พระโพธิสัตว์

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 7 มีนาคม 2010.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,176
    [​IMG]


    ถาม : อธิบาย “พระโพธิสัตว์” ให้ฟังหน่อยครับ ?

    ตอบ : พระโพธิสัตว์ คือ ผู้ปรารถนาพระโพธิญาน ต้องการจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า เหตุที่ตั้งความปรารถนานั้นเอาไว้เพราะว่า เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จขึ้นดาวดึงส์ไปโปรดพระพุทธมารดา ตอนกลับลงมาโดยพุทธประเพณี ท่านจะเปิดตั้งแต่นิพพานลงไปถึงอเวจีมหานรก ให้สัตว์ทุกหมู่เหล่าเห็นถึงกันหมด ในเมื่อทุกหมู่เหล่าเห็นถึงกันหมดก็จะรู้ว่าท่านนี้ คือ พระพุทธเจ้า เป็นผู้เลิศที่สุดแล้วใน ๓๑ ภพภูมิ ทั้งสูงและต่ำ เมื่อเป็นดังนั้นก็จะเกิดความคิดขึ้นมาว่า
    “ถ้าเราเป็นอย่างนั้นบ้างก็จะดี” เท่ากับตั้งความปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้า

    คราวนี้ก็อยู่ที่ว่าใครจะสามารถทำให้ถึงจุดหมายที่ตั้งความปรารถนาเอาไว้ได้ เกินกว่า ๙๐ เปอร์เซ็นต์ ท่านจะละเสียก่อน ขนาดของหลวงพ่อนั้นเหลืออยู่หน่อยเดียว หน่อยเดียวจริง ๆ หน่อยอย่างชนิดที่ว่าน่าเสียดายมากเลย เพราะว่า ถ้าท่านอยู่จนถึงอายุ ๖๐ ปี บารมีท่านจะเต็มในชาตินี้ รอไปตรัสรู้อย่างเดียว แต่ว่าท่านก็ลา การที่ความปรารถนาจะบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ คือ ต้องการจะเป็นพระพุทธเจ้า เท่ากับว่าเราต้องเป็นครูใหญ่กว่าเขาทั้งหมดในเมื่อเราต้องเกิดเป็นครูใหญ่กว่าผู้อื่นเขา ทุกสิ่งทุกอย่างที่เรารู้ก็ต้องละเอียดกว่าเขา เพราะฉะนั้นพระโพธิสัตว์ในการปฏิบัติ โดยเฉพาะการปฏิบัติภาวนาทุกขั้นทุกตอนจะได้ยากกว่าคนอื่นเขาหลายเท่า เพราะว่าท่านต้องย้ำแล้วย้ำอีก ซ้ำแล้วซ้ำอีกจนทะลุปรุโปร่งเจนจบจริง ๆ ในแต่ละขั้นท่านถึงจะผ่านได้

    ถึงได้บอกว่าคนอื่นเขาแค่ฌาน ๔ ท่านต้องได้ฌาน ๕ ขณะเดียวกันว่าคนอื่นอาจจะเจอปีติตัวหนึ่งหรือ ๒ ตัว ๓ ตัว ๔ ตัว หรือไม่เจอเลย แต่ของท่านต้องเจอครบ ๕ ไม่อย่างนั้นแล้วถึงเวลาท่านจะไปสอนเขาไม่ได้ ของเรา ๆ เดินขึ้นบันไดมาแค่รับรู้ว่ามันมีบันได แต่ของท่าน ๆ ต้องไปหารายละเอียด มันกว้างเท่าไร ยาวเท่าไร ประกอบด้วยวัสดุอะไร ก่อสร้างขึ้นมาลักษณะไหน ถึงเวลาท่านต้องสร้างบันไดให้คนอื่นเขาได้ มันยากกว่ากันขนาดนี้

    ดังนั้นว่าบุคคลที่เคยมีเชื้อสายในการปรารถนาพระโพธิญาณมาก่อน ถึงละความปรารถนานั้นแล้ว เวลามาปฏิบัติมันก็ยังลำบากกว่าคนอื่นอยู่ดี ขอให้ภูมิใจว่าเราผ่านหลักสูตรโหดมาแล้ว เพราะฉะนั้นเมื่อถึงเวลามันถึงได้ลำบากกว่าคนอื่นหน่อยก็เอา แต่ว่าเนื่องจากแต่ละท่านส่วนใหญ่จะสร้างกำลังบารมีมาไว้มาก เพราะฉะนั้นท่านไม่ท้อถอยกับใครง่ายๆ หรอก พระโพธิสัตว์นั้นสู้หัวชนฝา แล้วก็ฝาพังด้วย หัวไม่แตกหรอก ดังนั้นว่าถึงลำบากท่านก็เอา

    คราวนี้การบรรลุมรรคผล ในเมื่อท่านตั้งใจจะเป็นพระพุทธเจ้า ต้นทุนสูงมาก พอละเข้ามาหามรรคผล ส่วนใหญ่ก็จะเข้าถึงได้เร็วเพราะต้นทุนพอแล้ว เก็บเงินเท่าไร ๑,๘๐๐,๐๐๐ บาท จะซื้อเบนซ์อีคลาสมาขับสักคันหนึ่ง แต่ถึงเวลาลดลงมาซื้อแค่โตโยต้า นิสสัน มันก็ไม่ถึง ๑ ล้าน ใช่ไหม ? สบายเขาซื้อได้เลย

    โพธิสัตตะ คือ สัตว์ที่ปรารถนาจะเป็นผู้รู้ โพธิญาณะ คือ เครื่องรู้ซึ่งเข้าถึงพระสัมมาสัมโพธิญาณ ยังเอาอีกไหม ? ปรารถนาพระโพธิญาณต่อไหม ? สะใจดี

    หลวงพ่อเคยเตือนอาตมาไว้ครั้งหนึ่งว่า “การละความปรารถนาในพระโพธิญาณ” หรือที่เรียกง่าย ๆ ว่า “ลาพระพุทธภูมิ” กำลังใจมันจะตก คราวนี้ของเรานั้นก็ลาแล้วนึกอยู่ในใจว่า ไม่ตก เรายังบ้าเท่าเดิมแต่ปรากฏว่าดูไปดูมาแล้วหลวงพ่อท่านถูกเราผิด เรามันอวดรู้ กำลังใจไม่ได้ตกหรอก แต่ว่ามันตัดปัญหาจุกจิกไปเยอะเลย

    สมัยก่อนนี่ของเขาเองเดือดร้อน เราเห็นปุ๊บตะเกียกตะกายไปช่วยเขา จนกระทั่งบางครั้งเหมือนกับเสือก แต่ว่าพอถึงสมัยนี้ ถ้าไม่ได้ชัก ล้มทับตีนข้างหน้านั้น ไม่ช่วยหรอก มันกลายเป็นตัดปัญหาข้างนอกไปเยอะ มหาศาลเลย ก็เลยเรียกง่าย ๆ ว่า กำลังใจมันตกลง คือ เรื่องทั่วๆ ไปไม่เอาแล้วเราเอาตัวเองให้รอดไว้ก่อน


    สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนกันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๔



    ที่มา : http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=804



    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2010
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...