ร้านกาแฟคนมีบุญ... แต่ลูกค้าจะติดกรรมไหมหนอ?

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย หัวมัน, 24 มีนาคม 2015.

  1. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,946
    เมื่อเวลา 15.00 น. (23 มี.ค.) ที่วัดสันก้างปลา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ทางเจ้าอาวาส ได้ให้พระสงฆ์จัดทำร้านกาแฟขึ้นภายในวัด เพื่อให้ประชาชนที่มาวัดได้มานั่งสนทนาธรรม พูดคุยพบปะกัน โดยมีพระสงฆ์และสามเณร เป็นผู้ดำเนินการ ชงกาแฟ

    โดยเครื่องชงกาแฟ นั้นมีทั้งแบบทันสมัย ใช้ 2 หัว และแบบชงแบบโบราณ ให้ผู้ที่มาใช้บริการได้เลือก โดยทางเจ้าอาวาสได้ตั้งชื่อให้ว่า "ร้านกาแฟคนมีบุญ" สำหรับราคานั้น แล้วแต่จะบริจาคใส่ในบาตรแก้วที่ตั้งไว้

    ทั้งนี้ ร้านกาแฟบุญดังกล่าว มีการตกแต่งร้านกาแฟอย่างสวยงามตามแบบสมัยใหม่ มีมุมนั่งรับประทานกาแฟ หลากหลาย และยังมีมุมหนังสือธรรมะ ไว้ให้สำหรับคนที่ชอบอ่านหนังสือธรรมะอีกด้วย

    พระครูสิทธิปัญญาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดสันก้างปลา เผยว่า วัดเปิดให้คนทุกเพศทุกวัยเข้ามา เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะดึงคนเข้าวัด เพื่อกล่อมเกลาจิตใจ เป็นพื้นที่ในการพบปะสนทนาธรรม โดยร้านกาแฟแห่งนี้จะแตกต่างจากร้านอื่นๆ เนื่องจากผู้ชงกาแฟ เป็นพระภิกษุสามเณร และญาติโยมที่มีจิตอาสา โดยมีเมนูเครื่องดื่มเหมือนร้านกาแฟทั่วไป ด้วยเครื่องชงกาแฟทันสมัย

    แต่ที่สำคัญคือร้านกาแฟคนมีบุญ ไม่คิดเงินเหมือนร้านทั่วไป สามารถบริจาคตามจิตศรัทธา ในบาตรใสบริจาคที่ตั้งไว้ หรือหากไม่มีเงิน ก็สามารถดื่มได้ฟรี เปิดบริการทุกวัน ไม่มีวันหยุด มีทั้งห้องแอร์ และอินเตอร์เน็ตให้บริการ หรือสนใจจะนั่งสูดอากาศบริสุทธิ์ด้านนอก กลางสวนลำไย ทุกๆ วันจะมีญาติโยมแวะเวียนมาใช้บริการกันอย่างไม่ขาดสาย

    ที่มา: ข่าวสดออนไลน์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    อนุโมทนาครับ เปฺ็นอีกหนึ่งความคิดที่ดีนะครับ ดื่มกาแฟสนทนาธรรมหรืออ่านหนังสือธรรมมะ แม้แต่พระหรือเณรมาชงกาแฟนี่แปลกๆหรือเปล่าครับหรือท่านว่ายังไงครับ สาธุ
     
  3. mummamman

    mummamman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,598
    ค่าพลัง:
    +2,116
    ผมว่านี่ไม่ใช่กิจของสงฆ์นะครับ
     
  4. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    ในสังคมไทย
    การที่พระหรือเณรชงเครื่องดื่มให้
    ไม่มีมารยาท ไม่งามแบบไทย

    ไม่น้ำปู๋ ไม่ใส่อั่วเลย ไม่น้ำพริกหนุ่มเลย
    เป็ฯพระจีน ชงชา นามาฉะอะไรงี้ก็คงจะดี
    แต่พระไทยหนะ มันไม่ได้
    พระญี่ปุ่นมีเมียได้

