รู้ไว้ก่อนส่งลูกเข้าเรียน ข้อดีของโรงเรียนมัธยมแต่ละแบบ

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย RinradaMB, 4 พฤศจิกายน 2022.

  1. RinradaMB

    RinradaMB สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2022
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +2
    ในฐานะของพ่อแม่ที่อยากเห็นลูกเติบโตอย่างมีคุณภาพ การมองหาโรงเรียนมัธยมที่เหมาะสมกับเขาย่อมเป็นส่วนหนึ่งของการเลือกแนวทางอันเหมาะสมเพื่อต่อยอดในชีวิต ดังนั้นเพื่อให้การเลี้ยงเป็นไปตามสิ่งที่พ่อแม่คาดหวัง การทำความรู้จักกับข้อดีและข้อเสียของโรงเรียนแต่ละประเภทที่เปิดสอนในเมืองไทย จะช่วยให้การตัดสินใจง่ายขึ้นกว่าเดิม

    ข้อดี-ข้อเสียของโรงเรียนมัธยมประเภทสหศึกษา
    โรงเรียนมัธยมสหศึกษา คือ ประเภทของโรงเรียนที่รับสมัครและมีผู้เรียนทั้งผู้ชาย-ผู้หญิง ข้อดีคือ เด็ก ๆ จะได้ทำความรู้จักเรียนรู้ชีวิตในช่วงวัยรุ่น การเติบโต แนวคิดของเพศตรงข้าม เข้าใจความแตกต่างด้านกายวิภาคและพฤติกรรม การแสดงออกทางอารมณ์ สามารถเข้าสังคมได้ง่ายขึ้น

    อย่างไรก็ตามข้อเสียคือ อาจมีเรื่องของเพศ การมีสัมพันธ์ระหว่างวัยเรียน ไปจนถึงการทะเลาะวิวาทในบางครั้งเพื่อแสดงถึงความเป็นใหญ่

    ข้อดี-ข้อเสียของโรงเรียนมัธยมปลายชายล้วน – หญิงล้วน
    ด้วยประเภทของโรงเรียนมัธยมก็บอกชัดเจนว่าจะรับเฉพาะนักเรียนเพศเดียว ซึ่งข้อดีคือ ไม่ต้องกังวลใจในเรื่องของเพศ รวมถึงการมีแฟนในวัยเรียน (เพราะถึงมีก็เป็นเพศเดียวกัน ความรักแบบวัยรุ่น ไม่ค่อยมีการเกินเลย) แถมถ้ามีแฟนยังอาจพากันตั้งใจเรียนมากกว่าเดิม

    ส่วนข้อเสียคงหนีไม่พ้นการแบ่งพรรคพวกไม่ว่าจะหญิงล้วนหรือชายล้วน การมีเรื่องทะเลาะวิวาทซึ่งเกิดได้บ่อยครั้ง รวมถึงเมื่อเรียนจบแล้วต้องพบเจอกับสังคมทั่วไปที่มีเพศตรงข้ามอาจต้องใช้เวลาในการปรับตัว ซึ่งช่วงแรก ๆ อาจรู้สึกเขินอายอยู่บ้าง

    สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการเลือกโรงเรียนมัธยมให้กับลูก
    1. การเดินทาง
    หากเลือกโรงเรียนมัธยมใกล้ฉันจะช่วยให้ลูกสามารถเดินทางได้ง่าย ไม่ต้องเหนื่อยมากเกินไป มีเวลาสำหรับการอ่านหนังสือ ทำการบ้าน และรู้สึกสดชื่นเมื่อตื่นเช้าไปเรียน ไม่ต้องรีบจนเกิดความอ่อนล้าจนกลายเป็นความเบื่อ

    2. คุณภาพและหลักสูตรของโรงเรียน
    หากพอมีเงิน อยากให้ลูกเก่งด้านภาษา การเลือกโรงเรียนไฮสคูล หลักสูตรแบบต่างประเทศถือเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้ามีฐานะปานกลางทั่วไป ลองพิจารณาคุณภาพของโรงเรียนให้มีชื่อเสียงเชิงบวก หลักสูตรการเรียนตามมาตรฐาน ครูใส่ใจนักเรียน

    3. ความชอบของลูก
    อีกสิ่งที่อย่ามองข้ามเด็ดขาดหากต้องการเลี้ยงลูกให้มีความสุขนั่นคือ ต้องสอบถามความเห็นและความพึงพอใจของลูกว่าชอบเรียนแบบไหน อยากเรียนโรงเรียนใดเป็นพิเศษหรือไม่ เพราะถ้าเด็กมีความสุข การเรียนของเขาย่อมดีขึ้นด้วยเช่นกัน

    พ่อแม่ทุกคนลองพิจารณาดูว่าจะเลือกโรงเรียนมัธยมแบบไหนให้กับลูก แต่เหนือสิ่งอื่นใดการสร้างพื้นฐานที่ดีตั้งแต่ในครอบครัวจะช่วยลดความเสี่ยงเมื่อลูกเริ่มเติบโตสู่วัยรุ่น ใช้ชีวิตตามครรลองอันเหมาะสม ก้าวผ่านได้อย่างดีเยี่ยม
    ที่มา
     

แชร์หน้านี้

Loading...