มิติแห่งจิต 16 ความฝันอันเหลือเชื่อ

มิติแห่งจิต : ความฝันอันเหลือเชื่อ (ตอนที่ 1)
โคดำทำท่าชน
- สวน ทาง ธรรม -


โคสี่ตัววิ่งมาจากสี่ทิศ ตรงเข้าหากัน ดูเหมือนจะชนกัน แต่แล้วก็ไม่ชนกัน กลับแยกย้ายจากไป ทำนายว่า ...

เรื่องราวหลากหลายเกี่ยวกับความฝันนั้นมีมากมายยิ่งนัก ทุกคนล้วนผ่านการฝันเคยฝันกันมาแทบทุกคน ส่วนมากคนที่จะฝันต้องฝันตอนนอนหลับ เพราะถ้าฝันตอนตื่นเขาเรียกว่าฝันกลางวันคือคิดฝันหรือเพ้อฝัน ส่วนสาเหตุที่ทำให้คนต้องฝันนั้นมีอยู่หลายประการ อาทิเช่น กินมากไป ร่างกายเจ็บป่วย ธาตุทั้งสี่ไม่ปกติ มีลางสังหรณ์ หรืออาจจะมีบางสิ่งบางอย่างที่พิสูจน์ไม่ได้ เช่น เทพเทวดา ผีสางนางไม้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์มาเข้าฝัน เป็นต้น

อันความฝันนั้นมีทั้งคนเชื่อและไม่เชื่อ แต่จำนวนคนที่เชื่อน่าจะมีมากกว่า และหากจะถามว่าความฝันนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ คงตอบได้เพียงว่า นานาจิตตัง คนที่เชื่อก็คิดว่าจริง คนที่ไม่เชื่อก็คิดว่าไม่จริง เป็นสิทธิ์ของแต่ละคน

ยังมีเรื่องเล่าขานเป็นตำนานมาตั้งแต่ครั้งโบราณนานนับพันปีเกี่ยวกับเรื่องความฝัน และยังคงผูกพันมาจนถึงยุคปัจจุบัน เป็นความฝันอันเหลือเชื่อ เพราะความฝันทั้งหลายเหล่านั้นตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้นในยุคปัจจุบันทุกประการ และความฝันเหล่านั้นเป็นไฉน ก็จะเขียนให้ท่านผู้อ่านได้อ่านเพื่อความบันเทิงใจ พร้อมทั้งได้แง่คิดมุมมอง และใช้ปัญญาพิจารณาตามไปด้วย ก็จะได้ประโยชน์ต่อท่านเองในการดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมอันวุ่นวายสับสนของสังคมยุคปัจจุบัน

ในสมัยพุทธกาล มีกษัตริย์ผู้ครองเมืองสาวัตถี ทรงพระนามว่า พระเจ้าปเสนทิ ทรงพระสุบิน คือฝันแปลกประหลาดหลายเรื่องในราตรีเดียวกัน นับได้ถึง 16 เรื่อง และพระนางมัลลิกาพระมเหสีทรงกราบทูลว่า น่าจะเสด็จไปกราบทูลถาม พระพุทธองค์ผู้เป็นสัพพัญญูรู้จริง ซึ่งกำลังประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ใกล้กรุงสาวัตถี พระเจ้าปเสนทิจึงเสด็จไปเฝ้าพระพุทธเจ้า แล้วกราบทูลถวายเรื่องความฝันทั้ง 16 ข้อ ของพระองค์

พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า(ผู้เขียนเกิดไม่ทันสมัยพระพุทธเจ้า จึงไม่ทราบว่าท่านทำนายฝันให้พระเจ้าปเสนทิจริงหรือไม่) ความฝันของพระเจ้าปเสนทิในครั้งนี้ จะมีผลแก่มวลมนุษยชาติในอนาคตกาล...

ฝันข้อที่หนึ่ง........โคดำทำท่าชน

โคสี่ตัววิ่งมาจากสี่ทิศ ตรงเข้าหากัน ดูเหมือนจะชนกัน แต่แล้วก็ไม่ชนกัน กลับแยกย้ายจากไป

ทำนายว่า สมัยใด(น่าจะเป็นสมัยนี้-ผู้เขียน)ก็ตาม ถ้าผู้มีอำนาจปกครองบ้านเมืองไม่รักษาศีล ไม่ปฏิบัติธรรม ประชาชนก็จะไม่มีศีลธรรม สังคมจะเสื่อมทราม ความดีจะถดถอย ความชั่วจะมีทั่วทุกหัวระแหง ข้าวจะยากหมากจะแพง ผักปลาอาหารจะเ**่ยวแห้งเหือดหาย ฝนฟ้าจะไม่ตกต้องตามฤดูกาล จะมีเพียงแต่เสียงฟ้าร้องคำราม

ลองคิดดู ผู้ที่ตัดไม้ทำลายป่า เป็นประชาหน้าหมอง หรือผู้ปกครองบ้านเมืองที่ตั้งหน้าตั้งตาตัดกันจนป่าจะหมดเมืองไทยอยู่แล้วก็ยังไม่เลิกตัด ฝนชอบป่า ไม่มีป่าก็ไม่มีฝน คนจะอยู่อย่างไร ถ้าไม่มีฝน...

จาก : นสพ.ธรรมลีลา ธค.๒๕๔๔

มิติแห่งจิต : ความฝันอันเหลือเชื่อ (ตอนที่ 2)
ถาดทองรองฉี่หมา
- สวน ทาง ธรรม -


ฝันเห็นถาดทองรองฉี่หมา ความหมายของฝันข้อนี้ทำนายว่า ...

