วัวควายธนูสายใต้เขาอ้อชนวนสัตตโลหะอาถรรถ์ เเรงไม่ให้โทษเฝ้าบ้านกันคุณไสยทั้งปวง

โปรดอ่านให้หมดก่อนขอรับไป
เเจกวัว ควายธนู สร้างจากโลหะอาถรรถ์ ผสมด้วยชนวนสัตตโลหะคือโลหะ7ชนิดมารวมกันเชื่อว่าเป็นธาตุมงคล เเรง ขลัง นิยมนำมาทำดาบไว้ทำศึกในสมัยก่อน
ผมได้มา108ตัว รวมท้้งวัว ทั้ง ควายธนู สร้างตามตำหรับโบราณ มีการจารอักขเลขยันต์ที่ขาทั้ง4ของควายธนู มีพิธีกรรมโดยเฉพาะาสำหรับการสร้างผู้ที่จัดสร้างสั่งโรงงานให้หล่อขึ้นมาได้บอกว่าเกจิสายใต้เป็นผู้ปลุกเสก(เขาอ้อ)ซึ่งต้องจัดอย่างเป็นเฉพาะ เเละต้องทำเป็น อาศัยฤกษ์ยาม
ซึ่งการที่จะทำให้ขลังต้องอาศัย ซึ่งมวลสารอาถรรภ์ เเล้วนำไปให้โรงหล่อนำไปทำเป็นวัวธนู ควายธนู เเล้วหาฤกษ์ยามทำพิธีซึ่งรู้มาว่าต้องเป็น วันมาฆบูชา วิสาขบูชา อาสหฬบูชา ซึ่งต้องทำหลังอาทิตย์ตกดินไปเเล้ว ถึงจะขลัง เเละให้ผลรุนเเรงเร็วทันใจ ทั้งวัวเเละควายนี้ทำจากมวลสารตัวเดียวกัน พิธีเดียวกัน มีอานุภาพเหมือนกันทุกประการ ซึ่งผมมาดูเนื้อของโลหะเเล้วหล่ออกมาได้สวยงามมาก เเล้วพิมพ์ก็สวยสมจริงเหมือนมีชีวิต ซึ่งวิธีเลี้ยงไม่อยากไม่ซึ่งจะมาบอกกันต่อไป
มาดูความขลังของสัตตโลหะอาถรรภ์กันบ้าง

มีขั้นตอนวิธีและมนต์ในการสร้างอีก

เรื่องราวของการสร้างอาวุธสัตตโลหะปรากฎในเรื่องที่ท่านสุนทรภู่ได้นำมาจาก ตำราศาสตราดารา ที่ถูกพบจริงในสมัยนั้น มาประยุกต์แต่งในเรื่องขุนช้างขุนแผน นั่นคือ ดาบฟ้าฟื้น.. ของขุนแผน ( แม้แต่การทำกุมารทองของขุนแผนก็มีที่มาจากตำราเล่มเดียวกัน )ปัจจุบันตำราเล่มนี้ถูกเก็บรักษาไว้ที่ไหนไม่ทราบ

อาวุธสัตตโลหะที่เราพบในอีกเรื่องหนึ่ง เจ้าของคือ ไกรทอง ที่ใช้ หอกสัตตโลหะ สร้างขึ้นตามตำราตกทอดมาของบรรพบุรุษไกรทองเอง ที่นำมาใช้ปราบ ชาละวัล มหาจรเข้ แห่งเมืองพิจิตรนั่นแหละ ตามข้อมูลที่ผมได้อ่านพบกล่าวว่า ตำราเล่มนี้มีจริง เป็นคำบอกเล่าของ พลตรีหลวงวิจิตรวาทการ ส่วนจะศักดิ์สิทธิ์ ดีเพียงไร ผมไม่ทราบ ไม่เคยเห็นเช่นกัน และตามแต่วิจารณญาณความเชื่อของบุคคล


มีทั้งหมด108ตัว

ทั้งวัวเเละควายธนูขอย้ำว่าไ่มีโทษทุกประการ เพราะเค้าสร้างเเละอธิฐานสะกดมาในตัวถือเป็นวัวควายที่เชื่องเเล้ว เพราะมีการเขียนอักขระเลขยันต์ ไว้ที่ขาของควายธนู ทั้ง4ข้างซึ่งเป็นการสร้างโดยเฉพาะตำหรับตำรา





