วันโลกาวินาศ-ทางรอดที่เราอยากแบ่งปันเพื่อนๆทุกเชื่อชาติ ทุกศาสนาทั่วทุกจักรวาล เพื่อความเป็นนิรันดร์

วันโลกาวินาศ-ทางรอดที่เราอยากแบ่งปันเพื่อนๆทุกเชื่อชาติ ทุกศาสนาทั่วทุกจักรวาล เพื่อความเป็นนิรันดร์ ​

(เราไม่ใช่พระเจ้าอนาคต และไม่อยากเป็น เราเป็นแค่ตะเกียงหรือเป็นแค่แสงเล็กๆที่จะคอยนำทางให้ดวงจิตทุกดวงที่หลงทางอยู่ในความมืดมิดได้เจอทางออก)​

เราไม่คิดว่าเราเป็นพระเจ้าผู้วิเศษ เราเป็นมนุษย์ธรรมดาที่ชีวิตเจอแต่ความทุกข์ ต้องพยายามดิ้นรนหาทางออก จนเจอกุญแจที่ถูกซ้อนไว้ในส่วนลึกของจิตใจ มันคือกุญแจไขประตูลับที่ถูกซ้อนไว้ของพระเจ้าผู้สร้างโลก กุญแจแห่งการหลุดพ้นวัฏจักรเวียนว่ายตายเกิด
ที่จริงเราเคยโพสข้อความ "วันโลกาวินาศ-เพราะอะไรทุกคนต้องรอคอยพระจักรพรรดิหรือพระศรีอารย์" ในเว็บพลังจิต แต่ผลลัพธ์ที่ออกมากลับไม่มีใครเข้าใจข้อความที่เราต้องการจะสื่อ ไม่มีใครสนใจหาทางรอดด้วนตนเอง ทั้งๆที่ดวงจิตของตนกำลังพร้ำร้องไห้ทุกทรมารมาไม่รู้กี่ร้อยชาติ พวกคุณกลับไม่เคยสนใจฟังเสียงของดวงจิตตัวเองเลย รอแต่หวังพึ่งพระเจ้า ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าท่านจะมาเมื่อไหร่ ที่จริงเราคิดตัดใจและไม่อยากบอกความลับนี้แก่พวกท่านเพราะเราไม่ใช่พระเจ้า แต่ก็อดห่วงไม่ได้ เราไม่อยากให้ดวงจิตทุกดวงต้องร้องให้และเจ็บปวดเหมือนกับเรา เราจึงอยากช่วยทุกคนให้ได้มากที่สุด ถึงแม้จะรู้ว่าสิ่งที่ทำมันไร้ประโยชน์ อาจไม่มีใครสนใจ แต่เราก็ยังคงทำเพราะเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เราสบายใจ ก็นะ..เราไม่มีเงินเดินทางหรือช่วยคนทั่วโลก เราหวังว่าโพสข้อความทางอินเตอร์เนตจะมีผู้เข้าใจและช่วยส่งข้อความนี้ไปทั่วโลก ทั่วจักรวาล เพื่อมอบความสุขนี้แก่ทุกๆคน...เพื่อความสุขอันเป็นนิรันดร์


God Game Over​

เราจะเผยความลับนี้แบบง่ายๆ 7 ขั้นตอนให้อ่านทีละขั้นเพื่อความเข้าใจ
(ตามเหตุและผลโดยใช้วิทยาศาสตร์ผสมกับหลักธรรมคำสอนและจิตวิญญาณ)
​

1 เราเกิดมาทำไม? พระเจ้าสร้างเราขึ้นมาทำไม?

2 พระเจ้าทุกศาสนา ล้วนเกี่ยวข้องกัน เพื่อจุดประสงค์เดียวของพระเจ้าผู้สร้าง

3 มิตินรก+สวรรค์+ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

4 เสียงพร้ำร้องคล่ำครวญของทุกๆดวงจิต กุญแจความลับที่ถูกซ้อนไว้มาหลายภพ หลายชาติ ภายในก้นบึ้งของจิตใจทุกคน

5 ทางลัดสู่การหลุดพ้นวัฏจักรเวียนว่ายตายเกิดของทุกเชื่อชาติ-ทุกศาสนา ทุกดวงจิตอย่างเท่าเทียม
6 ทางรอดก่อนเกิดวันโลกาวินาศ

7. คำเตือนของผู้ปฎิบัตทางลัดสู่การหลุดพ้นวัฏจักรเวียนว่ายตายเกิด

8.รายละเอียดเกี่ยวกับเรา(อธิบายรายละเอียดของคำเตือนขั้นตอนที่ 7)ขั้นนี้ไม่สำคัญ แต่คุณจะรู้รายละเอียดที่เกิดขึ้นทั้งหมด แล้วแต่ผู้สนใจ)
​

