ระลึกชาติได้ พระพุทธเจ้ากล่าวความจริงหรือความเท็จ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย TKKH, 9 พฤษภาคม 2009.

  1. TKKH

    TKKH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +554
    พระพุทธเจ้า ทรงตรัสถึงธรรมชาติและเหตุที่คนเรา ต้องเวียนเกิด เวียนตาย เวียนว่ายตายเกิด ดังปรากฏใน มหาปรินิพพานสูตร ความว่า
    พระพุทธเจ้า : “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะไม่รู้แจ้งในอริยสัจ ๔ เราและพวกเธอ จึงเวียนว่ายตายเกิดสิ้นกาลนานอย่างนี้
    (สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค / มหาปรินิพพานสูตร)

    หรือที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสกับพระอานนท์ ดังปรากฏใน ปฐมภวสูตร ความว่า
    พระพุทธเจ้า : “ดูก่อนอานนท์ ความตั้งใจความจงใจ(เจตนา) ความปรารถนาของสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็นเครื่องหุ้มห่อ มีตัณหาเป็นเครื่องรึงรัด ได้ตั้งลงแล้วในธาตุอันเลว(กามธาตุ) ธาตุปานกลาง(รูปธาตุ,อรูปธาติ) เมื่อเป็นดังนี้การเกิดในภพใหม่ก็มีขึ้นได้อีก”
    (สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาตร / ปฐมภวสูตร)

    หรือที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ ดังปรากฏใน ภยเภรวสูตร ความว่า
    พระพุทธเจ้า : “เมื่อจิตเป็นสมาธิ บริสุทธ์ผุดผ่อง ไม่มีกิเลสเป็นดังเนิน ปราศจากความเศร้าหมอง อ่อน เหมาะแก่การใช้งาน ตั้งมั่นไม่หวั่นไหวอย่างนี้ เรานั้นจึงน้อมจิตไปเพื่อ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ระลึกชาติก่อนได้หลายชาติ คือ หนึ่งชาติบ้าง สองชาติบ้าง สามชาติบ้าง สี่ชาติบ้าง ห้าชาติบ้าง สิบชาติบ้าง ยี่สิบชาติบ้าง สามสิบชาติบ้าง สี่สิบชาติบ้าง ห้าสิบชาติบ้าง ร้อยชาติบ้าง พันชาติบ้าง แสนชาติบ้าง ตลอดสังวัฏฏกัปเป็นอเนกบ้าง ตลอดวิวัฏฏกัปเป็นอเนกบ้าง ตลอดสังวัฏฏวิวัฏฏกัปเป็นอเนกบ้าง ว่าในภพโน้นเรามีชื่ออย่างนั้น มีโคตรอย่างนั้น มีผิวพรรณอย่างนั้น มีอาหารอย่างนั้น เสวยทุกข์เสวยสุขอย่างนั้นๆ มีกำหนดอายุเพียงเท่านั้น ครั้นจุติ(ดับ)จากภพนั้นแล้วได้ไปเกิดในภพโน้น แม้ในภพนั้นเราก็มีชื่ออย่างนั้น มีโคตรอย่างนั้น มีผิวพรรณอย่างนั้น มีอาหารอย่างนั้น เสวยทุกข์เสวยสุขอย่างนั้นๆ มีกำหนดอายุเพียงเท่านั้น ครั้นจุติจากภพนั้นแล้วได้มาเกิดในภพนี้ ย่อมตามระลึกถึงชาติก่อนได้เป็นอันมาก พร้อมทั้งอาการ พร้อมทั้งอุเทศ ด้วยประการฉะนี้”
    (สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ / ภยเภรวสูตร)

    คำกล่าวของพระพุทธเจ้านั้น จริงหรือเท็จประการใด ชาวพุทธถูกหลอกให้เชื่อถือในคำสอนที่ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่
    หาคำตอบได้ที่นี่
    www.reincarnation.tk
    หรือที่
    http://sites.google.com/site/reincarnationthailand
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2009
  2. สายลมสีขาว

    สายลมสีขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +144
    คำกล่าวของพระพุทธเจ้านั้น จริงหรือเท็จประการใด ชาวพุทธถูกหลอกให้เชื่อถือในคำสอนที่ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่
    หาคำตอบได้ที่นี่