วิธีใช้ผู้ที่มอบให้ได้บอกไว้ว่าให้อธิฐานตามปราถนาที่ถูกต้องตามศีลธรรม ใช้เฝ้าบ้าน ไล่คุณไสย อัปมงคลทุกประการได้ทั้งหมด โดยบอกเขตบ้านเรา เเล้วปล่อยให้เฝ้าบ้าน โดยวิธีคือ นำน้ำมาราดหลังควายธนูหาถาดรองน้ำเเล้วนำน้ำราดรอบบ้านเรือนของเรา เป็นการเเสดงอาณาเขตให้คุ้มครองรักษา
ห้ามเลี้ยงด้วยของคาวทุกชนิดเด็ดขาด
ต้องรักษาศีล5อย่างบริสุทธิ์ โดยเฉพาะกฎข้อนี้ต้องเคร่งครัดเพราะเป็นการนำเอาของอาถรรภ์มาเเลกศีลธรรม เป็นกุศโลบายทางธรรมของคนโบราณ ที่นำของมงคลมาเเลกซึ่งศีลธรรม
ให้วางต่ำกว่าพระพุทธรูป เทพ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกประการ เเล้วหาที่วางให้เหมาะสม
วัวธนูควายธนูนี้เลี้ยงด้วยเเห้งเล็กๆเเล้วมัด หรือ ให้น้ำเเก้วเล็กวางไว้เปลี่ยนทุกวันพระก็จะเป็นการดี
ผู้รับไปเลี้ยงขอให้ทำตามนี้ได้ทั้งหมดก็จะขลังมาก โดยเฉพาะเรื่องศีล5 ห้ามด่าพ่อล่อเเม่ผู้อื่น เเละห้ามส่งวัวธนูทำร้ายใคร ส่งให้ป้องกันได้อย่างเดียว
เเละห้ามทำคอกล้อมด้วยนะครับ



ถ้าของหมดจะปิดเเจกเพราะนอกเว็บมีคนขอรับพอสมควร จาก108ตัวเหลือประมาณ70เเล้ว เเต่ท่านอาจได้วัวธนู หรือควายไปเเล้วเเต่ดวงผมจะเลือกให้ เเต่ห้ามรับทั้งวัวทั้งควายนะครับเขาถือทุกสำนักครับ เลือกได้อย่างเดียวเท่านั้น
ขอรับได้เเล้วตั้งเเต่วันนี้ - วันศุกร์30 ส.ค 56
ช่วยค่าจัดส่ง100บาท
จะจัดส่งให้ประมาณวันจันทร์ที่2 หรือ อังคารที่3

ติดต่อสอบถามpm
ช่วยค่าจัดส่งองค์ละ100บาท
บัญชี
0650263841
ธนาคารกรุงเทพ
น.ส จารุวรรณ เเจ้งสว่าง

(ใครอยากได้คาถาปลุกpmมา)
ควายธนูวัวธนูชุดนี้มีผู้ใช้เเล้วประสบผลจริง ในเรื่องของการเฝ้าบ้าน เฝ้าทรัพย์ ไล่สื่งที่มองไม่เห็น เเละที่สำคัญเขาไม่ให้โทษใดๆ
เเละที่สำคัญถ้าเราไม่อยากสัมผัสได้ถึงเขาเขาก็จะไม่ให้เรารู้สึก เเต่ถ้าอยากรู็ว่ามีจริงไหม ก็ลองดูได้ครับ เห็นผลคืนนั้นครับ ใครขี้กลัวอย่าลอง

ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะครับ

ภาพที่ถ่ายจากตัวจริงกล้องมือถือตัวจริงเหมือนมีชีวิตครับ

ค

 

ผู้เขียนขอนำเรื่องเก่าแก่เล่าต่อสืบทอดกันมาเป็นเวลายาวนานยิ่งโดยเฉพาะเรื่องราวของ วัวธนู – ควายธนูมาเล่ากันหลายแบบหลายอย่างเป็นที่พิสดาร และคงจะมีความสมบูรณ์ถูกต้องอยู่บ้าง ไม่มากก็น้อย หากจะมีสิ่งใดพลาดก็ขออภัยด้วย ณ ที่นี้