ท่านสนใจรายละเอียดคลิกลิงค์ด้านล่าง ​

[SIZE="<font><font>5</font></font>"]

https://drive.google.com/file/d/0B0o97EXyjsiUREk0TmFJVm5McmM/view?ts=56d93eb4​

[/SIZE]

 

ข้อ ๑ แกพุด ว่าเราเกิดมาทำไม พระเจ้าสร้างเรามาทำไม


ข้อนี้ ถ้าเป็นเด็ก ปัญญาอ่อน ก็คงตามค้อย ไปโดยปริยาย ถามว่าเราเกิดมาทำไม ผมก็ต้องตอบว่า เกิดมาเพราะ ความเหงี่ยน คือ ตัณหา ความทะยานอยาก ได้ อยากมี อยากเป็น และไม่อยากเป็น มันคุมทั้งจักวาล อธิบายออกมาเป็นหนังสือเป็นเล่ม ก็ไม่จบ มันก้เข้า ข้อ ทางทางธรรมคำสอน ของพระพุทะเจ้า ตัว โลภ โกรธ หลง เมื่อ ยึดมั่น ถือ มั่น ผูกพันธุ์ มันก็ทำให้เกิก ภพชาติ ชรา มรณะ ตายแล้วเกิด เกิดแล้วตาย อยู่ล่ำไป จะไปเกิด เป็นอะไร ก็เลือกเอา มี สัตว์ นรก เปรต อสูรกาย สัตว์ เดรัชฉาน คนจน คนรวย ตาบอด บ้าไบ้ ยาจก นักบวช กษัติย์ จะไปเป็น เทวดา นางฟ้า พรหม หรือ ตัดกิ เลสได้ ไป พระนิพาน มันมีทางเลือก นายจะไปไหนล่ะ เลือกเอา



พระเจ้า สร้างมาทำไม
ใครมาสร้างให้ พระจงพระเจ้าอะไร จะมาสร้างได้ นอกจากกรรม ที่ ตัวเรา หรือ ตัวสัตว์ ทุกคน ทุกดวง จิต เป็นผู้กำหนด ชีวิตตนเอง ทำให้ไปเกิด ในนรก เปรต อสูรกาย สัตว์เดรัช ฉาน ที่เรากว่าวมาแล้ว ทำดี ขั้นกลาง ก้เกิดเป็นคน เทวดา นางฟ้า ทำสมาธิ คนเรา มีปัญญาเหมือนกัน เอาออกมาใช้กันบ้าง อย่า ได้คำว่า เรียนมาสูง เมื่อจิต ได้ กำลัง ของฌาณ สมาบัติ จะเป็นชนชาติไหน ศาสนาไหน ก็ทำได้ ไปเกิดเป็นพรหม และอรูปพรหม ใช้คำว่า พระพรหม หรือ พระเทวดา ๖ ชั้น พรหม ๑๖ ชั้น อรูกพรหม ๔ ชั้น ที่ผมใช้คำว่า ไอ้ ตัวเหงี่ยนนี่แหละ ที่ทำให้เรา เกิด ในแดนไหน ก้ได้ เราเป็นผู้สร้าง ตัวเราเอง คนอื่น มาสร้าง ให้ไม่ได้ ดอก ตัวเราเป็นผู้กำหนด ตัวเอง พูดง่ายๆคือ กรรม ดีกับกรรม ชั่ว ในทางคำสอนพระศาสนาพุทธ

 

ข้อ ๒ นายบอกว่า พระเจ้าทุกศาสนา ล้วนเกี่ยวข้องกัน เพื่อจุดประสงค์เดียวของพระเจ้าผู้สร้าง
นายพูดเอาเออเอง คนเดียว คำสอนนี้ มันคุ้นๆหูหว่ะ ข้าเห็นว่า ทุก ศาสนา สอนให้คนเป็นคนดี ทุกศาสนา นอกจาก คน ที่ เห็นผิด เอาคำสอน ของพระศาสดา มาสอนผิดๆ คำสอนของพระสาดานั้น ๆ ท่านมีความรู้แค่ไหน ท่านก็ นำความรู้ ที่ท่านมีอยู่ มาสอน บรรดา สาวก ของตน ให้ได้ รับความรู้ ที่ตนรู้มีอยู่ ก็เท่านั้นเอง สาวก ผู้ปฏิบัติตาม คำสอน ของท่าน ต่างหาก จะใช้ ปัญญา ไปทางไหน จะไปในทาง ดีหรือ ชั่ว มันอยู่ตรงนี้ ต่างหาก ถ้าเอาไปสอน ถุก มันก็ถูก ถ้าเอาคำสอนไปสอน ผิด มันก้ผิด อยู่ล่ำไป โปรดจำใส่ กระโหลกไว้ด้วย



