ใช่ไหม รึป่าวครับ

แล้วเราจะมารับกรรมอะไรหรอครับ ในเมื่อเราทุกคนเท่าเทียมกันหมด เราจะเกิดเป็นภพชาติไหนก่อนในเมื่อกรรม เป็นตัวให้เกิดภพชาติ


คือมันสงสัยน่ะครับ

คือผมคิดว่าถ้าเรารู้ถึงที่มา ในสิ่งที่เกิด เราก็จะกลับไปสู่สิ่งนั้นได้

 

ให้ผมปลงอะไรหรอครับ ผมถามเพราะสงสัยนะ

 

อนุโมทนา....

​

เรียบเรียงอธิบาย กำเนิดจิต หรือ ธาตุรู้ จากบันทึกพระอริยคุณาธาน พระเส็ง ปุสํโส​

ท่านอธิบายปฐมวิญญาณการก่อกำเนิด "จิต" หรือ"ธาตุรู้"ไว้ว่า
จักรวาลมี อมตะธาตุอยู่ 5 คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ และธาตุรู้ ซึ่งเป็นธาตุอมตะด้วยเหตุว่าไม่ได้เกิดจากเทพเจ้าองค์ใดสร้าง และเป็นอมตะเพราะไม่มีใครสามารถใช้ฤทธิ์ ทำลายให้แตกดับหรือสูญไปได้
เมื่อธาตุรู้พัฒนาตนเองจากตามศักยภาพของความรู้บริสุทธิ์สั่งสมจนมีวิวัฒนาการพัฒนาจนเกิดการนึกคิด สั่งสม มีการกระทำ จนปรากฏในภพ ภูมิทั้ง 31 ตามความละเอียดของจิต และพัฒนาจนถึงที่สุด จากบริสุทธิ์ เป็น วิสุทธิ หรือพระนิพพาน เรียกว่าพระวิสุทธิเทพ เป็นอมตะขั้นสูงสุด เพราะ นิพานไม่ประกอบด้วยอุปาทานจึงเป็นสภาวะที่ไม่ปรุงแต่งให้ เกิดดับในภพต่าง ๆ ได้อีกเป็นนิรันต์​

​

​

 

ขอบคุณมากๆๆๆ ครับ เป็นภาษาสวยงามมากเลยครับ ชอบๆ อิอิ