ซึ่งเรื่องนี้ผู้เฒ่าผู้แก่เล่ากันว่า มีพระธุดงค์รูปหนึ่งได้จาริกแสวงบุญไปตามสถานที่ทุรกันดาร วันหนึ่งได้สัญจร (เดินทาง) เข้าไปในราวป่าปราศจากบ้านผู้คน ขณะนั้นดวงตะวันคล้อยต่ำลงจะลาลับขอบฟ้าอยู่แล้ว ได้มีสิ่งหนึ่งปรากฏขึ้นอยู่เบื้องหน้าท่าน จึงมุ่งหน้าเดินตรงไปหาปรากฏเป็นภาพของพระอุโบสถกลางป่าแห่งหนึ่งแต่อยู่ไกลลิบ ซึ่งในระหว่างทางได้พบชายนุ่งขาวห่มขาวอยู่ผู้หนึ่งเดินสวนมา และขอติดตามท่านไปด้วยในลักษณะความเป็นห่วงเป็นใย และเมื่อเดินไปได้สักพัก เห็นต้นไผ่ป่าโน้มลำต้นขวางทาง ชายแก่ผู้ที่ได้ร่วมเดินทางมากับพระธุดงค์นั้นได้ใช้มือล้วงลงไปในย่ามหยิบมีดหมอออกมาเล่มหนึ่งแล้วลงมือตัดฉับเดียวต้นไผ่ก็ขาดออกจากกัน

จากนั้นก็รีบขมีขมันจัดการแยกชิ้นส่วนเป็นไม้ตอกได้กำใหญ่ พลางเดินไปสานไปเมื่อสานเสร็จก็บรรจุในย่ามที่ใช้สะพายอยู่ติดตัว พอไปถึงจุดหมายปลายทางเห็นเป็นพระอุโบสถที่ทรุดโทรมลักษณะคล้ายจะรกร้างมานานปี ส่วนด้านหลังพระอุโบสถเป็นศาลาหลังเล็กค่อนข้างผุหลังคาโหว่และเห็นพระภิกษุชุมนุมกันอยู่ด้วยกันสี่รูป โดยไม่ยอมให้การต้อนรับทักทายและไม่ยอมสบตากับผู้ใดด้วย แววตานั้นมีลักษณะไม่คล้ายกับผู้คนทั่ว ๆ ไป แต่มันคล้ายกับดวงตาของสัตว์ดุร้าย ชายแก่ในชุดขาวรีบพาพระธุดงค์เข้าไปในพระอุโบสถ และทำการปิดประตูหน้าต่างลงกลอนอย่างรีบเร่ง แล้วจึงปัดกวาดฝุ่นละอองพอใช้พักอาศัยได้ จากนั้นได้ล้วงเอาเทียนขี้ผึ้งในย่ามออกมาสองเล่มพร้อมธูปสามดอกมาบูชาพระรัตนตรัยและบอกให้พระธุดงค์ทำวัตรเย็น

ส่วนชายแก่ได้ยึดที่มุมหนึ่งของพระอุโบสถตั้งหน้าตั้งตาสานตอกอะไรของแกไปโดยไม่พูดจากับใคร จนเดือนโผล่พ้นยอดไม้สู่ท้องฟ้าทำให้มองเห็นจากรอยแผ่นกระเบื้องหลังคาพระอุโบสถที่หลุดหาย สุนัขก็เริ่มส่งเสียงเห่าหอนรับกันเป็นระยะ ๆ เสียงโหยหวนน่าสะพรึงกลัวในบรรยากาศอันเงียบสงัดวังเวง ทันใดนั้นได้ยินเสียงหวีดหวิวคำรามของเสือร้าย สายลมโชยพัดพากลิ่นสาบใกล้เข้ามา จึงกระซิบพระธุดงค์ให้ตั้งสมาธิจิตบริกรรมพระพุทธคุณ มีอะไรผิดปกติอย่าได้สนใจเป็นอันขาด และเสียงนั้นก็ใกล้เข้ามาทุกที ๆ จนได้ยินเสียงหายใจครืดคราด และเสียงตะกุยตะกายที่ประตูพระอุโบสถ

ซึ่งเสียงนั้นกะประมาณอย่างน้อยมีจำนวนไม่ต่ำว่า 3-4 ตัว ถ้าพูดกันแล้วมันเป็นลีลาของเสือโคร่งชัด ๆ ทันใดนั้นท่านผู้ชราได้ผลุดลุกจากที่นั่ง ซึ่งสงบมานานได้เดินตรงไปสู่ประตูพระอุโบสถทำการสอดไม้ไผ่ที่สานออกตามรูช่องดาลอันแล้วอันเล่าไม่ทราบจำนวนเท่าใด ในบัดดลก็ได้ยินเสียงการต่อสู้ของสัตว์ใหญ่ พร้อมเสียงคำรนคำรามกึกก้องฉาด ๆ ซัดกันนัวไปหมด ปานแผ่นดินจะถล่มทลาย ประมาณชั่วหม้อข้าวเดือด ผลของเสียงการรณรงค์ต่อสู้ได้เงียบหายไป ทุกสิ่งตกอยู่ในความเงียบสงัดราตรีอันวอมแวมของแสงเทียน

