ร่วมทำบุญบูชา มงคลตัดผ่านสวรรยามหากุมารต้นไฟอมฤต(สลายจุดชะลอชะตาสี่มหาฤทธิ์พญา) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. อรหโตพุทโธ

    อรหโตพุทโธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2015
    โพสต์:
    498
    ค่าพลัง:
    +1,017
    ได้รับ พระเจ้าโคตรเศรษฐีก่อทรัพย์ห้ามจน แล้วครับเนื้อเข้ม สวยงามากๆครับ
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,105
    ค่าพลัง:
    +16,530
    มีเรื่องมาเล่าให้ฟัง

    ช่วงนี้อารมณ์ไม่ค่อยดี เมื่อวานหงุดหงิดมาก หลายๆท่านน่าจะเคยเป็นกันนะ อารมณ์แบบว่าทำบุญคุณคนไม่ขึ้น อันนี้เจอมากับตัวเลยเมื่อวาน

    พอดีมีโอกาสเจอคนที่เราคิดว่าสนิท เจอกันบ่อย รู้จักมาเกือบจะสิบปีได้แล้ว ได้นั่งคุยกัน โถ พ่อคุณ น้ำใจคนนี่คาดเดาไม่ได้ คิดกันไม่ถึงทีเดียว ที่ผมถอนใจแบบนี้ก็เพราะเรื่องหวยนั่นเอง

    ผู้ชายคนนี้เคยมาขอหวยผม ผมไม่รู้จะตอบอะไร ก็เลยเอาฝันของผมที่เพิ่งฝันในวันนั้น บอกเค้าไป ว่าได้เลขมาสามตัวนะ บอกเสร็จก็หายไป เรื่องนี้หลายเดือนแล้ว พอวันหวยออกแล้ว เราก็เจอเค้าอีก คือเลขที่เราบอกไปมันถูกสามตัวตรงๆเลย แต่ตัวเองไม่ได้ซื้ออะไรเลย ปกติเราจะเป็นคนอารมณ์แบบ ต้องมีปิติมีความอิ่มเอิบใจแปลกๆ โคตรมั่นใจว่าซื้อแล้วถูกถึงจะซื้อ

    พอได้เจอก็ถามเขาว่าถูกหวยมั๊ย ได้เล่นหรือเปล่า เชื่อมั๊ยครับว่าเค้าไม่ตอบผมนะเดินเฉยๆเหมือนเราเป็นอากาศธาตุอ่ะ ไม่มองด้วย เราก็ทุกข์สิครับ ไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร เลขก็ให้ตรงนะ หรือว่าเค้าไม่ได้เล่นเค้าเจ็บใจก็จินตนาการไปสารพัด

    จนเมื่อวาน เราเองก็ลืมไปแล้ว เค้ามานั่งคุยกับเรา บอกเราว่างวดนั้นขอบคุณพี่มากเลย เค้าเอาไปแทงใต้ดินถูกหวยไปสองแสนกว่าบาท คือคุณพูดมาแค่นี้แหละ เราก็ชะงักเหมือนกัน ทำไมเราถามแล้วเค้าไม่บอกนะ ไม่กระท่อนกระเทือนให้เรารู้อะไรเลยด้วยทั้งๆที่เจอกันเดือนละหลายๆครั้ง เราก็เริ่มคิดว่าเป็นอะไรรึเปล่า

    เค้าเล่าให้เราฟังว่าเค้าจะมาขอหวยใหม่เราฝันอะไรรึยัง พร้อมกับบรรยายหนี้สินของเค้าว่าชีวิตเค้ายากลำบากต้องผ่อนรถผ่อนบ้านให้เราฟัง ถูกหวยครั้งก่อน ก็เก็บเงินไว้เองหมดไม่ได้ให้เมียแม้แต่บาทเดียว แม้แต่เมียทุกวันนี้ก็ไม่รู้ว่าถูกพูดอย่างงั้นเถอะ คือเราคิดว่าเออเนาะ น้ำใจคน บอกเราให้เรายินดีด้วยก็ได้จะเป็นอะไรไป หน้าอย่างเราไม่ไปขอเงินเค้าหรอกจริงรึเปล่า กลัวอะไรขนาดนั้น มีแต่จะยินดีด้วย ประเด็นคือใช้เงินหมดแล้วต้องการหวยใหม่ถึงเพิ่งมาบอก

    ในหัวเรานี่ไปแล้ว มนุษย์คนนี้นี่มันคบไม่ได้ ไม่มีความจริงใจให้เพื่อนเลย เจ็บใจตัวเองแปลกๆ คือเราโคตรงงตั้งแต่แรกแล้วว่าเราบอกหวยเขาถูก ทำไมเค้าทำกิริยาแบบนั้นใส่เรา เหมือนเจอหน้าคนที่รังเกียจ บอกเราว่าไม่ได้ซื้อยังโอเคกว่า รู้สึกแปลกๆกับน้ำใจมนุษย์คนนี้ก็เลยตอบไปว่าอ่องวดนี้ผมยังไม่ฝัน จบเรื่อง มันมาถามแค่นั้น ไม่มีเลขให้มัน มันรีบกลับเลย

    ไม่รู้ว่าเราคิดมากหรือมันเป็นตะกอนจากสิ่งที่เราคิดหรือเปล่า เพราะนอนหลับเมื่อคืน ผมฝันว่ายืนจับมือคุยกับผู้หญิงคนหนึ่ง เค้าบอกผมว่าโชคลาภของตัวเอง อย่าเอาไปยกให้ใครแบบนี้อีก แต่ก็นะส่วนตัวถือว่าเราไม่ได้คิดว่าตัวเองเสียอะไร

    เรื่องนี้มันสอนให้เรารู้ว่าคนเรานี่หน้าไหว้หลังหลอก คาดคะเนน้ำใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกันไม่ได้นี่มันเป็นยังไง เป็นเราใครเค้าดีมาเราก็จะดีตอบ มันทำให้คิดว่า เออ คนแบบนี้ก็มีเนอะ