พระเจ้าปเสนทิ ทรงพระสุบิน คือฝันแปลกประหลาดหลายเรื่องในราตรีเดียวกัน นับได้ถึง 16 เรื่อง จึงเสด็จไปกราบทูลถาม พระพุทธองค์ผู้เป็นสัพพัญญู

ฝันอันเหลือเชื่อฉบับนี้เป็นเรื่องที่ยังคงตรงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันอย่างไม่น่าเชื่อ! แต่ก็ต้องเชื่อ เพราะพระเจ้าปเสนทิโกศลฝันว่า เห็นถาดทองรองฉี่หมา(ปัสสาวะสุนัขดูสุภาพเกินไป) ซึ่งความหมายของฝันข้อนี้ทำนายว่า ต่อไปภายภาคหน้าผู้ปกครองบ้านเมืองจะไม่ตั้งอยู่ในธรรม(รัฐบาลที่ไม่รู้เรื่องธรรมะ ไม่รักษาศีล) ประเทศชาติจะขาดคนดีที่จะเข้ามารับราชการเพื่อช่วยกันบริหารประเทศให้รุ่งเรือง ต่างพากันหลีกเลี่ยงคนพาลที่ได้รับการยกย่องให้เป็นใหญ่เป็นโตในบ้านเมือง เพราะมีเงินมีอำนาจวาสนาซึ่งได้มาจากการคดโกง คนดีๆจำนวนมากที่จำเป็นต้องทำงานร่วมกับผู้ปกครองบ้านเมืองที่คดโกง เพราะไม่มีทางเลือก ก็เปรียบเสมือนถาดทองที่รองรับคำสั่ง(ตามอารมณ์ของเจ้านาย)จากปากจากความคิดของคนคดโกง ซึ่งไม่ต่างอะไรกับฉี่หมา และยังต้องปฏิบัติตามคำสั่งหมาๆนั้นด้วย

ส่วนข้าราชการสาวๆทั้งหลายที่เป็นคนดี ตั้งใจทำงานราชการด้วยความขยันขันแข็ง กลับไม่ได้รับการพิจารณาเรื่องเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง ถ้าไม่ยอมบำเรอกามตามใจเจ้านายฉี่หมาทั้งหลาย สาวคนไหนยอมบำรุงบำเรอเจ้านายฉี่หมา ก็จะได้รับการเอาอกเอาใจ เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งให้ บางคนก็เลื่อนตำแหน่งเป็นเมียน้อย มีบ้านแพงๆมีรถหรูๆไว้ใช้สอยสะดวกสบาย ลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคมอย่างไม่อับอาย ส่วนเจ้านายฉี่หมาเองก็แปลก ไปไหนมาไหนชาวบ้านก็ทักทายยิ้มแย้มแจ่มใส ยกมือไหว้กันสลอน แต่ที่น่าแปลกกว่านั้นก็คือหน่วยราชการต่างๆ ทั้งอำเภอ ทั้งตำรวจ ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการปราบปรามกำจัดพวกทุจริตคดโกง กลับพากันยกมือไหว้เจ้านายฉี่หมาเหล่านั้นด้วยความเคารพนบนอบยอบกายวันทาอย่างเต็มใจ

ฝันข้อนี้ก็แปลก ฝันมาตั้งสองพันกว่าปีแล้ว ยังมาตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบันอย่างไม่น่าเชื่อ น่าจะมีใครคิดประดิษฐ์เครื่องมือทำนายฝันกันบ้างนะ

คนทุกคน
มีโลกฝัน อันสดใส
ฝันแบบไหน ไม่ว่ากัน เชิญฝันใฝ่
ในโลกจริง
เป็นอีกอย่าง ต่างกันไกล
ลมหายใจ ถ้าหมั่นดู จะรู้เอง...

จาก : นสพ.ธรรมลีลา

มิติแห่งจิต : ความฝันอันเหลือเชื่อ (ตอนที่ 3)
ไม้น้อยพลอยผลดก
- สวน ทาง ธรรม -


ฝันเห็นต้นไม้เล็กๆ ที่เพิ่งโผล่พ้นดิน ออกดอกผล ฝันข้อนี้ทำนายว่า ...

ใครเลยจะคิดว่า ความฝันเมื่อ 2,500 กว่าปีของพระเจ้าปเสนทิโกศล ที่ฝันว่าต้นไม้ต้นเล็กๆ เพิ่งจะโผล่พ้นดินไม่มาก แต่กลับออกดอกออกผลเต็มไปหมดเหมือนต้นไม้ที่เจริญเต็มที่แล้ว เป็นความฝันที่เหมือนกับจะล่วงรู้เหตุการณ์ปัจจุบัน

และยิ่งคำทำนายของพระพุทธองค์ที่ว่า ต่อไปในภายภาคหน้าเพราะตัณหาของมนุษย์มิสิ้นสุดไม่เคยพอ จึงก่อเกิดกามตัณหาและราคะในเรื่องของการสมสู่ร่วมประเวณีกันตั้งแต่นมยังไม่ทันจะแตกพาน เป็นเรื่องเหลือเชื่อจริงๆ ที่ได้เกิดขึ้นแล้วในสังคมปัจจุบัน

