...ร่วมแชร์บอกเล่าเรื่อง หลวงปู่ยี วัดดงตาก้อนทอง...

หลวงพ่อยี ปญญภาโร อดีตเจ้าอาวาสวัดอภัยสุพรรณภูมิ (ดงตาก้อนทอง) ซึ่งตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 10 ต.ไผ่ล้อม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ผู้อุทิศที่ดินเพื่อสร้างโรงเรียนให้กับชุมชน ให้ลูกหลานชาวบ้านดงตาก้อนทอง และบ้านใกล้เคียงได้เล่าเรียน มาจนปัจจุบัน นับได้ว่าท่านเป็นคนดีศรีอภัยสุพรรณภูมิอย่างแท้จริง จากคำบอกเล่าต่างๆนั้น ทำให้ได้ทราบว่า หลวงพ่อยี เป็นชาวจังหวัดลพบุรี เมื่อเด็กๆ อายุได้ 8 ขวบ ท่านได้อาศัยอยู่กับพระภิกษุรูปหนึ่ง ไม่ทราบชื่อแน่นอน แต่หลวงพ่อยี เรียกว่า “หลวงพ่อใหญ่” ได้ธุดงค์ออกป่าหลายแห่งจนอายุได้ 21 ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระ ได้ออกธุดงค์ไปเรื่อยๆตามป่าเขา ทั้งในภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ เคยไปถึงพม่า เวียงจันทน์ และมาลายู หลวงพ่อยีท่านเล่าว่า ท่านได้เดินธุดงค์หาความวิเวกจนมองเห็น นรก สวรรค์ ยามที่ท่านออกโปรดสัตว์ในตอนเช้า จะมีเทวดา นางฟ้ามาตักบาตรให้ตลอดเวลา ได้บวชเป็นพระถึง 28 พรรษา อายุได้ประมาณ 50 ปี เมื่อเล็งเห็นว่าตนยังมีกรรมอยู่จำเป็นต้องลาสิกขาบทออกมาเป็นฆราวาส หลังจากนั้นก็ออกท่องเที่ยวไปหลายจังหวัด ใช้ชีวิตแบบฆราวาสเต็มที่ จนครั้งสุดท้ายได้มาหักร้างถางพง ณ บริเวณที่เป็นวัดดงตาก้อนทองนี้ สมัยนั้นยังเป็นป่ารกชัฎอยู่ มีที่ดินทั้งหมด 565 ไร่ เคยประกอบอาชีพเป็นอาจารย์สัก อยู่ยงคงกระพันชาตรี ให้กับลูกศิษย์ลูกหาอยู่พักหนึ่ง ต่อมาได้ออกบวชอีกเป็นครั้งที่ 2 หลวงพ่อยีได้ตกลงใจยกที่ดินถวายเป็นของสงฆ์เสียส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็ให้คนเช่าต่อไป

สิ่งก่อสร้างที่สำคัญที่สุดของวัดดงตาก้อนทอง คือพระอุโบสถ ใช้เวลาในการสร้างจริงๆ เพียง 1 ปี 6เดือน เท่านั้นแต่ในการรวบรวมปัจจัยมาเป็นค่าวัสดุและแรงงานใช้เวลานานพอสมควรทีเดียว งบประมาณในการก่อสร้างสูงถึง 6-7 ล้านบาท การขนส่งวัสดุอุปกรณ์ต้องใช้ทางเกวียน เพราะสถานที่ในการก่อสร้างนั้นอยู่ไกลมาก อย่างไรก็ตาม ด้วยบารมีของหลวงพ่อยี งานก่อสร้างสำเร็จเรียบร้อยทุกประการ และ ยังเป็นถาวรวัตถุที่งดงามอยู่มาตราบจนทุกวันนี้ ตัวโบสถ์กว้าง10 วา ยาว 20 วา สูง 12 วาชั้นบนเป็นโบสถ์ ชั้นล่างใช้ทำกิจกรรมทางศาสนาแทนศาลาการเปรียญได้ นับว่าเป็นโบสถ์อเนกประสงค์หลังหนึ่ง สิ่งก่อสร้างอื่นๆภายในวัดนั้นมีปริศนาธรรมอยู่หน้าโบสถ์ คือมีรูปปั้นพระพุทธรูปปางสมาธิขนาดใหญ่ 1องค์นั่งบังพระพุทธรูปขนาดเล็กไว้ ปริศนาธรรมนี้ผู้พบเห็นก็ขบคิดกันเอาเอง อีกด้านหนึ่งมีรูปปั้นคนขี่ช้าง ถัดมาด้านซ้ายมือเป็นป่ามะม่วงหนาทึบมีพระพุทธรูปในอริยาบทต่างๆ ตั้งเรียงรายเป็นระยะๆ มีรูปเคารพของศาสนาพราหมอยู่หน้ากุฏิพระ มีโรงครัวขนาดใหญ่โต แสดงถึงจำนวนญาติโยมที่มาทำบุญที่วัดนี้ซึ่งเคยรุ่งเรืองในอดีต