    พักเรื่องนี้ไว้ มาคุยเรื่องพระเจ้าโคตรเศรษฐีกันหน่อย พอดีมีประสบการณ์จากคนที่บูชาไปไลน์มาคุย บางคนก็บอกเวลาจับไหว้พระรู้สึกถึงพลังที่วนๆอยู่ที่มือไล่ไปตามจุดทั่วร่างกายตลอดเวลา พี่อีกคนเล่าว่าไปตัดผมร้านประจำ ช่างหน้าตาดีน่ารักซึ่งปกติไม่คุยกับพี่เค้า แต่เมื่อวานกลับชวนพี่เค้าคุยถามนั่นนี่เล่าประวัติตัวเองหมดเลยพร้อมบอกว่าเลิกกับแฟนแล้วพร้อมส่งสายตาหวานเยิ้ม ก็เลยบอกพี่เค้าว่าถ้าจะเล่นทางเสน่ห์นี่ต้องเอาไวเข้าว่า ถ้าเค้ามีใจต้องสานต่อเลย แต่พระเจ้าโคตรเศรษฐีนั้นให้เก็บไว้ใช้ทางทำมาหากินดีกว่า อย่าลืมว่าลาภ มันก็มีทุกขลาภเช่นกัน ลาภที่เกิดจากสัตว์สองเท้า ลาภที่เป็นเสน่ห์พาสตรีมา ได้สาวมันก็เสียเงินเลี้ยงสาว มันอยู่ที่ตัวเราด้วยว่าจะเลือกรับลาภแบบไหน พิจารณากันให้ดี ถ้าเอาสตรีการเงินโชคลาภมันก็จะระงับไป เราเป็นเจ้าของ เราเลือกเองได้ ว่าจะรับหรือปฏิเสธอะไร ท่านทำไว้ให้ก็หวังประโยชน์ใหญ่เรื่องทรัพย์สินเงินทอง อย่าไปสนลาภจากสัตว์สองเท้าเล็กๆน้อยๆเพราะมันเป็นความสุขชั่วครู ท่านเน้นเรื่องความมั่นคงมากกว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2016
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,105
    ค่าพลัง:
    +16,530
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    ก็มีเรื่องที่เคยคุยเล่นกับพี่ๆหลายคนไว้ เมื่อวานก็มีคนมาเล่าให้ฟังซักที เรื่องนี้ได้มาจากพี่ผู้หญิงท่านหนึ่งที่บูชาตะกรุดแหพันชั้นไปครับ

    คือตอนบูชาเค้าขอไปอย่างเร่งด่วน พี่เค้าเล่าว่าในชั้นเรียนปริญญาโทมีผู้ชายอายุ50กว่า พอเห็นหน้าก็คิดว่าเคยเจอที่ไหนมาก่อน แล้วเค้าก็จีบ คือพี่คนนี้เค้าบอกว่าไม่ได้ชอบเลยแต่มีอาการแปลกๆคือใจมันคิดถึงลุงนั่นอยู่ตลอด ตื่นมาก็คิดถึงนึกถึงหน้าตลอด พี่เค้ารู้สึกว่าคนๆนั้นต้องเป็นคนเล่นของสายเสน่ห์เหมือนผมแน่ๆ

    พี่เค้าจึงพยายามสวดมนต์ สวดคาถากันภัยสิบทิศต่างๆ เค้าว่าก็ช่วยคลายอาการได้บ้างแต่ไม่หลุด จนได้ตะกรุดแหพันชั้นไปจึงดีขึ้นตามลำดับจนเค้าไม่กล้ามายุ่ง

    ก็เป็นเรื่องที่เราเคยพูดกันไว้ ว่าสายเสน่ห์ที่ใช้กับผู้หญิงนั้น หญิงสมัยนี้ก็แกร่งนะ มีของกันตัวเริ่มรู้จักป้องกันตัวกันแล้ว ผมว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะปกติผู้หญิงจะไม่ค่อยสนใจพวกเครื่องรางเท่าไหร่ มันต้องเจออะไรกับตัวนั่นแหละ เค้าถึงจะเชื่อจะสนใจจริงๆ ก็เล่าให้ฟังกันไว้รอบเช้า ว่าผู้หญิงสมัยนี้เขาพัฒนาแล้ว:cool:
     
  4. nga sai

    nga sai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +3,409
    โอนค่ามงคลมันใจครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. visa2505

    visa2505 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2007
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +1,092
    โอนแล้วครับวันนี้ค่าบูชาพระเกศโมลี
     
  6. อสูรฟ้า

    อสูรฟ้า Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +87
    แจ้งโอนเงินครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • p100.JPG
      p100.JPG
      ขนาดไฟล์:
      124 KB
      เปิดดู:
      77
    • p200.JPG
      p200.JPG
      ขนาดไฟล์:
      118.7 KB
      เปิดดู:
      83
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,105
    ค่าพลัง:
    +16,530
    สมมติ

    อรุณสวัสดิ์ครับ สิ่งที่จะกล่าวในวันนี้คือเรื่องอันเกี่ยวเนื่องสืบมาจากความหลง

    พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่า ภพ อันเป็นผลที่สอดคล้องกันกับสัตว์และชาตินั้น ทุกสิ่งล้วนตั้งอยู่ในสมมติทั้งสิ้น สมมติในที่นี้คือมีในความไม่มี เราหลงมัน คิดว่ามันเป็นจริงเป็นจัง เอาจริงกับมัน เอาจริงกับการใช้ชีวิตเพื่อจะหยุดโลกไว้ วิ่งให้ทันโลก โดยลืมการพัฒนาทางใจของตนเอง

    พวกเราลืมเป้าหมายของตนเองกันเสียหมดว่าแท้จริงแล้วต้องทำอย่างไร เกิดมาทำอะไร เพราะเราคิดและพิจารณาในสิ่งที่เราเห็น และเราเป็นอยู่ เรามองแต่ตัวเองด้วยทัศนะที่แคบ แคบซะจนหาความพัฒนาไม่ได้ ไปต่อไม่ได้

