พระโพธิสัตว์ .... เจ้าชายเกาหลี....

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย namitta, 10 ตุลาคม 2010.

  1. namitta

    namitta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,061
    ค่าพลัง:
    +3,517
    พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์






    [​IMG]






    พระโพธิสัตว์ตี้จั้งหวัง หรือ พระษิติครรภ์โพธิสัตว์ แปลว่าพระโพธิสัตว์ผู้เป็นครรภ์แห่งแผ่นดินหรือเป็นนัยยะว่าพระองค์ ทรงสถิต อยู่ใต้พื้นพิภพ
    เพราะพระองค์มีมหาปณิธานว่า “ตราบใดที่ยังมีสัตว์หลงเหลือในนรกภูมิ แม้เพียงหนึ่ง พระองค์จะมิทรงเข้าสู่พุทธภูมิ”



    ซึ่งเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าสัตว์ในนรกนั้น มีจำนวนมากมายกว่าประชากรบนสวรรค์ และโลกมนุษย์มาก เนื่องจาก คนทำชั่วมีมากกว่าคนทำดี



    ด้วยพระองค์ทรงประกาศ มหาปณิธานที่ยิ่งใหญ่ และยากยิ่งที่จะสำเร็จได้ สาธุชน จึงสดุดีพระองค์ว่า “พระมหาปณิธานโพธิสัตว์” และพระวจนะ หนึ่ง ของพระองค์ ที่เป็นที่ซาบซึ้ง ประทับใจ สรรพสัตว์ทั้งปวง ว่า ” หากเรามิเข้าสู้นรกภูมิแล้วไซร้ ผู้ใดเล่าจะเป็นผู้เข้านรกภูมิ”


    ตามประวัติกล่าว ว่า ท่านเดิมมีพระนามว่า กิมเคียวกัก ประสูติวันที่ 30 เดือน 7 ตามปฏิทินจีน พ.ศ. 1239 เป็นมกุฎราชกุมาร แห่งราชอาณาจักร ชินลอก๊ก (ปัจจุบันคือกรุงโซลประเทศเกาหลีใต้)

    เจ้าชายเคียวกักทรงผนวชเมื่ออายุ 24 ชันษา ในปีพ.ศ.1196 พระองค์ท่านชอบความสงบและการนั่งฌานสมาธิ จึงตัดสินใจไปแสวงหาความสงบปลีกวิเวกตามป่าเขา โดยนั่งเรือ ตามลำพัง กับสุนัขแสนรู้สีขาว (ชื่อว่า ซ่านทิง) แล่นเลียบไปตามชายฝั่งจนถึงปากแม่น้ำแยงซีเกียงในประเทศจีน เนื่องจากเรือเกยตื้น จึงสละเรือแล้วเดินเท้า กระทั่งถึงเขตอำเภอชิงหยางเสี้ยน มณฑลฮุยเสิ่น ซึ่งเป็นที่ตั้ง ของภูเขาจิ่วหัวซัน อันมี ทัศนียภาพ แปลกประหลาดด้วยมีพื้นที่ราบอยู่กลางหุบเขา เจ้าชายกิมเคียวกัก จึงเลือกปากถ้ำแห่งหนึ่ง ใกล้ที่ราบ เป็นที่พำนัก ที่เชิงเขามีคหบดีคนหนึ่งชื่อหมิ่นง เป็นเจ้าของที่ดินบริเวณเขาจิ่วหัวซัน หมิ่นงเป็น คน ใจบุญสุนทาน ต้องการจะถวายที่ดินเพื่อสร้างธรรมสถาน จึงขึ้นเขาไปหาเจ้าชายกิมเคียวกัก แล้วแจ้งความประสงค์ จะถวายที่ดิน ให้สร้างธรรมสถานโปรดสัตว์ตามแต่ที่เจ้าชายกิมเคียวกักต้องการ ทันใดนั้นเจ้าชายกิมเคียวกัก ก็ได้โยนผ้า พระกาสาวพัสตร์ ขึ้นไป ในอากาศ ก็ปรากฏว่ามีร่มเงา ของผ้ากาสาวพัสตร์ทั้งผืน แผ่ปกคลุมไปทั่วภูเขา จิ่วหัวซัน หมิ่นงจึงได้ถวายที่ดินภูเขาทั้งลูกให้แก่เจ้าชายด้วยความยินดี

    หมิ่นง มีบุตรชายคนหนึ่งซึ่งมีความศรัทธาในท่านอาจารย์ กิมเคียวกัก เป็นอย่างมากจึงได้ขอบวชนาม พระเต้าหมิง ต่อมา หมิ่นงเล็งเห็นว่า เป็นการสะดวก ในการฟังธรรม จึงปวารณาเป็นศิษย์ของลูกชาย วันหนึ่งเจ้าชายกิมเคียวกัก ได้เรียกพระภิกษุสงฆ์ทุกรูปมาชุมนุมเพื่ออำลา แต่บรรดาพระภิกษุ สงฆ์ต่างไม่เข้าใจว่า ท่านจะไปไหน เจ้าชายกิมเคียวกักได้แต่นั่งขัดสมาธิอย่างสงบ และ ละสังขารในที่สุด ตอนนั้นท่านมีอายุได้ 99 พรรษา แล้วนั่งสงบไปอีก 20 ปี จนถึงปี พ.ศ. 1300 ร่างของท่านก็ยังคงอยู่ในท่าสมาธิ เกิดเป็นอัศจรรย์ บรรดาสาธุชนจึงได้รวบรวมปัจจัยสร้างเจดีย์ขึ้น เจ้าชายกิมเคียวกักนี้ ได้รับการยกย่องว่า เป็น พระษิติครรภ
    โพธิสัตว์(เต่จงอ๋อง) มาโปรดสัตว์แล้ว

