พระโอวาทพระโพธิสัตว์กวนอิม บาปกรรมของการทำแท้ง

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย rinnn, 2 ตุลาคม 2006.

  1. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,025
    พระโอวาทพระโพธิสัตว์กวนอิม บาปกรรมของการทำแท้ง


    พระโอวาทพระโพธิสัตว์กวนอิม<o></o>
    เมตตาให้ประจักษ์ถึงบาปกรรมของการทำแท้ง<o></o>
    <o>
    </o>
    ความเจริญทางวัตถุในปัจจุบันเติบโตรวดเร็วอย่างเห็นได้ชัดแต่ทางตรงข้ามมโนธรรมสำนึกของมนุษย์กลับย่ำแย่ลงทุกวัน...<o></o>
    คนทุกวันนี้ต่างต้องเผชิญกับปัญหาหลายๆด้านจนทำให้ศีลธรรมอันเป็นสิ่งที่ดีงามในจิตใจของมนุษย์นั้นนับวันยิ่งเสื่อมถอยเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ผู้คนต่างหมางเมินไม่ได้ให้ความสำคัญในด้านคุณธรรมและศีลธรรมเท่ากับการดิ้นรนขวนขวายเพื่อปากท้องการทำมาหากินอย่างเดียวยังไม่ได้ช่วยชีวิตจิตญาณของเราให้พ้นไปจากความทุกข์อันระทมขมขื่นเมื่อชีวิตประสบปัญหาผลกระทบย่อมส่งไปถึงครอบครัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้...<o></o>
    เมื่อครอบครัวแตกร้าว ความรักความอบอุ่นความสุขในครอบครัวก็สูญสิ้นความรู้สึกเหงาและเดียวดายมาห้อมล้อมแทนที่เมื่อลูกๆขาดที่พึ่งจึงไปแสวงหาความรักความอบอุ่นนอกบ้านซึ่งล้วนเป็นความรักที่ฉาบฉวยไม่จริงใจจนในที่สุดพลาดพลั้งเกิดตั้งครรภ์ด้วยขาดสำนึกรับผิดชอบและความไม่พร้อมในการเลี้ยงดูจึงตัดสินแก้ปัญหาโดยการทำลายชีวิตทารกน้อยในครรภ์ด้วยการทำแท้ง...<o></o>
    สังคมในปัจจุบันกาทำแท้งนับวันยิ่งทวีจำนวพากขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มนักเรียนนักศึกษาวัยรุ่นมีการทำแท้งมากที่สุดอย่างน่าตกใจข่าวล่าสุดทางหน้าหนังสือพิมพ์ได้รายงานว่าขณะนี้ที่ประเทศญี่ปุ่นมีการทำแท้งทารกในครรภ์มากถึง 40 000 คนต่อปี..<o></o>
    ที่น่ากลัวไปกว่านั้นในประเทศอินเดียจากผลการศึกษาของทีมนักวิทยาศาสตร์ระบุอาจมีทารกเพศหญิงในอินเดียถูกทำแท้งมากถึง 10 ล้านคนในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา...<o></o>
    รายงานดังกล่าวเผยแพร่ในแลนเซ็ตวารสารทางการแพทย์อันโด่งดังของอังกฤษดร.ประพัทชฮาหัวหน้าทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยโตรอนโตระบุผลการประเมินแต่ละปีจะมีทารกเพศหญิงหายไป 5 แสนคนขณะที่สมาคมแพทย์อินเดียประเมินมีทารกอินเดียถูกทำแท้งปีละราว 5 ล้านคน<o></o>
    จากข้อมูลดังกล่าวบ่งบอกถึงสภาวะทางจิตใจที่ขาดเมตตาธรรมของผู้คนในสมัยนี้ซึ่งบุคคลเหล่านั้นหารู้ว่ากว่าจะได้เกิดกายเป็นมนุษย์นั้นโอกาสมีเพียงน้อยนิดดังที่ครั้งหนึ่งพระสารีบุตรเคยทูลถามพระพุทธองค์ว่า...<o></o>
    การจะเกิดเป็นมนุษย์นั้นมีโอกาสมากน้อยเพียงใดพระเจ้าข้าฯพระพุทธองค์ไม่พูดอะไรเลยแต่ทรงใช้นิ้วมือแตะลงบนพื้นดินแล้วชูขึ้นตรัสตอบกับพระสารบุตรว่า...<o></o>
    มีเพียงแค่นี้... สารีบุตร<o></o>
    นั่นหมายถึงสรรพสัตว์ที่ต้องไปเวียนว่ายตายเกิดในภพภูมิต่างๆมีจำนวมากเทียบเท่ากับดินทั่วพื้นปฐพีแต่ที่สามารถเกิดเป็นมนุษย์ได้...มีเพียงแค่ดินที่ติดป้ายนิ้วของพระพุทธองค์เท่านั้น<o></o>
    ด้วยเหตุนี้ในพระไตรปิฎกจึงมีพระพุทธพจน์ว่า...<o></o>
    กิจโฉมนุษะปฏิภาโพธิ์”<o></o>
    การเกิดเป็นมนุษย์นั้นแสนยาก...<o></o>
    ทุกวันนี้คนเราคิดทำอะไรมักหวังเพียงเพื่อความสุขสนุกสนานที่ผิดครรลองมิได้คำนึงถึงจิตสำนึกที่ดีงามเมื่อผิดพลาดไปแล้วมาเกิดความกลัวทีหลังสิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงเตือนสติชาวโลกอยู่เสมอว่าพุทธะกลัวเหตุปุถุชนกลัวผล...<o></o>
    ในอายุวัฒนสูตรพระพุทธองค์ตรัสถึงบาปกรรมของการทำแท้งจัดอยู่ในอนันตริยกรรมอันเป็นบาปที่มีโทษหนักที่สุด...5 ประการคือฆ่าบิดาฆ่ามารดาฆ่าพระอรหันต์ทำให้สงฆ์แตกแยกทำร้ายพระวรกายพระพุทธเจ้าห้อเลือด...<o></o>
    ดังนั้น การทำแท้งจึงมีบาปเท่ากับการฆ่าพระอรหันต์...<o></o>
    เหตุใดจึงมีบาปกรรมหนักเท่ากับการฆ่าพระอรหันต์เนื่องจากว่าทารกในครรภ์ยังบริสุทธิ์มิเคยสร้างบาปกรรมใดๆเลยและไม่มีเหตุปัจจัยของการสร้างกรรมชีวิตของเขาจึงบริสุทธิ์ดั่งพระอรหันต์ดังนั้นการทำแท้งฆ่าเด็กทารกในครรภ์หนึ่งคนจึงมีบาปเท่ากับฆ่าพระอรหันต์หนึ่งพระองค์...<o></o>
    ในพุทธธรรมได้กล่าวถึงบาปแห่งการฆ่าซึ่งเหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลายที่มีจิตญาณการฆ่ามนุษย์นั้นนับได้ว่าบาปที่สุดแต่ทว่าการฆ่าเด็กทารกที่บริสุทธิ์เป็นบาปหนักยิ่งกว่า...<o></o>
    เพราะฉะนั้นการทำแท้งถือได้ว่าเป็นบาปอย่างมหันต์!...<o></o>
    พระพุทธองค์ยังได้ตรัสอีกว่าผู้ที่เคยทำแท้งขณะมีชีวิตจะได้รับผลกรรมสนองจากโรคร้ายป่วยหนักอายุสั้นครั้นหลังจบชีวิตลงแล้วจิตญาณต้องไปรับโทษในนรกเป็นเวลายาวนานอันมิอาจประมาณหากวิญญาณเด็กแท้งผูกใจเจ็บติดความอาฆาตแค้นเมื่อเขาได้โอกาสกลับมาเกิดอีกครั้งการสะสางบัญชีแค้นก็จะเปิดฉากขึ้นอีกเป็นเช่นนี้เรื่อยไปทุกภพทุกชาติจนกว่าแรงกรรมนั้นจะได้ชำระแต่ก็ยังไม่สิ้นสุดตราบที่วิญญาณยังไม่อโหสิ...<o></o>
    หนังสือเล่มนี้ได้รับความเมตตาจากพระโพธิสัตว์กวนอิมเมื่อครั้งประชุมธรรมชั้นวิริยะญาณพุทธสถานเต๋อหยงอำเภอบ้านโปงจังหวัดราชบุรีเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2547 พระองค์มีพระดำรัสให้จัดพิมพ์เผยแพร่เพื่อเตือนสติผู้คนทั้งหลายให้บังเกิดจิตสำนึกต่อความผิดบาปที่ตนได้ก่อขึ้น...<o></o>
    คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้คนในโลกปัจจุบันโดยเฉพาะผู้ที่กำลังหมกมุ่นอยู่กับเรื่องตัณหาราคะอันเป็นต้นเหตุที่มาของการทำแท้ง...<o></o>
    อีกประการปรารถนาให้ความรักความอบอุ่นบังเกิดขึ้นในทุกครอบครัวอันนำมาซึ่งสันติสุขในสังคมดังพระประสงค์ของพระโพธิสัตว์ฯที่ทรงมีพระมหาเมตตามหากรุณาชี้แนะมวลเวไนย์...<o></o>
    หากมีข้อผิดพลาดใดๆที่เกิดขึ้นจากการจัดทำหนังสือเล่มนี้คณะผู้จัดทำยินดีน้อมรับคำชี้แนะและขอองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมโปรดเมตตาประทานอภัย...<o></o>
    ด้วยจิตสำนึกคุณ<o></o>>
    ฟาอีเหอซั่นหน่วยงานหมีเล่อ<o></o>​


