ลุงวัฒนา คนเพี้ยนแห่งบางกรวย

ในห้อง 'ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และสัตว์' ตั้งกระทู้โดย yosung, 10 สิงหาคม 2008.

  1. yosung

    yosung Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +28
    ลุงวัฒนา คนเพี้ยนแห่งบางกรวย


    ตัวอย่างของคนดีๆค่ะ มีคลิปวีดีโอที่สัมภาษณ์ลุงด้วยลองคลิ๊กมาดูที่
    http://hilight.kapook.com/view/26916

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ภาพประกอบจาก มหา’ลัยชีวิต

    ปริ๊นๆๆ . . . เสียงแตรรถกระหน่ำกดแทบจะทุกวันภายในซอยเล็กๆ ย่านบางกรวย จังหวัดนนทบุรี เพื่อส่งสัญญาณให้ชายชราคนหนึ่ง ที่มักเดินเข็นรถเข็นคันเก่าๆ โทรมๆ ไปตามถนน พร้อมๆ กับมีสุนัขรายล้อมอยู่รอบๆ กาย ประหนึ่งเป็นบอดี้การ์ดคอยคุ้มกันภัย และนี่คือภาพอันเจนตาของคนละแวกบางกรวยที่ได้เห็น จนผู้คนละแวกนั้นตั้งฉายาให้ว่า "ลุงวัฒนา คนเข็นหมาแห่งบางกรวย" บ้างก็ว่าบ้า บ้างก็ว่าเพี้ยน แถมด้วยสายตาดูถูกจากผู้คนรอบข้าง แต่ก็ใช่ว่าจะทำให้ชายชราผู้นี้ทุกข์ร้อนใจ หรือทำให้ความสุขของเขาลดน้อยถอยลงแต่อย่างใด


    [​IMG]

    [​IMG]


    "เวลาไปไหนมาไหนลุงก็จะเข็นรถเข็นไปพร้อมๆ กับสุนัขตลอด เพราะเป็นห่วงพวกมัน ถ้าปล่อยไว้ที่บ้านก็กลัวว่าจะอยู่จะกินอย่างไร" ลุงวัฒนา พูดถึงสุนัขคู่กาย และบอกเล่าประวัติชีวิตว่า จริงๆ ลุงก็ไม่ได้ตั้งใจจะเลี้ยงพวกมันหรอก แต่พอดีมีสุนัขมาคลอดลูกไว้แถวๆ ที่ทำงาน ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจเพราะกลัวจะถูกเจ้านายว่าเอา แต่ไปๆ มาๆ ก็ทำใจไม่ได้ เพราะแม่มันตาย ทิ้งลูกตัวเล็กๆ ไว้เต็มไปหมด ลุงกลัวมันอดก็เลยเอามาเลี้ยงไว้ แต่พอเจ้านายรู้เขาก็ให้เอาไปปล่อย แต่ตัวลุงเริ่มผูกพันกับพวกมันแล้ว เลยบอกเขาไปว่าจะเลี้ยงต่อ เพราะไม่กล้าเอาไปปล่อย เป็นห่วงกลัวว่าถ้าเอาปล่อยไปเดี๋ยวพวกมันโดนใครวางยาเบื่อตายหมด เขาก็เลยไล่ออกจากงาน และด่าว่าตัวเองยังเลี้ยงไม่รอดจะเลี้ยงดูสุนัขได้ยังไง


    [​IMG]


    "ตอนที่ตกงานลุงก็เก็บของเก่าขาย รายได้ก็ไม่ได้มากมายอะไร บางวันได้ไม่ถึง 10 บาทก็มี เพราะลุงไม่ได้เก็บทั้งวัน จะเก็บเอาข้างทางระหว่างเข็นรถพาสุนัขมาขอข้าวที่วัด แต่ก็มีบ้างที่มีคนใจดีเอาพวกเศษกระดาษหรือขวดพลาสติกมาให้ ก็พอจะขายได้เงิน 200 – 300 บาท แต่ตอนนี้ลุงทำงานงานใหม่แล้ว เป็นยามให้กับโกดังเก็บผ้า แถมยังมีคนเมตตาให้ที่ดินเล็กๆ สร้างที่ซุกหัวนอน เพราะเมื่อก่อนลุงอาศัยที่ดินของเจ้านายเก่าอยู่" ลุงวัฒนา กล่าว


    [​IMG]


    ในขณะที่เงินเดือนจากการทำงานเพียงแค่เงินเดือนละ 5,000 – 6,000 บาท แต่ต้องแบกรับภาระเลี้ยงดูสุนัขอีกหลายชีวิต ที่เป็นเสมือนเพื่อนคู่ชีพทิ้งกันไม่ได้ แต่ลุงวัฒนากลับไม่เคยท้อถอย


    [​IMG]


    "บางทีก็มีคนให้เงินคราวละ 100 บาท เพื่อเป็นค่าอาหารสุนัข หรือบางคนก็ซื้อโครงไก่บดให้เป็นประจำก็มี ส่วนข้าวลุงก็ไปขอมาจากวัด แต่มื้อเช้าลุงต้องรับผิดชอบหาข้าวให้พวกมันเอง ลุงไม่คิดว่ามันเหนื่อยยากอะไรนะ อยู่ด้วยกันก็ต้องดูแลกันไป" คำพูดซื่อๆ ของลุงวัฒนาที่เปี่ยมด้วยจิตแห่งความเมตตา สื่อออกมาได้อย่างมีความสุขในทุกครั้งที่กล่าวถึงเพื่อนร่วมโลกเหล่านั้น