เมือ่ทุก ศาสนา สอนคนให้เป็นคนดี มันก็ต้อง มีศาสนาเดียวเท่านั้น ที่สอน ไว้ครบถ้วน บริบูรณ์ สมบูรณ์ มีพระพุทธเจ้าองค์เดียว ที่สอน ให้หาทางพ้นทุกข์ ทางดับทุกข์ เพื่อความหลุดพ้น แต่ยัง หาทางหลุดพ้นไม่ได้ ท่านก็สอน ในการดำรงณ์ ชีวิต ไว้ ทุกขั้นตอน ตั้งแต่ ต้น จนถึง จุดสูงสุด และท่าน ไม่เคย ดูถูก ดูแคลน ศาสนาใดๆ เพียงแต่บอกว่า มันยัง ดีไม่ไม่ถึง ทีสุด เท่านั้นเอง ท่านสอน ให้ ดูหลัก คำสอน ของความเป็นจริง ให้ดูของจริง ที่สัตว์ เกิดมาเพราะอะไร เป็นเหตุ ผมไม่อธิบายนะ ในพลังจิตเยอะแยะ

 

3 มิตินรก+สวรรค์+ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ไอ้คำพูดแบบนี้ มันเป็นคำพูด คิดเอา เดาเอา อีกนั่นแหละ จะนรก สวรรค์ มันก็ดำเนิน ไปตามวัฐจัก ของกรรม ที่สัตว์ ทั้งหลายทำ คือ กรรมดี และชั่ว ว่า มันให้ผล ต่างกันอย่างไร เร็วช้า เช่นไร ไม่ต้องร้องเพลงรอ ชาติหน้าหรอก กรรมดี และกรรมชั่ว มันให้ผล เสมอกัน อยู่ที่ กรรม หนักเบา มันอยู่ตรงนี้ ว่ากรรมดี หรือ ชั่ว บางอย่าง ให้ผล ในวัน นี้ พรุ่งนี้ บางอย่าง อีก ๑๐ วัน ๑ เดือน ให้ผล บางอย่างเป็นปี หรือ หลายปี ให้ผล กรรม ดีชั่ว บางอย่าง หลายสิบปี หรือเกือบ ทั้งชีวิต ให้ผล ด้ายปลาบชีวิต



กรรมบางอย่าง ให้ผล ในภพ หน้า หรือ หลายๆชาติ จึงจะให้ผล หรือ อาจไปถึง เรื่อง ของกรรมบางอย่าง นับ ร้อยชาติ พัน ชาติ จึงจะให้ผล แล้วแต่กรรม ที่ ที่จิต ดวงจิต แต่ ละดวง ทำต่างหากเล่า ส่วนผมเอง มันให้ผล มาแล้ว ชาตินี้ ทั้ง กรรม ดี และกรรมชั่ว นับ หลาย สิบอย่างแล้ว จึงกล้าพูดและยืนยัน มันได้รับแน่นอน กรรมที่คุณทำ หนีไม่พ้นหรอกครับ กรรม ที่คุณ ทำนั่นแหละ เป็นผู้สร้าง ไอ้พระจงพระเจ้าที่ไหน จะมาสร้างให้ ถ้าพระจงพระเจ้า เจ้าสร้างให้ จะให้เกิดเป็นคนจน คนรวย หาหอกอะไร กัน

 

4 เสียงพร้ำร้องคล่ำครวญของทุกๆดวงจิต กุญแจความลับที่ถูกซ้อนไว้มาหลายภพ หลายชาติ ภายในก้นบึ้งของจิตใจทุกคน

ข้อความนี้ มันก็คล้ายๆ ข้อที่ผ่านๆมา ให้ผมพุดอีก ผมก็ย้ำอีก ก็เพราะ ความเหงี่ยน อีกนั่นแหละ ทำที่ทำให้เกิดภพชาติ ชรา มรณะ เกิดขึ้น กลายเป็น คำสอน ของพระพุทธศาสนา โลภ โกรธ หลง ของทุกๆดวงจิต เมื่อ จิต ทุก ดวงจิต ยึดมั่น ถือ มั่น มันก็ทำให้เกิดตาย กันอย่างนี้ ไม่มีที่จุดจบ เกิด ตายกัน นับชาติ ไม่ได้ ว่าเคยเกิดตาย กันเป็นอะไร กันมาบ้างแล้ว โอยพูดไป ก้เท่านั้น มันก็มีเรื่อง ค้านกันจนได้แหละ กูจะค้าน เสียอย่างจะทำไม ฮ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ใช้ไหม

 

5 ทางลัดสู่การหลุดพ้นวัฏจักรเวียนว่ายตายเกิดของทุกเชื่อชาติ-ทุกศาสนา ทุกดวงจิตอย่างเท่าเทียม