    [​IMG]

    บรรยายเหตุการณ์ในชั้นประชุมธรรม<o></o>
    ขณะนั้น...หัวข้อการบรรยายกำลังดำเนินถึงบทกตัญญุตาธรรม... ผ่านไปประมาณ 30 นาที...ได้มีเสียงร้องดังขึ้นร่างสามคุณล้มฟุบลงกิริยาท่าทางและน้ำเสียงบ่งบอกได้ว่าเป็นเด็กทารกวิญญาณเด็กทารกในร่างสามคุณเข้ามาร้องขอให้หยุดการบรรยาย...<o></o>
    ไม่นาน...ก็ถอนญาณออกไป..
    ครั้นแล้ว...ทิพยญาณของพระโพธิสัตว์กวนอิมก็ได้เข้ามาประทับในร่างสามคุณประทานพระโอวาท<o></o>
    <o></o>
    เปล่าเปลี่ยวอ้างว้างและเดียวดาย<o></o>
    เหมือนแสงไฟสาดส่องให้เห็นได้<o></o>
    มีความสุขชุ่มชื่นดั่งอุ่นไอ<o></o>
    มอบให้ใช้เกิดกายมาเป็นคน<o></o>
    พลันแล้วหมู่เมฆกลับมืดครึ้ม<o></o>
    ความทุกข์เจ็บสาหัสรุมชักตรอมตรึง<o></o>
    ดับซึ่งแสงริบหรี่ที่ออกมา<o></o>
    ในวันนี้ขอเพียงเมธีได้รู้ค่า<o></o>
    ได้เกิดมาชมโลกที่สวยงาม<o></o>
    เราคือ<o></o>
    โพธิสัตว์ในชุดขาว รับพระบัญชาจาก<o></o>
    องค์อนุตตรธรรมมารดา ลงสู่แดนโลกีย์ แฝงกายกตัญชลี<o></o>
    องค์ธรรมมารดาเจ้า ได้พาวิญญาณน้อยมาสู่ประจักษ์สายตาได้เห็น
    สรุปใจความสำคัญพระโอวาท<o></o>
    พระโพธิสัตว์กวนอิมเมตตา<o></o>
    พระโพธิสัตว์กวนอิมตรัส<o></o>
    หากเรามีความเชื่อมั่นและมีความจริงใจ ผลสนองนั้นย่อมประจักษ์ได้<o></o>>
    ยุคกาลเวลาคับขันในปัจจุบันทั้งสามภพภูมิ ( เทพผี มนุษย์)ต่างได้รับการฉุดช่วยพร้อมทั่วกันยิ่งมนุษย์เรายังมีกายสังขารสามารถประกอบคุณงามความดีได้ทุกอย่างเป็นสิ่งดียิ่ง...<o></o>
    ขอให้มีความเชื่อมั่นว่าเวรกรรมมีจริงหากมีความเชื่อมั่นเช่นนี้ก็จะเกิดความระมัดระวังสำรวมยิ่งขึ้นเพราะกระทำสิ่งใดไว้ย่อมได้รับผลสนองนั้นอย่างหลีกหนีไม่พ้นดั่งเงาตามตัว...<o></o>
    ปัจจุบันการโปรดสามภพเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งและเป็นภารหนักต้องมีปณิธานที่ยิ่งใหญ่จึงสามารถร่วมมือร่วมใจร่วมแรงร่วมพลังฉุดช่วยสามภพได้เบื้องบนอาศัยมนุษย์เป็นผู้ประกาศสัจธรรมแทนฟ้าซึ่งเป็นผู้บำเพ็ญเพียรเรียนรู้สัจธรรมแห่งชีวิตเฉกเช่นพระโพธิสัตว์ที่รู้ซึ้งถึงการเกิดแก่เจ็บตายหากรู้แล้วไม่นำไปปฏิบัติเป็นเรื่องที่น่าเสียดายยิ่งเพราะสัจธรรมที่ประเสริฐเหล่านีอาศัยระยะเวลายาวนานกว่าจะได้มารับรู้แต่มาบัดนี้เราเพียงอาศัยเวลาไม่นานเงินทำบุญเพียงเล็กน้อยและที่สำคัญอาศัยบุญสัมพันธ์ของเราจึงได้รับรู้สัจธรรมนี้...<o></o>
    เพราะฉะนั้นอย่าได้ดูแคลนบุญสัมพันธ์ของเราที่เคยสร้างไวในอดีตกาลสังคมมาถึงปัจจุบันอีกทั้งบุญกุศลของบรรพชนที่ไดสร้างสมมานานจึงส่งผลให้เราไม่หลงงมงายสิ่งเหล่านี้มิได้เกิดขึ้นอย่างเลื่อนลอยหรือไร้ซึ่งเหตุผลแต่มีความเป็นมาและเป็นไป..<o></o>
    แม้วันนี้เราจะยังไม่กระจ่างแจ้งในบทกตัญญูแต่ควรเรียกจิตใต้สำนึกพุทธจิตในตัวเราออกมาเพื่อขอขมากรรมสำนึกความผิดบาปทางกายวาจาและใจที่เคยสร้างไว้วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ได้สำนึกขอขมากรรมในสิ่งที่เคยทำผิดบาปตั้งแต่เล็กจนโตไม่ว่าด้วยเจตนาหรือไม่ขอให้สำนึกด้วยใจจริงอย่าได้ทำด้วยความเสแสร้งเพียงเพื่อแสดงให้เห็นเท่านั้นตัวเราเท่านั้นที่รู้ไม่สามารถหลอกผู้อื่นได้หรือจะมีใครที่กล้าพูดว่าไม่เคยทำผิดบาปหรือไม่เคยสร้างความลำบากใจให้แก่บิดามารดาซึ่งล้วนมีกันทุกคนวันนี้ถือเป็นโอกาสดีงามที่ได้สำนึกขอขมาด้วยใจจริงการสำนึกขอขมาแม้จะเป็นเพียงกระแสจิตแต่ก็สามารถรับรู้ได้แม้เป็นเพียงเวลาสั้นๆแต่ก็ได้มีจิตสำนึกด้วยใจจริงมีบางคนเท่านั้นที่สำนึกได้แต่บางคนก็ยังมิทันได้สำนึกเพราะความไม่แน่ใจเพราะความลังเลสงสัยโอกาสผ่านไปแล้วไม่มีสิ่งใดย้อนหวนกลับมาได้เฉกเช่นวันเวลา...<o></o>>
    บุญคุณพ่อแม่ต้องตอบแทน<o></o>
    กตัญญูต้องมีประจำในจิตใจ<o></o>
    กตัญญูคือคุณธรรมพื้นฐาน