    ไอ้เรื่องติดกรรมหนะ
    ก็ยังเกิด แก่เจ้ฐตาย อยู่ ก็ติดด้วยกันหมดแหละ

    บาปหนะ ไม่มากหรอก
    แต่มันไม่ใช่พระไทย
     
  5. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    ผมนะสมัยเรียน ม.ต้น
    ครูมักจะไปยืนคุม ซุ้มน้ำอัดลมเวลากีฬาสี
    คือปรกติจะไม่ให้นักเรียนขายหรอก
    แต่เวลามีกีฬาสี เกินนึกอะไรก็ไม่ทราบ
    ให้นักเรียนมาขาย และมีครูยืนคุม

    ผมก็คะนอง ตะโกนสั่งน้ำไกลๆ
    หวังว่าคงนึกภาพออก มันมีซุ้มแบบแก้วกระดาษที่มีเทียนไขกันน้ำรั่วงหนะ
    และมีนักเรียนรินน้ำอัดลมขายเป็ฯแก้วๆ
    พวกผมปากบอน ตะโกนสั่งน้ำ ครูคนที่ยืนคุมอยู่แกของขึ้น
    แทบจะเอาก้อนหินขว้างหัวพวกผม
    หาว่าไปตะโกน สั่งข้ามหัวแก

    ตอนผมเรียนประถมอีก
    ครูประชาบาลมักจะมีัการสั่งการบ้านนักเรียน
    บางทีก็ต้องใช้อุปกรณืพิเสษ เช่น ไหมญี่ปุ่น
    ผ้า เข็มด้าย สีอะไรงี้ ครูแหละก็จะเอามาขาย
    ผู้ปกครองก็ไปขอลดราคาครู ผู้ปกครองก็ไปเอาเงินไปฝากไว้ที่ครู หรือผู้ปกครองนักเรียน
    เอาเครื่องดื่มมาขายในโรงเรียน
    โดยฝากขายผ่านครู

    คนเราหนะไม่มีคิดมากขึ้นหรือน้อยลงหรอก
    ไม่มีใครทำได้หรอก
     
  6. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,946
    มันเกี่ยวกะพระญี่ปุ่น พระจีน พระไทยด้วยเหรอ
    จุดเริ่มต้นของมหายานก็ต้องการฝืนธรรมวินัยตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่เหรอ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2015
  7. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    ถ้าเราภาวนา ถึง
    อารมณ์ปราณีต
    กว่าเหยื่อ
    คิดมากขึ้นกว่านี้ หรือคิดน้อยลงกว่านี้
    คือคิดที่สอง ทั้งคู่

    มันมีอันนึงคือ คิดแหละ และมีอุปปาทานในคิด มาประกบ

    ไม่มีใครหยุดคิดได้
    ถ้าหยุดคิด แปลว่ามีคิดที่สองมาประกบ
     
  8. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    แค่ถามเหยื่อว่าอะไรเกิดก่อนเกิดหลัง
    ไม่ต้องไปสนใจคำตอบ
    ธรรมใดเกิดแต่เหตุ พระพุทธตรัสถึงเหตุแห่งธรรมนั้น
    ไปสนคำตอบทำไม

    เช่นถามเหยื่อว่าระหว่างคิด กะหยุดคิด อะไรเกิดก่อนเกิดหลัง

    ถามแค่เนียะ

    คนภาวนาปราณีตกว่าชนะ
     
  9. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    เหมือนกีฬาแหละ
    มันมีแข่งพ่นน้ำลายที่ไหน
    จะซ้อมยังไง
    แชมป์ พ่นน้ำลายโลก
    มีด้วยเหรอ
     
  10. โยมแถวหลัง

    โยมแถวหลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +854
    เฮ้อ มันไม่ใช่กิจของสงฆ์เลย มิหนำซ้ำยังทำให้เกิดกรรมกับฆราวาสที่มากินอีก
     
  11. chura

    chura เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    688
    ค่าพลัง:
    +1,971
    ไม่ใช่กิจของสงฆ์ แล้วยังทำให้มีโอกาสคลุกคลี กับญาติโยม ทั้งหญิง ชาย
    นี่ยิ่งไม่เหมาะสมเข้าไปอีก...
     
