"วัดป่าหนองบัวเมืองศรีเทพ" สร้าง "พระพุทธศรีถมอรัตน์"สูง 9 เมตรแกะสลักจากหินเพชร

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย สังขารไม่เที่ยง, 18 พฤศจิกายน 2010.

  1. สังขารไม่เที่ยง

    สังขารไม่เที่ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,943
    ค่าพลัง:
    +24,697
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"วัดป่าหนองบัวเมืองศรีเทพ" สร้าง "พระพุทธศรีถมอรัตน์"สูง 9 เมตรแกะสลักจากหินเพชร</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>18 พฤศจิกายน 2553 19:44 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; OVERFLOW: hidden; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; BORDER-BOTTOM: medium none; HEIGHT: 35px" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000163459&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 scrolling=no allowTransparency></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>"หินเพชร" หรือ "หินแกรนิค" ก้อนแรกน้ำหนัก 32 ตันที่จะแกะสร้างพระมรดกโลก "พระพุทธศรีถมอรัตน์ ปางห้ามญาติ"สูง 9 เมตร 99 เซนติเมตร</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>พระครูปลัดปภากร ธมฺมสาโร ประธานสำนักปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติเวฬุวนาราม วัดป่าหนองบัว ต.นาสนุ่น อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ASTVผู้จัดการออนไลน์ - วัดป่าหนองบัว เมืองศรีเทพ เพชรบูรณ์ เตรียมสร้างพระมรดกโลก "พระพุทธศรีถมอรัตน์ ปางห้ามญาติ"สูง 9 เมตร 99 เซนติเมตร แกะสลักจากหินเพชร เพื่อประดิษฐ์ไว้ที่สำนักปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติเวฬุวนาราม วัดป่าหนองบัว และเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชาวพุทธ เผยหินที่นำมาแกะสลักเป็นหินศักดิ์สิทธิ์ ที่นำมาจากภูเขาในจังหวัดเลย ทุนการดำเนินการทั้งหมด 3.5 ล้านบาท

    พระครูปลัดปภากร ธมฺมสาโร ประธานสำนักปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติเวฬุวนาราม วัดป่าหนองบัว ต.นาสนุ่น อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางสำนักปฏิบัติธรรมเแลิมพระเกียรติเวฬุวนาราม วัดป่าหนองบัว เตรียมพร้อมที่จะทำการก่อสร้างพระพุทธศรีถมอรัตน์ (พระมรดกโลก) ที่มีประวัติและความเป็นมายาวนานกว่า 1,000 ปี ตั้งแต่ยุคทวารวดีศรีเทพ เป็นที่เคารพสักการะแก่ชาวพุทธโดยทั่วไป เพื่อเป็นสิริมงคลของชาวพุทธทุกท่านที่ได้สักการะบูชาและเป้นมรดกของโลกของแผ่นดินต่อไป

    "ในการดำเนินการก่อสร้างนั้นจะต้องแกะสลักหินเพชร หรือหินแกรนิค ที่สวดสดงดงามมาก โดยหินนี้ได้มาจากเหมืองแร่ในจังหวัดเลย คุณสุพจน์ ม่วงยิ้ม เป็นผู้ถวายให้ ทั้งหมด 3 ก้อน ก้อนแรกหนัก 32 ตัน ก้อนที่ 2 หนัก 22 ตัน และก้อนที่ 3 หนัก 21 ตัน โดยการแกะสลักนั้นจะต้องใช้ช่างฝีมือดีในการแกะ โดยจะแยกกันแกะที่ละก้อนแล้วหลังจากนั้นจึงจะนำมาประกอบกันเป็นองค์พระ ซึ่งจะต้องใช้ทุนในการดำเนินการทั้งหมดประมาณ 3.5 ล้านบาท" พระครูปลัดปภากร กล่าว