ลองคิดดู แล้วจะรู้ว่าจริง... จริงเพราะปัจจุบันเราสามารถมองเห็นภาพเด็กนักเรียนทั้งหญิงทั้งชายอายุยังไม่ถึง 15 ขวบ ยังเป็นเด็กหญิงเด็กชายกันอยู่เลย ต่างพยายามแต่งเนื้อแต่งตัวยั่วกิเลสกันโดยไม่เคยคิดอับอาย (ยั่วผู้ใหญ่ด้วยเหมือนกัน) ในที่สาธารณะ เช่น ศูนย์การค้า ก็เดินจูงมือกันเปิดเผยไม่แคร์สายตาใคร บางคู่นั่งกอดกันตามป้ายรถเมล์ทั้งๆ ที่ยังผูกคอซองเรียนชั้นประถมอยู่ ขนาดในที่สาธารณะในที่แจ้งยังกล้าทำกันอย่างนี้ แล้วในที่ลับจะขนาดไหนลองนึกดู (อย่านึกให้ลึกนัก) และตามหน้าหนังสือพิมพ์ต่างๆ ก็มีข่าวเกี่ยวกับวัยรุ่นมั่วสุมดื่มเหล้าดื่มเบียร์เสพยาแล้วลงท้ายด้วยการสมสู่กันเมามันในอารมณ์ (อาจจะมีผู้ใหญ่หลายคนแอบอิจฉาก็ได้ใครจะรู้) บางคู่และหลายๆ คู่ยับยั้งอารมณ์เพศของตนไม่ได้ เกิดตาลายหน้ามืดก็สมสู่กันโดยปราศจากการป้องกันการตั้งท้อง รวมทั้งโรคภัยไข้เจ็บอันเกิดจากการสมสู่ เช่น โรคเอดส์ เป็นต้น บางรายต้องเลิกเรียนกลางคัน เนื่องจากท้องโตต้องหลบไปคลอดลูก กลายเป็นแม่คนตั้งแต่ยังไม่เป็นนางสาวก็มีให้เห็นอยู่มากราย

ถ้าจะยอมรับกันตามความเป็นจริงแล้ว เรื่องเซ็กซ์เป็นเรื่องของธรรมชาติที่มนุษย์และสัตว์ต้องมีกันทุกชีวิตไม่ว่าคนหรือสัตว์ แต่คนแตกต่างจากสัตว์ตรงที่มีปัญญาเหนือกว่า มีความสำนึกในเรื่องผิด ชอบ ชั่ว ดี อะไรควรทำ อะไรควรเว้น คนรู้แต่สัตว์ไม่รู้ในเรื่องของศีล ในเรื่องของธรรม

และถ้าจะยอมรับกันตามความเป็นจริงในปัจจุบันเราจะเห็นว่า แม้แต่คนที่เป็นผู้ใหญ่แล้วทั้งที่มีชื่อเสียงและโนเนม ล้วนเคยทำเหมือนกับเด็กวัยรุ่นเหล่านั้นด้วย มิหนำซ้ำกลับทำในสิ่งที่เลวทรามยิ่งกว่าเด็กเหล่านั้นเสียอีก เช่น การใช้เงินซื้อเด็กหญิงที่อายุต่ำกว่า 15 ปี มาบำเรอความใคร่ของตัวเอง และที่ร้ายกว่านั้นก็คือ ผู้ใหญ่ที่เป็นลุงเป็นปู่ รวมทั้งที่เป็นพ่อ ยังข่มขืนลูกหลานตัวเองได้ลงคอ

ความชั่วช้าสามานย์ในจิตใจของคนเหล่านี้มีให้เห็นให้รู้อยู่เสมอๆ เพราะคนชั่วเหล่านี้ไม่เคยสนใจใฝ่ธรรมไม่เคยรับรู้เรื่องศีล แล้วคนเหล่านี้จะเอาอะไรไปสอนลูกของตัวเอง ในเมื่อตัวเองยังไม่รู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร แล้วลูกของคนชั่วเหล่านี้จะเป็นอย่างไร.....น่ากลัวยิ่งนัก.....

จาก : นสพ.ธรรมลีลา

มิติแห่งจิต : ความฝันอันเหลือเชื่อ (ตอนที่ 4)
น้ำเต้าน้อยถอยจมชล
- สวน ทาง ธรรม -


ฝันว่าน้ำเต้าแห้งซึ่งปกติต้องลอยน้ำแต่กลับจมอยู่ใต้น้ำ ทำนายว่า ...

ต่อไปภายภาคหน้า ผู้มีอำนาจปกครองบริหารบ้านเมืองจะไม่ตั้งอยู่ในธรรม คนเลวต่างพากันทำทุกวิถีทางโดยไม่คำนึงถึงความผิดถูกใดๆ เพื่อให้ตัวเองและพวกพ้องได้เข้าไปปกครองบ้านเมือง เมื่อมีโอกาสคดโกงฉ้อราษฎร์บังหลวง(บังหลวง=โกงเงินของในหลวง)ก็จะทำทันที และทำกันเป็นทีมๆโดยไม่อับอายใดๆทั้งสิ้น และพวกคดโกงเหล่านั้นกลับเป็นที่ยกย่องนับถือในทุกวงการเสียอีกน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก

แม้แต่ในแวดวงของพระศาสนาก็จะปรากฏภิกษุทุศีล ประพฤติตนไม่เหมาะควรแก่สมณเพศ กลับได้รับการเคารพยกย่องนับถือกราบไหว้ทั้งๆที่พูดสอนธรรมะผิดๆถูกๆ ผู้คนกลับเชื่อฟังโดยคิดว่าคำสอนของเหล่าภิกษุทุศีลเหล่านั้นสามารถนำไปปฏิบัติเพื่อหลุดพ้นเข้าสู่พระนิพพานได้

ปกติผลน้ำเต้าแห้งจะเบา ไม่มีน้ำหนัก ลอยน้ำได้ แต่กลับจมอยู่ใต้น้ำเหมือนของหนัก เปรียบเสมือนคำพูดของคนเลวที่มีอำนาจปกครองบ้านเมือง รวมทั้งคำพูดของภิกษุทุศีลซึ่งไม่มีน้ำหนักอะไรให้เชื่อถือแต่ผู้คนทั่วไปกลับนับถือเชื่อฟัง ช่างเป็นความฝันที่ตรงกับสมัยยุคปัจจุบันอย่างไม่น่าเชื่อ ถึงไม่อยากจะเชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะมีให้เห็นตำตาอยู่ในสังคมปัจจุบันมากมายจนไม่รู้ใครเป็นใคร

