พ้นทุกข์ได้หรือไม่อยู่ที่อารมณ์จิตของตนนี่แหละ

ขอน้อมกราบบูชาคุณพระรัตนตรัยเป็นสรณะที่พึ่งของลูกตลอดชีวิต กราบบูชาพระธรรมคำสอนสมเด็จองค์ปฐมบรมศาสดาและกราบบูชาพระคุณ พ่อแม่ครูบาอาจารย์ทุก ๆ พระองค์ ด้วยความเคารพยิ่ง

⚜️ พ้นทุกข์ได้หรือไม่อยู่ที่อารมณ์จิตของตนนี่แหละ⚜️

สมเด็จองค์ปฐม ทรงมีพระเมตตาตรัสสอนเรื่องนี้ไว้ดังนี้

✴️๑.#อย่าสนใจในกรรมของบุคคลอื่นให้มากไปกว่าการที่จักพยายามละกิเลสให้หมดไปจากจิตของตนเอง ให้เห็นตามความเป็นจริงว่า #การอยู่ในโลกนี้เป็นทุกข์ หาสุขจริง ๆ มิได้ ไม่ว่าชีวิตของเรา หรือชีวิตของใคร หากชีวิตนั้นทรงอยู่ในโลกทั้ง ๓ นี้ไซร้ หาสุขจริง ๆ ยังมิได้

✴️๒.#อย่าให้อารมณ์จิตของตนเองหลอกตนเองได้ เพราะการจักพ้นทุกข์ได้หรือไม่ ให้ดูสังโยชน์เป็นเครื่องร้อยรัดดวงจิตเป็นสำคัญ อย่าปฏิบัติโดยไม่รู้จักเครื่องกำหนด

✴️๓.ไม่ต้องไปติดสถานที่-เวลา-บุคคลทั่วไป ให้กำหนดรู้อารมณ์จิตตนสถานเดียวเท่านั้นเป็นพอ #เพราะธรรมทั้งหลายมีใจเป็นหัวหน้า #ทุกสิ่งสำเร็จที่ใจ #พ้นทุกข์ได้หรือไม่ก็อยู่ที่รู้อารมณ์จิตของตนนี่แหละ

✴️๔.#อย่าไปตำหนิการปฏิบัติของใคร เพราะบำเพ็ญบารมีธรรมได้ถึงไหน ก็รู้ได้แค่นั้น #ธรรมเป็นปัจจัตตัง พวกเจ้าก็รู้อยู่แล้ว เพียงแค่อย่าเผลอใจเผลอปากไปตำหนิใครเท่านั้นเป็นพอ

✴️๕.การติหลวงพี่ "วอ" ว่าเลว เพราะท่านพูดว่า อยู่วัดใหญ่โต แต่ท่านไม่ได้อะไรเลย ทั้ง ๆ ที่หลวงพ่อท่านให้ธรรมะวันละ ๔ เวลาทุกวัน ควรคิดในแง่ดีว่า ท่านไม่หลงตนเอง เพราะท่านยังตัดสังโยชน์ ๑๐ ประการ ยังไม่ได้หมด จะคิดว่าตนดี หรือได้ดีได้อย่างไร หากไปติท่าน ก็แสดงว่าเจ้าลืมตัว คิดว่าตนเองดีแล้ว #ทางที่ดีเจ้าควรติตนเองที่ไปสนใจจริยาของผู้อื่น โดยลืมไปว่า ตนเองก็ยังตัดสังโยชน์ได้ไม่หมด

✴️๖.ท่านผู้รู้จักประมาณตน ย่อมมีความไม่ประมาทอยู่ในตัว ต่อไปถ้าท่านไม่ละความเพียรเสียอย่างเดียว ความเป็นพระอริยเจ้าเบื้องสูง ย่อมเป็นไปได้ไม่ยาก #บุตรของตถาคตทุกคนพึงรู้จักประมาณตนเอาไว้เสมอ #อย่าตั้งจิตอยู่ในความประมาทและอย่าพึงละความเพียร บุตรของตถาคตเหล่านั้น ก็พึงถึงความเป็นพระอริยเจ้า #พ้นทุกข์ได้เข้าถึงพระนิพพานได้โดยไม่ยากเย็น เอาล่ะ #อย่าตำหนิใครอีกนะ

============================
ที่มาข้อธรรมคำสอนจากหนังสือ
ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่มที่ ๗ หน้าที่ ๑๐๖-๑๐๘
พระราชพรหมยานมหาเถระ หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
รวบรวมโดย : พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

️ผู้เขียนพิมพ์เผยแพร่เป็นธรรมทานโดย
Apinya Wongthong
♥️๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๖ ♥️