ต่อจากนั้นก็พากันพักผ่อนโดยอาการสงบ ครั้นพอรุ่งเช้าก็ถอดกลอนผลักบานประตูพระอุโบสถเผยกว้างออก สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาก็คือ ภาพของเสือโคร่งขนาดวัดได้จากหัวถึงหางประมาณหกศอกจำนวน 4 ตัว นอนตายอยู่ในที่ต่าง ๆ ในลักษณะลำตัวไส้ทะลักเรี่ยราด ชายแก่ในชุดขาวจึงอธิบายให้พระธุดงค์ทราบว่าพระสี่รูปที่เห็น เมื่อเย็นวานนั้นก็คือเสือสมิงร้าย 4 ตัว และให้สังเกตดูจะเห็นว่าที่คอยังมีผ้าเหลืองพันอยู่ทุกตัว และถ้ามาช่วยไม่ทันละก็อาจตกเป็นเหยื่อของเสือสมิงร้ายพวกนี้ก็ได้

 

ขนาดใหญ่ประมาณใหนครับดูรูปนึกไม่ออก

 

ประมาณนี้

 

ของอาจารย์คนไหนครับ

 

เขาอ้อครับ ขนใส่กล่องไปทำพิธีทางใต้ เพราะเขานับถือทางนั้นเเละเป็นต้นตำหรับที่ขลังอันดับต้นๆ ไม่เเน่ใจเหมือนกันนานเเล้ว ช่วงจตุคามดังๆ ช่วงนั้นหละ (ไม่ได้สร้างโดยวัด)ทำมาไม่น่าเกิน500ตัว ผมรู้เเค่เรื่องมวลสารเนี่ยละ ยังมี เสือมหาอำนาจ ครุฑ พญาต่อ ทำจากมวลสารตัวเดียวกัน ขนไปพร้อมๆกันด้วย ทำอย่างละ500ตัว

 

วัวธนู ควายธนูที่ทางผมได้รับมาเป็นการเสกเเบบสายทางใต้สายเขาอ้อครับใครสนใจขอรับได้นะครับทำขึ้นมาประมาณปี50 500ตัวใกล้หมดเเล้ว

 

รับทราบครับ

 

อยากเห็นทั้ง วัว และควายแบบ HD ครับแค่เบลือก็สวย....จริงๆจะขนาดไหน
ขอชมหน่อยคร้าบ

 

hdไม่มี ได่้เเค่นี้จริงๆลืมถ่ายวัวมาด้วยฮะเเต่ก็สวยไม่ผิดหวังเเน่นอน

 

จองสองตัวครับ
วัว...หรือควายก็ได้

 

รับทราบครับ ช่างปั้นชุดนี้ใช้ช่างฝีมือครับผลงานเลยออกมาดีเช่นนี้

 

ขอจองวัว2ตัว และควาย2ตัว ครับ

 

จองควายธนู 1 ตัว

 

โอนเิงินแล้วนะครับ 300 บาท 3 ตัว ขอเป็นควายธนูนะครับผม ธนาคารกรุงไทย เวลา 12.16 น. ทางอินเตอร์เน็ตครับผม ที่อยู่ทางpmครับผม

 

ไม่ทันแล้วใช่ไหมเสียดายจังถ้าได้ยังไงพีเอ็มมาบอกบ้าง

 

โอนแล้วครับ 200
31/08/56เวลา 16:18
จากกรุงไทย เข้า ธ.กรุงเทพ
ที่อยู่ pmบอกทีหลังคับ

 

จอง 4 ตัวครับวัวหรือควายก็ได้ ถ้ามีตอบรับด้วยครับจะได้โอนพรุ่งนี้

 

โอนแล้วคราฟๆๆที่อยู่มางpm

 

โอนแล้วครับ จาก ธ.กรุงไทย เวลา 14.47 น. วันที่ 03/09/56
ที่อยู่ตาม PM ครับ