วันนี้วันวิสาขบูชา แนะนำสวด "พิธีขออโหสิกรรมใหญ่ เพื่อความไม่ประมาท” ค่ะ

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย wanidac, 8 พฤษภาคม 2009.

  1. wanidac

    wanidac Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +25
    “พิธีขออโหสิกรรมใหญ่ เพื่อความไม่ประมาท”


    พระอาจารย์นพพร อาทิจจวโส <O:p

    <O:p

    การที่เรามีจิตศรัทธาน้อมเข้ามาศึกษาปฎิบัติธรรม บำเพ็ญบารมีความดีประการต่างๆ อาจมีอุปส่รรคเครื่องขัดชาวงให้เกิดความล่าช้า ด้วยอำนาจของกรรมในอดีต ที่เราอาจผิดพลาด หลงไปล่วงเกินประมาท ต่อท่านผู้รู้ ผู้มีพระคุณ ผู้ทรงคุณความดีและบารมีธรรมทั้งหลาย เพราะการกระทบกระทั่งผู้รู้ ผู้มีคุณความดีบารมีธรรมระดับสูงมากขึ้นไปเพียงใดแล้ว ผลที่จุสะท้อนกลับมาก็ย่อมรุนแรงขึ้นไปเท่านั้น ยิ่งเป็นพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระอริยสงฆเจ้า หรือพระอรหันต์เจ้าทั้งหลาย ผู้เป็นอัปปมาโณบุคคล คือบุคคลผู้ทรงคุณค่าหาประมาณมิได้แล้วด้วยไซร้ กรรมที่เกิดขึ้นแม้เพียงคิดกล่าวปรามาสล่วงเกิน ก็สามารถส่งผลตอบแทนที่รุนแรงน่ากลัวมหันต์ ปิดบังตาบังใจ ไม่ให้เราสามารถเกิดปัญญารู้ทั่งถึงธรรมตามเป็นจริงได้

    <O:pเพื่อเป็นการเปิดทาง และสร้างเหตุให้เราสามารถบรรลุเข้าถึงธรรมได้โดยง่าย และเพื่อให้เกิดสัปปายะ ความสลายรวดเร็วในการปฎิบัติธรรม ทั้งยังเป็นความไม่ประมาท ที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายทรงยกย่องสรรเสริญ จึงควรที่เราทั้งหลายจะได้มีการทำพิธี “ขออโหสิกรรม เพื่อความไม่ประมาท” ต่อกรรมทั้งหลายทั้งปวงที่เราท่านอาจจะได้เคยล่วงเกินต่อท่านฯ มา <O:p

    ใครจะไปรู้ว่าในอดีต หรือภพชาติที่ผ่านพ้นไปแล้วนั้น เราอาจจะเคยพลาดพลั้งล่วงเกินไปอย่างใดบ้าง จึงควรที่เราท่านทั้งหลายจะได้ปฎิบัติตามที่พระศาสดาสัมมาสัทพุทธเจ้าทรงตักเตือนพุทธบริษัท เป็นปัจฉิมโอวาทว่า

    “สังขารทั้งหลาย มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงยังกิจทั้งปวงอันเป็นประโยชน์ตนและประโยชน์ท่าน ให้บริบูรณ์ด้วยความไม่ประมาทเถิด” <O:p

    ดังนั้นโดยตั้งใจทำพิธีขออโหสิกรรม ในกรรมทั้งหลายที่เราอาจเคยกระทำไว้เหล่านั้น เพื่อยังความไม่ประมาท ทรมานกิเลส และพัฒนาให้เรากล้าต่อความจริงและเหตุผลที่ถูกต้องชอบธรรม โดยความอ่อนน้อมเป็นเหตุให้เป็นบุคคลที่พึงประสงค์ เป็นที่รัก ทั้งยังเป็นการบรรเทาโทษทุกษ์ภัยให้ลดน้อยลงด้วย ดังที่เราท่านจะได้กล่าวคำขมา ขออโหสิกรรมต่อไป <O:p

    หมายเหตุ ท่านพระอาจารย์นพพรฯ ได้เมตตาแนะนำให้ทำพิธีนี้วันวิสาขบูชา วันมาฆบูชา หรือในวันมหาปวารณา (ออกพรรษา)โดยถือเอาตามนัยที่ว่า เป็นวันที่พระทั้งหลาย ท่านมาประชุมพร้อมเพรียงกัน พร้อมที่จะให้อโหสิกรรม และว่ากล่าวตักเตือนกันได้ <O:p

    <O:p


    ชุมนุมเทวดา (สัคเค กาเม...) <O:p

    นะโม 3 จบ <O:p

    ไตรสรณาคมณ์ (พุทธัง สรณัง คัจฉามิ...) <O:p
    สมาทานศีล (ปาณาติปาตา...) <O:p
    สะรัชชัง สะเสนัง สะพันธุง นะรินทัง
    ปะริตตานะภาโว สะทา รักขะตูติ
    ผะริตวานะ เมตตัง สะเมตตา ภะทันตา
    อะวิกขิตตะจิตตา ปะริตตัง ภะณันตุ <O:p