ใครก็พูดได้ เด็กมันพูดได้ จริงอยู่ ทุกดวงจิต มันมีสิทธิ์เท่ากัน แต่การพัฒนา จิตใจตนเอง มันแข่งกันพัฒนาหรือเปล่า ทำไม ไม่เกิดเป็นคนรวยให้หมด หรือ ทำไม ต้องมี กษัติย์ ประธานาธิบดี อำมาตย์ นายก นายพล นายพัน นายร้อย ชาวไร่ ชาวนา เศรษฐี ยายก วนิพก มี สิบนิ้ว ๒ ขา ๒ มือ มีอาการ ๓๒ ครบ ทำไม ไม่คิดดี บ้างล่ะ มีปัญาญาสมองเหมือนกัน หัดคิดซี่ ทำไม พระพุทธเจ้า ไม่พาคนไป พระนิพพานให้หมด ไม่ต้อง ขนาดนั้นก็ได้ เอาแค่ สวรรค์นี่แหละ พระพุทธเจ้า เป็น ศาสดาเอก ของโลก ท่านยังทำไม่ได้ นายจะแน่กว่าพระพุทธเจ้าหรือ

 

ผมพิมพ์ ข้อที่ ๖ ไปแล้ว แต่ส่งไม่ไป เข้ากระทู้ เหมือน ถูกปิด ไม่แน่ใจว่า เว็บมีปัญหาหรือเปล่าครับ

 

6 ทางรอดก่อนเกิดวันโลกาวินาศ

พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า โลกนี้ไม่มีวันแตกดับสลาย แต่โลกนี้ มันมีการเปลี่ยนแปลง อยู่ตลอดเวลา เกิดขึ้นตั้ง อยู่และดับไป เกิดๆดับๆ เป็นวัฏจักรของมัน แบบนี้ ที่หาสิ้นสุดลงมิได้ เกิด และแตกสลาย เมื่อไหร่ ใครคิดแล้ว เป็นโรค แห่ง โรคบ้า ท่านบอกไม่ควรคิด และเรื่องของพระพุทะเจ้า ใครคิด เรื่อง ความเป็นมาของพระพุทธเจ้า ๆจะต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ ใครคิดแล้ว จะเป็นโรคบ้า แต่ว่า ถ้าใครทำความปราถนา ที่จะเป็นพระพุทะเจ้านั้น แนวทางมีอยู่ ใครอยากเป็น ก็ต้องศึกษาหาแนวทางเอา ว่าคนที่ขจะเป็นพระพุทธเจ้า ต้อง บำเพ็ญ บารมีอย่างไร ถึง จะเข้าถึง ความเป็นแห่งพุทธะ



ใครคิด เรื่อง ของคนที่เป็นพระอริยเจ้า ตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป ถึง พระอรหันต์ ใครคิด ก้เป็นโรคบ้าเช่นกัน สำหรับจิต คนธรรมดา ไม่มีสิทธิที่จะคิด ว่า ท่านต้องเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ คิดเท่าไหร่ เราก็คิดผิดหมด เพราะจิตหนาด้วยกิเลส แต่ถ้าศึกษา เพื่อ นำจิตตนเอง เข้าถึง ความเป็น โสดาบัน ถึงพระอรหันต์ นั้น ต้องทำเอง พระสาวก หรือ พระพุทธเจ้า เป็นแต่เพียงผู้บอก ผู้ทำ คนทำ คือ ตัวเราเอง และใคคิดเรื่อง ของคนได้ฌาณ ๑-๒-๓-๔ คิดเอาเดาเอา คิดเท่าไหร่ เดา เท่าไหร่ ก็ผิด ห่าง เป็น แสนๆโยชน์ มันยิ่งห่างออกไป เป็น แห่งอาการของ โรคบ้าครับ ผมไม่ได้พูดเอง พระพุทธเจ้า ท่านเอาไว้ ผมตรองดูแล้ว มันจริงทุกอย่าง แค่คิด กับคนธรรมดา บางที่ ผิดแล้วผิดเล่า ผิดซ้ำซาก อยู่นั่นแหละ คิดเอาครับ ทุกคนมีปัญญา จะมันออกมา ใช้ ในทางที่ดีหรือเปล่า เท่านั้นเอง

 

คนที่จะรอด จากการ เกิดทุกข์ได้ ก็ต้อง ให้ทาน รักษาศิล เจริญภาวนา ตามสติ ปัญญา ความสามารถ ของตนเท่านั้น คนอื่น ให้สอน จนตัวตาย ถ้าเขาเหล่านั้น ไม่นำไป ปฏิบัติ ก็เหมือน เปล่าปี่ ให้ควายฟังครับ

 

สวัสดีเราคือคนโพสนี้เอง เราเน้นคำว่า ท่านสนใจรายละเอียดคลิกลิงค์ด้านล่าง
คุณไม่สนใจอย่าคลิกและอย่าขวางทางคนอื่นมันบาปมากนะ