    คนส่วนใหญ่มักถือเอาเวลาปัจจุบันเป็นใหญ่ อดีตหรืออนาคต เค้าจะไม่รู้หนาวรู้ร้อนเลย เค้าให้ค่ากับภพที่เค้าเกิด ชาติปัจจุบันนั้นเค้าถือจุดนั้นเป็นสำคัญ เพราะมองอยู่แต่จุดเดียว ไม่สร้างทัศนะโดยรวมของตัวเองให้กว้างขึ้น ไม่รู้จักขัดเกลายกคุณภาพทางใจตนเอง เค้าจึงหลงไปกับสิ่งสมมติ หลงไปกับภพ เพราะเค้าไม่เข้าใจภพ มองชาติภพไม่ออก

    บ่วงได้เกิดขึ้นแล้ว บ่วงในทีนี้คือสิ่งเหนี่ยวรั้ง เป็นเครื่องอันจะจองจำสัตว์ไว้กับภพชาติ ด้วยเพราะความไม่รู้ และไม่ทำตัวรู้ให้บังเกิด หลงเพลิดเพลินและติดอยู่ในสมมติด้วยว่าตนนั้นไม่มีตัวรู้นี่เอง ไม่รู้ ไม่ตื่น ไม่เบิกบาน สัตว์เหล่าใดก็ตามขาดตัวรู้ คือรู้เท่าทันสภาพของโลก เค้าก็จะโดนจำจองอยู่ในบ่วงอันได้ชื่อว่าภพนี้ตลอดไป ไม่สามารถขึ้นฝั่งหรือไปที่สุดแห่งภพได้เลย

    เพราะกิจในการดำเนินชีวิตประจำวันของสัตว์ทั้งหลายนั้น มักผูกพันธ์ด้วยเรื่องราวและสร้างกรรมขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ในแต่ละวันแต่ละมื้อนั้น สัตว์ทั้งหลายย่อมเพียรเอาใจไปตริตรองคิดอ่านแก้ไขปัญหา อันเกิดแต่เหตุที่เราหลงนำตัวเองเข้าไปพัวพันไม่ทางตรงก็ทางอ้อมทั้งสิ้น เมื่อยังหลงจึงไม่รู้ ไม่รู้ก็ยังไม่ตื่น

    ความรู้นั้นมันไม่ได้มาจากการที่เรานั่งตามโลก หรือแก้ไขปัญหาชีวิต แต่ความรู้นั้นคือความรู้อันประกอบไปด้วยศรัทธาและปัญญาอันสูงส่ง รู้ที่จะไม่ตามโลก เพราะตนเองนั้นรู้เท่าทันโลกและรู้ที่จะหยุดโลกแล้วนั่นเอง

    ความรู้ที่กล่าวนี้คือรู้และเข้าใจโลก เข้าใจภพ เข้าใจชาติ เข้าใจกฏแห่งกรรม ในจุดนี้หากสัตว์ทั้งหลายพอจะเข้าใจ และมองด้วยสัจธรรมความจริง สามารถพิจารณาแยกแยะได้แล้วว่า ภพนี้เป็นเช่นไร ทำไมถึงเป็นสิ่งสมมติ หาความเที่ยงแท้มิได้ ถ้าสามารถมองได้ถึงองค์รวมของภพด้วยสายตาตนเองเมื่อไหร่ บุคคลนั้นย่อมได้ชื่อว่าผู้รู้แล้วนั่นทีเดียว

    เพราะรู้เท่าทัน จึงจะไม่เอาตนเองไปยึดติดยึดเกาะอยู่กับภพอีกต่อไป เธอทั้งหลายตรงนี้สัญญามันเกิด สิ่งนี้มันจะพัฒนาข้ามภพข้ามชาติเชียวนะ เมื่อตนของเรารู้เท่าทันภพแล้ว มันก็จะไม่หลงอยู่ในเรื่องสมมติ มันก้าวข้ามภพเธอเห็นมั๊ย เป็นกระบวนการพัฒนาในตัวของมันเอง เมื่อเธอรู้แล้วเธอก็ต้องตื่น

    ตื่นในที่นี้คือตื่นขึ้นจากมายาสิ่งลวงตาสมมติทั้งหลาย แล้วใจตนเองนั้นก็จะเบิกบานในที่สุด

    ความเบิกบานนั้นคือความสุข แม้อาจจะไม่ละเมียดปราณีตถึงขั้นบรมสุขเช่นมหานฤพานของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ก็ถือได้ว่าเป็นสุขอันประณีตเพราะสุขนี้เกิดแต่ปัญญาและศรัทธาอันยิ่งยวดนั่นเอง

    เมื่อเรารู้คิด รู้ตื่น รู้เบิกบาน ชีวิตมันเปลี่ยนไปนะ ความรู้สึกของตนมันจะเปลี่ยนไปจากข้างใน เพราะอาศัยเหตุที่เธอทั้งหลายรู้เท่าทันภพแล้ว ทีนี้เธอก็จะรู้เท่าทันตัวเอง เห็นมั๊ยสุดท้ายมันก็ลงที่เรื่องสติอยู่ดี ลงที่ตัวรู้ รู้เท่าทันตัวเอง รู้ที่จะไม่ยึดติด ทำตัวเป็นพระเจ้า ทำตัวเสมือนตนเองนั้นเป็นแกนกลางของโลก ลองมองตัวเองดูสิว่าทุกวันนี้ เราคิดกันหรือไม่ว่าตัวเองนั้นสำคัญ เราไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโลก แต่เราพยายามทำให้โลกมันมาหมุนอยู่รอบตัวเรา เราอยากควบคุมมัน อยากให้มันเป็นไปตามใจเรา อยากจะให้สิ่งสมมติเป็นไปตามสมมติของเรา ถึงขั้นเป็นสมมติในสมมตินั่นเลย