โยมผวน โตมา ศิษย์ผู้หนึ่งของหลวงพ่อยีได้เล่าให้ฟังว่า ก่อนจะมาเป็นโบสถ์หลังนี้หลวงพ่อยีได้ปัจจัยในการสร้างโบสถ์มาจากการสร้างอิทธิฤทธิ์ต่างๆ ช่วยให้ลูกศิษย์มีฐานะร่ำรวยขึ้นแล้วบรรดาลูกศิษย์เหล่านั้นก็นำเงินไปช่วยท่าน ภายหลัง ท่านสามารถเสกกระดาษให้เป็นใบละร้อย เสกดินเป็นทองคำ เสกใบไม้ให้เป็นเงิน หรือแม้แต่เสกใบไม้ให้ เป็นกบนำมาทำอาหารกินอย่างเอร็ดอร่อยก็เคยปรากฏมาแล้วหรือเรื่องการบิณฑบาตรข้าวทิพย์จากเทวดาก็ตามหลวงพ่อท่านออกเดินห่างจากครัว ไม่ถึง 10 เมตร ท่านยืนทำสมาธิที่ต้นมะม่วงใหญ่ ไม่นานนักก็กลับมาพร้อมด้วยข้าวสวยร้อนๆ เต็มบาตร ข้าวทิพย์นี้มีกลิ่นหอมแรงทิ้งไว้ก็ไม่บูดแต่จะแห้งไปเองเหมือนข้าวตาก

ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดหลวงพ่อยี เช่นคุณสมหมาย - คุณณรงค์ศักดิ์ ตะละภัฏ คุณบรรยง ณ บางช้าง และลูกศิษย์อื่นๆอีกมากมาย ก็สามารถที่จะยืนยันได้เป็นเสียงเดียวกันว่า หลวงพ่อยีท่านมีอิทธิฤทธิ์ บุญฤทธิ์สูงส่งมากเพียงใด

ในระยะที่ผู้คนฮือฮากันถึงเรื่องความมหัศจรรย์ที่หลวงพ่อยีท่านได้กระทำนั้นพระราชมุนี(โฮม โสภโณ)แห่งวัดประทุมวนารามก็เป็นพระเถระผู้ใหญ่รูปหนึ่งที่ต้องมาพิสูจน์ถึงความเท็จจริงนี้ให้ประจักษ์ หลวงพ่อถาวร ซึ่งในขณะนั้นเป็นศิษย์ใกล้ชิดของพระราชมุนีโฮม ก็ได้ติดตามมาด้วย และภายหลังก็ได้มาที่วัดดงตาก้อนทองอีกหลายครั้งเพื่อศึกษาเรื่องอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์กับหลวงพ่อยี จนกระทั่งได้ประจักษ์แจ้ง ได้รู้ได้เห็นเป็นที่ยอมรับว่า ทุกสิ่งเป็นจริงทุกประการไม่มีสิ่งใดเคลือบแคลงสงสัยอีกเลย

หลวงพ่อยี มรณภาพ เมื่อปี พ.ศ. 2515 เก็บศพใส่โลงทองไว้ในกุฏิทางด้านจังหวัดพิจิตร ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ ได้สั่งเสียไว้กับศิษย์ใกล้ชิดคือ โยมผวน โตมา ถึงเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในอนาคต สำหรับวัดดงตาก้อนทองให้โยมผวน เป็นผู้ดูแลรักษาโบสถ์นี้ไว้อย่าไปอยู่ที่อื่นรอจนกว่าหลวงพ่อที่ 2 จะมารับช่วงต่อ พอต้นปี 2531 หลวงพ่อถาวร ก็มาที่วัดดงตาก้อนทองประกาศว่าจะทะนุบำรุงวัดดงตาก้อนทองซึ่งในขณะนั้นเกือบจะเป็นวัดร้างด้วยการนำพระภิกษุ สามเณรมาจำพรรษาที่นี่