    ( พระโพธิสัตว์พักให้โอวาทครู่หนึ่ง...)<o></o>
    มิต้องตกใจกับเสียงร้องไห้... นั่นเป็นวิญญาณทารกคนหนึ่งที่ติดตามเอามาตอนนี้ให้ติดตามดูความเป็นมาของวิญญาณทารกน้อยผู้นี้ว่าทำไมถึงร้องไห้ทำไมถึงต้องมา..<o></o>
    นี่คือเรื่องเวรกรรมซึ่งจะนำพาวิญญาณทารกน้อยเข้ามาผูกบุญสัมพันธ์กับทุกท่าน... <o></o>
    หลังจากนั้น...พระโพธิสัตว์กวนอิมได้ถอนทิพยญาณออกจากร่างสามคุณสักครู่ต่อมาวิญญาณทารกน้อยได้เข้าร่างสามคุณขณะนั้นอาจารย์ถ่ายทอดธรรมจูกั๋วจื้อเป็นประธานอาจารย์จูเมตตาให้วิญญาณทารกน้อยแจ้งนามและเล่าความเป็นมา...<o></o>
    วิญญาณเด็กทารกร้องไห้งอแง...ร้องขอผ้าห่ม... หนาวสั่นสะท้านไปทั้งตัวสักครู่จึงมีเสียงพูดออกมาความว่า...<o></o>
    เรายังเล็กนัก... ยังไม่มีชื่อ... ยังเป็นเด็กทารกเล็กๆที่อยู่ในครรภ์มารดาก็ถูกแม่ใจร้ายทำแท้งเสียก่อน...<o></o>
    ตอนที่เป็นวิญญาณมีความรู้สึกดีใจ... เพราะกำลังจะได้มาเกิด... แต่พอใกล้เกิดแม่ก็ทำให้แท้งออกมา... ทั้งที่ได้เข้าฝันแม่ขอร้องแม่ให้เก็บลูกไว้... แต่พ่อแม่ใจร้ายไม่มีความรับผิดชอบ...<o></o>
    รู้สึกอิจฉาคนที่มีครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา... อยู่อย่างมีความสุขแต่หนูกลับต้องอาภัพไม่ได้เกิดมามองดูโลกทั้งที่เป็นทารกแล้ว... ไม่กี่เดือนก็จะคลอดยังทำได้ลงคอ...<o></o>
    ไม่อยากบอกว่าชายหญิงคู่นั้นที่เป็นพ่อแม่คือใคร... สองคนนี้เป็นคนที่ทำงานกันคนละที่พอถึงเวลาก็มาพบเจอกันเพราะมีบุญสัมพันธ์กันหนูจึงได้มาเกิดอยู่ในท้อง...<o></o>
    แม่ไม่เชื่อที่หนูเข้าฝันขอร้อง... กลับทำแท้งออกมาแล้วนำไปฝังไว้... หายใจไม่ออกจนตาย... ทั้งหลายเป็นผุยผง<o></o>
    วิญญาณจึงออกไปตามหาพ่อแม่แต่ก็ไม่พบเจออีกเพราะวิญญาณหนูถูกจับไปอยู่ในที่ที่ของเด็กอยู่ไม่มีโอกาสที่จะไปต่อรองกับแม่คนนั้นได้อีก...<o></o>
    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นผ่านไปไม่นาน... แม่เป็นชาวบ้านอยู่ในชนบท... แม่พาไปฝังไว้ในสวนหลังบ้าน...<o></o>
    ขณะที่วิญญาณทารกเล่าถึงตรงนี้... ก็มีเสียงร้องไห้ดังขึ้นในกลุ่มญาติธรรมฝ่ายหญิงท่านอาจารย์ถ่ายทอดธรรมซุนได้เดินเข้าไปหาสตรีผู้นั้นแล้วปลอบใจให้สงบลง...
    เมื่อเหตุการณ์สงบลงแล้ววิญญาณทารกจึงได้เล่าต่อว่า...<o></o>
    เราเป็นเพียงวิญญาณเด็ก... ล่องลอยจนไปพบพระโพธิสัตว์กวนอิมจึงต้องการขอความเมตตาจากพระองค์ซึ่งไม่รู้ว่าจะมากเกินไปไหม !..<o>></o>
    วิญญาณทารกน้อยนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง...<o></o>
    บรรยากาศในชั้นประชุมเงียบสงัดจู่ญาติธรรมคนที่ร้องไห้เมื่อสักครู่ปล่อยเสียงร้องโฮขึ้นมาอีกแต่คราวนี้ได้ลุกขึ้นแล้วพูดสารภาพความผิดของตนยอมรับว่าตนเองก็คือแม่ของเด็กทารกน้อยนั่นเอง...<o></o>
    แม่ของวิญญาณเด็กก็คือคุณอัมพรซึ่งเป็นญาติธรรมของพุทธสถานเมธาชุมนุม ( จวี้เสียนฝอถัง ) จังหวัดกาญจนบุรีซึ่งมีคุณดวงใจเป็นผู้ส่งเสริมและพามาช่วยงานในชั้นประชุมพุทธภิเษกสามวันครั้งนี้..<o></o>
    คุณอัมพรขณะนั้นร้องห่มร้องไห้ด้วยความเสียใจอย่างยิ่งซบไหล่อาจารย์ซุนเดินออกมาหน้าชั้นแล้วโผเข้ากอดร่างสามคุณร่ำร้องพูดพร่ำพรรณาแล้วกล่าวขอโทษขอขมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าท่ามกลางความรู้สึกที่สะเทือนใจของญาติธรรมในชั้นประชุม<o></o>
    บรรยากาศในห้องประชุมขณะนั้นเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจและเสียงร่ำไห้ระหว่างแม่และลูก<o></o>
    วิญญาณเด็กได้พูดกับแม่ของตนเองว่า...<o></o>
    เพื่อไม่ให้แม่มีความผิดบาปขอให้เล่าการกระทำทั้งหมดออกมาด้วยความจริงเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนที่คิดจะทำแท้งอย่าได้คิดกระทำต่อไปเพื่อเป็นการสร้างบุญไถ่บาปและตนจะอโหสิกรรมให้กับแม่ เพราะถ้าไม่ยอมเล่าตนก็ยังไม่ได้ไปเกิดใหม<o></o>

