"วัดสเตย์"...พักผ่อนแถมได้บุญ ที่วัดพืชอุดม ปทุมธานี

<OBJECT id=atff style="Z-INDEX: 100000; WIDTH: 1px; POSITION: absolute; HEIGHT: 1px" classid=clsid27CDB6E-AE6D-11cf-96B8-444553540000>
























</p>&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&nbsp
&ampnbsp</p>&ampnbsp
&ampnbsp
&ampnbsp
&ampnbsp
&ampnbsp
&ampnbsp
&ampnbsp
&ampnbsp
&ampnbsp
&ampnbsp
&ampnbsp
&ampnbsp
&ampnbsp
&ampnbsp
&ampnbsp
&ampnbsp
&ampnbsp
&ampnbsp
&ampnbsp
&ampnbsp
&ampnbsp
&ampnbsp
&ampnbsp
&ampnbsp
&ampampnbsp
&ampampnbsp</p>&ampampnbsp
&ampampnbsp
&ampampnbsp
&ampampnbsp
&ampampnbsp
&ampampnbsp
&ampampnbsp
&ampampnbsp
&ampampnbsp
&ampampnbsp
&ampampnbsp
&ampampnbsp
&ampampnbsp
&ampampnbsp
&ampampnbsp
&ampampnbsp
&ampampnbsp
&ampampnbsp
&ampampnbsp
&ampampnbsp
&ampampnbsp
&ampampnbsp
</OBJECT>"วัดสเตย์" วัดในแนว...หลวงพ่อสมบูรณ์ <!-- AddThis Button BEGIN --><SCRIPT type=text/javascript>var addthis_pub="komchadluek";var addthis_brand = "คมชัดลึก";var addthis_header_color = "#ffffff";var addthis_header_background = "#3792ef"</SCRIPT><SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/200/addthis_widget.js" type=text/javascript></SCRIPT><!-- AddThis Button END -->

นักเรียนที่มาปฏิบัติธรรม​

ภาพจิตรกรรมในอุโบสถหลังใหม่​

สามเณรภาคฤดูร้อน​

<SCRIPT type=text/javascript>var id='10017';function count(){$.ajax({ type: "POST", url: "http://www.komchadluek.net/counter_news.php", data: "newsid="+id, success: function(txt){ var counter_=parseInt(txt); $('#counters').html('จำนวนคนอ่าน '+counter_+' คน'); } });} featuredcontentslider.init({ id: "slider1", contentsource: ["inline", ""], toc: "markup", nextprev: ["Previous", "Next"], revealtype: "click", enablefade: [true, 0.1], autorotate: [true, 8000], onChange: function(previndex, curindex){ }})</SCRIPT>
คมชัดลึก :วัดพืชอุดม สร้างขึ้นเมื่อราวๆ พ.ศ.๒๔๑๗ แต่เดิมมีชื่อว่า วัดราษฎร์ศรัทธาราม ต่อมาในสมัย พระอธิการช่วง ธัมมโชติ ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น วัดพืชอุดม เนื่องจากบริเวณวัดและพื้นที่ใกล้เคียงกับวัดอุดมไปด้วยไม้ผลไม้ดอก และพืชพรรณธัญญาหารต่างๆ

