ร่วมอนุโมทนา ด้วยการยกมือสาธุน่ะครับ

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย rukbhuda, 20 พฤศจิกายน 2009.

  1. rukbhuda

    rukbhuda สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +8
    มีข่าวบุญข่าวกุศลมาประกาศบอกบุญกับท่านพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านครับ
    <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p> </o:p>
    จะได้ร่วมกันอนุโมทนาบุญกับการสร้างมหากุศลในครั้งนี้....ซึ่งแน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องร่วมสมทบทุนเป็นตัวเงิน แต่สมทบทุนเป็นกำลังใจในการอนุโมทนาด้วยกันในครั้งนี้ครับ
    <o:p> </o:p>
    ผมมีโปรแกรมการจัดสร้างหนังสือสวดมนต์ฉบับมาตรฐาน คือสำหรับให้พระสงฆ์ใช้ในสังฆกรรม ตลอดจนสวดมนต์ทำวัตร เจริญพุทธมนต์ ๗ ตำนาน ๑๒ ตำนาน พร้อมเนื้อหาคำแปล....เพื่อให้ผู้อ่านได้เกิดความเข้าใจในบทสวดนั้นๆ แต่ไม่จำเป็นต้องท่องในส่วนคำแปลน่ะครับ(มีไว้ประกอบการอ่านทำความเข้าใจ)
    <o:p> </o:p>
    ซึ่งจุดประสงค์สำคัญอีกประการหนึ่งจะได้บรรจุเนื้อหาในส่วนของ พระวินัย คือศีลของพระภิกษุจำนวน ๒๒๗ ข้อ โดยสังเขปให้ประดุจดั่งเราได้ถวายซึ่งคัมภีร์พระปาฏิโมกข์ อันมีอานิสงส์มากเลยทีเดียว และจะเป็นประโยชน์ในการตรวจชำระปริสุทธิศีลของท่านด้วย การจำแนกพระปาฏิโมกข์ในทุก ๑๕ ค่ำนั้น ส่วนใหญ่กล่าวเป็นภาษาบาลี ซึ่งแน่นอนว่าพระสงฆ์ส่วนใหญ่ไม่อาจเข้าใจในเนื้อหาสำคัญของพระปาฏิโมกข์ (ศีล) ได้ ดังนั้นจะให้ตระหนักชัดเจนได้จึงควรจะมีภาษาไทย(คำแปล) ให้ท่านได้อ่านพอเป็นสังเขปเป็นการเตือนสติด้วยความรู้เท่าเห็นทันตามพระวินัย อย่างน้อยพระนวกะ(บวชใหม่) หรือแม้แต่ญาติโยมจะได้รู้ว่า พระสงฆ์มีข้อวัตรปฏิบัติอย่างไร การทำอย่างไรเหมาะสม(ตามพระวินัย) หรือไม่เหมาะสม และการกล่าวโทษพระสงฆ์(ในปัจจุบันอย่างที่คนเข้าใจ) ตามพระวินัยแล้วมีความผิดรุนแรงดั่งที่เราท่านเข้าใจหรือไม่
    ที่สุดแล้วก็เพื่อทำความเข้าใจทั้งแก่พระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนเองว่า พระวินัยแต่ละข้อเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติ และมีบทบัญญัติของการละเมิดไว้อย่างไร เราท่านทั้งหลายโดยเฉพาะสาธุชนคนพุทธฯ จะไม่ตัดสินอะไรตามใจตัวเอง แต่ควรให้เป็นไปตามพระวินัยบัญญัติโดยพระสงฆ์นั้นจึงจะถูกต้อง....
    <o:p> </o:p>
    และในส่วนที่เราควรจะทำอย่างยิ่งคือการทำหน้าที่ ของความเป็นพุทธศาสนิกชนอย่างเต็มที่เต็มกำลัง มิใช่ทำหน้าที่เป็นตำรวจตรวจสอบพระสงฆ์ โดยอาศัยหลักเกณฑ์การตัดสินแบบฆราวาสวิสัย.....และเมื่อเราเป็นพุทธศาสนิกชนจริงๆ แล้ว เราต้องเคารพในหลักความเชื่อของ กฎแห่งกรรม เราไม่จำเป็นต้องไปตัดสินหรือลงโทษใคร เพราะเขาผู้ซึ่งกระทำความชั่วย่อมได้รับผลแห่งกรรมชั่วนั้นเอง ......เพราะในหลักคำสอนของพระบรมศาสดามิได้ระบุหน้าที่ของชาวพุทธไว้เลยว่า จะต้องคอยสอดส่องดูแลพระศาสนานี้ หากไม่ชอบมาพากลให้สังเกตพฤติกรรมพระสงฆ์ผู้ประพฤติผิดและทำการลงโทษผู้กระทำผิดหรือจับผิดได้ทันที หากแต่ให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท (หรือก็คือเอาตัวให้รอดก่อน....จากอกุศลกรรมทั้งหลาย) คือไม่กระทำกรรมชั่วเสียเองก็ดีแล้ว
    แม้พระสงฆ์ที่เราใส่บาตรให้ หรือทำบุญกับท่านจะประพฤติปฏิบัติเช่นไรในส่วนอื่นเมื่อพ้นสายตาเราไปแล้ว บุญนั้นก็ยังบังเกิดอยู่ด้วยความตั้งใจที่เรียกว่า เจตนาแห่งบุญ ไม่สงสัย เคลือบแคลงในคุณความดีของท่าน เกิดความหวาดหวั่น วิตกในสังฆทาน ด้วยกลัวว่าจะไม่ได้บุญหรือได้บุญน้อยก็ตาม เหมือนหนึ่งในพระธรรมบทเรื่อง ใส่บาตรพระปลอมได้ขึ้นสวรรค์ ใส่บาตรพระอรหันต์กลับตกนรก เรื่องนี้ลองไปหาอ่านกันดู ซึ่งใจความสำคัญๆ อยู่ที่คำเดียวคือ เจตนา ความพอใจในการกระทำซึ่งความดี ความกระจ่างแจ้งในคุณความดีที่กระทำ ความไม่สงสัยในการทำดี และความมุ่งมั่นในการทำดี
    <o:p> </o:p>
    ก็หวังว่าหนังสือเล่มนี้สามารถทำสำเร็จขึ้นได้ ซึ่งอาจจะ ๑ ปี ๒ ปี ๑๐ ปี หรือกว่านั้นผมไม่อาจบอกได้ เพราะตอนนี้ผู้ร่วมอุดมการณ์นี้มี ผม เพียงผู้เดียวเท่านั้น ก็จะค่อยๆ ทำไปตามกำลัง ก็หวังว่าทุกท่านจะร่วมอนุโมทนาบุญด้วยกัน ด้วยการยกมือสาธุและอนุโมทนาน่ะครับ
    <o:p> </o:p>
    เผื่อว่าจะให้ข้อมูลเพิ่มเติม หรือแสดงทัศนคติชี้แจง ติชม ให้กำลังใจ ไปที่ rukbhud@hotmail.com <o:p></o:p>
     

แชร์หน้านี้

Loading...