มิติใหม่..สะกดจิตธุรกิจใช้-การเมืองก็ใช้

มิติใหม่..สะกดจิตธุรกิจใช้-การเมืองก็ใช้

กระบวนการสะกดจิตในทัศนะ ของผู้เชี่ยวชาญไม่ใช่การสั่ง ผู้ที่ถูกสะกดจิต ซ้ายหันขวาหัน เท่านั้น แต่มีความหมายกว้างไกล ออกไปอีกมาก

ชนาธิป ศิริปัญญาวงศ์ ปริญญาตรี บริหารธุรกิจ คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประกาศนียบัตร นักสะกดจิตจากสถาบันการสะกดจิตริ-เวอร์ทรี เมืองเพรมบรูค รัฐนิวแฮมพ์เชียร์ สหรัฐอเมริกา ปัจจุบันเป็นผู้ชำนาญการด้านสะกดจิตบริษัทไซโคแมนเนจเม้นท์ จำกัด...เปิดประเด็น

ขั้นตอน...วิธีสะกดจิตที่เข้าใจภาพได้ง่ายที่สุด...คือกระบวนการฝึกทหาร ใช้การฝึก ให้ทำซ้ำซาก และใช้โทนเสียงสม่ำเสมอ

โทนเสียงเสมอ ชนาธิปบอกว่า เสียงสูงก็ต้องสูงตลอด...เสียงต่ำก็ต้องต่ำตลอด นอกจากระดับโทนเสียงแล้ว จังหวะเสียงก็ต้องสม่ำเสมอ จะเร็วก็ต้องเร็วไปเรื่อยๆ จะช้าก็ช้าไปให้ตลอด เรียกว่า...ซ้ำทุกกระบวนการทั้งระดับและความถี่

ดนตรีหรือเพลงที่มีเสียงสูงๆต่ำๆ ช้าๆเร็วๆสลับกันไป...จะไม่ใช่เสียงสะกดจิต

"มีนักการเมืองไทยหลายคน ใช้โทนเสียงสะกดจิต...ชวน หลีกภัย พูดเนิบๆ พูดไปเรื่อยๆ...สมัคร สุนทรเวช พูดถี่ๆ รัวๆ เร็วๆ...เฉลิม อยู่บำรุง ก็พูดเร็ว... ระดับเสียงสม่ำเสมอ"

โทนเสียงสะกดจิต จะสะกดจิตคนให้คล้อยตามได้ถึงขั้นไหน?

ชนาธิป บอกว่า ข้อมูลอะไรก็ตามที่เป็นเสียงซ้ำๆ เข้าหูไปแล้ว...ก็เหมือนมีใครมาสะกิดๆๆ อยู่ตลอดเวลา ร่างกายก็ปรับจังหวะการเต้นของหัวใจให้เท่ากับจังหวะการสะกิด ไม่ต่างกับเวลาเข้าผับ เข้าเธค เสียงดนตรีตึงๆ หัวใจก็เต้นเร็วเป็นจังหวะนั้น

จังหวะการเต้นของหัวใจที่ปรับให้เรียบเสมอตามโทนเสียงสะกดจิต มีผลทำให้ร่างกายอยู่ในสภาวะนิ่ง...เรียบ มีช่องว่าง พร้อมที่จะรับอะไรก็ได้ที่จะเข้ามาในช่วงเวลานี้

"สภาวะนิ่งเรียบเหมือนเวลากินข้าวเที่ยง รู้สึกนิ่ง มีใครมาทักก็มักตกใจ รู้สึกใจหาย หมายความว่า อะไรก็ตามที่เข้ามาในช่วงสภาวะที่ร่างกายนิ่งเรียบ... จะมีผลรุนแรงกับเรา"

ต่อจากสภาวะนิ่งเรียบของร่างกาย เจ้าของโทนเสียงจะมีอิทธิพลกับผู้ฟังมาก

ระยะเวลาที่โทนเสียงจะสะกดให้เคลิ้มได้มากน้อยแค่ไหน...ชนาธิป บอกว่า ใช้เวลาพอสมควร แต่ถ้าไปฟังบ่อยๆ ฟังทุกวัน...การสะกดจิตจะมีผลกับคนคนนั้นแน่นอน