ที่คุณพูดมันก็มีเหตุผลนะ เหตุผลของคนที่คิดแต่ในกรอบ อ้างอิงแต่ตำรา คลานตามความเชื่อผิดๆ คุณไม่มีสมองคิดเองหรอ คุณตอบมาขนาดนี้แสดงว่าคุณบรรลุแล้วสินะ

หากไม่ กรุณา อย่าเสี้ยมสอนคนอื่นให้เดินทางผิด หรือโฟสค้าน ด่าคนอื่น มันยิ่งแสดงความโง่ของคุณ จริงๆฉันไม่อยากตอบหรอ แต่อดหวงคนดีทั้งหลายที่กำลังเดินทางผิด

คุณคิดว่ากรรมสร้างคุณ โลกนี้ไม่มีพระเจ้าใช่ไหม หรอ.งั้นใครสร้างกรรม กรรมมากจากไหน กรรมคืออะไร ใครกำหนดว่ากรรมดี กรรมเลว ใครคือคนเขียนโปรแกรมกรรมละ
กลไกลอวัยวะคน สัตว์ พืช โลก จักรวาล กาเลคชี่ ใครสร้าง สร้างได้อย่างไร แล้วจิตคืออะไร เกิดจากใคร ใครสร้าง กรรมหรอ ตอนแรกเราไม่มีกรรมนิ ทำไมเราเกิดมาได้ละ คุณตอบได้ไหม

แก่นแท้ของหลักธรรม คุณรู้หรือไม่คืออะไร สั้นๆ อ่านตำราน่าจะสรุปได้นะว่า
ศาสนาพุทธ คือ หนทางการดับทุกข์ หรือให้อภัย (ทำอะไรก็ได้ให้สบายใจ ไม่เดือดร้อนตนเองและคนอื่น) มันก็แค่นี้
ศาสนาพุทธเต๋า คือ สอนความเมตตา
ศาสนาคริส คือ สอนความรัก
ศาสนาอิสลาม คือ ช่วยเหลือ

รวมศาสนา คือ "ความรักให้อภัยเมตตาช่วยเหลือกัน" นี้คือหนทางหลุดพ้น

คุณบอกว่า ความรักคือ ความเงี่ยน งั้นความรักที่แม่มีต่อคุณคือ ความเงี่ยน สินะ ฉันอุตสาอธิบายรักแท้ รักบริสุทธิ์ คุณคงโง่เกินกว่าจะเข้าใจ

หากคุณเห็นแม่คุณตาย คงไม่ช่วยสินะ ก็เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา แล้วคุณคงไม่ร้องให้เสียใจสินะ จริงอยู่คุณช่วยไม่ได้ แต่ถ้าคุณทำให้แม่คุณขึ้นสวรรค์ไปกับคุณ คุณจะได้อยู่สุขสบายกับแม่ไม่ต้องตายจากกันอีก มันไม่ดีกว่าหรอ

คุณคงรู้จักเทวดา ทำไมพวกเขาถึงไม่บรรลุถึงนิพพาน เพราะพวกเขายังห่วงมนุษย์จึงคอยช่วยมาตลอด

ส่วนพระพุทธเจ้า ท่านสามารถบรรลุได้ แต่ยังไม่ใช่ทางบรรลุที่แท้จริง ก็ลองคิดดูถ้าบรรลุ ก็ต้องอยู่คนเดียวหลายร้อยล้านปี จะเก่งแค่ไหนก็เหงาเป็น

ฉันจึงแนะนำใหทุกคนบรรลุพร้อมกัน ทุกคนจะได้หลุดพ้น สุขสบาย คนหารักแท้หรือเพื่อนแท้ที่จะบรรลุพร้อมกันไง มันจะได้ไม่เหงา

พอละ ไม่อยากสีซอให้ควายฟัง หวังว่าคุณจะอยู่รอดถึงยุคทองนะ และคุณจะรู้ว่า ฉันพูดถูกหรือไม่ แต่คงอีกไม่นานหรอก พระเจ้าและเหล่าเทพเทวดากำลังทำลายโลก เพื่อสร้างโลกใหม่(แค่ชำระคนเลว ให้คนกลัว จะได้สอนง่ายๆไง) ก็นะทางนี้พวกคุณเลือกเอง ไม่เห็นโรงศพไม่หลั่งน้ำตา ไว้เจอกันเมื่อโลกนี้ถูกชำระล้างเสร็จเรียบร้อยนะนะ

ปล.อย่าบังคับคนอื่น เพราะทุกคนมีอิสระที่จะคิด เชื่อ หรือ ทำตามความต้องการของตน หากคุณคิดว่าสิ่งนั้นเป็นประโยชน์แก่คุณและคนอื่น จงทำมัน แล้วคุณจะไม่เสียใจ

 

