มารู้จักการทำนมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ตกันดีกว่า

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>

[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]มารู้จักการทำนมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ตกันดีกว่า

[/FONT]
​

</TD></TR><TR><TD>[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]นมเปรี้ยวหรือที่คนไทยเรียกติดปากว่า “โยเกิร์ต” นั้น เป็นผลิตภัณฑ์นมชนิดหนึ่ง ซึ่งทำโดยการเติมเชื้อจุลินทรีย์ (ชนิดที่พบได้ตามปกติในทางเดินอาหารของคน) ลงไปในนมสด
โยเกิร์ตแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ โยเกิร์ตชนิดครีม และโยเกิร์ตชนิดพร้อมดื่ม
1. โยเกิร์ตชนิดครีม (Yogurt) จะประกอบด้วยนมโค และเชื้อจุลินทรีย์โยเกิร์ต

2. โยเกิร์ตพร้อมดื่ม (Drinking yogurt) จะประกอบด้วยนมโค น้ำเชื่อม น้ำตาล น้ำผลไม้ และเชื้อ
จุลินทรีย์โยเกิร์ตคุณค่าของโยเกิร์ตมาจากส่วนผสมที่เรียกว่า จุลินทรีย์โยเกิร์ต นั่นเอง เชื้อเหล่านี้เป็นเชื้อที่ยังมีชีวิตอยู่ในโยเกิร์ตทั่วไป คือ แล็กโตบาซิลลัส บุลการิคัส (Lactobacillus bulgaricus) และ สเตร็ปโตค็อกคัส เทอร์โมพิลัส (Streptococcus thermophilus) ซึ่งเปลี่ยนน้ำตาลแล็กโทสในนมให้เป็นกรดแล็กติก อันมีผลให้นมเปรี้ยว
นอกจากนี้ยังพบว่า เชื้อจุลินทรีญ์โยเกิร์ตยังสามารถอยู่ในระบบทางเดินอาหารได้ ทำให้ภาวะภายในลำไส้ดีและป้องกันการติดเชื้อ โยเกิร์ตบางยี่ห้อมีการเติมเชื้อบิฟิดัสลงไปด้วย ซึ่งเชื้อตัวนี้คือ บิฟิโดแบกทีเรียม บิฟิดัม(Bifidobacterium bifidum)ซึ่งปกติพบอยู่ในทางเดินอาหารของทารก


ทำโยเกิร์ตกินเองได้ง่ายจัง
หลายคนอาจจะชอบกินโยเกิร์ต โดยที่ไม่รู้ว่าโยเกิร์ตที่กินนั้นผ่านกระบวนการโดยมีเชื้อจุลินทรีย์ตัวที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษย์ คือแบคทีเรียสายพันธุ์ต่าง ๆ เป็นตัวทำให้นมเปรี้ยวและจับตัวกันเป็นลิ่มนม ซึ่งจุลินทรีย์ดังกล่าวจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
ถ้าหากใครอยากจะทำโยเกิร์ตกินเองภายในบ้าน ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย วิธีทำนั้นง่ายมาก แต่ว่าทำแล้วต้องมีคนช่วยกินด้วยหลาย ๆ คนจึงจะสนุก หรือถ้าทำกินเองจนเกิดความชำนาญอาจพัฒนาไปเป็นอาชีพเสริมเล็ก ๆ น้อย ๆ โดยทำโยเกิร์ตขายในหมู่เพื่อน ๆ คนสนิทก็ย่อมได้


วิธีทำ
นำนมสดยูเอชทีที่คุณชอบ(รสหวานหรือรสจืดก็ได้) ขนาด 1 ลิตรมาต้มด้วยไฟปานกลางจนเดือด แล้วยกลงจากเตาวางทิ้งไว้จนนมเย็น แล้วจึงใส่โยเกิร์ตรสธรรมชาติ (ไม่มีผลไม้อื่น ผสม) ที่ซื้อมาจากร้านค้านั่นแหละลงไปคนกับนมสดจนเข้ากัน จากนั้นเทแบ่งใส่ภาชนะ (ถ้วย, แก้ว หรืออื่น ๆ .) ที่มีผาปิด วางทิ้งไว้นอกตู้เย็น 1 คืนแล้วลองชิมดู ถ้าหากยังไม่เปรี้ยวถูกใจ ก็อาจวางไว้อีกสักประมาณ 2-3 ชั่วโมง ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้ได้ แล้วจึงค่อยนำเข้าตู้เย็น เวลากินจึงใส่ผลไม้ หรือ ธัญพืชที่ชอบลงไป โยเกิร์ตที่ทำนี้สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ 2-3 วัน
สำหรับผู้ที่กินโยเกิร์ตเป็นประจำทุกวัน โยเกิร์ตที่ทำไว้นี้ ส่วนหนึ่งสามารถเก็บเอาไว้เป็นหัวเชื้อในครั้งต่อไปได้อีก และเมื่อทำใหม่ โยเกิร์ตที่ได้ก็ทำเป็นหัวเชื้อได้อีกต่อไปเรื่อย ๆ พูดง่าย ๆ ว่า ลงทุนซื้อโยเกิร์ตสำเร็จรูปเพียง 1 ถ้วยในครั้งแรกแล้วไม่ต้องซื้ออีกเลย ยังไง ๆ ทำกินเองก็ถูกสตางค์ดีกว่าซื้อเค้ากินแน่นอน
[/FONT]
</TD></TR></TBODY></TABLE>

ที่มา : horapa.com