พระอาจารย์แดง เป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัด ได้ดำเนินการก่อสร้างอุโบสถทั้งหลัง มีขนาดกว้าง ๙.๓๖ เมตร ยาว ๒๓.๕๕ เมตร ภายในอุโบสถมีพระพุทธโสธร (จำลอง) เป็นองค์พระประธาน
พื้นที่ตั้งวัด มีสภาพเป็นที่ราบลุ่ม อยู่ริมคลองสิบสอง สายหกวา น้ำท่วมถึงทุกปี พื้นดินเป็นทุ่งนา เป็นดินอ่อน สิ่งปลูกสร้างในยุคแรกส่วนใหญ่เป็นไม้เนื้อแข็งทั้งหมด ซึ่งในปัจจุบันได้ผุพังทรุดโทรม จนต้องรื้อถอนออกไปหมด มีเจ้าอาวาสปกครองดูแลบูรณะถาวรวัตถุต่างๆ พร้อมทั้งเผยแพร่พุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง มาเป็นลำดับจนถึงปัจจุบัน มีทั้งหมด ๙ รูป
ปัจจุบันมี พระอธิการสมบูรณ์ สิริปุญโญ หรือ หลวงพ่อสมบูรณ์ เป็นเจ้าอาวาส
ทั้งนี้ ก่อนที่จะมาเป็นเจ้าอาวาสวัดพืชอุดม หลวงพ่อสมบูรณ์เป็นพระลูกวัดอยู่ที่ วัดอุดมมงคล หมู่ ๔ ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เพราะ พระครูกาญจนมงคล เจ้าอาวาสวัดอุดมมงคล เป็นลูกศิษย์ของ พระครูอุดมภาวนาภิรัต โดยศรัทธาประชาชนชนวัดพืชอุดม นิมนต์ให้มาเป็นเจ้าอาวาส เนื่องจากวัดขาดการสานต่อนโยบายของพระครูอุดมภาวนาภิรัต ทำให้นรก- สวรรค์ ๓๑ ภูมิ เสื่อมโทรมไประยะหนึ่ง
เมื่อมาเป็นเจ้าอาวาสแล้ว หลวงพ่อสมบูรณ์ก็เริ่มฟื้นฟูสภาพภายในวัดทั้งหมด ให้อยู่ในสภาพเดียวกับที่พระครูอุดมภาวนาภิรัต (ไสว ยอดเพ็ชร) อดีตเจ้าอาวาสรูปที่ ๗ สร้างไว้
จุดมุ่งหมายของการสร้างวัดพืชอุดม ยุคใหม่ ของหลวงพ่อสมบูรณ์ คือ เพื่อให้เป็นสถานที่ชุมนุมองชาวพุทธทั้งหลาย ที่มีศรัทธามาศึกษาเรียนรู้ธรรมะจากภายนอก และภายใน กล่าวคือ ธรรมะภายนอกที่สามารถเห็นด้วยตา จากการชมนรก-สวรรค์ อันเป็นผลจากการกระทำดีกระทำชั่ว สามารถดูได้ทั้งครอบครัว เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี
ขณะเดียวกัน ทางวัดได้จัดฝึกปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่อง และโครงการหนึ่งที่ไม่เหมือนวัดใด คือ โครงการวัดสเตย์ (WAT STAY)

พระอธิการสมบูรณ์​

หลวงพ่อสมบูรณ์ บอกว่า การสร้างวิหารพระเจ้าเปิดโลก เพื่อแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับนรก-สวรรค์ ๓๑ ภูมิ เกิดจากแนวความคิดของพระครูอุดมภาวนาภิรัต ปกครองวัดระหว่าง พ.ศ.๒๔๙๒-๒๕๔๓
ท่านเป็นพระวิปัสสนาจารย์ ได้ศึกษาพระอภิธรรม และสร้างนรก-สวรรค์ ๓๑ ภูมิ ในช่วง พ.ศ.๒๕๐๗ เป็นต้นมา เพื่อเป็นอนุสติเตือนใจให้คนละเว้นความชั่ว มุ่งทำแต่ความดี ตามหลักการที่ว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
ปลูกฝังคุณธรรม และให้ความรู้ในชาติกำเนิดภพภูมิต่างๆ รวมทั้งในด้านศิลปวัฒนธรรม ทั้งทางคดีโลก และคดีธรรม แบบโสตทัศนธรรมศึกษา
การสร้างนรก-สวรรค์ ๓๑ ภูมิ ของพระครูอุดมภาวนาภิรัต ท่านต้องการให้เห็นเป็นรูปธรรม เห็นเป็นภาพ ๓ มิติ สามารถจับต้องได้ ซึ่งสามารถดึงและชักชวนให้คนมาวัดได้มากขึ้น แม้ว่าจะไม่ได้มาปฏิบัติธรรม เพียงแค่มาเห็นภพภูมินรก น่าจะช่วยให้คนสำนึกถึงปาบ บุญ คุณโทษ ได้มากยิ่งขึ้น
สำหรับแนวความคิดเรื่องการทำโครงการวัดสเตย์ของวัดพืชอุดม ซึ่งได้รับการตัดสินให้เป็นโอท็อปด้านท่องเที่ยวระดับประเทศ ประจำปี ๒๕๔๙ นั้น เนื่องจากวัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอยู่แล้ว
ขณะเดียวกัน การท่องเที่ยวในลักษณะโฮมสเตย์ก็ได้รับความนิยม โดยไปศึกษาชีวิตวามเป็นอยู่ของคนในชุมชนนั้นๆ จึงเกิดแนวคิดว่า น่าให้คนได้มาศึกษาวิถีชีวิตของคนอยู่วัด คนมาปฏิบัติธรรมบ้าง
ทั้งนี้ ได้ปรับปรุงบริเวณวัดใหม่ทั้งหมด โดยมีการสร้างที่พักของผู้ปฏิบัติธรรมชาย ที่พักของผู้ปฏิบัติธรรมหญิง รวมทั้งห้องรับประทานอาหาร แยกเป็นส่วนออกมาจากเขตของสงฆ์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ปฏิบัติธรรม