+++ มันไม่ใช่ ความลับ อะไรเลย จะบอกให้ก็ได้

+++ เจ้าเกิดมาเพราะ "อยากเกิด" พระเจ้าไม่ได้สร้างเจ้า แต่ "เพราะความโง่ของพวกเจ้า พวกเจ้าจึงสร้างพระเจ้าขึ้นมา"

+++ พวกเจ้า "สร้างพระเจ้า" ขึ้นมาตาม "กลอุบาย" ของพวกเจ้าเอง โดยหารู้ไม่ว่า "พระเจ้าตัวจริง" นั้นมีอยู่ และ ไม่ได้เป็นไปตามใจของพวกเจ้าเลย

+++ ตามข้อนี้ของเจ้า แสดงว่า "พระเจ้าผู้สร้าง" เป็นผู้สร้างพระเจ้ารวมทั้ง ศาสนาของเจ้าด้วย ระวัง "ความยัวะ" ของพระเจ้าให้ดีก็แล้วกัน

+++ มิติที่ 5 ไม่ได้อยู่ในโลก เจ้ารู้ได้แค่ไหน อย่ามโนให้มันมากจนเกินไปก็แล้วกัน

+++ แล้ว "เสียงหัวเราะของเราล่ะ" เจ้าไม่เคยได้ยินบ้างเลยหรือ ใยจิตใจเจ้าจึงลำเอียงถึงเช่นนี้ นั่นแหละจิตของเจ้าจึง จมอยู่ในก้นบึ้งแห่งทุกข์ ตลอดกาลนาน

+++ พระเจ้า ไม่เคยบอกเจ้าเลยหรือว่า "ทุกคน มี ส่วนหนึ่งของพระเจ้า อยู่ภายในตน"

+++ เจ้าเองนั่นแล "ไม่เคยทำตามที่พระเจ้าบอก" เจ้าจึง "หมดโอกาสที่จะเป็น ส่วนหนึ่งของพระเจ้า"

+++ กลัวมากเกินเหตุ ยังอีก "หลายพันล้านปี" กว่าจะเกิด ใครสอนให้เจ้าต้องมาทนทุกข์ทรมาณกับความกลัวตาย ตลอดกาลเช่นนี้

+++ หากเจ้า "ยังไม่มีปัญญาพอที่จะรู้เรื่อง ดวงอาทิตย์ทั้ง 7" เจ้าจะไม่มีวัน คำณวณ กาลเวลาได้เลย

+++ ตรงนี้ทุกคนรู้มานานแล้ว เจ้านั่นแหละ "ยังไม่รู้"

+++ ทางลัดสู่การหลุดพ้นวัฏจักรเวียนว่ายตายเกิด นั้น "อยู่ภายใน ตน ของเจ้า" เจ้าไม่เคยใส่ใจใน "คำพูดของพระเจ้า" เลยหรือ

+++ "ทุกคน มี ส่วนหนึ่งของพระเจ้า อยู่ภายในตน" แล้วเจ้าละ หาส่วนตรงนี้ "เจอหรือยัง"

+++ และวิธีที่จะเจอส่วนนี้ได้ คือ การปฏิบัติในทางของ "มหาสติปัฏฐาน 4 ของศาสนาพุทธ" นั่นเอง

+++ คำพูดของเรา เจ้าไม่เคยใส่ใจ หนทางมีอยู่ เจ้าไม่เคยค้นหา เจ้าเป็นพวก "งอมืองอเท้า" มโนเอาเองตลอดเวลา ช่างไม่เอาถ่านเสียจริง

+++ จะมาสนใจอะไรในคำพูดของเจ้า ก็ในเมื่อ "คำพูดของเราแท้ ๆ" เจ้ายังไม่สนใจอะไรเลย

+++ "หาส่วนหนึ่งของพระเจ้า ในอัตตาตัวตนของเจ้า" วิธีนี้มีอยู่แล้วใน มหาสติปัฏฐาน 4 ที่มีอยู่ในศาสนาพุทธ แล้วเจ้าจะเข้าใจได้ถูกต้องเอง

 

เราเข้าใจความปราถนาดีของท่านค่ะ และขอบคุณ ศาสนาพุทธจะสอนเรื่องเหตุและปัจจัย ถ้าหากพูดเรื่องพระเจ้าเป็นผู้สร้าง จะค้านคำสอนที่ว่ามีผู้กำหนดทุกอย่างต้องเป็นไปตามเกณฑ์ของพระเจ้าบัญชาการ ไม่สามารถทำอะไรได้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคำบัญชาของพระเจ้า และที่จริงแล้วพระเจ้าที่แท้จริงก็คือ พระเจ้าในตัวเองที่เราได้สร้างเหตุปัจจัยไว้อย่างไร ย่อมส่งผลอย่างนั้น ถ้าหมายความถึงพระเจ้าแล้ว น่าจะเป็นพระเจ้าในตนเองมากกว่าค่ะ

