พ่อชาลีลูกรัก

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย รสมน, 3 กันยายน 2010.

  1. รสมน

    รสมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,451
    ค่าพลัง:
    +2,047
    พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย จตุกกนิบาต เล่มที่ ๓๕ - หน้าที่ ๓๖๓

    ๖. ปฐมกาลสูตร

    (ว่าด้วยกาล ๔)
    [๑๔๖] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กาล ๔ นี้ กาล ๔ เป็นไฉน? คือ

    กาเลน ธมฺมสฺสวน การฟังธรรมตามกาล

    กาเลน ธมฺมสากจฺฉา การสนทนาธรรมตามกาล

    กาเลน สมโถ สมถะตามกาล

    กาเลน วิปสฺสนา วิปัสสนาตามกาล

    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้แล กาล ๔.

    จบปฐมกาลสูตรที่ ๖


    อรรถกถาปฐมกาลสูตร

    พึงทราบวินิจฉัยในปฐมกาลสูตรที่ ๖ ดังต่อไปนี้ :-

    บทว่า กาลา คือกาลที่เหมาะที่ควร. บทว่า กาเลน ธมฺมสฺสวนได้แก่ การฟัง

    ธรรมในเวลาที่เหมาะที่ควร. บทว่า ธมฺมสากจฺฉา ความว่า การสนทนาที่เป็นไปด้วย

    อำนาจการถามและการตอบปัญหา.

    จบอรรถกถาปฐมกาลสูตรที่ ๖.
    พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย จตุกกนิบาต เล่มที่ ๓๕ - หน้าที่ ๓๖๔ - ๓๖๕

    ๗. ทุติยกาลสูตร

    (ว่าด้วยกาล ๔)
    [๑๔๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กาล ๔ นี้ อันบุคคลบำเพ็ญโดยชอบ ให้เป็น

    ไปตามลำดับโดยชอบอยู่ ย่อมจะยังบุคคลให้ถึงความสิ้นอาสวะโดยลำดับ กาล ๔

    เป็นไฉน? คือ การฟังธรรมตามกาล ๑ การสนทนาธรรมตามกาล ๑ สมถะตาม

    กาล ๑ วิปัสสนาตามกาล ๑
    นี้แลกาล ๔ อันบุคคลบำเพ็ญโดยชอบ ให้เป็นไปตาม

    ลำดับโดยชอบอยู่ ย่อมจะยังบุคคลให้ถึงความสิ้นอาสวะโดยลำดับ

    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนเมื่อฝนเม็ดหนาตกบนภูเขา น้ำไหลไป

    ตามที่ลุ่ม ยังซอกเขาและลำรางทางน้ำให้เต็ม ซอกเขาและลำรางทางน้ำเต็มแล้ว

    ย่อมยังหนองให้เต็ม หนองเต็มแล้ว ย่อมยังบึงให้เต็ม บึงเต็มแล้ว ย่อมยังคลองให้

    เต็ม คลองเต็มแล้ว ย่อมยังแม่น้ำให้เต็ม แม่น้ำเต็มแล้ว ย่อมยังทะเลให้เต็ม

    ฉันใด กาล ๔ นี้ เมื่อบุคคลบำเพ็ญโดยชอบ ให้เป็นไปตามลำดับโดยชอบอยู่

    ย่อมยังบุคคลให้ถึงความสิ้นอาสวะโดยลำดับ ฉันนั้นแล.

    จบทุติยกาลสูตรที่ ๗
    อรรถกถาทุติยกาลสูตร
    พึงทราบวินิจฉัยในทุติยกาลสูตรที่ ๗ ดังต่อไปนี้ :-

    บทว่า กาลา นั่น เป็นชื่อแห่งกุศลธรรมที่เป็นไปด้วยอำนาจการฟังธรรม

    เป็นต้นในกาลนั้น ๆ กาลเหล่านั้น จักแจ่มชัด และจักเป็นไป. บทว่า อาสวานํ ขยํ

    ได้แก่ พระอรหัตต์.

    จบอรรถกถาทุติยกาลสูตรที่ ๗.

    ข้อความโดยสรุป

    ปฐมกาลสูตร และ ทุติยกาลสูตร

    (ว่าด้วยกาล ๔)
    ทั้งสองพระสูตร ต่างเป็นพระธรรมเทศนาที่ว่าด้วยกาล ๔ ประการ เหมือนกัน

    กล่าวคือ ในปฐมกาลสูตร พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงแสดงว่า เวลาแห่งการเจริญ

    ขึ้นของกุศล หรือ การเจริญกุศลตามกาลอันเหมาะควร มีดังนี้ คือ

    การฟังธรรมตามกาล การสนทนาธรรมตามกาล การเจริญสมถะ(ความสงบของ

    จิต) ตามกาล การเจริญวิปัสสนา(ปัญญาที่เห็นอย่างแจ่มแจ้ง)ตามกาล

    แต่ในทุติยกาลสูตร พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงให้ยิ่งขึ้นไปว่า เมื่อเจริญกุศล

    ทั้ง ๔ ประการตามกาลแล้ว สามารถทำให้ถึงซึ่งความเป็นผู้สิ้นอาสวะ คือ บรรลุเป็น

    พระอรหันต์ ห่างไกลจากกิเลสโดยประการทั้งปวง.


    เอาบุญมาฝากวันนี้ได้ถวายสังฆทาน
    กรวดน้ำอุทิศบุญ เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน รักษาศีล อาราธนาศีล เจริญวิปัสสนา ปฏิบัติธรรม ถวายข้าวพระพุทธรูป ศึกษาธรรม
    ให้อาหารสัตว์เป็นทาน
    ทำงานบ้านช่วยพ่อแม่และเจริญอาโปกสิน ศึกษาการรักษาโรค
    และสร้างบารมีครบทั้ง 10 อย่าง ขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


    ร่วมถวายเครื่องกรองน้ำดื่มวัดบึงช้าง ต ไผ่ล้อม อ บางกระทุ่ม พิษณุโลก
    ขอเรียนเชิญท่านที่มีกุศลจิตร่วมถวายเครื่องกรองน้ำได้ที่บัญชีนี้ครับ

    ธ. กรุงเทพฯ สาขา เดอะ คริสตัล

    เลขบัญชีออมทรัพย์ 906-0-05959-0
    ชื่อบัญชี นายสมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล
     

แชร์หน้านี้

Loading...