ร่วมกันคัดค้านการเผาสรีระหลวงพ่อเกษม เขมโก สำนักสุสานไตรลักษณ์ ลำปาง

หลวงพ่อเกษม เขมโก เป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาแล้ว ถือว่าเป็นพุทธบุตร ขาดจากทางโลกแล้ว เปรียบได้กับเจ้าคุณนรรัตน์ ที่เมื่อครั้งญาติผู้ใหญ่ท่านเสีย ท่านเองก็ไม่ได้ไปร่วมพิธีการใดๆ เพราะท่านถือว่าท่านตัดแล้วซึ่งทุกสิ่ง จึงได้ออกบวช

การที่มีกลุ่มฆราวาสเข้ามาจัดการใดๆต่อพระสงฆ์ โดยถือสิทธิเรื่องชาติตระกูลในเรื่องนี้ถือว่าไม่ถูกต้อง เนื่องจากหลวงพ่อเกษม เป็นพุทธบุตรในร่มกาสาวพัตร์แล้ว ดังที่ได้กล่าวไป การถือสิทธิอ้างสิทธิว่าท่านเป็นคนในตระกูล ณ ลำปาง จึงยกเว้น

การถือวิสาสะโดยกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดที่กล่าวอ้าง เพื่อทำการเผาสรีระของท่านนั้น ถือว่าทำโดยผิดจารีตโบราณ ด้วยถือว่า หลวงพ่อเกษม เป็นพระอริยสงฆ์ที่ผู้คนนับถือเชื่อกันว่าหลุดพ้นแล้ว เพราะเมื่อมรณะภาพสังขารของท่านไม่เน่าเปื่อย ถือว่าเป็นกายสิทธิ์ เป็นเนื้อนาบุญที่ควรแก่การเคารพรักษาเพื่อให้เป็นที่กราบไหว้เป็นปูชนียบุคคลที่ควรเคารพ เป็นสังฆนุสติ จะเห็นได้ว่าในประเทศไทยทั่วทุกภาคมีพระสงฆ์ที่สังขารไม่เน่าเปื่อยมากมาย และบางรูปเผาไม่ไหม้อีกด้วย ถือเป็นเจตนาขององค์ท่านเองที่จะดำรงสังขาร และเพื่อการใดนั้นไม่มีใครทราบได้ ครั้งหลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน มรณะภาพ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโคได้กำชับให้เก็บร่างท่านไว้ แต่กรรมการวัดไม่เชื่อฟังกลับนำไปเผา เมื่อหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค กลับมาจึงกล่าวตำหนิกรรมการวัดว่าไม่รู้เรื่องที่ได้ทำลายของดีไปเสียแล้ว

อีกประการหนึ่งการอ้างว่า แม้แต่พระพุทธเจ้ายังเผานั้น หากนำไปเปรียบกับพระพุทธเจ้าแล้ว เห็นว่าไม่ควร ด้วยว่าพระพุทธเจ้าถือเป็นเลิศ ไม่ควรนำมาเปรียบเทียบกับสิ่งใดๆ แม้แต่วันประชุมเพลิงของพระองค์ซึ่งเป็นวันศุกร์ โบราณก็ไม่ใช้เป็นวันเผาศพคนทั่วไป ถือเป็นวันประชุมเพลิงสำหรับพระบรมศาสดาเพียงผู้เดียว

ที่สำคัญมีหลักฐานว่า เจตนาของท่านไม่ต้องการให้เผาสังขารก็มีอยู่ในหนังสือครบรอบ 80 ปี

ก็ด้วยหลายประการที่กล่าวมา จึงเห็นว่าไม่ควรทำเผาสรีระสังขารของท่านครับ

 

ไม่เผาสรีระของท่านก็ดีนะครับ ผู้คนจะได้กราบไหว้และพิจารณาธรรมไปในตัวด้วย และ เหล่าคนที่ปรามาสท่านจะได้มีสิทธิ์ไปกราบขอขมาที่สรีระของพระท่านเพื่อที่จะได้ไม่ปิดกั้นมรรคผล มีแต่ผลดีทั้งนั้นนะครับ