และกฎของจักรวาลนี้ไม่ได้แบ่งแยกกัน ที่แบ่งกันก็เป็นไปตามบัญญัติของโลกที่มนุษย์สร้างขึ้นกันเองตามกรรม แล้วกฎสากลแห่งจักรวาลมนุษย์ทุกคนมีสิทธิ์เข้าถึงความดีและความพ้นทุกข์ได้เหมือนกัน แต่ ณ ปัจจุบันนี้เป็นเรื่องของมวลมนุษยชาติ ที่ทุกชาติและศาสนาต้องเข้าใจและเป็นหนึ่งเดียวกัน เพราะเราต่างต้องอาศัยอยู่ในโลกเดียวกัน จะทำอย่างไร ดูที่ความเป็นไปของธรรมชาติ ดำเนินชีวิตแบบธรรมชาติ ไม่เบียดเบียน พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน นั่นอาจเรียกว่า เป็นแนวทางความรักดั่งศาสนาอื่นที่ได้กล่าวไว้ก็ได้ค่ะ

 

ฉันจึงแนะนำใหทุกคนบรรลุพร้อมกัน ทุกคนจะได้หลุดพ้น สุขสบาย คนหารักแท้หรือเพื่อนแท้ที่จะบรรลุพร้อมกันไง มันจะได้ไม่เหงา

ข้อความดังกล่าวข้างต้น หากเป็นชาวพุทธแล้ว ความรักจะหมายถึงความใคร่ที่เป็นบ่วงพันธนาการที่มัดไว้ที่ยากทำให้หลุดพ้น

แต่ถ้าเป็นศาสนาที่กล่าวถึงนี้ ท่านอาจจะหมายถึงความรักบริสุทธิ์ ที่เมตตาปราถนาดีเพื่อช่วยเหลือกันและให้พ้นทุกข์ ต้องหมายถึง ความรักบริสุทธิ์ของท่าน จึงมีความหมายที่แตกต่างด้วยการบัญญัติคำดังนี้ค่ะ เลยอาจทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อนกัน แต่ถ้ากฎของจักรวาลแล้ว นั่นถือว่าเป็นสากลแต่ต้องอยู่ในพื้นฐานของธรรมชาติ และสัจธรรม ก็เลยเข้าใจถึงความปราถนาดีของท่าน

 

({) ผมพรึ่งได้รับ ข้อความจากคุณ ผมเองไม่ได้หาเรื่องคุณหรอกนะ และไม่คิด จะสอนให้ใครคิดผิด แต่ผมคิดว่า คนที่เข้ามาตั้งกระทู้แบบนี้ มันน่าจะจะเป็นคนที่เคารพ พระพุทธเจ้าหรือ นับถือ ศาสนาพุทธ แสดงว่า คุณคงไม่ใช้ นับถือ พระพุทธศาสนา หรือนับถือ พระพุทะเจ้าหรอกนะ จึงไม่เข้าใจ ในคำพูดของผมๆเอง พูดตรงที่สุดแล้ว และผมเอง ไม่ใช้ เสือตำราอย่างเดียว ที่คุณพูดมาว่าผม โง่ เหมือนไอ้ควาย ผมทำงานมากว่า ๑๐๐ ชนิด ประสบการณ์จริง ไม่ต่ำกว่า ๘๐ กว่าเปอร์เซ็น ด้าน การทึษดี มีน้อย อาศัย อยู่ตามป่าเขาลำเนาไพร มาพอสมควร ในป่าในถ้ำหุบเหว ในเมือง อยู่มาพอตามอัตภาพ พอรู้ว่าอะไร ถูกผิด พอรู้ ผี เทวดา เมื่อก่อน พอสัมผัสได้ ณ ปัจจุบัน ท่านไม่ให้เห็นเลย


เรื่อง บรรลุธรรมนั้นผมยังไม่ได้ บรรลุ เรื่องของแต่ละศาสนา ทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี อย่าง ศาสนาคริส ท่านสอนให้ทำความดี ไปถึงสวรรค์ ผมไม่เคยดูถูกท่าน เพราะท่านเป็นพระโพธิสัตว์ สอนให้ทุกคนเป็นคนดี แต่ ลูกศิษย์ จะสอนผิดๆมีอยู่ คนนับถือ ศาสนาพุทธ ยังเอาคำสอน ของพระพุทธเจ้า ไปสอนผิดๆยังมีเลย ศาสนาอิสลาม ท่านก็สอน ให้คนเป็นคนดี ศาสนา พราหม์ ฮินดู ท่านก็สอน ถึงเทวดา พรหม ผมเอง งเข้าใจ ที่คุณเขียนมาด้านบน มันค้าน กับ ที่ผมรู้มาและเห็น และกรรม ที่ผมได้รับ ทั้งดีและชั่ว ผมเองพูดถึงหลักแห่งความเป็นจริง ของโลกที่คนเราเกิดเพราะอะไร เป็นเหตุ