อิทธิพลการสะกดจิตมีผลมากมายขนาดไหน กรณีฟังบ่อยๆ...คนพูดบอกให้ ซื้ออะไร คนฟังก็จะซื้อ เหมือนกระบวนการขายตรง ที่มีการประชุมสมาชิกเป็นประจำ

"อันดับแรกธุรกิจขายตรงมักใช้ยุทธวิธี...ทำยังไงก็ได้ ให้สมาชิกมาบ่อยๆ ถัดมา...ต้องมากันมากๆ มากันมากก็รวมถึงหน้าม้า...คอยส่งเสียงกระตุ้น เยี่ยมๆๆ...ดีๆๆ"

ขั้นตอนสะกดจิตให้สมาชิกขายตรงซื้อของเริ่มจากการใช้จังหวะเสียงเรียบๆ เตรียมให้สมาชิกที่เข้าร่วมประชุมรู้สึกโล่ง ช่วงเดียวกับภาวะนิ่งเรียบของขั้นตอนสะกดจิต ถึงเวลาก็ใส่ข้อมูลเข้าไป เป็นระดับโทนเสียงที่แตกต่างกว่าปกติ

จังหวะนี้คนพูดนำหน้าเวที และบรรดาหน้าม้าจะร่วมด้วยช่วยกัน จะมีผล ทำให้การสะกดจิตได้ผลมากขึ้น

หลายคนอาจสงสัย ประชุมธุรกิจขายตรงรับข้อมูลตรงๆแบบนี้ จะสะกดจิตสั่งให้คนซื้อของ...ได้เชียวหรือ

"ทำได้..." ชนาธิป บอก แต่ไม่ได้มีผลเพราะการร่วมประชุมเพียงครั้ง เดียว กระบวนการเริ่มจากสร้างให้ใจผู้เข้าร่วมรู้สึกเชื่อถือ ศรัทธา และรักองค์กร จากนั้นก็เริ่มให้ข้อมูลไปตรงๆ...ซื้อแล้วดีๆๆๆ พูดซ้ำๆไปเรื่อยๆ...ก็จะรู้สึกว่าซื้อแล้วดี

ผ่านกระบวนการสร้างภาพลักษณ์ดีๆขององค์กรในภาพใหญ่ ได้แล้ว ก็เข้าสู่สาระ...จะสะกดจิตให้ทำอะไร

"ตัวอย่างคลาสสิกที่เคยมี ไม่ใช่ธุรกิจขายตรง แต่เป็นวัดดัง ย่านปทุมธานี ทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ พระลอยได้...หลักการวัดนี้ไม่ต่างกับธุรกิจขายตรง สมาชิกเข้าไปรวมกลุ่มกันมากๆ มีสมาชิกเก่าเป็นหน้าม้า...พูดอะไรขึ้นมาก็ เฮ...เฮ...เฮ เยี่ยม...เยี่ยม ดี...ดี"

มีหนังสือแจก...เปิดมาก็มีข้อมูล นาง ก. มีพระรุ่นนี้แล้วถูกหวย...นาย ข. มีแล้วหายป่วย...ปู่ ค. มีพระองค์นี้ เปิดร้านขายของเงินทองไหลมาเทมา

เทียบขายตรง...มีคนขึ้นไปพูด บอกว่าทำธุรกิจราบรื่น ขายได้แล้ว 10 ล้านบ้าง...5 ล้านบ้าง ทุกคนที่พูดก็ย้ำว่า...ธุรกิจนี้ขายง่ายๆ ขายดี มีแต่รวย...รวย...รวย

นอกเหนือจากกระบวนการทำซ้ำๆ คือระบบแสง การใช้แสงกระตุ้นประสาทตา ผสานกับกระบวนการสร้างความผ่อนคลายให้กับจิตใจ