 

เท่าที่จำได้ก่อนที่ท่านจะมรณภาพท่านได้เขียนสั่งไว้ว่าให้เผาสังขารของท่าน แต่เจ้าประเวทย์ยื้อเอาไว้ จนเป็นเหตุให้คณะศิษย์มีความเห็นไม่ลงรอยกันจนเป็นเรื่องเป็นราว เป็นข่าวทางหนังสือพิมพ์อยู่พักหนึ่งว่าเก็บสังขารท่านไว้หาผลประโยชน์

หากจะให้เป็นไปตามความประสงค์จริง ๆ ของหลวงพ่อก็คือ ท่านให้ฌาปนกิจสังขารของท่านครับ

ส่วนใครถูกใครผิดพิจารณาเอาเอง

 

แต่ที่ผมเคยอ่านเจอในประวัติมีว่า ครั้งหนึ่งท่านมีแผลและได้ใช้ไม้จิ้มฟันแตะเลือดแล้ว จากนั้นจึงนำไปเผา แล้วได้กล่าวกับศิษย์ว่าถ้าท่านตายไม่ต้องเผาร่างท่านก็ได้

 

เออ เราว่าต้องดูเจตนาของท่านก่อนว่า ท่านมีเจตนาเช่นไร พูดไว้เช่นไร ก่อนทีท่านจะมรณภาพนะ ทำตามจุดประสงค์ของท่านดีกว่า ดีไหม

 

พระสุปฏิปันโนทุกรูปทุกองค์ท่านไม่ยึดติดอยู่แล้วครับ ท่านจึงสั่งเสียลูกศิษย์ของท่านก่อนที่ท่านจะมรณภาพ แต่การหาผลประโยชน์จากสังขารท่านมันจึงทำให้มีปัญหาจนทุกวันนี้ การยึดติดพระรูปใดรูปหนึ่งไม่สมควรอยู่แล้ว พระธรรมคำสั่งสอนเป็นเลิศในทางปฏิบัติและยึดเหนี่ยวจิตใจชาวพุทธโดยแท้

 

ในประเทศไทยของเรามีพระอริยที่สังขารไม่เน่ามากมายและศิษย์ก็ได้บรรจุไว้ในโรงแก้วเพื่อกราบไหว้ทั้งสิ้น ไม่เห็นว่ามีการขัดแย้งผลประโยชน์ใดๆเลย มีแต่สร้างความเจริญให้สถานที่นั้นๆ และที่สุสานไตรลักษณ์ก็เช่นกัน มีความสวยงามและเกิดสิ่งสาธารณะประโยชน์มากมายขึ้น รวมถึงผู้คนที่มาสักการะสังขารหลวงพ่อมากขึ้นยิ่งกว่าสมัยที่ท่านยังทรงสังขารอยู่ เพราะอดีตการเข้าพบหลวงพ่อนั้นยากมาก แต่ปัจจุบันใครมาก็สามารถพบหน้าหลวงพ่อได้ตลอด ยังความเจริญจิตและเป็นการซาบซึ้งอิ่มเอมในเนื้อนาบุญที่ตนได้มาพบเจอ แม้เหลือเพียงสังขารท่าน แต่ก็ยังอุ่นใจที่ได้พบ ซึ่งความรู้สึกอัศจรรย์ในการพบสังขารที่ไม่เน่ายังเป็นเหตุให้อัศจรรย์ในธรรมะปฏิบัติของท่านอีก เป็นการเห็นจริงเพื่อน้อมปฏิบัติตามแนวปฏิปทาของพระอริยะเจ้าองค์นั้นด้วย
ขอตั้งข้อสังเกตนะครับ เหตุการณ์ขัดแย้งลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นในสมัยพุทธกาล เหตุมาจากการต้องการแย่งชิงพระบรมสารีริกธาตุ เพราะว่าผู้ที่มาแย่งชิงพระบรมสารีริกธาตุเหล่านั้น ก็ด้วยหวังในพระบรมสารีริกธาตุไปเป็นสมบัติของตนครับ

