"รอยพระพุทธบาท ๔ รอย ที่แจ้ห่ม" หลักฐานที่ตั้งเมืองอาฬวี ยุคพุทธกาล

ข่าว การค้นพบ "รอยพระพุทธบาท" ที่ แจ้ห่ม เมื่อหลังวันวิสาขบูชา ที่ผ่านมา ตามที่ มีสื่อมวลชนได้นำเสนอ เมื่อ 18 พ.ค. ที่ผ่านมา
ดังว่า...

ฮือฮา! พบ "พระพุทธบาทสี่รอย" อายุนับพันปี

พระครูสันติพนารักษ์ เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทสี่รอย ห้วยลุด หมู่ที่ 3 บ้านสาแพะ ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง เปิดเผยว่า วัดพระพุทธบาทสี่รอย ห้วยลุด อยู่กลางหุบเขาในป่าลึก มีก้อนหินศิลาขนาดใหญ่มหึมาอยู่กลางหุบเขา ความกว้างของก้อนหินศิลา 3.40 เมตร ความยาว 7.33 เมตรและความสูง 2.50 เมตร และด้านบนพบประทับรอยพระพุทธบาทไว้บนศิลา เป็นรอยพระพุทธบาทข้างขวาสภาพสมบูรณ์ จำนวนสี่รอยทับซ้อนด้วยกัน
หรือ ดูคลิปวิโอ จากลิงค์ นี้

http://77.nationchannel.com/playvideo.php?id=150655

หรือข่าว จาก "ครอบครัวข่าว"






ตามลิงค์นี้..
http://www.krobkruakao.com/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7/38097/%E0%B8%A5%E0%B8%B3%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%87-%E0%B8%9E%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%B5.html

หรือจาก ข่าว ภูมิภาค เดลินิวส์ ที่

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=420&contentID=139375

รอยพระพุทธบาทนี้ อาจจะเป็นรอยพระพุทธบาท ที่ พระพุทธเจ้า ทั้ง ๔ พระองค์ ได้ประทับรอยไว้ ที่ เมือง "อาฬวี" ดังปรากฏอยู่ใน "ตำนานพระเจ้าเลียบโลก" กัณฑ์ ที่ ๑๓ ที่บันทึกไว้ว่า..

เหตุดังนั้น พระยาอาฬวกยักษ์ผู้นั้น อันพระพุทธเจ้าหากได้มาสั่งสอน แต่เมื่อพระพุทธเจ้ามาอยู่วันเข้าวัสสาในอาคาฬวเจดีย์นานไก้ ๙ วัสสานี้แล้ว ในกาละบัดนี้ พระพุทธเจ้ามาเมตตาเฮาทั้งหลายก็มีศรัทธามากนั้นหั้นแลฯ พระพุทธเจ้าก็ให้ศีล ๕ แก่เขา แล้วก็เทศนาธรรมสั่งสอนอาฮักษ์ทั้งหลายแล้ว ก็ย่ำพระบาท ซ้อนฮอยตีนพระเจ้า ๓ ตน คือ พระเจ้ากกุสนธ์ โกนาคมน์ กัสสป แล้วทำนวยว่า ในกาละจักภายหน้า พระอริยเมตไตรยเจ้าจักมาเมตตาไว้พระบาท ควบฮอยตีนแห่งพระเจ้าทั้งหลายเสียเสี้ยงซะแล ดูราอานนท์ ดอยอันนี้พระตถาคตเจ้ามาเมตตาแต่หัวทีนั้นเขาทั้งหลายว่า เจ้ากูบ่ควรมานั่งแท่นแห่งข้าทั้งหลายว่าอันประการหนึ่ง เมื่อกูพระตถาคตมานั่งแท่นพระยายักษ์แล้ว อาฮักษ์ทั้งหลายก็จากันว่า บุคคลตนนี้ได้มานั่งแท่นพระยาเจ้าแห่งเฮาแล ว่าอันเมื่อนั้นอาฬวกยักษ์ก็เคียดแค้นแล้วเข้ามากล่าวว่า บุคคละผู้ใดมานั่งแท่นที่นั่งแห่งกูนี้จา ว่าอัน เหตุดังนั้นดอยอันนี้จักได้ชื่อว่า ดอยนั่งซะแลฯ

เนื้อความในตำนาน มียาวครับ คงไม่สะดวกที่จะพิมพ์ให้ได้อ่านทั้งหมด ซึ่ง เรื่องราว เมือง "อาฬวี" ที่ แจ้ห่ม นี้ ผมได้ เขียนรวบรวมไว้ ในหนังสือ "ความลับกึ่งพุทธกาลวันล้างโลก" ซึ่ง เพื่อนๆ สามารถ เข้าไปอ่านได้ ใน บันทึก ตามลิงค์ข้างล่างนี้ครับ

เมืองอาฬวี ที่พระพุทธองค์ไปโปรดอาฬวกยักษ์ อยู่ที่ อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง
http://palungjit.org/threads/เมืองอ...รดอาฬวกยักษ์-อยู่ที่-อ-แจ้ห่ม-จ-ลำปาง.252993/

ผมเชื่อว่า อีกไม่นานจากนี้ หลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับ ร่องรอยพระพุทธศาสนาในถิ่นไทย จะทยอยปรากฏ เพื่อยืนยันว่า "พระพุทธศาสนามีต้นกำเนิดอยู่ในดินแดนไทยในปัจจุบัน"