    สัคเค กาเม จะ รูเป คิริสิขะระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเน
    ทีเป รัฏเฐ จะ คาเม ตะรุวะนะคะหะเน เคหะวัตถุมหิ เขตเต
    ภุมมา จายันตุ เทวา ชะละถะละวิสะเม ยักขะคันธัพพะนาคา
    ติฏฐันตา สันติเก ยัง มุนิวะระวะจะนัง สะธะโว เม สุณันตุ<O:p

    ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
    ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
    ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา<O:p

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ<O:p

    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ<O:p

    ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ<O:p

    ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ<O:p


    ( คำสมาทาน ศีล ๕ )

    ๑. ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทังสะมาทิยามิ ( เว้นจากการฆ่าสัตว์ , ไม่ทำให้พ่อแม่เป็นทุกข์กาย ทุกข์ใจ ( ตายทั้งเป็น ) , ไม่ทำให้ผู้อื่นเกิดความทุกข์กายทุกข์ใจ เหมือนตกนรกทั้งเป็น ) <O:p
    ๒. อะทินนาทานา เวระมณี สิกขาปะทังสะมาทิยามิ ( เว้นจากการลักทรัพย์ ,ไม่ขโมยเวลา เข้างานสายกลับก่อน , ไม่เขียนเบิกสิ่งของ หรือ เงินทอง เกินความเป็นจริง , ไม่เอาของที่ทำงานกลับบ้านใช้ ) <O:p
    ๓. กาเมสุมิจฉาจารา เวระมณี สิกขาปะทังสะมาทิยามิ ( เว้นจากการประพฤติผิดในกาม , มีชู้ , มีกิ๊ก ตอนแต่งงานพ่อแม่ทั้ง ฝ่ายหญิงและชาย จะต้องเห็นดีด้วยกันทั้ง 2 ฝ่ายถึงเรียกว่าไม่ผิดศีล ) <O:p

    ๔. มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทังสะมาทิยามิ ( เว้นจากการพูดปด / พูดใส่ร้าย / คำพูดล่อลวงอำพรางผู้อื่น ) <O:p
    ๕. สุราเมระยะมัจฉะปะมาทะถานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ ( เว้นจากการดื่มสุราเมรัยเครื่องดองของเมาที่ทำให้ใจคลั่งไคล้มัวเมาต่าง ๆ จนทำให้มัวเมาตัวเอง , มัวเมา อำนาจ , ลาภยศ , เงินทอง และอบายมุข )

    <O:pโมทนาสาธุ ๆ ๆ กับ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุก ๆ พระองค์ <O:p
    โมทนาสาธุ ๆ ๆ กับ พระธรรมเจ้า ทุก ๆ พระองค์ <O:p
    โมทนาสาธุ ๆ ๆ กับ พระอริยสังฆเจ้า ทุก ๆ พระองค์ <O:p
    โมทนาสาธุ ๆ ๆ กับ พระปัจเจกพุทธเจ้า ทุก ๆ พระองค์ <O:p
    โมทนาสาธุ ๆ ๆ กับ พระอัครสาวกเจ้า ทุก ๆ พระองค์ <O:p
    โมทนาสาธุ ๆ ๆ กับ พระอสีติมหาสาวกเจ้า ทุก ๆ พระองค์ <O:p
    โมทนาสาธุ ๆ ๆ กับ พระอรหันตสาวกเจ้า ทุก ๆ พระองค์

    <O:pขอพระบรมพุทธานุญาต ขอพระองค์ทรงประทานพระวโรกาสให้ข้าพระพุทธเจ้าและคณะ พร้อมด้วยพรหมเทพเทวดาทั้งหลายสรรพสัตว์ทั้งหลาย สรรพเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ได้ทำพิธีขออโหสิกรรม <O:p

    ในกรรมทั้งหลายทั้งปวง ที่ข้าพเจ้าทั้งหลาย ได้เคยประมาทล่วงเกินแก่องค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระอริยสังฆเจ้า ท่านผู้ทรงคุณความดี และพระบารมีธรรมท้งหลายด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดีหรือด้วยใจก็ดี นับแต่อดีต 16 อสงไขยแสรกัลป์ จนถึงปัจจุบันชาติเพื่อความหมดเวรสิ้นกรรม เพื่อมรรคผล นิพพาน และความวิมุตติหลุดพ้นได้โดยง่าย ในฉับพลันนี้ด้วยเทอญ.