 

เชื่อเถอะครับหากมีการพระราชทานเพลิงศพจริงๆ อัฐิธาตุรวมถึงเถ้าอังคารของหลวงพ่อจะต้องถูกกลุ่มที่เข้ามาจัดการในพิธี แยกส่วนไปเพื่อนำไปเก็บเป็นสมบัติสะสมของตนเองอย่างแน่นอน

ซ้ำยังจะนำไปเป็นส่วนผสมในการสร้างเป็นวัตถุมงคลขึ้นในอนาคตอีกไม่รู้กี่รุ่นต่อกี่รุ่นไม่มีจบสิ้น โดยจะอ้างว่าเป็นของที่มาจากพระอริยะเจ้าไม่ต้องปลุกเสกก็ดีวิเศษเหมือนมีท่านไว้ทั้งองค์ประการหนึ่ง

จะมีการนำอัฐิและเถ้าอังคารของท่านไปไว้ในสถานที่ต่างๆที่ท่านเคยไปเกี่ยวข้อง เป็นเหตุแห่งการสร้างสถานที่บรรจุอัฐิเถ้าอังคาร แต่เม็ดเงินในการสร้างจะถูกกลุ่มแสวงหาผลประโยชน์เหล่านั้นเอาไปใช้ส่วนตัว ประมาณว่าก่อสร้างไม่มีเสร็จ ซ่อมแซมไม่มีจบในชาตินี้

ทั้งจะมีการเอามาอวดอ้างในเว็บไซค์ต่างๆว่าเกิดปาฏิหาริย์ อัฐิและเถ้าอังคารแปรเป็นพระธาตุ เพื่อสร้างความหลงให้ผู้ที่ศรัทธาในแนวพระธาตุเกิดความอยากได้ต้องการมาเป็นสมบัติของตนอีกมากมาย

 

ทุกอย่างเกิดจากการยึดติดมากเกินไป และ กลัวว่าถ้าเผาสังขารท่านไปแล้วจะไม่มีคนเข้าวัดนั้นๆ ได้ข่าวว่าหลวงปู่หล้าแห่งวัดป่าตึงก็เข้าลักษณะเดียวกัน กลัวเหมือนวัดดอยแม่ปั๋งที่เผาหลวงปู่แหวนไปแล้ววัดร้างไปเลย ศรัทธาเลยเกิดการแตกแยกเป็นสองฝักสองฝ่าย ถ้าดวงวิญญาณท่านรับรู้ท่านคงไม่สบายใจ อีกตัวอย่างสุสานไตรลักษณ์แม่วาง ตอนสมัยท่านพระครูขันต์ฯอดีตเจ้าคณะอ.สันป่าตองยังอยู่ วัดเต็มไปด้วยศรัทธาทั้งห่มขาวและห่มเหลือง ชาวบ้านสามัคคีดีอยู่ ต่อมาท่านมรณภาพไปและท่านเขียนพินัยกรรมไว่ว่าให้เผาท่านภายใน 7 วันโดยพิธีเรียบง่ายที่สุด ชาวบ้านเริ่มแตกแยกบางกลุ่มให้เผาตามพินัยกรรม แต่บางส่วนให้เก็บไว้ กว่าจะได้ขอสรุปให้เผาก็ถกเถียงกันและไม่มองหน้ากันไปเยอะ ตอนนี้สุสานฯร้างไปแล้ว สิ่งก่อสร้างต่างเริ่มผุพังไปตามการเวลา เหมือนการเกิด ดับ เกิด ดับ .....ด้วยความเคารพ

 