  12. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,850
    ประทานโทษน่ะครับ อย่าได้ใช้พระเชียว นรกจะกินกระบาล ต่อให้พระไม่มีศีล แต่ก็ยังถือว่าเป็นสมมติสงฆ์ จะมาสั่ง ขอกาแฟแก้ว 1 ครับหลวงพี่ หลวงน้าครับ ขอแบบหวานๆ น่ะ สรุปนรก



    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนกันยายน ๒๕๔๖ (ต่อ)
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ


    ถาม : (ฟังไม่ชัด)
    ตอบ : คราวหน้าสร้างรูปหล่อแล้วก็ไปตั้ง ๆ เอาไว้ เอาแบบหลวงปู่จง พองานประจำปีวัดบางนมโค หลวงปู่จงก็ไปลงกระหม่อมเป่าหัว ลงนะหน้าทองให้กับญาติโยม ตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้าย ๗ วัน ๗ คืน เป่าจนน้ำลายแห้ง จนเป็นลม ได้เงินมาแปดพันบาท โอ้โฮ...ไม่ใช่น้อย ๆ นั่นน่ะ ตั้งร้อยชั่งนะ แปดพันบาทสมัยนั้นนี่โบสถ์หลังหนึ่งเลย ปรากฏว่ารูปหล่อหลวงปู่ปานตั้งบาตรเอาไว้เฉย ๆ ได้แปดพันบาทเท่ากัน หลวงพ่อจงท่านบอก “ผมแพ้ท่านปาน ท่านปานนั่งอยู่เฉย ๆ ได้แปดพันเท่ากัน ผมเองเป่ากระหม่อมจนจะเป็นลมได้แค่นี้” คือเวลาคนไปทำบุญกับหลวงปู่จง นึกถึงหลวงปู่ปาน มาเห็นรูปอยู่ก็ทำบุญไปด้วย ก็คงจะทำเท่า ๆ กัน ถ้าองค์นี้ ๑๐ บาท องค์โน้นก็ ๑๐ บาท องค์นี้ ๕ บาท องค์โน้นก็ ๕ บาทได้เท่ากันเป๊ะเลย หลวงพ่อเล่าให้ฟังเสร็จ เป็นเรา ๆ ก็นึกขำเหมือนกันนะ หลวงปู่จงนี่ท่านอยู่นานเหลือเกิน ท่านร่วมสมัยกับหลวงปู่ปานนะ หลวงปู่ปานมรณภาพอายุ ๖๐ เศษขึ้น ๖๒ หลวงปู่จงอยู่ต่อมาจน ๙๐ กว่านะ มามรณภาพเอาปี ๒๕๐๘ หลวงปู่ปาน ๒๔๘๑ หลวงปู่จงมรณภาพ ๒๕๐๘ อยู่ต่อมาเกือบ ๓๐ ปี อยู่กันลืม นั่นก็พระไม่มีมานะ ดีแน่ ๆ ขำตอนไม่มีมานะ คนมาถึงมาจอดหน้าท่าเรือวัดหน้าต่างนอก จะไปหากำนัน หลวงปู่จงท่านก็นั่งอยู่ท่าน้ำ “หลวงตา ๆ เฝ้าเรือให้หน่อยนะ จะไปหากำนันหน่อย” “เออ...ไปเถอะ” กลับมาสองทุ่มหลวงตายังนั่งหัวโด่ แต่คราวนี้มันกลับมาพร้อมดอกไม้ธูปเทียนเลย เพราะก่อนจะมากำนันถาม “มึงจอดเรือที่ไหนวะ เฮ้ย...เดี๋ยวก็หายหรอก” “ให้หลวงตานั่งเฝ้าอยู่” “หลวงตาที่ไหนวะ ?” “ก็องค์ที่ผอม ๆ เล็ก ๆ” “ตายห่าแล้ว มึงใช้หลวงพ่อกูแล้ว...!” ดอกไม้ธูปเทียนมาเลย ก็มากราบท่าน หลวงปู่ท่านก็ “เออ...ไม่มีอะไรหรอก ไม่ถือโทษโกรธเคืองหรอก เพียงแต่ว่า...ต่อไปไปไหนอย่าทำอย่างนี้อีกนะ ใช้พระมันบาป” เป็นอย่างไรครูบาอาจารย์ลูกศิษย์ลูกหาเต็มบ้านเต็มเมือง มันใช้หลวงตาเฝ้าเรือ