ประเด็นสนับสนุน...แสงมีผลกระทบกับร่างกาย...5-6 ปีที่แล้ว เด็ก ญี่ปุ่นดูการ์ตูนเรื่อง...โปเกม่อนตอนหนึ่ง พอดูจบ...เด็กนับพันรายมีอาการ ลมชักคล้ายลมบ้าหมู เหตุผลเพราะการ์ตูนโปเกม่อนปล่อยแสงสีวูบวาบ

นักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยปิซา อิตาลี ทำการศึกษาพบว่า อาการของ เด็กเกิดจากสมองส่วนหนึ่งไม่สามารถรับภาพที่มีแสงวูบวาบสลับกันไปมาระหว่าง สีขาวกับดำในภาพกะพริบถี่ๆ ยังรวมไปถึงแสงไฟกะพริบวูบวาบตามดิสโก้เธค

แต่การสะกดจิต...จะให้ดูแสงสีสบายตา...เพราะก่อนที่จะทำอะไรหากใจสบาย จะช่วยได้มาก ให้ดูแบบสบายๆไปเรื่อยๆ ใช้คำพูดโน้มน้าว...ครับ ค่ะ...ไปเรื่อยๆ ขั้นต่อไปบอกให้หลับตา ทำใจสบาย...พูดต่อไปว่า...ภาพและแสงสีแห่งความสบายที่เห็นไปแล้วจงปรากฏขึ้น

ใจสบายแล้ว...สมองก็นึกภาพตาม นึกถึงแต่ความสบาย ความสวยงาม...คราใด เมื่อเห็นแสงนี้ ก็จะรู้สึกว่าชีวิตเจริญรุ่งเรือง ขณะเดียวกันก็มาซื้อสินค้า มาทำโน่น...ทำนี่

แสดงว่าข้อมูลสะกดจิตเข้าไปอยู่ในจิตใต้สำนึกเป็นที่เรียบร้อย ยิ่งมีโอกาส รับข้อมูลทุกวัน ไม่ว่าจากเทป ซีดี หนังสือ...เอามาอ่าน ดู หรือฟัง คำสั่งซ้ำซากก็จะเกิดขึ้นอีก

จิตใต้สำนึกก็ยิ่งจะรู้สึกว่า...ซื้อแล้วดีจังเลย ซื้อแล้วดี...ก็จะไปซื้อสินค้าจริงๆ

"การไปรับข้อมูลซ้ำซากบ่อยๆ จะทำให้การสะกดจิตมีผลถึงขั้นที่เรียกว่า...ยอมตายแทนได้ ถ้าคนให้ข้อมูลสร้างเงื่อนไขอย่างนี้"

ผลจากการสร้างเงื่อนไขให้จิตใต้สำนึก สะกดจิตให้คนคล้อยตาม ทำตามคำสั่ง...เป็นไปได้ไหม ถ้าพรรคการเมืองจะอาศัยหลักการเดียวกันนี้ เพื่อระดมสมาชิกร่วมอุดมการณ์

"เป็นไปได้หรือไม่ ต้องดูที่กระบวนการ...โดยเฉพาะการประชุมสมาชิก มีการสร้างบรรยากาศ สร้างความสบายให้กับผู้เข้าร่วมถึงขั้นไหน"

ชนาธิป บอกว่า กระบวนการสะกดจิตต้องทำให้เป้าหมายเกิดความสบาย ใช้สิ่งแวดล้อมเข้าช่วย...แสงสลัว...แอร์ต้องเย็นฉ่ำ

ผนวกกับเสียงดนตรีปลุกเร้า ใกล้เสียงดนตรีจะสงบ...ก็แทรกด้วยเสียงให้ ข้อมูล หากใกล้เคียงแบบนี้ ก็จะเป็น...การสะกดจิต แต่เป็นการสะกดจิตที่ใช้ไปในทางร้าย

"ด้านดีของการสะกดจิต...ก็มี ชนาธิปเปรียบการสะกดจิตเหมือนปืน อยู่ที่ว่าปืนอยู่กับใคร...การสะกดจิตเป็นเรื่องที่ผมรู้ และหลายคนก็อาจจะรู้ ถ้าทุกคนได้รู้เท่ากัน...ถึงจะมีใครบางคนจะล้างสมอง ก็ป้องกันได้...ส่วนใครที่ไม่รู้ล่ะ จะทำอย่างไร"