    ประโยคเนี่ยช่วยเขียนใหม่ให้มันดูดีกว่านี้ได้มั้ย แบบนี้ส่อแววปรามาสพระพุทธเจ้านะ ถ้าเป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนชาวพุทธนั้นคือความจริงแน่นอนไม่มีทางเป็นเท็จได้


    ไม่ว่าเวปนั้นจะศึกษาวิจัยอะไร ถ้ามันขัดกับสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน ย่อมเป็นความเท็จแน่นอน
    แต่หากเวบนั้นศึกษาวิจัยและได้ข้อมูลที่สอดคล้องกับสิ่งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านสั้งสอนและช่วยยืนยันสิ่งที่ท่านสั้งสอนก็ขออนุโมทนาด้วนะครับ


    สิ่งที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนคือสิ่งที่เป็นความจริงสูงสุดและเชื่อได้มากที่สุด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2009
  3. ศุภกร_ไชยนา

    ศุภกร_ไชยนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    627
    ค่าพลัง:
    +1,122
    ..
     
  4. neung48

    neung48 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    465
    ค่าพลัง:
    +457
    เขาแค่เขียนให้น่าติดตามเท่านั้น ก็แค่นั้น อย่าไปเอามายึดติดกะตัวเราจิ อย่างงี้เรียกเชื่อพระพุทองค์ไม่จริงนะ พรพุทธองค์ท่านสอนพวกเราเองไม่ใช่หรือว่าอย่าเชื่อแม้เป็นคำของทาน หากยังไม่ได้พิสูตร เขาก็ชวนเราไปพิสูตรอยู่นี่งัย เราก็อ่านด้วยใจที่เป็นกลาง อันไหนดีแก่ตัวก็น้อมไว้ใช้ อันไหนไม่ดีก็ปล่อยไป แค่เนี้ยเอง
     
  5. สายลมสีขาว

    สายลมสีขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +144

    นั้นสินะครับ ขอบพระคุณนะครับที่ช่วยเตือนสติ สาธุๆ
     
  6. babifun

    babifun Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +81
    อริยสัจ ๔ คืออะไร ?
    อะไรเวียนว่ายตายเกิด ?

    อวิชชา ตัณหา คืออะไร ?
    อะไรเกิดในภพใหม่ ?

    เมื่อจิตเป็นสมาธิ เหมาะแก่การระลึกชาติของอะไร ? เพื่ออะไร ?

     
  7. TKKH

    TKKH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +554
    ขอความเจริญในธรรม จงมีแด่ผู้มียนิโสมนสิการ .....

    เหมือนอย่างท่าน ว.วชิรเมธี ท่านว่า...น้ำร้อนในแก้วมันร้อนอยู่ ถึงแม้ว่าเราหรือใครๆจะเชื่อหรือไม่เชื่อว่ามันร้อนหรือไม่ก็ตาม เมื่อได้จับต้องแล้วมันก็รู้สึกร้อนอยู่ดี...แต่ถ้ายังมัวนั่งถกเถียงกันอยู่ อีกคนว่าร้อน อีกคนว่าไม่ร้อน ก็จะไม่รู้ความจริง...ต้องทดลองพิสูจน์โดยการจับดูก่อน...แล้วท่านจะได้รู้ชัดว่ามันร้อน หรือไม่ร้อน...จริงไหมครับ...
     
  8. ..กลับตัวกลับใจ..

    ..กลับตัวกลับใจ.. Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +96
    ...ความเห็นของผมคิดว่า..

    ...หากเราสงสัยสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้..

    ...แล้วไปหาคำตอบ..จากตำรา..จากคำบอกเล่า..

    ...มันคงไม่ได้ทำให้เรา..ได้คำตอบที่แท้จริง..

    ...แต่สิ่งที่ได้นั้นคือความรู้..มิใช่คำตอบแต่อย่างใด..



    ...การฟังจากคนอื่น..

    ...การค้นคว้าจากตำรานั้น..

    ...ไม่อาจแก้ข้อสงสัยได้..

    ...ต้องเพียรปฏิบัติ..

    ...ทำวิปัสสนาญาณให้แจ้ง..

    ...ความสงสัยก็หมดไปเองโดยสิ้นเชิง..

    ...หลวงปู่ดูลย์ อตุโล..


    ...ด้วยความเคารพ..
     
  9. TKKH

    TKKH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +554
    ...ความเห็นของผมคิดว่า..

    ...หากเราสงสัยสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้..

    ...แล้วไปหาคำตอบ..จากตำรา..จากคำบอกเล่า..

