มายาศาสตร์ลึกลับแห่งดินแดนทิเบต

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย อินเดียหน้าโจร, 15 เมษายน 2005.

  1. อินเดียหน้าโจร

    อินเดียหน้าโจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    226
    ค่าพลัง:
    +259



    บทนำ

    นับวันชาวโลกต่างกำลังลืมเรื่องราวในอดีตของทิเบตไปทุกขณะ แม้ว่าชาว
    ทิเบตจะได้สิ้นชาติไปแล้ว แต่เรื่องราวลึกลับเกี่ยวกับทิเบตที่ได้ชื่อว่าเป็นดิน
    แดนต้องห้าม โดยเฉพาะทางด้านมายาศาสตร์ มหัศจรรย์อยู่เหนือกฎเกณฑ์
    ทางธรรมชาตินั้น ยังเป็นสิ่งที่ท้าทายความคิดและน่าสนใจสำหรับผู้ใฝ่รู้อยู่
    เสมอ การผจญภัยต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงของนักบวชหญิงคนหนึ่งนามว่า มา
    ดามอเล็กซานดรา เดวิด นีล ผู้ซึ่งใช้เวลาเกือบ 20 ปี แอบเดินทางเข้าไปใน
    ทิเบตเพื่อพิชิตมายาศาสตร์ลึกลับของทิเบตในช่วงก่อนที่ทิเบตจะตกอยู่ภาย
    ใต้การปกครองของจีนและยังเป็นประเทศปิดอยู่ครับ
    [​IMG]
    มาดาม อเล็กซานดรา เดวิด นีล
    </O:p
    การเชิญวิญญาณออกจากร่างแบบพิศดาร

    ตามบันทึกของมาดาม อเล็กซานดรา กล่าวไว้ว่ามีละมะทิเบตบางรูปสามารถ
    เชิญวิญญาณออกจากร่างได้ เพียงแค่ร้องเสียงแหลมเล็กว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 เมษายน 2005
  2. อินเดียหน้าโจร

    อินเดียหน้าโจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    226
    ค่าพลัง:
    +259
    ศพเดินได้<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    มีพิธีกรรมอันแปลกประหลาดพิสดารอย่างหนึ่ง เรียกว่าโรแลง
    ซึ่งแปลว่าศพลุกขึ้นยืนได้พงศาวดารโบราณที่กล่าวถึงเรื่องราว
    ของศพเดินได้นี้ เกิดขึ้นก่อนสมัยพุทธกาลในทิเบตพิธีนี้กระทำ
    โดยหมอผีชาวชามันบอนโพ ในระหว่างที่มีการทำบุญก่อนจะนำ
    ศพไปป่าช้า<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    โรแลงนั้นมีหลายประเภทแตกต่างกันไป บางประเภทก็ทำให้
    วิญญาณคนหนี่งไปสิงอยู่ในซากศพของอีกคนหนึ่ง หรือไม่ก็
    ทำให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้การกระทำพิธีผู้ประกอบพิธีจะต้องปิด
    ประตูขังตนเองอยู่กับศพในห้องที่มืดมิด วิธีที่จะทำให้ศพฟื้น
    ขึ้นมาได้นั้น ในขั้นแรกหมอผีจะนอนทาบศพที่นอนอยู่ แล้วใช้
    ปากจูบปากศพจนแนบสนิท ขณะที่กอดศพอยู่นั้น ต้องร่ายเวท
    มนตร์คาถาภายในใจตลอด แล้วค่อยๆกำหนดสมาธิจดจ่ออยู่กับ
    ร่างศพนั้นจนเด่นชัดเพียงชั่วครู่ศพก็จะค่อยๆเคลื่อนไหวยันกาย
    ลุกขึ้น จากนั้นก็จะพยายามวิ่งหนี หมอผีที่ประกอบพิธีก็จะต้อง
    กอดรัดศพนั้นไว้แน่น ในตอนนี้ศพก็จะดิ้นรนสุดขีด เพื่อให้หลุด
    พ้น ถึงกับเกิดการต่อสู้กันอย่างดุเดือดมันจะจะแลงแปลงกายให้
    ร่างสูงใหญ่ขึ้น ลากหมอผีไปมาฝ่ายหมอผีก็ไม่ลดละ กลับเกาะกุม
    ไว้อย่างเหนียวแน่น พร้อมทั้งเร่งร่ายเวทมนตร์คาถากำกับทุกลม
    หายใจเข้าออกเลยทีเดียวในที่สุดศพนั้นก็จะอ้าปากและแลบลิ้น
    ออกมา ช่วงนี้แหละที่เรียกว่านาทีวิกฤต อันเป็นความต้องการของ
    หมอผี หมอผีจะต้องรีบกัดลิ้นปิศาจให้ขาดออกจากกัน แล้วศพนั้น
    จะล้มลงกองกับพื้นในทันที ในการปลุกผีจากศพนี้ หากหมอผีควบ
    คุมไม่ไหว ก็หมายความว่าหมอผีต้องถูกฆ่าตายในที่สุดนั่นเองส่วน
    ลิ้นที่หมอผีกัดออกมาได้นั้น หากนำไปตากแห้งก็จะกลายเป็นเครื่อง
    รางของขลังอันวิเศษสุด เป็นสมบัติอันล้ำค่าที่จะนำชัยชนะ อีกทั้ง
    ลาภสักการะมาสู่ผู้เป็นเจ้าของทุกประการ และนอกจากพิธีปลุกศพ
    ลุกขึ้นมาเต้นได้แล้ว ยังมีพิธีอื่นๆอีก ซึ่งชาวทิเบตเชื่อว่า หากศพที่
    เป็นปิศาจตนใดถูกปลุกขึ้นมาแล้วอาละวาดทันทีนั้นถือว่าเฮี้ยนมาก
    หากหมอผีสะกดไว้ไม่อยู่ มันจะออกเที่ยวเพ่นพ่านรังควานชาวบ้าน
    เรื่อยไป<O:p</O:p
     

แชร์หน้านี้

Loading...