    พระครูปลัดปภากร เปิดเผยว่า จังหวัดเพชรบูรณ์ มีหลักฐานการปรากฏที่อยู่ของชุมชนในแถบลุ่มแม่น้ำป่าสักมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย จากนั้นได้รับอารยธรรมจากภายนอก ได้แก่วัฒนธรรมทวารวดีและวัฒนธรรมเขมรโบราณ ทำให้ชุมชนเหล่านั้นมีพัฒนาการด้านต่างๆ จนกลายเป็นสังคมเมืองขนาดใหญ่สืบมา เมื่อเข้าสู่ช่วงสมัยสุโขทัยเมืองเพชรบูรณ์มีฐานะเป็นเมืองแว่นแคว้นของกรุงสุโขทัย และในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีเมืองเพชรบูรณ์และเมืองศรีเทพเป็นเมืองสำคัญและต่อเนื่องจนถึงช่วงสมัยรัตนโกสินทร์ ต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลงและแบ่งเขตการปกครองอีกหลายครั้ง จนครั้งหนึ่งเมืองเพชรบูรณ์เกือบมีฐานะเป็นเมืองหลวงของประเทศไทยแทนกรุงเทพฯในสมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม และหลังจากนั้นได้มีการปรับปรุงพัฒนาด้านต่างๆ มากมาย จนกระทั่งเป็นเมืองเพชรบูรณ์ในปัจจุบัน

    เมืองศรีเทพ ดูจะเป็นชื่อใหม่ของประวัติศาสตร์ชาติไทย เพราะมีการเอ่ยถึงไม่แพร่หลายนักเมื่อเทียบกับเมืองใหญ่ๆอย่างสุโขทัย ลพบุรี เพชรบุรี นครราชสีมา และนครศรีธรรมราช ในพงศาวดารสมัยกรุงศรีอยุธยา สมัยของสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช มีบันทึกว่าในปี พ.ศ.2100 พระยาละแวกเจ้ากรุงกัมพูชายกทัพมาทางเมืองนครราชสีมา มาตีหัวเมืองชั้นในทางตะวันออก ขณะนั้นพระนเรศวรฯเสด็จลงมาเฝ้าสมเด็จพระปิตุราชอยู่ที่อยุธยาโปรดให้พระศรีถมอรัตน์กับพระชัยบุรี คุมพลไปซุ่มในดงพญากลางและพระนเรศวรเสด็จขึ้นไปยังเมืองชัยบาดาล ยกกองทัพตีเขมรแตกพ่าย

    ชื่อของพระศรีถมอรัตน์ เป็นชื่อเดียวกับในพระนิพนธ์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ซึ่งรวบรวมเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับเมืองเพชรบูรณ์ โดยมีเนื้อหาส่วนหนึ่งกล่าวถึงชื่อเมืองศรีเทพว่า มีชื่อปรากฏในทำเนียบเก่าบอกรายชื่อหัวเมืองต่างๆ ที่ทางราชการให้คนเชิญตราไปบอกข่าวสิ้นราชกาลที่ 2 ยังเมืองสระบุรี เมืองชัยบาดาล เมืองศรีเทพ และเมืองเพชรบูรณ์ จึงเป็นการยืนยันว่าเมืองศรีเทพ เป็นเมืองหนึ่งที่อยู่ในลุ่มแม่น้ำป่าสัก โดยในช่วงหนึ่งจะมีชาวบ้านเรียกชื่อเมืองนี้ว่า เมืองอภัยสาลี และตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด คือ พระศรีถมอรัตน์ เหมือนกับชื่อในสมัยพระนเรศวร และชื่อนี้ยังเป็นชื่อภูเขาเล็กๆ ลูกหนึ่งที่ตั้งอยู่ในบริเวณเมือง คือ เขาถมอรัตน์ เช่นกัน

    ประติมากรรมที่เมืองศรีเทพ อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ เมืองศรีเทพเป็นเมืองโบราณขนาดใหญ่ ที่พบศิลปวัตถุอันล้ำค่ามากมาย ทั้งพระพุทธรูป พระโพธิสัตว์ และเทวรูป ลักษณะของประติมากรรมที่พบในเมืองศรีเทพมีดังนี้

    1.พระพุทธรูปประทับยืน สูง 223.53 เซนติเมตรศิลปแบบทวารวดีสลักพระอุณาโลมเจาะเป็นรูเข้าไปในพระนาฏพระขนงและและพระเนตรสลักเป็นรอยลึก สันนิษฐานว่าคงมีการฝังเพชรหรือโลหะลงไป ปัจจุบันเป็นสมบัติของพิพิธภัณฑ์นอร์ตัน ไซมอน เมืองปาซาดีนา รัฐแคลีฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา(ศรีศักรวัลลิโภดม,2532:56)