ต่อมาเมื่อวัดดงตาก้อนทอง มีพระภิกษุสงฆ์มาจำพรรษา วัดอภัยสุพรรณภูมิ หรือ วัดดงตาก้อนทอง ได้พัฒนาขึ้นในทุกๆด้าน โดยการนำของพระพิสาลพัฒนาทร หรือหลวงพ่อถาวร จากวัดประทุมวนาราม กรุงเทพมหานครได้ทำการพัฒนาขึ้นมามากอย่างเห็นได้ชัด ในขณะนี้วัดอภัยสุพรรณภูมิมี พระสายันต์ สญญโม เป็นเจ้าอาวาส ในปัจจุบันท่านเจ้าอาวาสได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูอภัยธรรมโสภณ​

ข้อมูลจากเว็บ โรงเรียนอภัยสุพรรณภูมิ​

 

ท่านใด มีเรื่องเล่าของหลวงปู่ยี วัดดงตาก้อนทอง ก็ร่วมกันแชร์ เรื่องราวของท่าน รวมถึงวัตุมงคลของท่าน ได้เลยนะครับ...

 

สำหรับท่านที่ยังไม่รู้จักองค์ หลวงปู่ยี วัดดงตาก้อนทอง ลองฟังเสียงบันทึกประวัติท่านดูนะครับ ซึ่งผมก็ได้โหลดมาจาก เว็บ พลังจิต ของเรานี่แหละครับ...แค่ 30 นาที...
..แล้วท่านจะรู้ว่า องค์หลวงปู่ยี วัดดงตาก้อนทอง รูปนี่คำว่า "สุดยอด" ยังน้อยเกินไป สำหรับท่านครับ...

กด โหลดได้เลยครับ...

..ขอขอบคุณ เว็บ พลังจิต ครับ

 

วัตถุมงคลหลวงปู่ยี วัดดงตาก้อนทอง ประเภทเหรียญ​

1.เหรียญเสมารุ่นแรก หลวงปู่ยี วัดดงตาก้อนทอง จัดสร้างราวปี 2505-2506 น่าจะได้ เพราะไม่มีหลักฐานระบุไว้ชัดเจนนัก แต่ที่รู้ๆว่าจำนวนการสร้าง น้อยมากๆ จึงแทบจะไม่มีของหมุนเวียนในสนามเลยครับ เพราะว่าลูกศิษย์ท่าน หรือ คนที่ศรัทธาในวัตรปฎิบัติของท่าน ถ้าเจอเมื่อไหร่ เป็นอันว่าเก็บหมด ยิ่งสภาพสวยๆด้วยแล้ว เปิดมาเท่าไหร่แทบ จะไม่ต้องต่อราคากันเลยทีเดียว และที่สำคัญเหรียญรุ่นแรกนี้ มีประสบการณ์สูงมากๆ เล่ากันทั้งวันก็ไม่จบครับ จึงไม่แปลกครับคนที่มีเหรียญของท่านอยู่ จะหวงยิ่งกว่า จงอางหวงไข่ เสียอีก
เหรียญรุ่นนี้เท่าที่ผมเคยเห็นมีเนื้อ ผิวไฟ รมดำ กะไหล่ทอง...(กะไหล่เงิน-เนื้อเงิน มีหรือเปล่าไม่แน่ใจ...แต่ที่รู้ๆเหรียญเสมารุ่นแรกนี้ ผมยังไม่มีสักเหรียญครับ555+)....
ราคาเหรียญสวยๆถึงสวยที่สุด หมื่นนิดๆ.....แต่ถ้าหย่อนสวยลงมา ก็ พันกลางๆ...ครับ
ถ้าท่านใดมีเหรียญรุ่นนี้ หรือมีข้อมูลที่สมบูรณ์กว่านี้ ก็ขอเชิญโพสมาร่วมกันชม และศึกษากันได้เลยนะครับ...(เพราะผมก็ มือใหม่เหมือนกันครับ)


ขอยืมรูปภาพคุณ Wison ประกอบภาพเหรียญรุ่นแรกครับ...ขอบคุณครับ

 