ที่พักและที่รับประทานอาหารของผู้มาปฏิบัติธรรมชาย​

ส่วนความแตกต่างของ วัดสเตย์ กับ สถานที่ปฏิบัติธรรม นั้น หลวงพ่อสมบุญบอกว่า การตั้งชื่อเพื่อให้รู้สึกสบายๆ มีลักษณะเดียวกับวัดที่เปิดฝึกอบรมปฏิบัติธรรม การตั้งชื่อว่า วัดสเตย์ นั้น เพื่อให้ผู้มาปฏิบัติธรรมรู้สึกเหมือนว่ามาพักผ่อนแบบสบายๆ ไม่ต้องเคร่งเครียด เหมือนกับมาปฏิบัติธรรมโดยตรง แต่มีการปฏิบัติธรรม และเรียนรู้วิธีคนปฏิบัติธรรมเป็นของแถม เหมือนกับคนไปพักโฮมสเตย์ในวันหยุด เพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตชาวบ้าน
“วัดนอกจากมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ มีศาสนสถานที่สวยงาม มีพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแล้ว วัดต้องให้บริการชุมชน ต้องให้มีความพร้อมสำหรับผู้ปฏิบัติธรรมด้วย ปีหนึ่งๆ คนเข้าวัดไม่กี่ครั้ง ส่วนใหญ่มาทำบุญเท่านั้น ส่วนเรื่องมาวัดเพื่อปฏิบัติธรรมนั้นน้อยมาก ส่วนหนึ่งเกิดจากความไม่พร้อมของวัด อาตมาจึงสร้างวัดสเตย์ขึ้น จะมาวันเดียว ๓ วัน หรือ ๗ วัน ก็ได้ วัดไม่ได้เก็บค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเป็นหน้าที่ของวัด และพระที่ต้องสอนธรรมให้แก่ญาติโยมอยู่แล้ว" หลวงพ่อสมบูรณ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ระหว่างวันที่ ๒๕ เมษายน-๓ พฤษภาคม ๒๕๕๒ ทางวัดได้เปิดให้ทำบุญปิดทองฝังลูกนิมิตอุโบสถจตุรมุข ใช้งบประมาณก่อสร้างกว่า ๒๐ ล้านบาท เฉพาะภาพจิตรกรรมฝาผนังในอุโบสถ หลวงพ่อสมบูรณ์ได้จ้างจิตรกรมาวาดภาพเกือบ ๔ ล้านบาท
หลวงพ่อสมบูรณ์พูดถึงการสร้างศาสนสถานต่างๆ ไว้อย่างน่าคิดว่า “การสร้างสิ่งใหญ่ๆ โตๆ ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ โบสถ์ วิหาร หลังใหญ่ๆ หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องสิ้นเปลือง อย่างกับกรณีภาพจิตรกรรมของวัด ในวันนี้อาจจะเป็นเรื่องแพง แต่วันข้างหน้าจะมีคุณค่าอย่างยิ่ง ในด้านการศึกษาพุทธประวัติ ซึ่งทุกวันนี้ภาพพุทธประวัติตามวิหารอุโบสถเก่าๆ ก็มีคุณค่า แต่นับวันจะน้อยลง เมื่อสร้างโบสถ์เราก็หาช่างที่มีฝีมือมาฝากผลงานที่สุดยอดในยุคนี้ ไว้เป็นสมบัติทางพุทศาสนา”
พุทธศาสนิกท่านใดประสงค์จะเข้าพักในโครงการวัดสเตย์ ของวัดพืชอุดม ซึ่งตั้งอยู่ ณ เลขที่ ๒๕ คลองสิบสอง สายหกวา หมู่ ๙ ต.พืชอุดม อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี หรือสอบถามรายละเอียดและเส้นทางไปวัดได้ที่โทร.๐-๒๕๖๓-๐๒๔๘, ๐-๒๕๖๓-๑๑๓๐