เพียงแต่ บางครั้ง อาจจะต้องแลกกับความสูญเสียบ้าง เมื่อ อกแม่พระธรณีจะแยกแตก

 

และ จากตำนาน ประวัติ วัดดงนั่งคีรีชัย ตำบลวิเชตนคร อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง

ที่ว่า

อ้างถึงคำภีร์พุทธจารีต คำภีร์เทวตาสูตร และตำนานพระเจ้าเลียบโลก ( จารย์ด้วยตัวอักษรล้านนา ลงในใบลาน มีอยู่หลายวัด ในภาคเหนือ ตอนบน ) กล่าวไว้ว่า เมื่อสมัยพุทธกาล องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมด้วยพระอรหันตสาวก ได้เสด็จจาริกมาเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอน ในแค้วนล้านนานี้ เสด็จมาถึงเขต เมืองลัวะ และเมืองอาราวี ได้มีสองตายายชาวเมืองลัวะ และฤาษีตนหนึ่งชื่อ สิทธะสี คอยติดตามอุปถาก กาลครั้งนั้นพระพุทธได้พาพระอรหันต์ ขึ้นมาประทับนั่งพักผ่อนพระอิริยาบถ บนเขาแห่งหนึ่งทางทิศเหนือเมืองลัวะ แล้วทรงตรัสแก่พระอานนท์ว่า เมื่ออดีตชาติ ตถาคต เคยจุติมาเกิดเป็น เต่าคำชาติหนึ่ง และจุติมาเป็น นกกระทาป่า สองชาติเพื่อมาบำเพ็ญบารมีบนเขาแห่งนี้ และทรงทำนายว่า กาลข้างหน้าสถานที่แห่งนี้จะเจริญไปด้วยพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนา และทรงรับสั่งต่อไปว่า หากตถาคตปรินิพพานไปแล้ว ให้นำเอาพระอัฐิธาตุส่วนที่เป็นข้อมือข้างซ้ายมาบรรจุบนเขาแห่งนี้ เพื่อให้มนุษย์และเทวดาได้สักการะบูชา พระอานนท์ได้กราบทูลขอพระเกษาธาตุ พระองค์ก็ทรงอธิษฐานเอาพระเกษาธาตุมอบให้พระอานนท์ จำนวน ๘ เส้น จากนั้นพระอานนท์ พระสารีบุตร พระโสภิตะ พญาอาราวี และพญาลัวะ พร้อมด้วยพระอรหันต์และประชาชนผู้ติดตามมาเฝ้าอุปถาก ได้พากันนำเอาพระเกษาธาตุทั้ง ๘ เส้น บรรจุไว้บนเขาลูกนี้ ( ที่ตั้งวัดดงนั่งคีรีชัย ) ครั้งนั้น สิทธะสีฤาษีได้ขอพรต่อพระพุทธองค์ว่า ขอพระองค์ทรงประทับรอยพระบาทไว้สักแห่งหนึ่ง เพื่อเป็นพุทธานุสติ เหล่ามนุษย์และเทวดาทั้งหลายจะได้ กราบไหว้บูชา สักกระ พระพุทธองค์ได้ทรงประทับพระบาทลงบนผ้าขาวผืนหนึ่ง แล้วทรงมอบให้สิทธะสีฤาษี และโอกาสนั้นสิทธะสี ได้ขอตามเสด็จ เพื่อไปอุปถากพระพุทธองค์ ทรงรับสั่งว่า หากท่านฤาษีได้อยู่สักการะบูชารอยพระบาทนี้ ก็เหมือนดั่งได้อุปถาก ตถาคตเหมือนกัน ดันนั้นสิทธะสีฤาษีจึงได้นำเอารอยพระพุทธบาทขึ้นไปประดิษฐานไว้บนยอดเขา ทางทิศตะวันตกของเมืองลัวะ และได้อยู่บำเพ็ญตบะ สักการะบูชารอยพระพุทธบาทจนสำเร็จ ฌานสมาบัติชั้นสูง ณ บนเขาแห่งนี้ ดังนั้นคนทั่วไปจึงเรียกเขาแห่งนี้ว่า ดอยพระบาท จากนั้นพระพุทธเจ้า พร้อมด้วยพระอรหันต์ผู้ติดตาม ได้ออกจาริกเผยแผ่พระพุทธสาสนา ในที่อื่น ๆ ต่อไป.

ตาม ลิงค์ นี้
ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม

ก็เป็นอีก หลักฐานหนึ่ง ของที่ตั้ง "เมืองอาฬวี" อยู่ในประเทศไทย ไม่ใช่ "อินเดีย"

และ เมือง อาฬวี นี้ อยู่ห่างจากสาวัตถี 30 โยชน์ 480 กิโลเมตร แล้ว สาวัตถี อยู่ไหน?

 

หวัดดีพี่ เอกอิสโร ไม่ได้เข้ามาอ่านนานแล้ว เจอข้อความของพี่แล้วชอบมาก
แต่ผมเชื่อว่า ยักษ์ในสมัยพุทธกาลนั้น น่าจะเป็นเผ่า นากา ผมอยากให้พี่หาข้อมูลมาขยายให้บ้างนะครับพี่