เมื่อเร็วๆนี้ได้ฟังนักการเมืองคนหนึ่งพูดว่า "ตัวเองต้องกลายเป็นคนเนรคุณต่อพ่อบังเกิดเกล้า เพราะ กกต.ห้ามจัดเลี้ยงในช่วงเลือกตั้งซ่อม จึงไม่สามารถจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้พ่อตัวเองได้" ฟังเผินๆเหมือนนักการเมืองผู้นี้เป็นลูกกตัญญูยิ่งใหญ่สุดยอด จัดงานเลี้ยงวันเกิดให้พ่อมาตลอดไม่เคยขาดสักครั้งเดียว ช่างเป็นลูกที่แสนดีเสียนี่กระไร แต่หากพิจารณาคำพูดของนักการเมืองคนนี้ให้ดีจะรู้ว่าที่พูดออกมานั้นเพื่ออะไร? เจตนาพูดให้ใครฟัง คนที่คิดเป็น เมื่อได้ฟังจะพากัน"ขำกลิ้ง" แทบทุกคน บ้านเมืองใดที่มีผู้ปกครองปัญญาอ่อนเป็นฝ่ายบริหาร บ้านเมืองนั้นจะมีสภาพเป็นอย่างไรเห็นจะไม่ต้องกล่าว ท่านสาธุชนผู้อ่านคงจะนึกภาพออก ส่วนผู้เขียนกลับนึกไม่ออกจริงๆว่า ความรู้สึกของคุณทักษิณจะเป็นอย่างไร อึดอัดใจแค่ไหนที่มีลูกกตัญญูร่วมรัฐบาล ที่ชาวบ้านเทคะแนนเสียงให้อย่างท่วมท้น เพราะเชื่อมั่นในความเป็นคุณทักษิณ ว่าคุณทักษิณจะเลือกคนดีมีศีลธรรมมาช่วยกันบริหารประเทศ นอกจากลูกกตัญญูแล้วยังมีพวกชอบพูดตำหนิคนนั้นตำหนิคนนี้สารพัดที่จะนึกได้ แล้วก็นำมาพูดๆๆๆๆๆผ่านสื่อต่างๆ โดยหารู้ไม่ว่า ตัวเองกำลังประจานตัวเอง

...ประเทศไทยจงเจริญ....ไชโย....

จาก : นสพ.ธรรมลีลา

มิติแห่งจิต : ความฝันอันเหลือเชื่อ (ตอนที่ 5)
แม่วัวกินนมลูก
- สวน ทาง ธรรม -


ปกติแล้ว แม่ต้องเป็นผู้ให้นมแก่ลูก แต่ความฝันนี้กลับเป็นว่า แม่วัวกินนมลูกเสียเอง ซึ่งทำนายว่าต่อไปในภายภาคหน้า ลูกหลานจะไม่เชื่อฟังพ่อแม่ญาติผู้ใหญ่ ความเคารพยำเกรงผู้เฒ่าผู้แก่จะไม่มี พ่อแม่ที่แก่เฒ่าจำเป็นต้องพึ่งพาลูกๆ จึงต้องยอมงอนง้อขออาศัยพวกลูกหลานกินกันตายไปวันๆ
ในสมัยปัจจุบัน เราๆท่านๆก็เห็นกันอยู่แทบจะไม่ต้องอธิบายก็ได้ว่าเด็กสมัยนี้ส่วนมากเป็นอย่างไร การแต่งตัว การเที่ยวเตร่ คำพูดคำจา ตลอดจนความประพฤติต่างๆ
ถ้าผู้ใหญ่สมัยก่อนได้เห็น คงจะเป็นลมวันละหลายสิบครั้ง แต่จะโทษเด็กๆสมัยนี้ทั้งหมดก็ไม่ถูก ที่ถูกควรจะมองที่พ่อแม่มากกว่า เพราะพ่อแม่ในยุคปัจจุบันเป็นคนในยุคของเทคโนโลยีที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงพยายามเลี้ยงดูลูกๆให้ทันยุคทันสมัยกับวิวัฒนาการที่รุดหน้าของวัตถุ
แม้แต่ตัวของพ่อแม่เองก็กำลังวิ่งตามความก้าวหน้าของวัตถุด้วยเช่นกัน
เมื่อทุกคนพยายามวิ่งตาม วัตถุ อย่างเอาเป็นเอาตาย เรื่องของจิต จะเป็นอย่างไร!
พ่อแม่จำเป็นต้องวิ่งตามวัตถุให้ทัน เพื่อนำมาสนองความต้องการของตัวเองและลูกๆ เวลาสำหรับที่จะวิ่งตามดูจิต (ตามดูจิตวิ่ง)จึงแทบไม่มี แล้วจะรู้จิตของตัวเองได้อย่างไร! ในเมื่อ จิต ของตัวเองยังไม่รู้ แล้วจะสอนลูกเรื่องจิตได้อย่างไร!
เด็กสมัยนี้จึงรู้แต่เรื่องราวของวัตถุเพียงอย่างเดียว ส่วนเรื่องของ "จิต" ถือเป็นเรื่องล้าสมัยไร้สาระ จิตใจของเด็กจำนวนมากจึงมีแต่วัตถุ และบางคนมองพ่อแม่เหมือนเครื่องจักรสำหรับผลิตลูก
ยุคสมัยย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามกฎของพระอนิจจัง ทั้งวัตถุทั้งจิตใจของคนก็ต้องเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมดา ส่วนจะเปลี่ยนไปในทางดี หรือทางไม่ดี ก็อยู่ที่องค์ประกอบต่างๆของสังคม
ถ้าสังคมใดประกอบด้วย"ธรรม" เป็นหลัก ผู้คนในสังคมนั้นย่อมมีความเป็นอยู่อย่างผาสุข
ถ้าสังคมใดไร้ "ธรรม" ผู้คนในสังคมนั้นก็จะมีแต่ความเห็นแก่ตัว และเต็มไปด้วยความวุ่นวาย
หากเราพิจารณาให้ดีก็จะเห็นว่าสังคมทุกสังคมในปัจจุบัน มักจะเน้นเรื่องวัตถุเป็นสำคัญ เรื่องของ"จิต" และ "ใจ" จึงห่างจากธรรม กลายเป็นสังคมที่มีวัตถุอยู่เหนือจิตใจ
โดยเฉพาะเด็กวัยรุ่นยุคใหม่ มีเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ที่สนใจใฝ่รู้ เรื่องศีล เรื่องธรรม เมื่อเด็กยุคนี้ไม่รู้เรื่องธรรม แล้วจะรู้เรื่องความกตัญญู บาป บุญ คุณ และโทษได้อย่างไร!
พ่อแม่สมัยนี้จึงต้องทำใจที่ลูกๆของตนไม่รู้เรื่องบุญคุณ เรื่องความกตัญญูต่อผู้เฒ่าผู้แก่ ยามที่พ่อแม่แก่ชราจึงจำเป็นต้องอ้อนวอนงอนง้อขออาศัยให้ลูกๆเลี้ยงดูตน
เปรียบเสมือนแม่วัวดูดนมลูกวัวฉะนั้นฯ