    สัตว์ทั้งหลายนั้น มักจะมองเห็นเฉพาะความสุขและความทุกข์ของตนเองเสมอ จะเพียรมองอยู่แต่ว่ามันสำคัญยิ่งนักปานผืนฟ้าจะถล่ม มิใคร่จะเข้าใจเลยว่าสัตว์อื่นนั้นเค้าก็สุขก็ทุกข์เสมอกันเช่นเดียวกับเรา ไม่มีความสุขความทุกข์ของผู้ใดจะยิ่งใหญ่ไปกว่าของใคร ทุกคนนั้นกำลังพยายามเลี้ยงดูต้นไม้ต้นหนึ่งเสมอกันหมด นั่นคือต้นไม้ในโลกสมมติที่มันมีกิ่งก้านอันได้ชื่อว่าสุขและทุกข์นี้ เราพยายามตัดแต่งมันให้สวยงามกันทุกคน เหมือนเราเต้นอยู่รอบๆต้นไม้ของเรา โดยหารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้วมันตัดแต่งมิได้เลย เพราะตัดไปมันก็จะงอกขึ้นใหม่ฉันนั้น

    สิ่งที่สัตว์ทั้งหลายจะทำได้ก็คือรู้เท่าทันภพ รู้เท่าทันน้ำใจตนเอง รู้ให้เท่าทันสุขหรือทุกข์ทั้งหลาย จะทำอย่างไรให้ใจเราเป็นกลาง ไม่ปล่อยให้อารมณ์อันเกิดในภพนี้ที่เรียกว่าสุขหรือทุกข์นั้นมามีอำนาจเหนือเรา จะทำอย่างไรให้เรานี้ไม่ปิติไปกับมัน ไม่เจ็บปวดไปกับมัน ไม่ปล่อยให้มันเป็นสิ่งอันจะกำหนดวิถีชีวิตของเราได้ พวกเธอเข้าใจกันรึไม่ เพราะเราวิ่งตามเพียงสุขและทุกข์นี่อย่างไร เช่นนั้นมันถึงไม่ได้ไปไหน เพราะทุกคนนั้นชินกับมัน และก็ชาไปกับมันแล้ว รู้เพียงว่ามันต้องเกิด รู้ที่จะพยายามแก้ไขทุกข์ รู้ที่จะแสวงหาความสุขสบายใส่ตัว แต่มันเป็นความรู้ที่ผิดพลาดอย่างมหันต์ เพราะเธอไม่รู้เท่าทันพวกมัน ไม่รู้เท่าทันใจของเธอเอง ถ้าปล่อยให้ใจระเริงไปกับภพโดยปราศจากการควบคุม หลงติดอยู่กับสิ่งสมมติแล้ว เกิดมาเสียชาติเกิดเช่นนี้ จะเกิดมาทำไมเล่า

    จงรู้เท่าทัน ใช้ปัญญาพิจารณาอย่างยิ่ง แล้วเธอก็จะตื่นขึ้น รู้ตื่นและรู้ที่จะเบิกบาน ไม่เป็นบัวน้อยในโคลนตมตลอดไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2016
  8. wiruch99

    wiruch99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +697
    วันนี้ได้รับตะกรุดเทวดาทันใจแล้วครับ
     
  9. อรหโตพุทโธ

    อรหโตพุทโธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2015
    โพสต์:
    498
    ค่าพลัง:
    +1,017
    แจ้งโอนบูชามงคล อธิษฐาน-เทวดาทันใจ
    (ที่อยู่จัดส่ง ที่อยู่ใหม่ ใน PM)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,105
    ค่าพลัง:
    +16,530
    คืนนี้ราตรีสวัสดิ์ อย่าลืมสวดมนต์ทำสมาธิและแผ่เมตตากันนะครับ ทำจิตให้นิ่งแล้วค่อยแผ่ไป ถ้าแผ่ได้ทุกวันรับรองชีวิตดีขึ้นแน่นอน
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,105
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ความต้องการ

    เป็นเรื่องสืบเนื่องจากคราวก่อนนะครับ

    สัตว์ที่อาศัยอยู่ตามผลแห่งกรรมจำแนกได้หลากหลายภพนั้น เพราะไม่ได้รู้เห็นความเป็นจริงและสัจธรรมของพระพุทธเจ้า แต่เดิมนั้นสัตว์ทั้งหลายได้ชื่อว่าตกอยู่ภายใต้กฏแห่งกรรม มีกิเลสครอบงำอยู่

    พระพุทธศาสนานั้นมีหลักธรรมอันเป็นเครื่องที่จะนำสัตว์ออกจากกิเลสทั้งหลาย แต่ใจที่มืดบอดก็จะมองไม่เห็นปลายทางที่สว่าง เพราะว่าเขาดำเนินชีวิตผิดหลงติดอยู่ในสิ่งสมมติทั้งหลาย ยึดติดอยู่กับรูป กับภพ

    สัตว์ทั้งหลายเกิดมานั้นยึดติดกับอัตตาตัวตน ความเป็นตนของตนเอง เค้ามองไม่เห็นความจริง สัจธรรม ความเที่ยงแท้ ทั้งๆที่สิ่งเหล่านี้เป็นความจริงอันพิสูจน์ได้และก็ยังรอเขาพิสูจน์อยู่ แต่เขาเหล่านั้นหาได้ใส่ใจไม่ เพลิดเพลินไปกับโลกสมมติ อยาก ไม่อยาก มี ไม่มี ดี ไม่ดี ผิดหรือถูก ทุกอย่างที่เขาคิดคือความต้องการเพื่อเติมเต็มอัตตาของเขา ความรู้สึกเขาพร่องในสิ่งไหน เขาก็จะให้ความสำคัญกับสิ่งนั้น โดยไม่สนที่จะเห็นค่าสิ่งที่มีคุณค่าอย่างแท้จริง

    ความต้องการทะยานอยากทั้งหลายนั้นถูกเปลี่ยนเป็นเป้าหมายชีวิต เป็นกิจที่ต้องทำให้ได้ พยายามทำให้สำเร็จ แล้วสุดท้ายนั้น ต่อให้สำเร็จแล้ว ตัวเองได้ชื่อว่าได้อะไรเล่า ครอบครองสิ่งใดหรือ ก็ในเมื่อมันคือสิ่งที่คนเราสมมติขึ้นมาเองทั้งสิ้น มันมีค่าก็เพราะเราเห็นค่าไปให้ความสำคัญกับมันเช่นนั้น