    ทารกน้อยจึงอ้อนวอนขอให้คุณอัมพรเล่าเหตุการณ์ที่ได้ทำแท้งให้เป็นที่ประจักษ์แต่คุณอัมพรกำลังอยู่ในอารมณ์โศกเศร้าจิตใจว้าวุ่นสับสนเกินกว่าที่จะเรียบเรียงเหตุการณ์ออกมาได้...<o></o>
    จนเวลาผ่านไป...วิญญาณทารกก็ยังพยายามคะยั้นคะยออ้อนวอนให้แม่สารภาพความจริงเพื่อตนจะได้รับบุญกุศลให้ได้ไปเกิดใหม่ในครอบครัวของผู้บำเพ็ญธรรม...<o></o>
    ทารกน้อยพยายามอ้อนวอนแล้วอ้อนวอนอีกจนคุณอัมพรรับปากว่าจะพูดความจริงด้วยความเป็นห่วงเป็นใยแม่ของตนเกรงว่าวันข้างหน้าจะถูกซ้ำเติมครหาจากผู้ร่วมบำเพ็ญจนทนบำเพ็ญต่อไปไม่ได้วิญญาณทารกน้อยจึงขอคำมั่นสัญญาจากผู้เข้าประชุมอย่าได้ต่อว่าซ้ำเติมให้คุณแม่ได้รับความอับอาย... ซึ่งทุกคนในชั้นก็ให้สัญญา
    หลังจากนั้นคุณอัมพรได้ลุกออกจากหน้าชั้นประชุมกลับเข้ประจำที่นั่งวิญญาณเด็กได้กล่าวต่อไปว่า...<o></o>
    ทันทีที่แม่ของหนูได้สารภาพความจริงออกมาจะก่อเกิดบุญกุศลให้หนูและก็ใกล้เวลาที่จะได้ไปเกิดใหม่หนูอยากเกิดในครอบครัวบำเพ็ญธรรมไม่อยากเวียนว่ายไม่อยากทุกข์ทรมานอีก<o></o>
    อาจารย์จูได้เมตตาชี้แนะและกล่าวกับวิญญาณทารกน้อยให้ไปขอกับพระอาจารย์จี้กงให้พระอาจารย์จี้กงเป็นประธานโอกาสข้างหน้าเมื่อได้รับวิถีธรรมแล้วขอให้เร่งปฎิบัติบำเพ็ญจิตญาณจะได้หลุดพ้นกลับคืน...<o></o>
    แต่ตอนนี้ขอให้ปล่อยวางความแค้นความขุ่นเคืองความรู้สึกที่ไม่ดีออกไปให้อโสหิกรรมแก่คุณแม่...<o></o>
    วันนี้ที่มีโอกาสเข้ามาในพุทธสถานต้องสำนึกคุณต่อพระแม่องค์ธรรมพระโพธิสัตว์กวนอิมเมตตานำพาดวงวิญญาณเข้ามาปรากฏที่นี่ทำให้ผู้คนได้รับรู้เรื่องราวนี้ได้เป็นอุทาหรณ์ มิให้ผู้อื่นไปกระทำผิดอีกก็จะได้บุญกุศล... <o></o>