    ถาม : ในพุทธกาลมีไม่ใช่หรือครับ ใช้เพื่อนที่เป็นพระอรหันต์ ปรากฏว่าเกิดมาหลังค่อม ?
    ตอบ : เรื่องหลังค่อมนี่อีกเรื่องหนึ่ง แต่ว่าเรื่องที่ท่านใช้เพื่อนที่เป็นพระอรหันต์ ท่านต้องเกิดไปเป็นคนใช้ ๕๐๐ ชาติติดกัน เพราะว่าท่านเป็นพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ พอเอ่ยปากปุ๊บ ท่านนึกเลยว่า ถ้าไม่ทำเป็นอย่างไร ถ้าไม่ทำ เธอจะโกรธ ถ้าเธอโกรธเราที่เป็นพระอรหันต์ เธอจะลงอเวจีมหานรก แต่ถ้าเราทำตามที่เธอขอ เธอมีโทษการใช้พระอริยเจ้า เธอต้องไปเกิดเป็นคนใช้ ๕๐๐ ชาติ เอาเถอะ เกิดเป็นคนใช้ก็ยังดีกว่าลงนรก ก็เลยหยิบส่งให้ พอหยิบส่งให้ก็เท่ากับใช้พระอรหันต์ ไปเกิดเป็นคนใช้เขา ๕๐๐ ชาติ ส่วนที่ท่านหลังค่อมนั้น ท่านไปล้อพระปัจเจกพุทธเจ้า อันนี้อาตมาเจอบ่อยนะ ขนาดพระสังฆราชถึงเวลาไปขอให้ท่านจารโน่นจารนี่ แหม...อันตรายจริงๆ พระสังฆราชท่านก็เมตตา มือไม้สั่นจับแทบจะไม่ไหวแล้ว เหล็กจารก็ยังอุตส่าห์เขียนให้ ลักษณะของการใช้พระมีแต่ขาดทุน อย่างที่ว่านั่นแหละ แต่ว่าคนเรามักจะใกล้แล้วกลายเป็นสนิทสนมกันจนเกินไป พอสนิทสนมกันจนเกินไป กลายเป็นความเคยชินอย่างไรก็ได้ อย่างไรก็ได้ก็บรรลัยแล้ว เออ...!
    ถาม : (ฟังไม่ชัด)
    ตอบ : ก็อยู่ในลักษณะที่ว่าคนละอย่างกัน ประเภทนั้นไปถึงก็ประเภทอย่างไรล่ะ หลวงปู่ หลวงตา ทำให้ผมหน่อย เสกโน่นให้ผมนิด เสกอันนี้ให้ผมหน่อย ยุ่งไปหมด ปัจจุบันนี้มีอยู่องค์ก็คือ หลวงพ่ออุตตมะ ๙๓ แล้วนะ งานล่าสุดก็คืองาน ๒๐ ปีโรงพยาบาลทองผาภูมิ ท่านเองท่านก็เหนื่อยชนิดนั่งรถเข็นไปแล้ว ฉันก็ไม่ได้เป็นสุขหรอก คนโน้นจะเอาลูกประคำ คนนี้เป่าหัวให้หน่อย มีอยู่รายหนึ่งควักกระเป๋าสตางค์ให้ ลงให้หน่อย ท่านเองท่านก็ไม่ว่าอะไร เป็นอย่างไร ลักษณะนั้นใช้จริง ๆ เลยนะ ท่านเองท่านก็ประเภทใครว่าอะไรก็ว่าตามกัน ไม่ขัดคอโทษจะได้น้อยหน่อย