    คนเราพยายามจะดึงเรื่องเงินทอง ทรัพย์สมบัติอัครฐาน เกียรติยศชื่อเสียง สิ่งต่างๆทั้งหลายบรรดามีที่ตนต้องการเข้ามาไว้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เพราะเราไปดึงสิ่งสมมติเข้ามามากเกินไป จึงยิ่งพลักดันสัจธรรมให้พ้นตัวไปไกลขึ้นเรื่อยๆ

    มนุษย์นั้นจะสรรหาสิ่งที่เหนี่ยวรั้งสร้างพันธะต่างๆมากมายเพื่อที่จะเป็นบ่วงให้กับตัวเอง แบกมันไป แบกไหวหรือไม่ไหวก็ต้องแบก ทรัพย์ที่หามาได้มันก็กลายเป็นเครื่องยึดติดเสียอีก เพราะคิดแต่จะสนองความต้องการของตนเองเช่นนั้น จึงแสวงหาสิ่งต่างๆมากมาย ทำได้ชั่วตัว ทำไหวก็ทำ ทำไม่ไหวชาติหน้าและชาติต่อๆไปก็ยังจักทำ

    เพราะในสังสารวัฏนั้น หามีสิ่งใดเที่ยงแท้แน่นอนไม่ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าชาติหน้าจะได้เป็นมนุษย์ เศษกรรมทั้งหลายอาจจะดลให้ไปเกิดเป็เวัวเป็นควาย เป็นมดเป็นแมลงต่างๆบรรดามีก็ได้ อย่าลำพองว่ามนุษย์คือสัตว์สิ่งเดียวที่อยู่ในโลก อย่างไร อย่างไร แล้วอย่างไร ไอ้ที่ปรารถนาไว้ใครจะทำต่อเล่า เกิดมาชาติใหม่ก็จะต้องเข้าสู่วงจรเดิมอีก พอเป็นมนุษย์ก็จะต้องหลงติดอยู่ในภพสมมตินี้อีกไม่รู้จักจบจักสิ้น

    สัตว์ทั้งหลายนั้นถูกครอบงำอยู่ด้วยสิ่งที่มีและสิ่งที่คิดว่าตัวเองเป็น เรามีอย่างนั้น เราเป็นเช่นนั้น เราอยากมีมากกว่านั้น อยากไปอยู่ในจุดนั้น เพราะเรามีความเชื่อ แต่เราใช้ความเชื่อในทางที่ผิด ปราศจากปัญญาควบคุมความเชื่อนั้น จึงกลายเป็นเชื่อที่จะต้องทำสิ่งที่ปรารถนาให้เกิดมีขึ้นมาให้ได้

    เพราะสัตว์นั้นหลงในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสเหล่านี้ จึงไม่เข้าใจว่ามันเป็นสิ่งลวงตา เราเห็นแล้วทึกทักไปเองว่ามันเป็นจริงจังเช่นนั้น แล้วก็นำไปคิด พอใจมันคิดมันมีความต้องการมันก็ยึดติด ทีนี้ตัวกิเลสมันซ้ำอย่างกับมารสาบส่ง เห็นอะไรคิดอะไรก็อยากได้อยากมีไปหมด ก็ต้องพยายามทุกทางที่จะแสวงหา หาสิ่งที่อยู่ในมายา ด้วยมายา ดำเนินไปด้วยความปรารถนาเห็นผิดเป็นชอบของตนเอง นี่หรือคือจุดหมายของมนุษย์

    พวกเธอจงจำไว้ว่าทุกสิ่งนั้นมันสัมพันธ์กัน มีความผูกพันธ์ซึ่งกันและกัน แค่คำว่าหลง คำว่าต้องการนี้ มันกลายเป็นคำว่าบ่วงไปได้ มนุษย์เหล่านี้น่าสมเพชนัก ที่สมเพชนั้นไม่ใช่ว่าจะไปดูหมิ่นดูแคลนเขา แต่สมเพชที่เขาเลือกผลักตนเองลงอบายภูมิตั้งแต่ยังมีชีวิต

    สัตว์เหล่านี้จะหาความสุขใดได้ในโลกเล่า อยู่บนโลกก็เสมือนอยู่ในนรก ที่เค้าเรียกว่าตกนรกทั้งเป็น ต้องรุ่มร้อนทุรนทุรายเพื่อทำสิ่งสมมติทั้งหลายให้สำเร็จให้เป็นจริงให้ได้

    จิตวิญญาณเมื่อผ่านไปแต่ละภพนั้น มันมัวหมองมากขึ้น เหมือนต้นกล้าที่เติบใหญ่หยั่งรากลึกเกาะกุมลงไปเพียงเพราะเราไม่รู้สึกถึงสัจจะความเที่ยงแท้ เราหาทางออกจากภพนี้ไม่เจอเท่านั้น

    เปิดกะลาที่มันครอบงำจิตวิญญาณของตนเองออก ใช้ปัญญาพิจารณาดูว่าเราถูกสังคม ถูกภพครอบงำไว้รึเปล่า ความเป็นจริงของจิตวิญญาณเราคืออะไร เบื่อหน่ายหรือไม่กับการเกิดซ้ำๆ หรือจะพอใจเดินไปตามกระแสกรรม ไขว่คว้าภาพลวงตาทั้งหลายมาเป็นบ่วงผูกคอเสมอไป

    อย่าให้ความผิดพลาดมาเป็นสิ่งชักจูงเรา ใช้บทเรียนอันล้ำค่าในชีวิตเพื่อเปลี่ยนแปลงตนเอง แล้วเธอจะผ่านมันไปได้ พ้นจากการครอบงำของภาพลวงตาและความต้องการต่างๆ คนอื่นจะพูดอย่างไร มันก็ไม่เท่าเราใช้ปัญญาพิจารณาจากประสบการณ์ชีวิตของเราเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2016
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,105
    ค่าพลัง:
    +16,530
    พระเครื่องกับกรรมฐาน

    มีคนถามว่ามีพระรุ่นไหนใช้แล้วนั่งสมาธิจะเห็นนิมิตรเห็นมรรคผลใดๆไม๊ อันนี้ต้องตอบไว้ว่าพระเครื่องนั้นเป็นอนุสติ คือทำให้จิตเรายึดถือ เกาะอยู่กับพระรัตนตรัย ไม่มีพระอะไรในโลกจะทำให้เราได้มรรคได้ผลได้ เท่ากับพระในใจของตัวเอง