    2.แผ่นทองสลักลายดุลพระโพธิสัตว์ ศรีอาริยเมตไตรย สูง 5.08 เซนติเมตร ศิลปะแบบทวาราวดี ประทับนั่งขัดสมาธิเพชรอยู่เหนือดอกบัว พระหัตถ์ขวาอาจถือดอกบัวตูม และพระหัตถ์ซ้ายอาจถือหม้อน้ำมนต์ ปัจจุบันเป็นสมบัติของพิพิธภัณฑ์นอร์ตัน ไซมอน เมืองปาซาดีนา รัฐแคลิฟอร์เนียสหรัฐอเมริกา(ศรีศักร วัลลิโภดม,2532)

    3.เศียรพระพุทธรูปและพระโพธิสัตว์ศิลาศิลปะแบบทวาราวดี

    เขาถมอรัตน์ เป็นเขาเล็กๆ ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของแม่น้ำป่าสัก ที่ ต.สระกรวด อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ อยู่ห่างจากถนนลำนารายณ์-เพชรบูรณ์ ประมาณ 7 กม.เกือบถึงยอดเขามีถ้ำ ปากถ้ำอยู่ทางทิศเหนือภายในถ้ำมีความกว้างขวางพอสมควรมีเนื้อที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ากว้างประมาณ 10 เมตร ความลึกประมาณ 21 เมตร เพดานถ้ำสูงราว 12 เมตร ตรงกลางมีหินย้อยเป็นเสาใหญ่ ตั้งอยู่ในถ้ำมีภาพจำหลัก พระพุทธรูป และพระโพธิสัตว์สมัยทวาราวดีมีพระพุทธรูปประทับยืนสูงประมาณ 2 เมตรเศษและมีรูปสลักพระพุทธรูปยืนขนาดเล็ก และพระพุทธรูปประทับนั่งสมาธิรวมทั้งหมด 11 องค์

    จากสภาพทางภูมิศาสตร์ เขาถมอรัตน์ นี้สมารถมองเห็นได้ง่ายจากทุกทิศทาง เนื่องจากเป็นภูเขาสูงที่ตั้งเด่นอยู่บนที่ราบบริเวณนี้จึงอาจเป็นจุดสำคัญของพ่อค้านักเดินทาง โดยจะใช้เป็นจุดสังเกตเพื่อเดินทางไปยังเมืองใกล้เคียงหรือมายังเมืองโบราณศรีเทพ แหล่งโบราณคดีแห่งนี้คงจะถูกทิ้งร้างไปในช่วงหลังสมัยลพบุรีเ นื่องจากพบเศษภาชนะดินเผาที่มีลักษณะและเทคนิคอยู่ในสมัยลพบุรีซึ่งเป็นหลักฐานทางโบราณคดียุคสุดท้ายที่พบในแหล่งโบราณคดีแห่งนี้และพร้อมกันนี้ประวัติศาสตร์ของแหล่งโบราณคดีถ้ำเขาถมอรัตน์ก็ได้ยุติลง

    การขุดค้นที่เขากลางนอกในส่วนของฐานสถูปที่สร้างด้วยอิฐชั้นบนทางทิศตะวันออกได้พบรูปประติมากรรม พระพุทธรูปประทับยืนปางวิตรรกะมุทรา หรือปางแสดงธรรม 2 พระหัตถ์ สลักขึ้นจากหินชีสต์อินเดียสีเขียวอ่อน ขนาดสูง 57 ซม.กว้าง 16 ซม.สำหรับปางแสดงธรรม 2 พระหัตถ์นี้เป็นเอกลักษณ์สำคัญของศิลปกรรมแบบทวารวดี

    พระพุทธศรีถมอรัตน์ เป็นพลังศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนทั่วสารทิศที่รวมใจกันสร้างด้วยหินแกะสลักโดยจำลองมาจากภาพพระพุทธรูปที่แกะสลักในถ้ำถมอรัตน์ ปางห้ามญาติ ซึ่งเป็นการประยุกต์ให้เป็นศิลปะร่วมสมัย เพื่อให้ดูดีและสวยงามจะสร้างและประดิษฐ์เอาไว้ที่วัดป่าเวฬุวันวนาราม (วัดป่าหนองบัว) ต.นาสนุ่น อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ โดยมีความสูงถึง 9 เมตร 99 เซนติเมตร ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างเตรียมแกะสลักหินที่นำมาจากภูเขาจังหวัดเลย