    วิญญาณได้กล่าวต่อไปว่า...<o></o>
    แม้หนูจะเป็นวิญญาณเด็กทารก...ถึงแม้ว่ายังไม่ได้คลอดออกมาแต่จิตวิญญาณของหนูก็สามารถรับรู้ถึงทุกสิ่ง... เพราะวิญญาณของหนูอยู่อีกสภาวะหนึ่ง...<o></o>
    ขอกล่าวเตือนทุกคนที่มีลูกหลาน... อย่าได้กระทำเช่นนี้เลยเป็นบาปกรรมที่หนักยิ่งทั้งผู้กระทำและผู้สนับสนุนในการกระทำบาปเช่นนี้ทำคนเดียวไม่สำเร็จต้องอาศัยหลายคนช่วยกัน...<o></o>
    ดังนั้นหากพบลูกหลานคิดจะทำแท้ง.. ต้องช่วยกันเตือนบอกกล่าวให้รู้ว่าการทำแท้งผิดบาปยิ่งนักอย่าให้สังคมต้องตกต่ำมากไปกว่านี้อีกเลยโปรดให้เด็กที่จะมาเกิดได้มีโอกาสเกิดมาเป็นคนด้วยเถิด... ให้เขาได้มีโอกาสสร้างบุญเพราะนั่นแสดงว่าถึงเวลาของเขาแล้วที่จะมาเกิดหากไม่ให้เขาเกิดมาเราก็มีความผิดเพราะเราไม่มีสิทธิ์จะไปตัดสินชะตาชีวิตของใคร...<o></o>
    บางคนทำแท้งออกมาแล้วยังเอาร่างของเด็กนั้นไปทำสิ่งต่างๆนานาสะกดมนต์ให้เด็กนั้นอยู่ในความดูแลของตัวเองซึ่งเป็นบาปมหันต์.<o></o>
    ความจริงแล้วเราไม่มีสิทธิ์จะไปบงการชีวิตของใครได้เลยเพราะชะตาชีวิตของแต่ละคนจะไปกำหนดบงการเขาไม่ได้...<o></o>
    ส่วนตัวหนูขณะนี้ก็กำลังรอบุญกุศลจากแม่เพื่อเตรียมตัวจะได้ไปเกิดในครอบครัวผู้บำเพ็ญและก็มีบุญสัมพันธ์กับหญิงคนหนึ่งที่ตั้งครรภ์ในห้องประชุมนี้...<o></o>
    อาจารย์จูจึงเมตตาเชิญคุณดวงใจซึ่งเป็นบุคลากรของสถานธรรมขณะนั้นคุณดวงใจกำลังตั้งครรภด้ 7 เดือนพร้อมทั้งสามีคือคุณกิตติพงษ์ให้ออกมาหน้าชั้นนั่งข้างๆร่างสามคุณ..<o></o>
    อาจารย์ถ่ายทอดธรรมและญาติธรรมต่างแสดงความยินดีกับวิญญาณเด็กทารกรวมทั้งคุณดวงใจและคุณกิตติพงษ์ด้วย<o></o>
    คุณดวงใจและคุณอัมพรแม่ของวิญญาณเด็กมีบุญสัมพันธ์ร่วมกันคุณดวงใจเป็นผู้ส่งเสริมนำพาคุณอัมพรมาโดยตลอดชีวิตครอบครัวของคุณดวงใจที่ผ่านมาเคยประสบปัญหาเศรษกิจถึงขั้นวิกฤตภาวะจิตใจถูกกดดันอย่างหนักจึงทำให้เกิดความคิดจะทำแท้งแต่ด้วยจิตที่มุ่งมั่นและศรัทธาในธรรมเข้าใจในกฎแห่งกรรมอดทนอดกลั้นจนสามารถฟันฝ่าเอาชนะความคิดลวร้ายได้และเปลี่ยนใจรักษาครรภ์เอาไว้จนได้มาประสบเหตุการณ์นี้...<o></o>
    วิญญาณทารกได้วอนขอให้คุณดวงใจและคุณกิตติพงษ์ยอมรับเขาไว้ให้เกิดมาเป็นลูกจะขอเป็นเด็กดีได้มีโอกาสบำเพ็ญปฏิบัติธรรมซึ่งทั้งคู่ได้รับปากไว้ด้วยความยินดีจะให้ทารกน้อยได้เกิดมาไม่ต้องกังวล...<o></o>

    วิญญาณทารกน้อยยังกล่าวว่า...<o></o>
    ช่วงแรกพ่อแม่ต้องทนลำบากอีกหน่อยก็จะไม่ลำบากแลขอขอบคุณพระโพธิสัตว์กวนอิมเมตตา... ขอบคุณร่างสามคุณอาจารย์บุคลากรและญาติธรรมทุกท่าน...<o></o>
    เมื่อพูดจบวิญญาณทารกน้อยถอนญาณจากร่างสามคุณบุคลากรพาร่างสามคุณไปห้องพักสักครู่หนึ่งพระโพธิสัตว์กวนอิมก็ได้เสด็จประทับทิพยญาณอีกครั้งพร้อมกับได้เมตตาประทานโอวาทกับคุณดวงใจและคุณกิตติพงษ์ว่า...<o></o>
    เมื่อเด็กได้เกิดออกมาแล้วให้ดูแลเขาให้ดี... เขาอาจจะดื้อบ้างตามธรรมชาติของเด็ก...อย่าได้ถือสาเมื่อเขาโตขึ้นให้หมั่นตอกย้ำปณิธานของเขา... ช่วงนี้ชีวิตของทั้งคู่ดูเหมือนย่ำแย่แต่ขอให้ทั้งสองอดทนฝ่าฟันไปแล้วทุกอย่างจะค่อยๆดีขึ้น..<o></o>
    พระองค์ยังเมตตากล่าวกับบุคลากรทุกคนว่า...<o></o>
    เรื่องราวที่เกิดขึ้นให้นำไปตีพิมพ์เป็นหนังสือ... เพื่อเป็นอุทาหรณ์เครื่องเตือนใจหนุ่มสาวในปัจจุบันให้รู้ว่าการทำแท้งเป็นบาปกรรมติดตามตัวจะปฎิเสธหรือหลบหลีกก็ไม่พ้น...<o></o>
    พระโพธิสัตว์ยังเมตตาคุณอัมพรให้เล่าความจริงออกมาเพื่อเป็นบุญกุศลแก่วิญญาณเด็กน้อยแต่คุณอัมพรอยู่ในภาวะเศร้าโศกสับสนเครียดเกินกว่าจะเล่าอาจารย์จางหยูเอวี้ยนจึงได้พูดขึ้นว่า... หากคุณอัมพรไม่เล่า... ก็จะให้พระโพธิสัตว์กวนอิมเล่าเองซึ่งคุณอัมพรพยักหน้ายินยอมเพราะตนยังสับสนอยู่มาก<o></o>
    พระโพธิสัตว์ได้กล่าวเมตตาให้คุณอัมพรทบทวนให้ดีว่าได้กระทำสิ่งใดลงไป...ได้นำสิ่งใดไปฝังทำไมวิญญาณเด็กถึงบอกว่าหายใจไม่ออก... คุณอัมพรก็หายใจไม่ออก...ให้ตั้งสติคิดให้ถี่ถ้วนแล้วเล่าออกมาเพราะวิญญาณเด็กนอนฟังอยู่ข้างๆ...<o></o>