    หากห้อยพระแม้ว่าจะราคาสูงเพียงใดแต่เราเองไม่หมั่นขัดเกลาตัวเองมันก็ไม่ช่วยให้มีอะไรดีขึ้นแน่นอน

    แต่อีกในกรณีหนึ่งคือหากเอามาใช้แล้วไม่ให้หนักคอเปล่า เคารพยำเกรงในพระรัตนตรัยในพระในคอ ไม่กระทำความชั่วมุ่งแต่ทำความดี เวลาทำสมาธิแล้วเอาพระมากำในมือทำสมาธิไป พ่ออาจารย์ท่านว่าแบบนี้ใจมันไม่แกว่ง ใจมันยึดเกาะอยู่กับพระ จะสงบได้ไว เป็นกุศลมาก ส่วนในเรื่องพลังและสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆที่พระรัตนตรัย หรือองค์เทพพรหมใดที่รักษาเครื่องมงคลนั้น จะแสดงออกมา จะสื่อให้ไปถึงผู้ที่ภาวนาอยู่ มันก็เป็นเรื่องเฉพาะตน รู้ได้เฉพาะกับตัวเองไม่ต้องไปป่าวประกาศบอกใคร

    ท่านว่าถ้าอยากรู้ความแตกต่าง ก็ลองทำภาวนาดู วันนึงภาวนาแบบปกติ อีกวันนึงเรานั่งโดยกำหรือถือเครื่องมงคลที่นับถือไว้ด้วย แล้วดูความแตกต่างด้วยตนเองว่าต่างอย่างไร ทำครั้งแรกไม่ชัด ครั้งที่สองที่สามก็เพียรทำไปเถิด
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,105
    ค่าพลัง:
    +16,530
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    ตรุษจีนปีนี้ขอให้เฮงๆร่ำรวยๆกันทุกคนนะครับ:cool:
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,105
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ก็มีเรื่องพระเจ้าโคตรเศรษฐีมาเล่าให้ฟังกัน

    มีไลน์มาคุยกับผมว่าพระที่เลี่ยมไว้ เอามากำภาวนา ปรากฏเส้นใยสีขาวๆขึ้นสองจุด อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ดีที่มันงอกเงยมาให้เราเห็นทางตาเนื้อ ก็ถือว่าเป็นมงคลดี บางท่านก็บอกว่าเออ รุ่นนี้ได้รับแล้ว สวยที่สุดตั้งแต่พ่ออาจารย์ท่านสร้างพระมาเลย

    แต่อีกท่านหนึ่งเห็นจะต้องเล่า เพราะว่าเป็นคนละกรณี พี่ท่านนี้แปลก ที่บูชาพระเจ้าโคตรเศรษฐีไปนั้นเพราะต้องการดาบด้านหลังองค์พระ กล่าวเช่นนี้ก็ว่าได้ โดยเมื่อได้รับของแล้ว ได้ถามผมว่าตัวเองนั้นมีอาการจิตหลอนๆที่แก้ไม่หายมานานแล้ว ทำอย่างไรก็ไม่ดีขึ้น อาจเป็นเพราะตัวเองนั้นโดนผู้หญิงคนนึงทำของไม่เป็นมงคลใส่ เพราะเคยคบหาอยู่กินด้วยกัน แต่ว่าตั้งแต่เลิกกันไปดวงตัวเองก็ตกมาตลอด คือพี่เค้ารู้ตัวว่าหลายๆสิ่งมันเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลงแม้แต่ร่างกายตัวเอง

    ท่านปรึกษาผมว่าอยากจะอาราธนาพระเจ้าโคตรเศรษฐีโดยเฉพาะพระแสงดาบนี้ตัดเวรตัดกรรม ตัดการกระทำที่เค้าทำใส่ตัวเองมาจะต้องทำอย่างไร ผมเลยแนะนำให้เค้าเอาพระไปเลี่ยม แล้วเอาพระมาทำน้ำมนต์ดื่มซะ

    โดยบอกพี่เค้าว่าให้เอาพระแช่น้ำ อธิษฐานขอน้ำพระพุทธมนต์ทิพย์มนต์จากพระเจ้าโคตรเศรษฐีเป็นยาถอนการกระทำ สวดอิติปิโสระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าเกินอายุตนบทนึง จุดเทียนทำน้ำมนต์ไป ทุกสิ่งที่จะเกิดหลังจากนี้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งหนึ่งสิ่งใด แต่เป็นไปด้วยพระพุทธานุภาพ เป็นไปด้วยพุทธคุณจากพระรัตนตรัยท่านสงเคราะห์มา

    พี่เค้ารายงานว่าทำตามที่ผมบอกทุกอย่าง หลังจากดื่มน้ำเข้าไป พอกลางคืนท้องไส้ก็ปั่นป่วน สำรอกเอาเศษผมหยิกๆเหมือนขนในที่ลับ และน้ำคาว น้ำมันใสๆ ตลอดจนของที่คล้ายๆก้อนเลือดสีดำๆออกมา เค้าเอามาเล่าให้เราฟังว่าที่ผ่านมาเค้าคงโดนแฟนเก่าทำคุณไสยให้รักให้หลง พอเลิกกันไปจึงมีอาการประสาทหลอนเหมือนคนเป็นโรคประสาท แต่พอสำรอกออกมาเค้าก็ว่าหายแล้ว ดีขึ้น

    เราเลยบอกว่าอย่าหยุดทำนะ ให้ทำไปเรื่อยๆ คือทำน้ำมนต์ด้วยวิธีเดิมดื่มกินไปเรื่อยๆ (ตั้งใจหาเรื่องให้ท่านสวดมนต์นั่นแหละใจจริงๆของเรา) พี่ท่านว่ามันแปลกๆ พอวันที่สองที่สามถัดมา อาการอาเจียนปั่นป่วนไม่มีแล้ว แต่เหงื่อกาฬที่ร่างกายมันขับออกมามันแปลก มันเหมือนน้ำเจือด้วยน้ำมันน้อยๆเค้ารู้สึกได้ พี่เค้าว่าผมไม่ได้อุปทานนะเพราะเหงื่อผมไม่เคยเป็นแบบนี้