    <O:pนะโม 3 จบ <O:p
    <O:p
    1. สัมมาสัมพุทโธ ปะมาเทนะ + ทวารัตตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะตุ โน ภันเต. <O:p
    2. สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ปะมาเทนะ + ทวารัต ตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะตุ โน ภันเต. <O:p
    3. สุปะฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ปะมาเทนะ + ทวารัตตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะตุ โน ภันเต. <O:p
    4. รัตนะตะเย ปะมาเทนะ + ทวารัตตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะตุ โน ภันเต. <O:p
    5. สังโฆ อริยสังโฆ ปะมาเทนะ + ทวารัตตะเยนะ กะตัง สังพัง อะปะราธัง ขะมะตุ โน ภันเต. <O:p
    6. เถเร มะหาเถเร ปะมาเทนะ + ทวารัตตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะตุ โน ภันเต. <O:p
    7. ทานบารมี ทานอุปบารมี ทานปรมัตถบารมี ศีลบารมี ศีลอุปบารมี ศีลปรมัตถบารมี เนกขัมมะบารมี เนกขัมมะอุปบารมี เนกขัมมะปรมัตถบารมี ปัญญาบารมี ปัญญาอุปบารมี ปัญญาปรมัตถบารมี วิริยะบารมี วิริยะอุปบารมี วิริยะปรมัตถบารมี ขันติบารมี ขันติอุปบารมี ขันติปรมัตถบารมี อธิฐานบารมี อธิษฐานอุปบารมี อธิฐานปรมัตถบารมี เมตตาบารมี เมตตาอุปบารมี เมตตาปรมัตถบารมี อุเบกขาบารมี อุเบกขาอุปบารมี อุเบกขาปรมัตถบารมี ญาณะสัมปันโน ปะมาเทนะ + ทวารัตตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะตุ โน ภันเต. <O:p

    8. ญาณวิมุตติบารมี ญาณวิมุตติอุปบารมี ญาณวิมุตติปรมัตถบารมี ญาณะสัมปันโน ปะมาเทนะ + ทวารัตตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะตุ โน ภันเต. <O:p
    9. มรรค-ผล-นิพพาน บารมี มรรค-ผล-นิพพาน อุปบารมี มรรค-ผล-นิพพาน ปรมัตถบารมี ญาณะสัมปันโน ปะมาเทนะ + ทวารัตตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะตุ โน ภันเต. <O:p
    10. คุรุ อาจาริเย ปะมาเทนะ + ทวารัตตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะตุ โน ภันเต. <O:p
    11. มาตาปิตุ ปะมาเทนะ + ทวารัตตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะตุ โน ภันเต. <O:p
    <O:p

    โมทนาสาธุ โมทนาสาธุ โมทนาสาธุ

    <O:pขอให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรมเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระอริยสังฆเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระอัครสาวกเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระอสีติมหาสาวกเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระอรหันต์สาวกเจ้าทุก ๆ พระองค์ บารมีธรรมทั้งหลาย อุปัชฌาย์ ครูอาจารย์ ทั้งหลาย บิดามารดา และท่านผู้มีพระคุณทั้งหลาย ญาติสนิทมิตรสหายทั้งหลาย สรรพเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย สรรพวิญญาณทั้งหลาย นับแต่ 16 อสงไขแสนกัลป์จนถึงปัจจุบันชาติ จงเมตตาให้อโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้า และให้อโหสิกรรมแก่กันและกันเทอญ <O:p·
    ขอจงอโหสิ ๆ ๆ

    <O:p
    · ขอให้หมดเวรสิ้นกรรม ๆ ๆ <O:p
    · ขอให้กรรมทั้งหลายทั้งปวงจงเป็นอโหสิ ๆ ๆ <O:p
    · ขอให้วิบากกรรมชั่วทั้งหลายทั้งปวง จงยุติการส่งผล ๆ ๆ <O:p
    · ขอให้วิบากกรมมดีทั้งหลายทั้งปวง จงส่งผลสำเร็จ ๆ ๆ <O:p
    · นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ <O:p
    · โมทนาสาธุ ๆ ๆ <O:p
    · ขอให้สำเร็จมรรค ผล นิพพาน ในชาติปัจจุบันนี้เทอญ



    <O:pที่มา หนังสือ ปาฏิหาริย์เชื่อมบุญ โดย ธ.ธรรมรักษ์<O:p

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 พฤษภาคม 2009
  2. อย่าลืมฉัน

    อย่าลืมฉัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +2,807
    โมทนาสาธุครับ

    ขอโทษน่ะครับ ทำไมไม่บอกซะปีหน้าล่ะครับ 555
     
  3. somkun62

    somkun62 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    275
    ค่าพลัง:
    +766
    เนื่องจากพระอาจารย์นพพร ไม่อนุญาติให้นำบทสวดนี้ไปใช้ในการขอขมาเหมือนเมื่อก่อนแล้วครับ พระอาจารย์นพพร ท่านบอกผมให้เลิกใช้ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...