    บรรยากาศในขณะนั้นเต็มไปด้วยความตึงเครียดเพราะคุณอัมพรไม่สามารถเล่าเรื่องออกมาได้...<o></o>
    พระโพธิสัตว์ฯได้กำชับบุคลากรอีกครั้งให้จัดเรียบเรียงนำเรื่องที่คุณอัมพรเล่าไปตีพิมพ์เป็นหนังสือเพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนใจชาวโลกในปัจจุบันให้กระทำเรื่องราวที่ผิดบาปเช่นนี้เมื่อพระโพธิสัตว์กล่าวจบก็ได้ถอนทิพยญาณออกจากร่างสามคุณ...<o></o>
    หลังจากนั้นในเวลาประมาณหนึ่งทุ่มเศษคุณอัมพรได้เริ่มเล่าเหตุการณ์ของตนในอดีตที่ผ่านมาให้นักบรรยายแซ่ฮวั๋งฟังสองต่อสองในห้องพัก... คุณอัมพรได้เล่าว่า...<o></o>
    เมื่อสามปีที่แล้ว... เดิมทีตนเองพักอยู่ที่กรุงเทพฯหลังจากมีแฟนจึงย้ายมาอยู่กับคุณแม่ที่อำเภอศรีราชาจังหวัดชลบุรี...
    ในช่วงเวลานั้น... ตนเองรู้สึกว่าน้ำหนักตัวเพิ่มเริ่มท้วมขึ้นกลัวไม่สวยกังวลว่าแฟนจะทิ้งเนื่องจากขณะนั้นแฟนซึ่งมีอาชีพเป็นนักดนตรีไปเป็นทหารเกณฑ์อยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรีและมีนิสัยค่อนข้างเจ้าชู้..<o></o>
    ความคิดที่จะลดน้ำหนักจึงเกิดขึ้น... ก็เลยกลับไปปรึกษคุณแม่ให้คุณแม่ไปซื้อยาลดความอ้วนชนิดแคปซูลและสมุนไพรมาตั้งอยู่ในกระโจมในวันแรกที่อบสมุนไพรก็ยังไม่มีอะไรผิดปกติ<o></o>
    จนมาถึงวันที่สอง... ร่างกายชักเริ่มออกอาการรู้สึกหายใจไม่ค่อยสะดวกจุกเสียด...แน่นหน้าอก...เหมือนจะเป็นลมจากนั้นมีเลือดไหลออกมาทางช่องคลอด... ร่างกายอ่อนเปลี้ยเพลียแรงจึงเข้าไปพักผ่อน..
    คิดในใจว่าตัวเองตั้งครรภ์หรือเปล่า... เพราะช่วงนี้อยากรับประทานของเปรี้ยวๆ... ระสึกคลื่นเหียนอาเจียนจนผิดสังเกตญาติพี่น้องตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะแพ้ท้อง...<o></o>
    ในตอนนั้น...ความรู้สึกลึกๆของตนก็ชักเอะใจเหมือนกันว่าตนคงตั้งท้องเป็นแน่... แต่เพราะความกังวลเรื่องความอ้วนกลัวแฟนจะทิ้ง... จึงลืมเรื่องผิดชอบชั่วดีละเลยความรู้สึกนี้ไป... จนในที่สุดก็ยังคงจะลดความอ้วนต่อไปอย่างไม่ลดละความพยายาม...<o></o>
    อบสมุนไพร...ซ้ำแล้วซ้ำเล่าแม้จะมีอาการจุกเสียดหายใจไม่ออกกตามยังอุตสาห์ส่ายตะโพกซิทอัพทั้งท่ายืนและท่านอนใช้มือทั้งตบทั้งตีหน้าท้องของตนด้วยความรุนแรงเพื่อรีดไขมันให้ละลายยอมอดทนทำทุกวิถีทางเพื่อให้น้ำหนักตัวลดหวังว่าแฟนกลับมาจะได้มองไม่เห็นความอ้วน...<o></o>
    ด้วยความกลุ้มกังวล...แคร์ความรู้สึกของแฟนมากจนบางครั้งเคยตัดพ้อตนเองและระบายความกดดันที่ตนเก็บกดให้กับคุณแม่สั่งว่า...ถ้าเรื่องตั้งครรภ์เป็นความจริงจะเอาไม้แขวนเสื้อแทงก้อนเลือดในครรภ์ให้แท้งอย่างกับในทีวีเลย...
    และแล้วอยู่มาวันหนึ่ง...ขณะอาบน้ำได้มีเลือดไหลออกมากองบนพื้น... ทั้งที่รู้เห็น...แต่คุณอัมพรก็ไม่ทันฉุกคิดถึงแม้ว่าผ้าอนามัยที่ใช้อยู่จะมีก้อนเลือดและก้อนเนื้อติดออกมาด้วย...<o></o>
    จากนั้น...คุณอัมพรจึงได้นำผ้าอนามัยและก้อนเลือดไปฝังไว้ที่ลานอาบน้ำใต้ต้นมะม่วง...
    ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นคุณอัมพรเคยฝันว่ามีเด็กมาหา...นำแหวนมาสวมให้ที่นิ้วมือ... แต่ไม่ได้เก็บมาใส่ใจคิดว่าเป็นแค่เพียงความฝัน..
    และก่อนจะมาร่วมงานประชุมพุทธาภิเษกคุณอัมพรก็ได้ฝันเห็นเด็กมาหา...และก็เข้าไปอุ้ม... ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าทำไมจึงเกิดความพูกพันรักใคร่กับเด็กน้อยคนนี้มาก...<o></o>
    ครั้นตื่นขื้นมา..ก็นึกไม่ออกว่าทำไมถึงฝันเห็นเด็กน้อยคนนั้นอีก แล้วทำไมจึงรู้สึกผูกพันกับเด็กน้อยที่อยู่ในความฝันเสียเหลือเกิน<o></o>
    จากวันนั้นจนมาถึงงานประชุมในวันนี้... ซึ่งตรงกับวันทำบุญครบ 100 วัน (เสียชีวิตแม่) ญาติๆได้เลื่อนกำหนดวันทำบุญให้แกคุณแม่ออกไปจึงทำให้คุณอัมพรได้เข้าไปหาคุณดวงใจและคุณกิตติพงษ์ทั้งสองจึงชวนมาร่วมงานประชุมธรรมตั้งใจว่าจะตามมาช่วยแค่เพียงวันเดียว...<o></o>
    วันแรกของการประชุมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้เสด็จประทับญาณท่านคือมหาเทพฮั่นจงหลี่ (หนึ่งในแปดเซียน)... พระองค์ได้ขอให้ทุกคนอยู่ให้ครบทั้งสามวันคุณอัมพรจึงจำใจต้องมาในวันที่สองอีกครั้งจนได้มาพบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้...<o></o>>
    คุณอัมพรเล่าเหตุการณ์ครั้งแรกที่ได้ยินเสียงร้องไห้ของวิญญาณทารกน้อย...รู้สึกบาดใจอย่างบอกไม่ถูก... จิตใจแสนปวดร้าว... ยิ่งเข้าไปอยู่ใกล้ร่างสามคุณ...ได้สวมกอด... เห็นสีหน้าและแววตาของลูกที่มองตนสัญชาตญาณในสายเลือดสายสัมพันธ์ทำให้สัมผัสได้ทันทีว่า...นี่คือลูกของเรา...<o></o>
    ในใจคิดว่าเป็นวิบากกรรมในอดีตชาติคาดไม่ถึงเลยว่าเป็นดวงวิญญาณของทารกที่เราได้ทำแท้งในเมื่อไม่นานนี้เอง...ด้วยความรู้สึกสำนึกต่อความผิดที่ตนได้กระทำพลั้งไปจึงพยายามขอโทษและขอขมาทารกน้อยในสิ่งที่ตนเองได้กระทำและสำนึกผิดด้วยใจจริง...<o></o>
    อยากจะเตือนทุกคนอย่าได้คิดทำแท้งถึงแม้จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตามล้วนเป็นความผิดบาปมหันต์.. เป็นมลทินที่ติดตรึงฝังใจเราไปตลอดกาล<o></o>