จาก : นสพ.ธรรมลีลา

มิติแห่งจิต : ความฝันอันเหลือเชื่อ (ตอนที่ 6)
ควั่นเชือกหนังให้หมาแทะ
- สวน ทาง ธรรม -


ฝันว่ามีชายผู้หนึ่งกำลังนั่งควั่นเชือกหนังอยู่โดยเชือกหนังนั้นยาวขึ้นเรื่อยๆ และปลายของเชือกห้อยอยู่ใต้แคร่แต่ไม่แตะพื้นเพราะมีหมาตัวหนึ่งนอนแทะปลายเชือก ชายควั่นเชือกก็ไม่รู้ว่าหมากำลังแทะเชือกของตน

ฝันข้อนี้ทำนายว่า ต่อไปภายภาคหน้าภรรยาจะนอกใจสามี และนำทรัพย์สินของสามีไปบำเรอชายอื่น จะประพฤติตนผิดศีลผิดธรรม ทั้งยังมองว่าประเพณี และวัฒนธรรมเป็นสิ่งล้าสมัย จึงเอาแต่ใจตนเองเป็นใหญ่ และยังคิดว่าทุกคนไม่ว่าหญิงหรือชายล้วนมีสิทธิเสมอภาคกัน ใครจะทำอะไรย่อมมีเสรีภาพที่จะทำได้ จึงเอาแต่แต่งตัวเที่ยวเตร่เฮฮา กินเหล้าเมายา สนุกสนาน การบ้านการเรือนไม่สนใจ ถูกใจชายใดก็ตกลงง่ายๆโดยไม่กลัวว่าสามีของตนจะรู้ หรือภรรยาของหญิงอื่นจะรู้ ถือว่าเป็นเรื่องของความพอใจแห่งตน คนอื่นๆไม่มีสิทธิ์ก้าวก่าย หากชายใดสามารถทำให้ตนพอใจได้ในเรื่องของกาม ภรรยาผู้นอกใจสามีก็จะประเคนให้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะต้องการทรัพย์สินเงินทองทั้งของตนหรือของสามี

คำทำนายในข้อนี้ล้วนมีให้เห็นมากมายในยุคปัจจุบัน และยังจะมีให้เห็นอีกต่อไปในอนาคต ซึ่งอันที่จริงแล้วจะโทษฝ่ายหญิงเพียงฝ่ายเดียวย่อมไม่ยุติธรรม เพราะทั้งหญิงทั้งชายต่างก็มีกิเลสอยู่ในใจกันทุกคน ส่วนกิเลสของใครจะมีมากหรือมีน้อยนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ในเมื่อใจของคนล้วนมีกิเลสคือความโลภ ความโกรธและความหลงเหมือนกันจึงย่อมทำให้ประพฤติตนขัดต่อศีล ขัดต่อธรรมได้เหมือนๆกัน ซึ่งน่าจะถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ปุถุชน และถ้าจะมองในแง่มุมของธรรมะ เกี่ยวกับการที่หญิงจะนอกใจสามีนั้น ส่วนหนึ่งย่อมเกี่ยวกับเรื่องของวิบากด้วย
เหตุที่วิบาก ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยก็เพราะวิบาก คือผลของกรรมกำหนดว่าการกระทำใดๆก็ตามในอดีต ย่อมส่งผลคือ วิบาก เพื่อให้ทุกคนต้องได้รับผลของการกระทำทุกอย่างในอดีต ไม่ว่าจะทำดี หรือทำชั่ว
ผลของกรรมคือ วิบาก มีหน้าที่ ดลใจให้ทุกคนทั้งหญิงและชายตัดสินใจทำสิ่งต่างๆตามแต่วิบากของตน ทั้งทำความดีและความชั่วโดยไม่ลังเล ทำดีจิตใจก็เบาสบาย ทำชั่วจิตใจก็เป็นทุกข์
วิบากจะเป็นผู้กำหนดชีวิตทุกชีวิตว่าใครจะสบาย ใครจะลำบาก การที่หญิงใดประพฤตินอกใจสามีนั้นส่วนหนึ่งย่อมเป็นผลมาจากการกระทำในอดีตของทั้งสองฝ่ายและวิบากได้ตามมาส่งผลในปัจจุบัน จะกล่าวโทษเฉพาะฝ่ายหญิงเพียงฝ่ายเดียวย่อมไม่เป็นธรรม ถ้าจะมองอย่างยุติธรรมแล้วจะเห็นว่าฝ่ายชายนั่นแหละที่ประพฤตินอกใจภรรยามากกว่าฝ่ายหญิงหลายเท่านัก แต่กลับไม่ถูกสังคมตราหน้าว่าชั่วช้าเลวทราม บางสังคมกลับยกย่องด้วยซ้ำไป
ทั้งหญิงทั้งชายล้วนเป็นปุถุชนคนธรรมดา การประพฤติในเรื่องของกาม ย่อมต้องมีอยู่เป็นธรรมดาจะมัวกล่าวโทษกันอยู่ทำไม ควรจะช่วยกันแนะนำให้หันมาสนใจใฝ่รู้ในเรื่องของ ธรรม น่าจะดีกว่า
การทำชั่ว ผลของการกระทำย่อมไม่ดีอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะอยากได้หรือไม่อยากได้รับผล
การทำดี ผลของการกระทำย่อมดีอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะอยากได้หรือไม่อยากได้รับผล
วิบากก็ยังทำหน้าที่อย่างเที่ยงตรง โดยไม่แคร์ว่าจะเป็นลูกเขาเมียใคร!
กฎแห่งกรรมยังคงศักดิ์สิทธิ์เสมอ