    ที่เน้นสีน้ำเงินไว้ แสดงให้เห็นว่า คนทำเขาไม่ตั้งใจ เห็นพระนั่งอยู่ ก็ให้ช่วยดูนิดเดียว เพราะกลัวเรือจะหาย แต่ความผิดมันไม่เล็กด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2015
  13. น้องใหม่ 2008

    น้องใหม่ 2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    690
    ค่าพลัง:
    +1,906
    บาปตรงพระเณรต้องมาชงกาแฟขายให้เรา ใช่เปล่า แต่ดีนะถ้าพวกท่านลาออกไปใช้ชีวิตทางโลก จะได้มีวิชาติดตัว บาปเรื่องคนติดกาแฟคงไม่บาป เพราะคนสั่งกินติดมาจากบ้านตัวเองแล้วถึงมาสั่งที่วัดกิน คนไม่กินคงไม่สั่ง
     
  14. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,946
    คือเราว่านะ...

    การใช้ชีวิตแบบพระสงฆ์เนี่ย มันเป็นที่ทางที่ท่านจัดไว้ให้สะดวกสำหรับผู้ที่มุ่งการปฏิบัติเพื่อหลุดพ้น

    และการเป็นอยู่ของพระสงฆ์เนี่ยมันก็เป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงอยู่ของพระพุทธศาสนาโดยตรง

    สงฆ์จึงควรทำหน้าที่ของสงฆ์ให้ดีที่สุด

    ในศีล 227 ข้อ ก็ห้ามชัดเจนไม่ให้สงฆ์ซื้อขายสิ่งของด้วยเงินทอง

    แม้เจ้าอาวาสจะบอกว่า ให้ทำบุญตามศรัทธา และให้ทานฟรีสำหรับคนไม่มีเงิน

    แต่ทำไมต้องมีป้ายราคากาแฟกำหนดราคาบอกชัดเจน
    แทนที่จะเขียนว่าให้ทำบุญตามศรัทธา ที่นี้มีไว้เพื่อบริการสำหรับผู้ต้องการสนทนาธรรม
    มีป้ายบอกราคาชัดเจนขนาดนี้ ในความเป็นจริง คนส่วนใหญ่ก็คงจ่ายตามราคาที่กำหนดไว้นั้นแหละ

    อีกอย่าง การให้พระสงฆ์มารับใช้ฆราวาสแบบนี้ มันก็เป็นการสร้างกรรมให้ฆราวาสอย่างที่โพสต์ของคุณ pongio บอกไว้นั้นแหละ
     
  15. Piagk3

    Piagk3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +1,222
    ต้องถามพระท่านว่า ท่านที่มาบวชเพื่ออะไร หน้าทีของท่านต้องทำอะไร และมองว่าที่ท่านทำอยู่มันไม่ใช่กิจของสงฆ์ มันเป็นกิจของชาวบ้าน ของปุถุชน เป็นการทำในเชิงการค้า ถึงแม้จะบอกว่าให้ตามศรัทธาก็เถอะ ถ้ามีการซื้อ ขายแลกเปลี่ยนเป็นเงินทองก็ถือว่าผิดวินัย จะอย่างไรก็แล้วแต่ มันไม่สมควร
     