เรื่อง - ภาพ... "ไตรเทพ ไกรงู"

http://www.komchadluek.net/detail/20090422/10017/วัดสเตย์วัดในแนว...หลวงพ่อสมบูรณ์.html

 

ขออนุโทนาอย่างยิ่งเลยครับ

น่าจะมีแบบนี้เยอะๆ

 

อ นุ โ ม ท น า ส า ธุ . . . ดีแล้วชอบแล้ว


.

 

อนุโมทนาสาธุค่ะ

การให้ธรรมะคือการให้ที่ยิ่งใหญ่

 

ดีจังทำให้คนเข้าวัดได้เยอะเลย อนุโมทนาด้วยนะครับ.....สาธุ

 

คว้าได้เศษแก้วหลงดีใจว่าเป็นเพชรเลยโยนเพชรที่ยังเจียรนัยไม่เสร็จทิ้งไป เก็บไว้แต่เพียงเศษแก้ว

นำความวุ่นวายเข้ามาสู่วัด แล้วพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจะเอาสถานที่ไหนเวลาไหนไปวิปัสนา มีนักบวชโทรศัพท์จีบสาวก็มีแล้ว มีนักบวชแก่ๆอ้างเรื่องการทำผิดวินัยของตนว่าเป็นวิปัสนารู้จักปล่อยวางไม่ยึดถือก็มีแล้ว มีนักบวชออกธุดงจนหลงป่า พอออกมาได้ก็ร้องห่มร้องไห้ต่อหน้าสื่อมวลชนก็มีแล้ว
หวังว่าคงไม่มี 7-11 ในวัดอีกนะ เผื่อมีนักบวชคนไหนหิวหลังเที่ยงคืน
คนทุกวันนี้ไม่ใช่ว่าทำบาปเพราะไม่รู้ แต่มันทำเพราะอยากลองดี อยากลองของ ยิ่งได้เห็นภาพปฏิมากรรมที่สวยงามยิ่งคิดกระหยิ่มในใจ"จะลงโทษฉันเหรอ ถ้าฉันวิ่งหนีหรือไม่ยอมให้ลงโทษซะอย่าง จะทำอะไรฉันได้" และก็มีการทำบาปเรื่อยๆมา ภาพบนฝาผนังจึงกลายเป็นกาตูนให้ดูสบายตาไปวันๆซะงั้น

แต่พอหลวงพ่อฤาษีลิงดำเอามโนมยิทธิมาเผยแพร่ กลับถูกกล่าวหาว่าเป็นสะกดจิตมั่งล่ะ ไม่ใช่ของพระพุทธเจ้ามั่งล่ะ อุปปาทานหมู่มั่งล่ะ
เพราะหลวงพ่อท่านมีกฏอยู่ว่า ถ้ามองไม่เห็นภาพหรือเห็นไม่ชัด ให้ตัดกิเลสตัดขันห้าชั่วคราวซะก่อน ถ้ายังไม่เห็นอีกให้เลิกสอนเพราะถือว่าเลวเกินกว่าจะเรียนได้

 

อนุโมทนา สาธุ ค่ะ ไม่ไกลกันเท่าไหร่ คงได้มีโอกาสเป็นเยี่ยมเยือนค่ะ