จาก : นสพ.ธรรมลีลา

มิติแห่งจิต : ความฝันอันเหลือเชื่อ (ตอนที่ 7)
โคน้อยไม่ไถนา
- สวน ทาง ธรรม -


ฝันว่าชาวนาไม่นำควายใหญ่มาไถนา แต่กลับให้ควายเด็กๆตัวเล็กๆมาไถแทน ควายเด็กๆ มันไถไม่เป็น ก็เลยไม่ยอมไถนา ข้าวกล้าจึงหว่านไม่ได้

ทำนายว่า ต่อไปภายภาคหน้า ผู้ที่จะมาปกครองบริหารบ้านเมืองจะไม่ตั้งอยู่ในธรรม จะปกครองประเทศชาติตามอำเภอใจของตน ซึ่งเป็นจิตใจที่ไร้ศีลและไม่รู้ธรรม ข้าราชการที่มีความรู้ความสามารถ ซื่อสัตย์ขยันขันแข็ง มักจะไม่ได้รับการเหลียวแล พวกประจบสอพลอเลียแข้งเลียขา พากันก้าวหน้ามีตำแหน่งใหญ่โตกันเป็นแถว

แผล็บๆ แผล็บๆ...

เสียงนี้กำลังดังไปทั่วทุกหัวระแหง โดยเฉพาะสถานที่ราชการ พวกข้าราชการป๋องแป๋งทั้งหลายที่มีลิ้นไว้สำหรับเลีย เริ่มทำหน้าที่อย่างขะมักเขม้น ยิ่งเลียมากเท่าไหร่ ยิ่งชำนาญมากเท่านั้น โอกาสที่จะได้ดิบได้ดีก็ยิ่งมีมากขึ้น ไอ้พวกป๋องแป๋งมันแสนรู้ มันจึงรู้ว่าพวกเจ้านายนั้นส่วนมากมักจะบ้ายอ ยิ่งยกยอปอปั้นมากเท่าใด พวกเจ้านายบ้ายอจะหน้าบานชอบอกชอบใจมากเท่านั้น ไอ้พวกป๋องแป๋งมันก็มีคู่แข่งที่ฝีมือสูสีกับมันอยู่เหมือนกัน คือพวกไอ้ขุน ชื่อเต็มของไอ้ขุนคือ ขุนพลอยพยัก นามสกุลเดิมคือ "กุมเป้า" แต่เปลี่ยนใหม่เป็น"ครับผม" ยังไม่รู้เลยว่า ระหว่างพวกขี้ข้าป๋องแป๋งกับพวกไอ้ขุนพลอยพยัก ใครจะเหนือชั้นกว่ากัน และไอ้พวกเจ้านายป๋อมแป๋มมันจะติดอกติดใจแบบเลีย หรือแบบกุมเป้า

ด้วยเหตุที่ ทั้งเจ้านายและขี้ข้าต่างก็ชอบของปลอม สำหรับเอาไว้ย้อมกิเลสตัวเท่านั้น จึงไม่รู้ว่า ของจริงคือสัจจะ นั้นเป็นอย่างไร สามารถนำมาพัฒนาประเทศชาติได้ดีแค่ไหน! ในเมื่อตัวเองยังพัฒนาไม่ได้ แล้วจะพัฒนาประเทศชาติได้อย่างไร ไม่สงสารประเทศชาติกันบ้างหรือ?

พะเน้าพะนอ พอพะเนิน เพลินพล่าม
หงุดหงิดง่าน งุ่มง่าม งอโง้ง
เกี่ยวก้อยกัน โก่งก้าม กูเก่ง โกงกิน
คับแคบ คิดคดโค้ง ควรคู่ ครองเมือง...?

จาก : นสพ.ธรรมลีลา

มิติแห่งจิต : ความฝันอันเหลือเชื่อ (ตอนที่ 8)
ม้ามีสองปาก
- สวน ทาง ธรรม -


ฝันว่า ม้าตัวหนึ่งมีหัวเดียวแต่กลับมีสองปาก เวลากินหญ้าก็กินทั้งสองปาก เหมือนม้าที่มีปากเดียวทั้งหลาย
ฝันข้อนี้ทำนายว่า ต่อไปในภายภาคหน้า ประเทศชาติจะถูกปกครองโดยคนไร้ศีลธรรมปัญญาน้อย แต่มีทรัพย์และขี้ข้าบริวารที่โง่จำนวนมาก ทั้งๆ ที่บริวารนั้นโง่เง่าเอาแต่ได้ไม่รู้จักพอ กลับได้รับตำแหน่งให้ดูแลบ้านเมือง ประเทศชาติแย่ลงแต่พวก บริวารโง่ๆ เหล่านั้นกลับรวยเอาๆ ทั้งส่วยทั้งสินบน ไม่เคยปฏิเสธ รับไม่อั้น (ไม่เกี่ยวกับข้าราชการที่ดี) เราท่านทั้งหลายที่ไม่ได้รับราชการต่างก็เคยได้พบประสบมากับตาตัวเองกันแล้ว แม้แต่ข้าราชการที่ดีเองก็รู้และเห็นอยู่ตำตาทุกวันในหน่วยงานของตน แต่พูดไม่ได้ บางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับคดีความ เจ้าหน้าที่เลวๆ เรียกรับเงินทั้งสอง ฝ่าย