    ...มันคงไม่ได้ทำให้เรา..ได้คำตอบที่แท้จริง..

    ...แต่สิ่งที่ได้นั้นคือความรู้..มิใช่คำตอบแต่อย่างใด..



    ...การฟังจากคนอื่น..

    ...การค้นคว้าจากตำรานั้น..

    ...ไม่อาจแก้ข้อสงสัยได้..

    ...ต้องเพียรปฏิบัติ..

    ...ทำวิปัสสนาญาณให้แจ้ง..

    ...ความสงสัยก็หมดไปเองโดยสิ้นเชิง..

    ...หลวงปู่ดูลย์ อตุโล..



    เห็นด้วยครับ...แต่ ณ ปัจจุบันนี้อุปสรรคปัญหาของสัจธรรมความจริงบางอย่าง ถูกกีดกั้นด้วยคำว่า ศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม ศาสนาพราหมณ์(ฮินดู) ฯลฯ คนที่เป็นศาสนิกชนของศาสนาหนึ่งไม่สามารถจะเข้ามาศึกษาหาความจริง ตามแบบของศาสนาอื่นได้ เนื่องด้วยมีคำเรียกชื่อศาสนา(ซึ่งเป็นสมมุติบัญญัติ) มากีดกั้นไว้....ดังนั้นกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นกลางและเป็นที่ยอมรับของคนทุกชาติ ทุกศาสนาจึงยังจำเป็นต้องเป็นสื่อกลาง ในการเข้าถึง สัจธรรม เหล่านี้....ที่ผ่านมาเราก็ว่าของเราไปว่า ชาติหน้ามีจริง เวรกรรมมีจริง ผลของการปฏิบัติสมาธิจิตแบบพุทธมีจริง มรรคผลนิพพานมีจริง...แต่เขาไม่สนใจ แม้แต่พระเขายังเห็นเป็นแค่ขอทาน เป็นคนธรรมดาที่ไม่รู้จักทำงาน ทำมาหากินเลย...เหล่านี้คืออุปสรรคในการเข้าถึงความจริง...แต่ถ้าเมื่อใดที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ และรับรองว่า ธรรมชาติของการเวียนว่ายตายเกิดมีจริง ตายแล้วเกิดใหม่ได้ เวรกรรมมีจริง แล้ว ย่อมทำให้ความคิดของคนรุ่นใหม่ที่อิงอยู่กับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เปลี่ยนไป คำสอนที่ไม่จริงก็จะไม่ได้รับการยอมรับ...และเสื่อมไปในที่สุด....ศาสนาที่สอนไม่จริง หรือจริงไม่หมด ก็จะสั่นคลอน..ส่วนศาสนาที่สอนความจริง(ที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้) ก็จะมั่นคงมากขึ้น เป็นที่สนใจมากขึ้น ...เมื่อใดที่กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สามารถพิสูจน์ความจริงในธรรมชาติได้ทั้งหมด...วิทยาศาสตร์ก็จะกลายเป็นศาสนาไปโดยปริยาย...แต่คงอีกยาวนานนัก...เพราะฉะนั้นศาสนาจึงยังคงต้องมีอยู่...ที่บอกว่าอีกยาวนานนัก ก็เพราะนักวิทยาศาสตร์พยายามจะใช้กล้องจุลทรรศน์ไปส่องดูดาว แทนที่จะให้กล้องโทรทรรศน์...คือใช้เครื่องมือผิดประเภท...เพราะการพิสูจน์ความวิจิตรแห่งจิตวิญญาณนั้น ต้องใช้เครื่องมือ คือการฝึกสมาธิจิต จึงจะพิสูจน์จิตและเข้าถึงความจริงแห่งจิตได้...แต่อย่างไรก็ตามต้องให้โอกาส พวกบัวใต้โคลนตม ใต้น้ำ เขาได้รับรู้สัจธรรมบ้าง...ส่วนพวกที่ปริ่มน้ำ หรือพ้นน้ำแล้ว...ก็ขออนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤษภาคม 2009
  10. Pelagia

    Pelagia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,198
    เท่าที่อ่านจากหนังสือฝรั่งเกี่ยวกับการระลึกชาติ จะไม่ได้มองว่าการเกิดมายากจนหรือประสบเคราะห์กรรมปัญหาเป็นการใช้กรรม แต่เป็นการเรียนรู้อย่างนึง หรือเป็นปัญหาที่ต้องแก้ให้พ้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...