2.เหรียญรูปไข่รุ่นแรก หลวงปู่ยี วัดดงตาก้อนทอง ประวัติการสร้างเหรียญรุ่นนี้ผมก็ ไม่ค่อยทราบรายละเอียดมากนักครับ แต่ที่ได้ฟังเขาเล่ากันมาว่า เป็นเหรียญรุ่นแรกเหมือนกัน แต่คนละพิมพ์กัน สร้างปีเดียวกัน พิธีเดียวกัน ปลุกเสกพร้อมกัน หรือ ก็ว่าเหรียญรูปไข่รุ่นแรกนี้ เอาไว้แจกเฉพาะผู้หญิง ผมก็ยังสับสนอยู่เหมือนกัน เพราะอย่างที่ทราบกันอยู่ว่าขนาด คนที่ทราบเรื่องราวของหลวงปู่ยี ก็มีน้อยอยู่แล้ว ข้อมูลบางอย่างจึงไม่ค่อยชัดเจนมากนัก แต่ผมขออ้างอิงจากข้อมูลที่ได้กล่าวมาก็แล้วกัน เพราะคนที่รู้จริงๆก็ไม่ค่อยมี ส่วนผู้ที่รู้อยู่บ้างก็พูดกันอยู่แค่นี้ เลยทราบแค่ว่าอย่างน้อยๆรุ่นนี้ก็ทัน หลวงปู่ปลุกเสก แน่นอนครับ (พ.ศ. 2515 หลวงปู่มรณะภาพ แต่เหรียญนี้ราวปี 2505-2506 ครับ)
....เท่าที่ผมเคยเห็นเหรียญรุ่นนี้มีเนื้อ ผิวไฟ รมดำ กะไหล่ทอง (เหมือนกันกับเหรียญเสมา กะไหล่เงิน-เนื้อเงิน ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ที่ไม่เหมือนก็เพราะเหรียญรุ่นนี้ ผมมีอยู่ 1 เหรียญครับ..ไชโยๆ..555+)...จำนวนการสร้างก็น้อยมากๆเหมือนกัน
...ส่วนประสบการณ์เหรียญรุ่นนี้หายห่วงครับ เหมือนเหรียญเสมา ทุกประการ เพียงแต่ขอให้นับถือท่านจริงๆ ก็จะเห็นอะไรดีๆครับ...
ราคาเหรียญสวยๆประมาณ 3000-4000 บาท ถ้าสภาพใช้มาก็ 1500-2000บาท ครับ

ถ้าท่านใดมีเหรียญรุ่นนี้ หรือมีข้อมูลที่สมบูรณ์กว่านี้ ก็ขอเชิญโพสมาร่วมชมกััน และศึกษากันได้เลยนะครับ...(เพราะผมก็ มือใหม่เหมือนกันครับ)

ขอยืมรูปภาพคุณ Wison ประกอบภาพเหรียญรุ่นแรกครับ...ขอบคุณครับ

 

วัตถุมงคลของหลวงปู่ยี ยังมีอีกนะครับ แต่ก็มีไม่ค่อยเยอะ(น้อยมากๆ) และไม่ค่อยแพร่หลายมากนัก....สำหรับผมนับถือหลวงปู่ยีมากครับ ก็เพราะได้อ่านประวัติท่านนี่แหละครับ ถึงเริ่มสนใจพระของท่าน แต่ผมก็มีแค่เหรียญรูปไข่รุ่นแรกแค่ 1 เหรียญ เท่านั้น ที่บูชาอยู่ อย่างอื่นผมไม่มีสักชิ้น เพราะรู้ว่าท่านเก่งจริงๆ เก่งแบบว่าสามารถพิสูจน์ได้จริงๆ ไม่ใช่แค่การโปรโมท...เลยอยากให้ท่านที่ยังไม่รู้จักหลวงปู่ยี ได้ลองศึกษาประวัติของหลวงปู่ยี และวัตถุมงคลของท่านดู เผื่อจะได้ของดีของหลวงปู่สักชิ้นไว้ในครอบครอง (เหมือนผมชิ้นเดียวจริงๆ 555+)... จะได้รู้ครับว่า "ของจริง" เป็นอย่างไร...

ส่วนวัตถุมงคลอย่างอื่นๆของท่าน รอท่านที่ชำนาญการกว่าผม มาเผยแพร่ให้ทราบก็แล้วกันนะครับ เพราะผมความรู้น้อย พึ่งเริ่มศึกษา และกลัวข้อมูลจะผิดพลาดเลอะเลื่อน แต่ผมก็จะรอดูรอฟังทุกท่านนะครับ...

...ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะครับ...