เรื่อง ของความรัก จริงๆ บิดามารดา รักลูก มันรัก คนละแบบ รักแบบ หนุ่มรัก หญิงสาว มันรัก ด้วยความใคร่ ถ้าพูด แบบภาษาไทย คือ เหงี่ยน และรัก ด้วยความเมตตา กรุณา ของผู้ใหญ่ รักเด็ก เสมอด้วยรักตน ความรัก สงสารสัตว์ โลก คือความรัก ของพระโพธิสัตว์ที่จะช่วยเหลือ สัตว์โลก ให้พ้นจากทุกข์ การช่วยเหลือ สัตว์โลก มันก็มีขอบเขตุ จำกัด ไม่สามารถ ช่วยสัตว์ โลก ได้หมดหรอกครับ ควาย แม้มันกินหญ้า มันก็ไม่ได้ บรรลุธรรมหรอกครับ แต่ว่า ผมยังไม่เคยเห็นควาย ไปฆ่าคนตาย ปี สักคนเลยครับ มีแต่ คนไปฆ่าควาย นับปีหนึ่งๆ ทั่วโลก ไม่รู้กี่ล้านๆตัว



พวกเทวดา ทีคุณพูดถึง ที่ไม่บรรลุธรรม เพราะ ท่านยัง ตัดไม่ได้ นั่นเอง แต่ส่วนใหญ่ พวกเทวดาพรหม จะบรรลุธรรมมากกว่าคน ส่วนท่านที่ปราถนา โพธิสัตว์ ถ้าบารมีท่านยังไม่เต็ม ท่านจะบรรลุได้อย่างไร โน่นแหละ บารมีเต็มเมื่อไหร่ ท่านก็บรรลุเมื่อนั้น

นี่คือ คำพูดของคุณ ส่วนพระพุทธเจ้า ท่านสามารถบรรลุได้ แต่ยังไม่ใช่ทางบรรลุที่แท้จริง ก็ลองคิดดูถ้าบรรลุ ก็ต้องอยู่คนเดียวหลายร้อยล้านปี จะเก่งแค่ไหนก็เหงาเป็น

โถน่าสงสาร แค่นี้คุณยังไม่รู้เลย คำว่าพระพุทธเจ้า เป็นมาอย่างไร แล้วจะไปรู้อะไรเรื่อง ของผี เทวดา พรหม พระนิพพาน และไม่รู้ด้วยซ้ำไป ว่า ความรัก ที่แท้จริง มันเป็นอย่าง ไอ้ที่ พิมพ์ออกมา มันแสดงถึง ภูมิความรู้ ในแง่มุมต่างๆของคุณจนหมด ผมเอง บอกตรงๆเลย ประสบการณ์ จริง ๘๐ กว่าเปอร์นะจะบอกให้ ไม่ใช่ ไอ้เสือตำราแบบคุณว่า หรอก ผมเอง ลืมไปหมดแล้ว พอดีคุณ ส่งข้อความเข้าไป จึงเข้ามาตอบ คุณไป ศึก ษาในด้านคำสอน ของศาสนา ที่คุณเคารพจริงๆจะดีกว่า ในพลังจิต ที่ผมอ่านส่วนใหญ่ มันเป็นคำสอน ของพระพุทธศาสนา

 

({) สวัสดีครับคุรธรรมชาติ คุณตอบได้ดีมากๆเลย นั่นแหละ คือทางตรงเลย สติปัฏฐาน ๔

 

ที่จริงแล้วมองกันแบบเป็นกลางนะคะ
ไม่มีใครถูกใครผิดหรอกค่ะ
ไม่ว่าคนนั้นจะนับถือศาสนาดาใด
แต่ที่ผิดคือ ความเบียดเบียนค่ะ
ไม่ว่าใครจะอ่านจากตำรา
หรือ จากการปฏิบัติ หากเป็นความจริง
เป็นความรู้ ก็ไม่น่าจะผิดอะไรมากมาย
ก็ jityim ก็ชอบลอกมาจากตำราเหมือนกันค่ะ

 

เขากำลังพูดถึงความกลางของสัจธรรมสากลจักรวาล

 

หากยังมีการแบ่งแยกกันอยู่แสดงว่า...เรายังไม่ใช่พุทธที่แท้จริงค่ะ

 

และยิ่งพระโพธิสัตว์ด้วยแล้วท่านจะเข้าใจเรื่องอย่างนี้ได้ดีทีเดียว

 

เราไม่ควรแตกแยกกันเพราะว่าศาสนา อย่างที่โลกเป็นกันอย่างทุกวันนี้