ดูไปแล้วไม่ต่างอะไรกับม้ามีสองปากที่กินหญ้าทั้งสองปากอย่างเอร็ดอร่อย!!
บริวารเลวจำนวนมากไม่พอใจเพียงตำแหน่งเดียวก็นั่งถ่างควบสองสามตำแหน่งบริวาร บางคนไปเป็นประธานบริษัทห้างร้านช่วยหลบเลี่ยงภาษีและป้องกันการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ตัวเล็กๆ ที่ปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
ยิ่งเขียนยิ่งยาว ยิ่งเหมือนกล่าวโทษผู้อื่น พอแค่นี้ก่อนดีกว่า เดี๋ยวจะไม่ได้เขียนฝันข้ออื่น สดชื่นครับเมืองไทย.....ฯ

จาก : นสพ.ธรรมลีลา

มิติแห่งจิต : ความฝันอันเหลือเชื่อ (ตอนที่ 8)
ม้ามีสองปาก
- สวน ทาง ธรรม -


ฝันว่า ม้าตัวหนึ่งมีหัวเดียวแต่กลับมีสองปาก เวลากินหญ้าก็กินทั้งสองปาก เหมือนม้าที่มีปากเดียวทั้งหลาย
ฝันข้อนี้ทำนายว่า ต่อไปในภายภาคหน้า ประเทศชาติจะถูกปกครองโดยคนไร้ศีลธรรมปัญญาน้อย แต่มีทรัพย์และขี้ข้าบริวารที่โง่จำนวนมาก ทั้งๆ ที่บริวารนั้นโง่เง่าเอาแต่ได้ไม่รู้จักพอ กลับได้รับตำแหน่งให้ดูแลบ้านเมือง ประเทศชาติแย่ลงแต่พวก บริวารโง่ๆ เหล่านั้นกลับรวยเอาๆ ทั้งส่วยทั้งสินบน ไม่เคยปฏิเสธ รับไม่อั้น (ไม่เกี่ยวกับข้าราชการที่ดี) เราท่านทั้งหลายที่ไม่ได้รับราชการต่างก็เคยได้พบประสบมากับตาตัวเองกันแล้ว แม้แต่ข้าราชการที่ดีเองก็รู้และเห็นอยู่ตำตาทุกวันในหน่วยงานของตน แต่พูดไม่ได้ บางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับคดีความ เจ้าหน้าที่เลวๆ เรียกรับเงินทั้งสอง ฝ่าย
ดูไปแล้วไม่ต่างอะไรกับม้ามีสองปากที่กินหญ้าทั้งสองปากอย่างเอร็ดอร่อย!!
บริวารเลวจำนวนมากไม่พอใจเพียงตำแหน่งเดียวก็นั่งถ่างควบสองสามตำแหน่งบริวาร บางคนไปเป็นประธานบริษัทห้างร้านช่วยหลบเลี่ยงภาษีและป้องกันการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ตัวเล็กๆ ที่ปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
ยิ่งเขียนยิ่งยาว ยิ่งเหมือนกล่าวโทษผู้อื่น พอแค่นี้ก่อนดีกว่า เดี๋ยวจะไม่ได้เขียนฝันข้ออื่น สดชื่นครับเมืองไทย.....ฯ

จาก : นสพ.ธรรมลีลา


มิติแห่งจิต : ความฝันอันเหลือเชื่อ (ตอนที่ 10)
ริมสระใส ใจกลางขุ่น
- สวน ทาง ธรรม -


ฝันว่าเห็นสระน้ำแห่งหนึ่ง มีฝูงสัตว์จำนวนมากพากันลงกินน้ำตามริมตลิ่ง แต่น้ำบริเวณริมตลิ่งกลับใสสะอาด ส่วนตรงกลางสระซึ่งมีน้ำลึกกลับขุ่นข้น ทั้งๆที่ไม่มีสัตว์ลงไปเหยียบย่ำ ทำนายว่า
ต่อไปในภายภาคหน้า คนดีจะหนีไปอยู่ป่า คนบ้าจะครองเมือง ผู้มีอำนาจ ปกครองบ้านเมืองจะไร้ศีลไร้คุณธรรม จะเป็นคนบ้ายศบ้าอำนาจ คิดแต่จะกอบโกย ผลประโยชน์เพื่อตัวเองและพวกพ้อง ไม่สนใจความทุกข์ยากของอาณาประชาราษฎร์ ทั้งยังกดขี่รีดไถทุกวิถีทาง จนสุจริตชนคนดีพากันหนีไปอาศัยอยู่ตามชนบท ปล่อยให้ผู้ปกครองบ้านเมืองที่ไร้คุณธรรมย่ำยีบ้านเมืองกันตามสบาย เหมือนสระน้ำที่ ขุ่นข้นตรงกลางสระ ส่วนริมสระกลับใสสะอาด
ปัจจุบันในเมืองหลวงของทุกประเทศล้วนขุ่นข้นเต็มไปด้วยควันพิษที่เกิดจากท่อไอเสียของรถยนต์ จนแทบจะกลายเป็นเมืองในหมอกอยู่แล้ว ไหนจะร้านอาหาร ขายเหล้าขายเบียร์ บาร์ ผับ อาบอบนวด สนามม้า สนามมวย ฯลฯ อีกมากมายที่ก่อให้เกิดมลภาวะทางจิตใจ แล้วยังต้องเห็นผู้มีอำนาจปกครองบ้านเมืองโดยไร้ธรรม คนที่มีความคิดจึงพากันทยอย อพยพไปอาศัยอยู่ตามชนบทมากขึ้นทุกวัน ดังที่เราๆ ท่านๆ ก็ได้เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน

จาก : นสพ.ธรรมลีลา


มิติแห่งจิต : ความฝันอันเหลือเชื่อ (ตอนที่ 11)
ข้าวสามกษัตริย์
- สวน ทาง ธรรม -


ฝันว่าหุงข้าวสุกแล้วปรากฏว่ามีข้าวที่สุกดีเพียงหนึ่งส่วน อีกสองส่วนนั้นดิบ หนึ่งส่วนแฉะหนึ่งส่วนอยู่ในหม้อใบเดียวกัน ทำนายว่า
ต่อไปในภายภาคหน้า ผู้มีอำนาจปกครองบริหารราชการแผ่นดินจะปราศจากคุณธรรมไร้ศีลไร้สัจจะ โกหกตอแหล ทำทุกอย่างให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินเงินทอง เพื่อตัวเองและพวกพ้องบริวาร ประเทศชาติจะล่มจมอย่างไรไม่เคยคำนึง แม้แต่ชาวไร่ชาวนา พ่อค้าข้าราชการก็จะพากันแสวงหาเงินตรากันอย่างเอาเป็นเอาตาย ขอให้ได้มาไม่ว่าโดยวิธีใด ผิด ถูก ไม่สำคัญ ขอเพียงให้ฉันได้มันมา อีกทั้งสมณะชีพราหมณ์บางจำพวกรวมทั้งเทวาอารักษ์ทุกหมู่เหล่าก็จะพลอยเป็นไปกับเขาด้วย คือไม่ตั้งตนอยู่ในศีล ในธรรม จึงคิดและทำคล้ายกับคนทั่วๆไป มีแต่ความโลภโมโทสัน หลงติดในวัตถุ สิ่งของทั้งหลายที่เป็นสิ่งสมมติ ดินฟ้าอากาศก็พลอยวิปริตผิดธรรมชาติเกิดพายุร้าย ไฟไหม้ น้ำท่วม ดังปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เราท่านได้เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน เช่น ความร้อนอันเกิดจากสภาวะเรือนกระจก ทั้งปรากฏการณ์ ลานีญ่า และ เอลนีโญ่ ซึ่งสร้างความเสียหายให้แก่มวลมนุษย์มากมายมหาศาล ทั้งยังทำให้ภาคการเกษตรของเกือบทุกประเทศในโลกเสียหาย ผลิตผลต่างๆ จึงได้บ้างเสียบ้าง เหมือนดั่งข้าวสามกษัตริย์ ฉะนั้นแล

จาก : นสพ.ธรรมลีลา


มิติแห่งจิต : ความฝันอันเหลือเชื่อ (ตอนที่ 12)
แก่นจันทน์แลกนมบูด
- สวน ทาง ธรรม -


ฝันว่าผู้คนมากมายพากันนำแก่นจันทน์ที่เป็นไม้หอม ซึ่งนำมาใช้ทำยาและปรุงเครื่องหอม อันมีราคาแพงไปแลกกับนมบูด ทำนายว่า ต่อไปในภายภาคหน้า ลูกชาวบ้านที่โกนผมห่มเหลืองเพื่อบวชเป็นภิกษุในพุทธศาสนา จะพากันนำพระธรรมคำสอนออกแสดงเพื่อลาภสักการะ หวังเพียงเฉพาะอามิส โดยไม่คิดที่จะศึกษาพระธรรมคำสอนเพื่อความวิมุติหลุดพ้นแต่อย่างใด ทั้งๆที่ลาภสักการะทั้งหลายเปรียบได้กับนมบูด กลับพากันแก่งแย่งแสวงหา ส่วนพระธรรมคำสอนนั้นมีค่ามหาศาลกลับไม่สนใจ

ในพระธรรมคำสอนนั้นแบ่งบุคคลไว้สามจำพวกคือ พวกที่รู้จริง พวกที่ไม่รู้อะไรเลย และพวกที่รู้บ้างไม่รู้บ้างคือรู้ครึ่งๆกลางๆ

ในหมู่ภิกษุสงฆ์ก็เช่นกัน ที่รู้จริงคือครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ที่ไม่รู้อะไรเลยคือภิกษุบวชใหม่ ซึ่งไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด แต่ที่เป็นปัญหาก็คือพวกที่รู้ครึ่งๆกลางๆนั่นแหล่ะ รู้ธรรมเพียงส่วนหนึ่งกลับคิดว่ารู้แจ้งแทงตลอดทั้งแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์ โดยหารู้ไม่ว่าตนเองกำลังอยู่ในสภาวะที่ "ไม่รู้" แล้วยังนำธรรมะออกแสดงเพื่อแสวงหาลาภสักการะ ส่วนพวกที่รู้ว่าตัวเอง "ไม่รู้" ยังดีกว่า เพราะยัง "รู้" ว่าตัวเอง "ไม่รู้"

ญาติโยมทั้งหลายก็คงเคยเห็น เคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับภิกษุที่นำพระธรรมออกขายกินกันมาบ้างไม่มากก็น้อย ความรู้สึกที่ได้พบได้เห็นจะเป็นอย่างไรคงไม่ต้องอธิบาย

เอาเวลาไปนั่งดูลมหายใจดีกว่า.....

จาก : นสพ.ธรรมลีลา


มิติแห่งจิต : ความฝันอันเหลือเชื่อ (ตอนที่ 13)
หินหนักลอยน้ำ
- สวน ทาง ธรรม -


ฝันว่าหินก้อนใหญ่มหึมาน่าจะจมน้ำ แต่กลับลอยน้ำได้ คำทำนายข้อนี้ ยังคงเป็นเรื่องราวของผู้ปกครองบ้านเมืองเหมือนฉบับที่แล้วๆมา คือ ผู้ปกครองไม่ตั้งอยู่ในธรรม เมื่อไม่ตั้งอยู่ในธรรมจึงไม่รู้จัก

 

ขยันพิมพ์จัง อิอิ