ขอให้ดวงวิญญาณอันศักสิทธิ์ของหลวงปู่ยี ช่วยปกปักษ์รักษาและคุ้มครอง ลูกศิษย์ท่านทุกคน รวมถึงผู้ที่เคารพนับถือท่านทุกคน ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากภัยอันตรายทั้งปวง
ให้มีแต่คำว่า รวย รวย รวย นะครับ...สาธุ

 

พระยอดธง หลวงพ่อยี วัดดงตาก้อนทอง จ.พิษณุโลก เนื้อทองแดง

พระพิมพ์นี้ บางองค์ก็ตอกโค๊ด "ยี" ไว้ด้านหลัง พื้นที่หากันมากๆ (หายากมากๆด้วย 555+​

ลพ.ยี วัดดงตาก้อนทอง พระผู้ทรงฤทธิ์กึ่งพุทธกาล ท่านเป็นศิษย์ของ หลวงปู่เทพโลกอุดร ท่านเกิดที่บ้านขันหมาก อ เมือง ลพบุรี ไม่มีใครทาบว่าเกิดปีใด หลวงปู่พระครูเทพโลกอุดร นำไปเลี้ยง ตั้งแต่ 8ขวบ อายุครบได้บวชพระ บวชอยู่ 28 ปี เกิดเบื่อหน่าย จึงลาสิกขา แต่งงานมีครอบครัว เมีย-ลูกหลายคน ต่อมาได้จับจองที่ดินเขต จ พิจิตร -พิษณุโลก ประมาณ 500 ไร่
เกิดเบื่อฯ บวชใหม่อีก ปี 2499 ที่วัดสามเรือน อ บางกระทุ่ม พระครูรังสีธรรมประโพธ เป็นพระอุปัชฌาย์ ยกที่ดิน 36 /2/20 ไร่ ถวายเป็นของ ธรณีสงฆ์ สร้างวัดดงตาก้อนทอง

หลวงปู่ยี เป็นพระที่แสดงฤทธิ์ได้หลายรูปแบบ เป็นมหัศจรรย์ เช่น ยืดเหรียญบาทได้ยาวเป็นฟุต กลายเป็นทองคำบริสุทธิ์ เสกกระดาษให้เป็นธนบัตรใบละร้อยแจกญาติโยม นำไปเป็นขวัญถุง หรือใช้ชี้ออะไรก็ได้ /เสกข้าวสาร ในขันให้เป็นเม็ดทองคำ แจกจ่ายให้ลูกศิษย์ไว้เป็นของศักดิ์ิทธิ์-เมตตา / เสกใบไม้ให้เป็น ธนบัตรสีเขียว เป็น กบ ปลา แกงกินได้ กินไม่หมดจะกลับกลายเป็นใบไม้เหมือนเดิม/ ตกเบ็ดบนต้นไม้ มีปลามาดิ้นกระแดว ๆ มากมาย /บิณฑบาตจากเทวดา ได้ข้าวทิพย์ร้อน ๆ หอมฟุ้งเต็มบาตร มีข้าวสวย ข้าวผสมงา ข้าวผสมถั่ว /ปลูกข้าวหน้าโบสถ์ วันเดียวเก็บเกี่ยวได้ /เรียกตะกรุดทองคำ 3 -5 บาท มาแจกจ่ายลูกศิษย์ /เรียกพระเครื่องจากอากาศ แจกจ่ายญาติโยม /มีหูทิพย์ ตาทิพย์ รู้ที่ฝังสมบัต / แยกร่างไปปรากฎหลายที่ ไกลแสนไกล ขณะที่ท่านนั่งอยู่กับที่เดิม

หลวงปู่ยี ปัญญภาโร สามารถย่นระยะทางที่ไกลแสนไกล ให้ไกล้ได้ ล่องหนหายตัวได้ในพริบตา โดยไม่ต้องใช้กำบัง หรือความมืด ทำผ้าสีต่าง ๆ ให้กลายเป็นผ้ายันต์ได้นับพัน นับหมื่นผืน ข้ามห้วย-แม่น้ำโดยไม่ใช้เรือข้ามฟากรักษาโรคร้ายแรงให้หายขาดได้ในพริบตา เอาปลาช่อนที่ตากแห้งเป็นริ้ว ๆ โยนลงแม่น้ำกลายเป็นปลาช่อนหลายตัวแหวกว่ายมีชีวิตชีวา ใช้หม้อใบเล็ก ๆ 2 ใบ หุงข้าว และแกง เลี้ยงคนได้นับร้อย โดยข้าว และแกงไม่หมดสักทีมีวาจาศักดิ์สิทธิ์สั่งให้โชคลาภ ได้เลื่อนยศ ตำแหน่ง หรือรอดพ้นากภัยพิบัติต่าง ๆ จากร้ายกลายป็นดี บันดาลให้รูปปั้นแม่พระธรณี ที่อยู่หน้าวัดดงตาก้อนทอง มีน้ำไหลพวยพุ่งออกมาจากมวยผม ทั้ง ๆ ที่มวยผมไม่มีท่อน้ำ น้ำเย็นจืดสนิท มีกลิ่นหอม ๆ ดื่มได้ และมีรสชาดดี วัตถุที่เสกให้เป็นทองคำ อยู่ได้ 600 ปี ครบแล้วจะกลับดืนสู่สภาพเดิม​