    [​IMG]

    เข้าสู่วันที่สามของการประชุมธรรมพระพุทธะจี้กงได้ประทับทิพยญาณเมตตากล่าวกับคุณอัมพรว่า..
    เรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่มีใครปรักปรำกรรมใดใครก่อ...เมื่อถึงเวลาย่อมได้รับด้วยตนเองเวลาที่วิญญาณทารกน้อยยืมร่างสามคุณและได้ร่ำไห้ทำไมคนตั้งมากมายไม่รู้สึกเจ็บปวดใจแต่ทำไมเจ้ากลับรู้สึก สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นกับคนเราไม่สามารถเกิดขึ้นโดยไร้เหตุปัจจัย...<o></o>
    ในช่วงชั่วโมงเสียงสะท้อนจากใจอาจารย์ถ่ายทอดธรรมเมตตาให้ญาติธรรมในชั้นออกมาพูดความในใจมีพยาบาลท่านหนึ่งออกมาสารภาพว่า... ตนเคยเป็นผู้ช่วยแพทย์ทำแท้งมาก่อนตอนที่วิญญาณทารกมาปรากฎตนรู้สึกเสียวแปล๊บถึงสันหลังภาพของผู้หญิงที่ตนเคยช่วยทำแท้งขึ้นมาหลอนให้เห็นอยู่ตลอด...<o></o>
    หลังจากปิดประชุมแล้วมีญาติธรรมหญิงหลายท่านได้เข้าสารภาพว่า...ตนเองก็เคยทำมาก่อนรู้สึกละอายใจเหลือเกิน!..
    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เนื่องมาจากเหตุปัจจัยสุกงอมและบุญสัมพันธ์ร่วมกันของญาติธรรมที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ได้เกี่ยวกรรมในเรื่องทำแท้งด้วยเหตุนี้พระโพธิสัตว์กวนอิมจึงได้นำพาดวงวิญญาณทารกน้อยที่ถูกทำแท้งมาเป็นประจักษ์นั่นเองขอบคุณพระโพธิสัตว์กวนอิมเมตตา..<o></o>