    เราก็ว่าดีแล้ว คือทุกสิ่งมันก็เป็นกำลังใจให้กับเรา หากจะมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดขึ้น ก็เป็นด้วยคุณพระรัตนตรัยและพระพุทธานุภาพทั้งสิ้น พี่เค้าว่าดีมากเพราะเค้าดื่มน้ำมนต์มาเยอะก็ถอนไม่ออกมาออกได้ก็ตรงวิธีนี้ ผมก็เลยเสริมให้ว่าบางครั้งมันก็อยู่ที่ศรัทธาเราด้วย บางทีเราไปหาพระให้คนอื่นทำให้ มันก็คือของสำเร็จรูปนั่นแหละ มันไม่ดีสู้เราลงมือทำด้วยตัวเองหรอก เกิดมาเป็นคนได้นี่ก็ถือว่ามีบุญกันทุกคน ของดีก็บูชาไปแล้ว ที่เหลือก็คือทำตัวให้ดีเสมอกัน ถ้าเราทำความดี อะไรเราก็ทำได้ ไม่มีสิ่งใดจะเกินความดีไปได้ มานั่งระลึกถึงพระพุทธเจ้าสวดมนต์นี่กุศลมันไปกลับไม่รู้ตั้งกี่รอบ ศรัทธามากกำลังมันก็มาก เลยให้กำลังใจเขาไป พี่เค้าก็เลยมีความรู้สึกศรัทธาในพระเจ้าโคตรเศรษฐีมากขึ้้นไปอีก โดยกล่าวว่าตอนแรกผมเผลอปรามาสไปด้วยซ้ำ ไม่คิดว่าท่านจะช่วย

    ก็บอกเพื่อนๆพี่ๆไว้ว่าเวลาคนเค้าทุกข์มา สิ่งที่เราพอจะช่วยเขาได้ดีที่สุดทุกครั้ง ก็คือรับฟังปัญหา และเป็นกำลังใจให้เค้า ทำได้เท่านี้สังคมจะน่าอยู่ขึ้นมาก สำหรับผู้บูชาพระเจ้าโคตรเศรษฐีนั้น พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าให้หมั่นใส่บาตรประจำ ถ้าทำได้เป็นกิจวัตรจะดีมาก ถ้าทำไม่ได้ ให้หากะปุกอันเล็กๆวางไว้หน้าพระพุทธรูป เอาปัจจัยหยอดตั้งใจเสมอด้วยการทำทานใส่บาตรตั้งจิตดีๆทุกเช้า ถึงเวลาเดือนนึง สามเดือน ก็รวมปัจจัยนี้ไปทำบุญทำกุศลเสียครั้งหนึ่ง โชคลาภจะเปิดทางมาสู่ัตัวเราได้ไวขึ้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2016
  15. ปฏิภาณ บดส

    ปฏิภาณ บดส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +132
    โอนค่าบูชาปุ่ชัยพรหมให้แล้วครับ
     
  16. nga sai

    nga sai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +3,409
    แจ้งโอนยอดเงินบูชาพ่องั่งขี่แพะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,105
    ค่าพลัง:
    +16,530
    คาถาวันละนิด

    อรุณสวัสดิ์ครับ

    เนื่องจากเพิ่งลงรายการพระขุนแผนไป สำหรับคาถาวันละนิดวันนี้ก็เลยจะลงในด้านของเสน่ห์ต่อเลย เผื่อหลายๆท่านที่มีไหวพริบจะประยุกต์ใช้กับเครื่องมงคลได้

    พระคาถามีว่า
    อะนุ นัตถิ มาทะ สวาหะ

    อันนี้เป็นพระคาถาที่พ่ออาจารย์ท่านให้ไว้ใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่ว่าส่วนใหญ่ผู้ชายจะไม่ค่อยได้ใช้กัน เพราะผู้ชายส่วนมากจะไม่สำอางมาก อย่างผมคนนึงละ ไม่ได้อาบน้ำแล้วมานั่งทาแป้งทาตัวแบบนั้น

    พระคาถานี้เป็นพระคาถาที่ใช้ทางด้านเสน่ห์ อีกบทนึง เมื่อจะใช้ให้เราเอาแป้งฝุ่นมาทาไว้ที่มือเรา (น่าจะยี่ห้อไหนก็ได้แต่เลือกที่มีกลิ่นหอมๆหน่อยก็ดี แป้งในที่นี้คือแป้งโรยตัวจริงๆ ไม่ใช้แป้งข้าวเจ้าหรืออย่างอื่นนะ) เมื่อเอาแป้งมาทามือแล้วให้เราตั้งสมาธิให้ดี เขียนชื่อคนที่เราหมายใจหมายตาว่าจะให้เค้ารักเราใส่ลงไปในฝ่ามือ ตอนเขียนกำหนดจิตระลึกถึงเค้าไปด้วย

    หลังจากนั้นให้เสกแป้งด้วยพระคาถานี้ 108 หน จะนับเม็ดประคำก็ได้ ใช้สมาธิดีๆ แล้วจึงเอาแป้งนั้นมาทาตัวเรา(ถึงให้เลือกแป้งกลิ่นหอมๆที่เราชอบ) วิชานี้ถ้าผู้ทำจิตมีกำลังดีแล้ว คนผู้ที่ถูกเขียนชื่อไว้ เขาจะทนอยู่มิได้ ต้องรีบมาหาเราทีเดียว

    ท่านว่าจะลองทำดูอำนาจจิตเราเองก็ได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ด้านเสน่ห์เสมอไป ใช้ทางเข้าฟาเพื่อนฝูงเจ้านาย ทำกิจการงานหรืออะไรที่ต้องพบคนที่รู้จักก็ได้ สุดแล้วแต่จะดัดแปลงใช้เอา
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,105
    ค่าพลัง:
    +16,530
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้ก็คุยกันสบาย กะจะพูดกันหลายหนแล้วเรื่องวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการสร้างเครื่องมงคล