ขอยืมรูปภาพคุณ Wison ประกอบภาพ พระยอดธง ครับ.....ขอบคุณครับ

 

..นี่คือส่วนหนึ่งของวัตถุมงคลของหลวงปู่ยี วัดดงตาก้อนทองครับ..

 

หลวงปู่เทพโลกอุดร พระอาจารย์ใหญ่ของหลวงปู่ยี ครับ

 

รูปนี้ไม่ใช่หลวงปู่โลกอุดร แต่เป็นพระครูใบฏีกาพรหม วัดบางปูน อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี

 

แก้ไขให้แล้วครับ ขออภัยอย่างสูงครับ...

 

มารออ่านครับผม..............

 

ต้องขอโทษพี่ด้วยนะครับ คือว่าเรื่องราวขององค์หลวงปู่ยี วัดดงตาก้อนทอง นี้
กว่าจะได้รายละเอียดที่ชัดเจนนั้น หาได้น้อยมากๆ ขนาดหลวงปู่เกิด ว.ด.ป. อะไร
ยังไม่มีผู้ใดได้บันทึกไว้เลยครับ ทราบเพียงแต่ว่าท่านมรณะภาพปี พ.ศ.2515
ตามที่พูดกันบอกว่าท่านมรณะภาพตอนอายุ 120 ปี ครับ...ปัจจุบันสังขารท่านยังอยู่ในโลงไม้สักทองครับ...แต่ที่น่าแปลกใจคือ ทุกๆปีจะมีศิษย์ในสายท่าน จะมารินน้ำผึ้งใส่โรงศพของท่าน แต่น้ำผึ้งหาได้รั่วไหลออกมาไม่ ซึ่งผมก็ไม่ทราบว่าทำอย่างนั้นทำไม คงเพราะหลวงปู่อาจจะสั่งไว้ ก่อนมรณะภาพก็ได้ ก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่แปลกดีเหมือนกัน ครับ....ขอบคุณครับ

...ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะครับ...

 

เท่าที่อ่านจากหนังสือ เห็นเขาบอกว่า ร่างของท่านไม่ได้อยู่ในโลงใช่หรือเปล่าครับ

 

ผมก็ไม่เคยไปเห็นนะครับ แต่เท่าที่ศึกษามาเค้าว่า ร่างท่านอยู่ในโรงไม้สักทอง ครับ..
ไม่ใช่โรงทองคำ อย่างที่เคยคิดกันครับ....แถมยังเจาะรู ไว้เทน้ำผึ้งให้ท่านด้วยครับ

ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยครับ..

 

เข้ามารับข้อมูลดีๆ เพราะผมก้อคนพิดโลก

 

ขอบคุณครับพี่ แล้วพี่พอจะมีข้อมูลของท่านบ้างไหมครับ...
ถึงผมจะไม่ใช่คนพิดโลก แต่ผมก็นับถือท่านมากๆครับ ที่สำคัญผมยังอายุน้อยอยู่มาก จะออกตามหาประวัติท่านคงไม่ไหวแน่ๆครับ ถ้ายังไงพี่พอมีข้อมูลของท่านก็อย่าลืมโพสเข้ามาพูดคุยกันนะครับ เพราะคนยังไม่รู้จักหลวงปู่ยีอีกเยอะครับ

...ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ....

 

เข้ามาศึกษาประวัติท่านครับ เพราะประวัติท่านที่ผมได้ยินมาก็ไม่ธรรมดา องค์หนึ่งครับ


ขอบคุณครับ

 

ใช่แล้วครับ หลวงปู่ท่าน เก่งมากๆ แต่เรื่องราวของท่าน ก็มีน้อยมากๆ เช่นกันครัับ

 

กราบแทบเท้าหลวงพ่อยีครับ