    [​IMG]


    ลุงวัฒนา เล่าอีกว่า เวลาลุงไปไหนก็เอาเขาไปด้วยหมด เคยเข็นรถเข็นไปไกลสุดถึงเมืองทองธานี อยากไปงานครองราชย์ในหลวง 60 ปี (งานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี) ลุงก็เข็นรถไปตามถนนใหญ่เรื่อยๆ ไปได้ครึ่งทางก็ต้องเข็นกลับเพราะรถติดไปไม่ได้ แต่ขณะที่เข็นรถเข็นกลับ มีรถเก๋งคันหนึ่งขับมาจอดข้างๆ และส่งเงินให้ลุง 500 บาท ทั้งๆ ที่ไม่รู้จักกัน แล้วเขาก็วนรถกลับมาอีกครั้งเพื่อเอาถุงกับข้าวมาให้ลุงอีก ลุงดีใจนะ แต่ไม่ใช่เพราะเขาให้เงิน ดีใจที่เขามีจิตเมตตา มันมีค่ามากมายมหาศาลกว่าเงินจะซื้อหากันได้


    [​IMG]


    ท่ามกลางชีวิตที่ต้องหาเช้ากินค่ำ พร้อมกับเลี้ยงดูเพื่อน 4 ขาอีกหลายชีวิต แต่เมื่อมีเวลาว่างลุงวัฒนามักจะเข็นรถเข็นพร้อมๆ สุนัข ไปฟังธรรมะหรือนั่งสมาธิ ในวัดละแวกสนามหลวงอยู่อย่างสม่ำเสมอ และการเข็นรถไปไกลๆ ย่อมมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจนถึงแก่ชีวิตกับเพื่อนคู่กายได้ และครั้งหนึ่งมันก็เกิดขึ้นกับสุนัขตัวโปรดของลุง ลุงวัฒนาบอกว่า เสียใจ แต่ก็เอาธรรมะเข้าช่วยทำให้จิตใจสงบ คิดแต่เพียงว่าสังขารมันไม่เที่ยง วันหนึ่งก็ต้องพรากจากกันไป ตอนที่มันตายด้วยความรักลุงไป ขอให้พระสวดบังสกุลให้ ขุดหลุมฝังให้เรียบร้อย เพราะอยากให้มันอยู่สบายๆ ในวาระสุดท้ายของชีวิต


    [​IMG]



    "บางคนก็เลยมองว่าลุงเพี้ยน แต่เราทำด้วยจิตปรารถนาดี เป็นการแสดงความรักครั้งสุดท้าย ทุกวันนี้ลุงยังเอาข้าวไปให้มันที่หลุมอยู่เรื่อยๆ ลุงเลี้ยงมันคิดว่านี่คือชีวิตหนึ่ง ลุงเชื่อว่าชีวิตทุกชีวิตมีคุณค่า เลี้ยงให้มันดี เราก็ได้ความสุข เพราะสำหรับลุงถ้าเรารักด้วยความบริสุทธิ์ใจ โดยไม่มีสิ่งแอบแฝงซ่อนเร้น มันจะเป็นรักที่ยั่งยืน สิ่งที่ได้กลับมาคือความสุข ความสุขอาจจะไม่ได้หมายถึงมีรถ มีบ้าน มีภรรยาสวยๆ การที่อยู่บ้านหลังเล็กๆ นอนในรถเข็นก็มีความสุขได้ ทุกวันนี้หลายคนก็มีต่อว่าบ้าง ดูถูกบ้าง เขาว่าทำอะไรทำไมต้องมาเข็นรถเข็นสุนัขให้มันเดือดร้อนคนอื่น ลุงก็อดทนอดกลั้นไว้ ไม่โต้ตอบ คนจะมองอย่างไรก็เรื่องของเขา เรายึดความดี ความจริงในจิตใจของเรา" ลุงวัฒนา กล่าว


    [​IMG]

    [​IMG]


    ในขณะที่สังคมทางวัตถุนิยม ได้กลืนกินความดีงามของมนุษย์ไปอย่างรวดเร็ว แต่ในถนนเล็กๆ แห่งหนึ่ง ยังมีชายผู้ไร้ซึ่งเงินทอง การศึกษา หรือแม้กระทั่งที่พักอาศัย กลับพบกับแก่นแท้ของความสุขในชีวิตได้ ด้วยศรัทธาแห่งหลักธรรมคำสอนและความรักต่อเพื่อนร่วมโลกต่างสายพันธุ์ แม้ไร้ซึ่งวัตถุนิยมแต่สิ่งที่ค้นพบนั้น มีค่าเกินกว่าที่เงินทองจะสามารถหาซื้อได้
     
  2. kriengkripob

    kriengkripob เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,326
    ค่าพลัง:
    +2,048
    อนุโมทนา พ่อฤาษีเล่าให้ฟังว่า สุนัขที่วัดท่าซุงตายไปก็ไปเกิดเป็นเทวดามาแล้ว ฉะนั้น เสี้ยวหนึ่งของชีวิต พวกเรามีเมตตาต่อสัตว์โลกเป็นบุญกุศลครับ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...