  16. ทองชมพู

    ทองชมพู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    415
    ค่าพลัง:
    +2,802
    พระท่านก็คงจะปราถนาดีอยากให้คนหันมาเข้าวัด มาประกอบกรรมดีในวัด คนก็ได้กุศลด้านหนึ่ง แต่ก็ต้องมาติดกรรมอีกด้านหนึ่ง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่วาสนาของแต่ละคนที่สั่งสมมา นี่แหละหนากุศลกรรมส่งผลมาให้ทำความดีพร้อมกับอกุศลกรรมส่งผลให้มาทำบาปในคราวเดียวกัน
     
  17. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,946
    ถ้ามีคนอ้างว่าปราถนาดี อยากให้มีคนเข้าวัด มาทำบุญเยอะๆ
    เลยเปิดบ่อนในวัด ให้คนมาเล่นการพนัน
    แบบนี้ก็คงไม่ผิดด้วยใช่หรือไม่ เพราะปราถนาดี
    แล้ววัดจะเหลือความเป็นวัดอีกหรือเปล่า ต่อไป

    ปล.เรื่องเปิดบ่อนนี้ อย่าคิดว่าพูดเวอร์ไปนะ เพราะตอนนี้มีคนทำแล้ว เปิดบ่อนในวัดเอาเงินไปสร้างโบสถ์
     
  18. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    อนุโมทนาครับ การมีจิตที่้เป็นกุศลคือมีจิตคิดสร้างวัด หรือมีจิตคิดชักนำชาวบ้านมาเข้าวัดสนทนาธรรมมะ อ่านหนังสือธรรมมะนั้นเป็นกุศลจิต เป็นความเห็นถูกเพื่อเผยแพร่พระศาสนา และการทำนุบำรุงสร้างศาสนสถาน. ส่วนวิธีการที่คิดแล้วทำนั้นต่างหากที่เป็นอกุศลจิตด้วยความไม่รู้หรือสำคัญผิดจึงเป็นอกุศลจิต เมื่อมีผู้ไม่รู้แล้วทำตามในสิ่งที่เค้าคิดขึ้นมาให้ทำนั้นจึงเป็นกรรมครับ แต่ถ้ามีผู้รู้แล้วยกขึ้นกล่าวให้เจ้าของความคิดได้รู้และเปลี่ยนความคิดก็จะเป็นกุศลอย่างยิ่ง แต่ถ้าทำแล้วแต่เจ้าของความคิดยังไม่โน้มจิตเข้าสู่สิ่งที่ถูกที่ควรก็ต้องวางอุเบกขา กรรมใครกรรมมันครับ. แต่ถ้ามิได้ทำก็วางอุเบกขาครับ สิ่งสำคัญอย่าได้เข้าร่วมในการทำที่เป็นอกุศลทั้งๆที่รู้แต่ถ้าไม่รู้แล้วประสพพบเจอก็ควรนำขึ้นถามผู้รู้หรือสอบเทียบกับพระพุทธวจนดูว่าสอดและรับกันใหมหรือเพื่อน้อมนำสู่การพ้นทุกข์หรือเปล่าถ้าใช่ให้ทำตามแต่ถ้าไม่ใช่ให้หยุดแล้วไม่ต้องทำตามเหตุเพราะพระพุทธองค์มิได้สอนแบบนั้นครับ สาธุ
    ป.ล.สิ่งใดที่เกิดจากอกุศลมูลย่อมมีวิบากเป็นที่ไป.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2015
  19. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,946
    อ่านข้อความคุณ VERAJAK ต้องเพ่งอย่างแรง
    เวียนหัว ตาลาย หลายรอบ
    กว่าจะอ่านจบ
    รึเราแก่แล้วหว่า? ^ ^
     
  20. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    อนุโมทนาครับ ต้องขอประทานอภัยครับ คนอยู่นานก็พิมพ์ถูกๆผิดๆบ้างต้องแก้หลายๆรอบหน่อยครับ และการเว้นวรรคก็ไม่ค่อยมีเลยยาวไปเลยครับ ขอประทานอภ้ยครับ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...