"การที่มีผู้คนที่มาสักการะสังขารหลวงพ่อมากขึ้นยิ่งกว่าสมัยที่ท่านยังทรงสังขารอยู่ เพราะอดีตการเข้าพบหลวงพ่อนั้นยากมาก แต่ปัจจุบันใครมาก็สามารถพบหน้าหลวงพ่อได้ตลอด ยังความเจริญจิตและเป็นการซาบซึ้งอิ่มเอมในเนื้อนาบุญที่ตนได้มาพบเจอ แม้เหลือเพียงสังขารท่าน แต่ก็ยังอุ่นใจที่ได้พบ ซึ่งความรู้สึกอัศจรรย์ในการพบสังขารที่ไม่เน่ายังเป็นเหตุให้อัศจรรย์ในธรรมะปฏิบัติของท่านอีก เป็นการเห็นจริงเพื่อน้อมปฏิบัติตามแนวปฏิปทาของพระอริยะเจ้าองค์นั้นด้วย" ถ้ามองกันแบบนี้จะเรียกว่ามองแบบผู้แสวงธรรมะไม่ใช่มองแบบนักแสวงหาผลประโยชน์

 

ส่วนตัวไม่อยากให้เผาท่าน เพราะจะได้มีโอกาสได้ไปกราบท่านอีก แม้จะเป็นเพียงสังขารก็ตาม แต่ถ้าท่านสั่งไว้ก็อีกเรื่องครับ

 

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็เผา จึงมีวันอัฐมีบูชา พระอริยสาวกส่วนใหญ่เผาหมด

ส่วนใครอยากกราบก็ระลึกเอาก็ได้ จิตถึงจิต ก็ดีกว่ามายึดติดกับสังขาร

เจตนาท่านอย่างไร ก็น่าจะเป็นเช่นนั้น

 

ที่ไม่เผาสังขารก็มากในประเทศไทย ร่างบรรจุในโลงแก้วไม่เน่าเปื่อย ท่านเหล่านี้มิถือเป็นพระอริยสงฆ์หรือย่างไรครับ ที่ว่าเจตนาท่าน ท่านที่ว่าคือท่านที่ขอยื่นเรื่องพระราชทานเพลิงใช่หรือไม่ครับ ไม่มีหลักฐานว่าหลวงพ่อเกษม กล่าวว่าให้เผาครับ มีแต่เขาว่าเท่านั้น

 

ส่วนตน ไม่อยากให้เผา เพราะ อ่านดูกฏอัยยการมัจจุราช.......ก็ไม่มีคำไหนที่หลวงพ่อให้เผา ขนาดสิ่งที่เกี่ยวข้องกับงานศพเช่นปราสาท ฆ้องกลอง บอกไฟ หลวงพ่อก็ยังไม่ให้มีเลย แม้ใครเอามาช่วยท่านก็ไม่ต้องการ
ส่วนตนคิดว่าควรเก็บรักษาสังขารหลวงพ่อไว้ เพราะถือเป็นของกายสิทธิ์เพื่อให้ศรัทธาญาติโยมเอาไว้สักการะบูชาให้เป็นมงคล เพราะเป็นของจริงของแท้ บูชาได้สนิทใจต่างจากวัตถุมงคลของท่านที่มีคนทำปลอม ขนาดของเทียมยังพากันอุปโหลกเชียร์ให้หลงผิดว่าเป็นของแท้ ซึ่งของกายสิทธิ์ของแท้ก็คือสังขารของท่าน อย่าทำลายของกายสิทธิ์เลย เก็บไว้ให้เป็นที่เคารพสักการะบูชาของศรัทธาญาติโยมเถิด หรือถ้ากลัวว่ามีคนหาประโยชน์ ก็แก้ไขสิ แก้ไขด้วยการพากันนำสังขารของท่านไว้ในที่สาธารณะสิ
มีของดีต้องเก็บไว้นะ......
ก็ เป็นความคิดเห็นส่วนตนนะ

เผาหรือไม่ ก็แล้วแต่จะพิจารณานะ ส่วนตนไม่ให้เผา

 

ปกติเรื่องเผาหรือไม่เผาศพนี้ ครูบาอาจารย์ท่านจะสั่งลูกศิษย์เอาไว้ก่อนที่ท่านจะมรณะภาพ