    ทางคณะกรรมการจัดสร้างทั้งบรรพชิตและฆราวาส จึงได้จัดทำกฐินสามัคคีเพื่อหาทุน ซึ่งได้ทอดถวายไปแล้วเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2553 ที่ผ่านมา และเตรียมจัดงานอีกครั้งในวันที่ 3-4 ธันวาคม 2553 ส่วนท่านใดต้องการบริจาคสนับสนุนก็สามารถโอนเงินเข้าบัญชี “คนของแผ่นดิน” ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาศรีเทพ เลขบัญชี 517-2-28316-0 หรือโทร.08-3667-1695, 08-4861-9652 พระครูปลัดปภากร

    ด้านนายพี ปะริตะวา ช่างผู้แกะพระพุทธศรีถมอรัตน์ (พระมรดกโลก) เผยว่า สำหรับการแกะสลักนั้นคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือนจึงจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ โดยจะแยกแกะออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนแรกจะแกะส่วนบนก่อนคือตั้งแต่เศียรพระลงมาถึงเอว โดยส่วนนี้จะใช้เวลาประมาณ 2 เดือนเศษ เนื่องจากมีความละเอียดอ่อน โดยเป็นหินเพชรสูงประมาณ 3.20 เมตร จากนั้นจึงจะมาแกะส่วนที่ 2 คือตั้งแต่เอวลงมาจนถึงชายผ้าบริเวณที่หัวเข่า และส่วนที่ 3 เป้นส่วนล่างสุดตั้งแต่เข่าลงมา

    สำหรับส่วนที่ 2 และ 3 นี้จะใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน ซึ่งจะใช้เวลาน้อยกว่าส่วนแรกเนื่องจากไม่ค่อยมีรายละเอียดมากนัก หลังจากนั้นจึงจะนำเอาทั้ง 3 ส่วนมาประกอบเข้าด้วยกันและตกแต่งให้เป็นองค์พระพุทธศรีถมอรัตน์ ปางห้ามญาติ มีความสูงสูง 9 เมตร 99 เซนติเมตรทั้งองค์ โดยมีน้ำหนักร่วมทั้งหมดประมาณ 100 ตัน โดยเป็นหินเพชร หรือหินแกรนิคทั้งหมด

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right height=10>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    Local - Manager Online -
     
  2. deelek

    deelek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,696
    ค่าพลัง:
    +16,255
    ขออนุโมทนา สาธุ ๆ
    กับท่านทั้งหลายที่ได้ร่วมกันสร้างพระพุทธรูป
    ด้วยหินเพชรและร่วมทำบุญสร้างกุศล
    ทุกอย่างในกาลนี้ด้วยครับ
    นิพพานัง ปัจจโย โหตุ
    นิพพานัง ปรมัง สุขขัง

    สุดยอดของ ปัญญา คือ การพิจารณา รูป-นาม,เกิด-ดับ ๆๆๆ
    เป็นพระไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา(รูป-นาม ของเรา ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงไม่มีใครเป็นเจ้าของอะไรได้อย่างแท้จริงเลย)
    แล้ว เกิดสลด สังเวช เห็นทุกข์ภัยอันตรายในการมี รูป-นาม,ขันธุ์ 5
    วางจิตเป็นกลาง ปล่อย ปละ ละ วาง รูป-นาม,ขันธุ์ 5 ของเราและผู้อื่นเสีย
    เจริญวิปัสสนาปัญญาเข้าสู่ "พระนิพพาน" ซึ่งเป็นสภาวะธรรม รู้ได้ด้วยจิตใจที่เจริญวิปัสสนาปัญญาเท่านั้น(หมั่นเพียรพิจารณาบ่อย ๆ )
    "พระนิพพาน" เป็นที่เที่ยงแท้แน่นอน เป็นบรมสุข เป็นอนัตตา ไม่มีตัวตน ไม่มีใครเป็นเจ้าของ เป็นสุญญาตา กว้างใหญ่มหาศาลไม่มีประมาณ
    ไม่มีไป ไม่มีมา ไม่มีกว้าง ไม่มียาว
    ไม่ใช่พระอาทิตย์ ไม่ใช่พระจันทร์
    เป็นสุญญตา (เปรียบเสมือนคล้าย ๆ กับอวกาศ หรือ อากาศ )
    ขอเจริญธรรมกับท่านทั้งหลายด้วยครับ อนุโมทนา สาธุ ๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2010
  3. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    คงสวยงามมาก ๆ แน่นอนเลยค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...