    เราจะมาดูของสองอย่างที่มีการถามถึงกันเข้ามาบ่อยที่สุดก่อนเลย นั่นก็คือ ตะกรุดมหาสะทอน กับเครื่องมงคลและตะกรุดหนุนดวงประเภทต่างๆ

    พ่ออาจารย์ท่านบอกว่า วัตถุประสงค์แต่เดิมของพ่อแม่ครูอาจารย์ที่ท่านทำเครื่องมงคลต่างๆขึ้นมานั้น นอกจากสิ่งที่เรียกว่าความขลังหรือคุณวิเศษแล้ว เป้าหมายหลักจริงๆเลยก็คือให้คนใช้ได้นึกถึงพระ ละอายต่อบาป ยึดมั่นในคุณพระรัตนตรัยมีจิตหน่วงยึดติดกับสิ่งที่ดีงามเป็นมงคล

    แต่หลายครั้งที่ผู้ใช้นำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ อย่างตะกรุดมหาสะท้อนนั้น ท่านว่าให้หมั่นแผ่เมตตา ตัดเวรตัดกรรมเป็นอภัยทานให้แก่สัตว์ทั้งหลาย กลับกันคนที่ใช้กลับกำเริบ มุ่งสะสมแต่ความอาฆาตพยาบาท ท่านว่าแทนที่ใจจะสูงขึ้นกลับต่ำลงกว่าเก่าเสียอีกด้วยมั่นใจว่าตนเองนั้นมีของดี จึงกล้าดีและกำเริบไป มันจะกลายเป็นทำให้จิตใจตนเองนั้นต่ำลง มีทุกข์คติและอบายภูมิเป็นที่ไป

    แต่ที่ดีนั้นก็มีอยู่มาก ตั้งแต่ใช้เครื่องมงคล รู้จักไหว้พระสวดมนต์ รักษาศีล ที่ดียิ่งขึ้นไปอีกก็ทำกรรมฐานฝึกสมาธิเจริญสติ ท่านว่านี่ได้บุญหนักมาก ทุกสิ่งนั้นมันสำเร็จด้วยความคิด ท่านว่าบุญและบาปมันอยู่ในใจคน เพียงแค่คิดก็ถือว่าสำเร็จไปส่วนหนึ่งแล้ว ไม่จำเป็นเสมอไปด้วยว่าคิดดีร้อยครั้ง จะต้องทำดีด้วยกันครบร้อยครั้ง เพราะน้ำใจคนนี้มันคาดเดากันไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องหมั่นคิดบ่อยๆ คิดดีให้มากๆมันจะได้ส่งผลให้ตัวเราเองทำดีได้มากขึ้น

    พระรัตนตรัยและเทพเทวาครูบาอาจารย์ทั้งหลายเป็นของสูง ท่านมีดีอยู่ในตัวของท่านทั้งหลายเหล่านั้น การใช้เครื่องมงคลทั้งหลายนี้ ก็เพื่อที่จะฝึกไม่ให้ตัวเองเกียจคร้านระลึกนึกถึงคุณพระอยู่เสมอมีโอกาสในการทำความดีมากขึ้น ทำดีให้เสมอตัวและมากกว่าตัว อย่าให้ความดีมันต่ำกว่าตัวลดค่าบั่นทอนจิตอันเป็นกุศลของตัวเอง

    การทำดีนั้นต้องทำออกมาจากใจ ทำให้เป็นนิสัย หลายคนมาถูกทางแล้ว แต่ที่ยังไม่ถูกก็มี ด้วยเพราะคิดว่าการทำดีนั้นเป็นอามิสสินจ้าง เป็นของที่ทำเพื่อที่จะแลกเปลี่ยนกับสิ่งหนึ่งสิ่งใด บางคนเอะอะโวยวายว่าทำดีสวดมนต์ไหว้พระทำทานรักษาศีลแล้ว ทำไมตัวเองยังไม่ดีขึ้น นั่นเพราะเค้าไม่ได้มองดูกรรมเลย ไม่ได้สนใจเลยว่าถ้าไม่ทำมันจะแย่กว่านี้หรือไม่ คิดแต่เพียงเพื่อทำ แบบนี้มันไม่ได้ออกมาจากใจ ควรทำความเข้าใจกันเสียใหม่ทุกวันนี้ ว่าเราทำดีเพื่ออะไร

    ความจริงแล้วเครื่องมงคลหรือพระรัตนตรัยนั้นก็เหมือนเทียนเล่มหนึ่ง กำลังใจของเราและตัวเรานี่แหละคือไฟที่จะจุดประกายให้กับเล่มเทียนนั้น หลายคนเดินอยู่ในความมืด มีเทียนอยู่เล่มหนึ่ง ใครจะมีก็มีได้ แต่ทำไมชีวิตยังมืดมนต่อไปหาทางออกไม่ได้ นั่นก็เพราะคนเหล่านั้นไม่รู้จักจุดเทียน ไม่รู้จักว่าจะทำอย่างไรให้เทียนนั้นสว่าง กับคนอีกประเภทหนึ่งที่มือมีเทียนเหมือนกัน เค้ารู้จักจุดไฟให้เทียนนั้นสว่าง เค้าก็ย่อมพบกับทางออกได้ง่าย

    จิตวิญญาณทั้งหลาย ย่อมเลือกที่จะเป็นกัลยาณมิตร กับบุคคลประเภทเดียวกันปฏิบัติเสมอกัน ดังนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเองแล้ว ว่าจะทำดีให้เสมอด้วยของดีได้หรือไม่ ทุกคนนั้นมีโอกาสเสมอเท่ากันหมด ถ้าคิดที่จะเริ่มต้น ไม่มีคำว่าสายเกินไป
     
  19. seaown

    seaown เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +984
    พี่ครับตะกุดเทวดาทันใจยังมีให้บูชาอีกมั๊ยครับ ขอบูชา 1 ดอกครับ
     
  20. ปฏิภาณ บดส

    ปฏิภาณ บดส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +132
    ได้รับปู่ชัยพหรมแล้วครับงามมาก
     

แชร์หน้านี้

Loading...