โดยสถิติโอกาสที่การสะกดจิตจะสำเร็จมากน้อย...อย่างน้อย 2 ใน 10 คนจะไปสู่แนวทางนั้นได้...แบบสุดตัว

ว่ากันตามประสบการณ์...คนไทย แยกเป็นคนกรุง โอกาสแค่ 50 ใน 100 ก็แย่แล้ว ส่วนคนบ้านนอกโอกาสมีมากกว่า...ใน 100 อาจมีมากถึง 80 คน

โอกาสที่การสะกดจิตจะสำเร็จ จึงอยู่ที่การให้ความรู้กับคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ถ้ามีความรู้เท่าทันจะได้รู้จักป้องกันตัว เมื่อมีใครที่คิดจะทำอะไรสักอย่าง คงไม่บอกตรงๆ หากบอกตรงๆจะเกิดผลได้อย่างไร

ประชุมพรรคมีวัตถุประสงค์หลัก...ประชุมสมาชิกคงไม่มีใครมองมุมแอบแฝง เข้าร่วมก็ทำกิจกรรมไปตามขั้นตอนจนเพลิน ไม่รู้ตัวว่าจิตใต้สำนึกของตัวเองถูกสั่งให้รัก...ให้ชอบพรรค หรือหัวหน้าพรรค การเมืองพรรคนั้นไปแล้ว

ถ้าถามว่า...เมื่อจิตใต้สำนึกถูกสั่งไปแล้วจะลบคำสั่งนั้นๆออกได้ไหม?

คำตอบคือลบได้ ขึ้นอยู่กับว่าคนคนนั้นจะรู้ไหมว่าเป็นเช่นนั้น หากไม่รู้ ก็ไม่ลบ...เมื่อไหร่ที่รู้คำสั่งนั้นจึงจะลบ

สังคมปัจจุบันการสะกดจิตคงให้ผลไม่รุนแรงมาก ไม่ถึงขั้นลัทธิคลั่งชาติ สภาพที่ทำให้เป็นได้ถึงขนาดนั้น ก็อาจเป็นสภาพของการผลิตสินค้า โฆษณา ประชาสัมพันธ์ ที่พยายามเอาชนะคนกินทั้งโลก

ทุกวันนี้...มีทางเลือกมากขึ้น มีสินค้า...มีผู้คนมากมายยื่นมือเข้ามาแข่งกัน สะกดจิตกันมากขึ้น คนจึง...กินโน่น...กินนี่...กินนั่น คละเคล้ากันไปหมด

สุดท้ายก็ต้องมาลงเอยที่ความรู้ความเข้าใจในกระบวนการสะกดจิต....เมื่อไหร่ ที่คนมีความรู้เท่าๆ กันก็คงไม่มีใครครอบงำใครได้ ใครที่มีความรู้น้อยกว่าก็ถูกครอบงำง่าย.

 

ขอบคุณครับ ... คุณน้ำผึ้ง

เคยไปนั่งฟังไอ้พวกธุรกิจขายตรงเหมือนกัน .... มันส์...มากๆๆ
ใช้ทั้งจิตวิทยา ทั้งหน้าม้า ทั้งสะกดจิต .....ครบถ้วนกระบวนการ!!!!!

 

อ่า....คือ.....หนุ่มๆใช้วิธีนี้จีบสาวๆได้ป่าวคับ

 

ก็น่าจะมีส่วนนะคะ 55555555555

 

ก็คุณ zipper ต้องทดลองก่อนนะคะหนุ่ม ๆๆคนอื่นจะได้ลองบ้าง

 

555 งั้นก็ต้องหา target ก่อน ใครดีเอ่ยย

 

ผมก็กำลังหาเป้าหมายอยู่เหมือนกัน ..... สาวๆ ในนี้แหละ ....อิอิ

 

สาวๆ ระวังหน่อยนะ ปู่เค้าจะหว่านเสน่ห์แล้วว เดี๋ยวจะหลงปู่หัวปักหัวปำ อิอิ