วิชาขยายขนาดโคมไฟคริสตัลแชนดิเลียเพื่องานพระพุทธศาสนาเป็นพุทธบูชา

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ

ขอนอบน้อมแด่องค์พระสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์

กระทู้นี้ผมนำบางส่วนของกระทู้เดิมในหมวดพระพุทธรูปและสิ่งก่อสร้างมาตั้งเป็นกระทู้ใหม่ในหมวดธรรมทานวิทยาทาน และอาจมีการเขียนเพิ่มเติมบางประการ ท่านที่จะศึกษาไปใช้งาน สามารถใช้ได้เลยครับ

หากท่านใดต้องการเขียนเพิ่มเติม สามารถเขียนได้เลยครับ

 

สำรองพื้นที่

 

สารบัญ

ประวัติผู้เขียนวิทยาทานกระทู้นี้ หน้า 1

 

สารบัญหน้า

หน้า 1
หน้า 2
หน้า 3
…
…

 

ผมเขียนประวัติย่อๆของผมเอาไว้ เพียงเพื่อให้ท่านได้ทราบว่า ผมได้เรียนวิชานี้มาได้อย่างไร เป็นเวลานานประมาณเท่าใด เพื่อท่านจะได้มั่นใจว่า ผมพอจะแนะนำวิชานี้แก่ท่านได้ครับ

ผมเกิดเมื่อปลายปี พ.ศ. 2498 ต้นปี พ.ศ. 2499 เมื่อเกิดนั้น บิดามารดาได้มีกิจการค้าปลีกและส่งโคมไฟแล้ว ร้านชื่อร้านจิ่งเซ่ง (ร้านแรก) ในตรอกวัดตึก (วัดชัยชนะสงคราม) อยู่ตรอกระหว่างถนนวรจักรกับคลองถม ซึ่งเป็นแหล่งค้าขายสินค้าประเภทไฟฟ้าในสมัยนั้น โดยบิดาผมสั่งโป๊ะแก้วโคมไฟจากโรงงานแก้วบูรพาเป็นส่วนมาก โรงงานแก้วตะวันออกและโรงงานชิ้นส่วนอื่นๆที่ทำจากทองเหลืองบ้าง เหล็กบ้าง สังกะสีบ้าง จากแหล่งผลิตอีก 3 แหล่ง กิจการเริ่มดีขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจเนื่องจากสมัยนั้นยังไม่มีใครผลิตโคมไฟฟ้าเลยในประเทศไทย

 

เมื่อประมาณ พ.ศ. 2504 บิดาผมเปิดโรงงานกรดกัดแก้วขึ้นใกล้ๆโรงภาพยนต์แคปปิตอล เป็นโรงงานขนาดเล็กที่ทำการกัดกรดผิวโป๊ะแก้วโคมไฟที่แก้วมีผิวมันให้เป็นผิวด้าน และหลังจากที่คุณพ่อเป็นคนผสมน้ำยากัดกรดแก้วด้วยตนเองอยู่ระยะหนึ่ง ท่านป่วยคล้ายเป็นวัณโรค เมื่อไอจะมีเลือดออก ตอนนั้นผมอายุ 6 ขวบ เห็นว่าท่านป่วยจึงไปช่วยที่โรงงานกัดกรดบ้างในเวลาที่ไม่ได้ไปโรงเรียน

 

โรงงานกัดกรดนี้ดำเนินกิจการกัดกรดให้กับงานกัดกรดทั่วไป กัดผิวแก้วได้หลายอย่าง เช่นกัดผิวแก้วโป๊ะแก้วได้ กัดผิวพระแก้ว 25 พุทธศตวรรษที่ผิวพระตอนออกจากโรงงานแก้วนั้น ผิวจะเงา มัน ลื่น พอกัดกรดแล้วผิวพระจะสาก ไม่ลื่น (แต่พระแก้ว 25 พุทธศตวรรษส่วนมากก็ไม่ได้กัดกรดทุกองค์ มีแค่บางรุ่นที่กัดกรด)

โรงงานกัดกรดนี้ย้ายไปอยู่ที่ตึกแถว 4 ชั้นเลขที่ 15 ริมถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เชิงสะพานรถไฟ ฝั่งตรงข้ามโคลีเซี่ยม เมื่อ พ.ศ. 2509 และดำเนินกิจการต่อเนื่องถึง พ.ศ. 252X

 

เมื่อ พ.ศ. 2500 มารดาผมเปิดโรงงานพ่นสีชิ้นส่วนโคมไฟและประกอบเป็นโคมไฟทั้งชุด 2 - 3 ปีแรกคุณพ่อลงมือด้วยตัวเอง ต่อมามึคนรู้จักมาฝากนายช่างมาทำหน้าที่นี้ ต่อมา พ.ศ. 2508 โรงงานนี้ย้ายมาอยู่ตึกแถว 4 ชั้นเลขที่ 10-12 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ โดยย้ายมาทั้งแผนกประกอบ โรงงานพ่นสี แผนกไวริ่งสายไฟ และอื่นๆ ดำเนินกิจการถึง พ.ศ. 252X