    (กาพย์ยานี 11)<o></o>
    พระโพธิสัตว์โปรด ให้รู้โทษแห่งบาปกรรม<o></o>
    เวไนย์ ผู้ใฝ่ธรรม เร่งน้อมนำใส่กมล<o></o>
    จิตใหม่ได้กำเนิด สุดประเสริฐเกิดเป็นคน<o></o>
    ด้วยสั่งสมกุศล เพียรจวบจน ณ กาลนี้<o></o>
    เปล่าเปลี่ยวมาเดียวดาย ดั่งดำว่ายใต้นที<o></o>
    และแล้วประหนึ่งมี แสงสว่างกระจ่างใส<o></o>
    ชี้นำซึ่งหนทาง สู่โลกกว้างศิวิไล<o></o>
    วาดหวังเลอเลิศไว้ จักเกิดใหม่พร้อมใจงาม
    แล้วดั่งต้องพายุ โถมทะลุด้วยจิตทราม<o></o>
    ทำลายหมายหยาบหยาม เพียงฤทธิ์ดำฤษณา<o></o>
    ไม่พร้อมให้ชีวิต ถลำจิตผิดกามา<o></o>
    ไม่หยั่งยั้งตัณหา หรือแม้ว่าจะป้องกัน<o></o>
    ทำให้อุบัติแล้ว เป็นก่องแก้วเกิดชีวัน
    จิตอันพิสุทธิ์นั้น ยังมิทันสร้างกรรมใด<o></o>
    ระงับการกำเนิด คือละเมิดอันยิ่งใหญ่<o></o>
    ผิดเท่าทำบาปไป เทียมฆ่าไท้อรหันต์<o></o>
    กิจโฉ มนุษะ ปฏิภาโพธิ์ พยันต์<o></o>
    เกิดเป็นมนุษย์นั้น แสนยากอนันต์สุดประมาณ<o></o>
    บาปของผู้ทำแท้ง พระสูตรแจ้งเป็นหลักฐาน<o></o>
    หนึ่งในห้าประการ อนันตริยกรรม<o></o>
    ผู้ใดฆ่าแม่พ่อ มันนั้นหนอพึงจดจำ<o></o>
    อรหันต์ไซร้ใครยีย่ำ แม้กระทำท่านถึงตาย<o></o>
    อีกองค์พระพุทธา กล้ำกายา ธ หมองหมาย<o></o>
    ห้อโลหิตอันตราย ล้วนผิดร้ายอย่างมหันต์<o></o>
    ผู้แยกแตกหมู่สงฆ์ ก็พึงจงรู้เท่าทัน<o></o>
    ห้าเหตุที่ก่อนั่น มันบาปหนากว่าสิ่งใด<o></o>
    ผลาญพล่าชีวาลูก กรรมพันผูกตลอดไป<o></o>
    นรกหมกไหม้ใจ สุดบรรยายในโทษฑัณท์<o></o>
    เพราะเห็นผิดเป็นชอบ ออกนอกกรอบจารีตนั้น<o></o>
    เผลอพลั้งจนตั้งครรภ์ แล้วคิดสั้นบั่นทำลาย<o></o>
    หากยังมีชีวิต แม้รู้ผิดยังมิสาย<o></o>
    บาปอันสุดแสนร้าย บรรเทาได้ด้วยรู้ธรรม<o></o>
    สำคัญคือสำนึกพึงรู้สึกที่ก่อกรรม<o></o>
    ปรับจิตปรุงใจย้ำ เพียรบำเพ็ญให้เป็นบุญ<o></o>
    สั่งสมทุนกุศล เป็นธารปนจนนำหนุน<o></o>
    ละลายบาปด้วยบุญ เร่งเพิ่มพูนคุณความดี<o></o>
    ละวางเว้นกรรมชั่ว เลิกเมามัวมั่วโลกีย์<o></o>
    กลัวกรรมตามราวี เสริมสร้างศรีที่จิตใจ<o></o>
    เลิกเบียดเบียนชีวิต แม้เพียงคิดก็ผิดได้<o></o>
    เรารักตัวกลัวตาย สัตว์ทั้งหลายก็เช่นกัน<o></o>
    อยากลบล้างความผิด ชำระจิตให้เฉิดฉัน<o></o>
    ปณิธานยึดมั่น เลิกพัวพันสรรพ์อบาย<o></o>
    อดีตของพรุ่งนี้ เริ่มใหม่ที่บัดนี้ได้<o></o>
    ผ่านวันคืนฝันร้าย ด้วยหัวใจใฝ่ศรัทธา<o></o>
    อธิษฐานอุทิศ ด้วยดวงจิตขอขมา<o></o>
    แน่วแน่แผ่เมตตา อโหสิมิจองเวร<o></o>
    กุศลสั่งสมสร้าง ส่องสว่างทางให้เห็น<o></o>
    มุ่งมั่นหมั่นบำเพ็ญ ดับทุกข์เข็ญเป็นสุขเอย<o></o>
    <o></o>
    ดำฤษณา ตัณหา,ความอยาก,ความปรารถนา, ความดิ้นรน<o></o>
    พยันต์ ซึ่งจาระไน, แยก, กระจ่าง
    วิธีแก้กรรม<o></o>
    ชาวโลกมักสร้างเวรกรรมโดยไม่รู้ตัวดังนั้นถ้าจะหลีกเลี่ยงจากหนี้เวรกรรมก็จงหยุดก่อเวรสร้างกรรมหรือกล่าวโทษให้ร้ายผู้อื่นไม่ก่อเรื่องเดือดร้อนนินทาวิพากวิจารณ์รู้จักให้อภัยอดทนอดกลั้นอ่อนน้อมถ่อมตนก็จักไม่มีเวรกรรมต่อกัน...<o></o>
    อนึ่งถ้าจะแก้กรรมในชาติปางก่อนหรือชาตินี้ที่ได้กระทำไปจงอย่าได้โทษฟ้าโทษดิน ตนเองยอมขอขมากรรมสำนึกในความผิดที่ได้กระทำมาแล้วในชาตินี้จวบจนชาติที่แล้วๆมาอีกทั้งตั้งคำอธิฐานโดยศรัทธาจริงใจหันมาทำความดีสร้างบุญกุศลไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์ (ปล่อยสัตว์กินเจ) เพื่อเอากุศลนี้ไปไถ่บาปจึงจะสามารถแก้กรรมได้...<o></o>
    กรรมใดที่ก่อกรรมนั้นย่อมติดตามให้ผลในไม่ช้าถึงแม้จะไปสวดมนต์วอนขอจากที่ไหนๆก็ตามกรรมนั้นก็มิอาจแก้ไดมีแต่การทำความดีสร้างบุญกุศลเท่านั้นเช่นพูดธรรมะชี้แนะให้คนละชั่วทำดีพิมพ์หนังสือธรรมะแจกจ่ายฯลฯผลบุญเหล่านีแรงมากเบื้องบนจึงจะลดหย่อนผ่อนโทษและอนุญาตให้นำบุญนีมาชดใช้กรรมเก่าเมื่อนั้นหนี้เวรกรรมก็จักค่อยๆหมดไป<o></o>


    [​IMG]

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2006
  2. นพสร

    นพสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2006
    โพสต์:
    548
    ค่าพลัง:
    +1,175
    ยาวมาก ขอเซฟเก็บไว้อ่านแล้วกัน
     
  3. ปราณยาม

    ปราณยาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    371
    ค่าพลัง:
    +2,638
    เด็กที่ถูกทำแท้งน่าสงสารจริงๆครับผมเคยเจอวิญญาณของหลานที่พี่สะใภ้ไปทำแท้งมาเหมือนกันและทุกวันนี้เค้าก็ยังอยู่ครับ
     
  4. bamrung

    bamrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    834
    ค่าพลัง:
    +1,524
    ผมเคยช่วยผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่ให้ทำแท้ง แฟนเขาไม่รับผิดชอบ ถูกพ่อตัดขาด(ส่วนแม่เสียแล้ว) ผมดูแลเขาตั้งแต่ท้อง 5-6เดือน จนคลอด และหลังจากนั้น อีกประมาณ 2 เดือนพอเขาจะพึ่งตัวเองได้ ผมจะได้กุศลอะไรบ้าง
     

แชร์หน้านี้

Loading...