    มีคติความเชื่อที่ไม่ถูกต้องนักที่ว่า “พระกวนอิมโปรดเฉพาะคนเป็น พระตี่จั้งโปรดเฉพาะคนตาย” ทำให้ พระษิติครรภ์โพธิสัตว์(พระตี่ จั้ง) ไม่เป็นที่นิยมกราบไหว้ในครัวเรือน เพราะผู้ไม่รู้เข้าใจว่า จะเป็นการชักนำ ดวงวิญญาณ ให้ตามพระองค์เข้ามาในบ้านด้วย





    [​IMG]





    อีกประวัติกล่าวว่า


    พระษิติครรภโพธิสัตว์ทรงเคยถือกำเนิดเป็นบุตรีในสกุลพราหมณ์ครอบ ครัวหนึ่ง บิดาฃื่อ "ชีรชิณณพราหมณ์" มารดาชื่อ "ยัฏฐีลีพราหมณี" บิดาได้ถึงแก่กรรมก่อนมารดา จึงทำให้อาศัยอยู่กับมารดาตลอดมา พระองค์ซึ่งเสวยพระชาติเป็นพราหมณี เป็นผู้มีความละอายและเกรงกลัวต่อบาป เป็นคนใจดีมีเมตตา อยู่ในศีลในธรรม ส่วนมารดานั้นกลับประพฤติตรงข้ามกับบุตรี ไม่นับถือพระรัตนตรัย ไม่เชื่อเรื่องกรรม ไม่เชื่อเรื่องสวรรค์หรือนรก แม้ว่าพราหมณีบุตรีจะชักชวนหรือโน้มน้าวจิตใจอย่างไร เพราะนางยัฏฐีลีพราหมณีมีมิจฉาทิฐฐิรุนแรง
    ต่อมา นางยัฏฐีลีพราหมณี ได้ถึงแก่กรรมลง ผลกรรมที่นางทำไว้ทำให้นางไปตกนรกอเวจี
    ฝ่ายทางนางพราหมณีบุตรี เมื่อมารดาได้ถึงแก่กรรมลง นางมีความโศกเศร้าเสียใจ เพราะรู้แน่ว่า มารดาคงไม่ไปสู่สุคติ นางอยากช่วยเหลือมารดา แม้ว่าจะต้องสูญเสียทรัพย์สมบัติมีค่า หรือชีวิตของนางก็ตาม นางจึงได้ขายบ้านเรือน และของมีค่าทั้งหมดที่มี โดยรวบรวมเงินทั้งหมดไปซื้อดอกไม้ ธูปเทียน และเครื่องสักการะบูชาต่างๆ ไปสักการะบูชาตามวัดวาอารามต่างๆ และนำไปบริจาคทานแก่คนยากจน และสัตว์ที่อดอยากหิวโหย เพื่อเป็นการอุทิศบุญกุศลให้แก่มารดาที่ล่วงลับไปแล้ว นอกจากนี้นางพราหมณีบุตรี ยังเป็นผู้ถือศีล บำเพ็ญเพียรภาวนา บูชากราบไหว้พระสัมมาสัมพุทธเจ้า (พระนามว่า พระสัมมา สัมพุทธปัทมอิศวรชาตตถาคต) โดยนางภาวนาขอให้ผลของการบริจาคทานของนาง จงเกิดเป็นกุศลผลบุญไถ่บาปให้กับมารดาและพ้นจากนรก และไปสู่สคติ
    เนื่องจากการปฏิบัติธรรมอย่างเสมอต้นเสมอปลายเรื่อยมา ทำให้วันหนึ่งนางพราหมณีบุตรีได้ยินเสียงทิพย์กระซิบบอกนางว่า
    "ดูกร พราหมณี จงหยุดเศร้าโศกเถิด ตถาคตจะชี้ทางให้"
    นางพราหมณี เกิดความยินดีอย่างมาก ก้มลงกราบและอธิษฐานว่า
    "ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงพระเมตตา โปรดบอกที่อยู่ของมารดาของข้าพระองค์ด้วยเถิด เนื่องจากข้าพระองค์ได้ตั้งจิตไว้ว่า จะขอพบมารดาเพื่อทราบความเป็นอยู่ของท่านว่ามีสุขทุกข์อย่างไรบ้าง แม้จะต้องเอาชีวิตเข้าแลกก็ยินดี หากจะช่วยเหลิอมารดาของข้าพระองค์ให้มีความสุขได้"


    แต่หลังจากนั้น เนื่องจากไม่มีเสียงตอบรับใดๆ อีกเลย นางจึงบังเกิดความเศร้าโศกเสียใจ ร้องไห้จนเป็นลมไป พอนางฟื้นขึ้นมา นางก็ได้ยินเสียงทิพย์เข้ามาที่หูว่า


    "ดูกร พราหมณี จงหยุดเศร้าโศกเถิด บุญกุศลที่เจ้าทำทั้งการสักการะบูชาพระพุทธ และการบริจาคทานนั้น บุญกุศลแรงนัก จงหมั่นปฏิบัติบำเพ็ญต่อไป จะบังเกิดผลแก่มารดาดังความปรารถนา" ทำให้นางดีใจและปิติสุขอย่างมาก และอธิษฐานขอให้นางได้พบมารดาดังที่หวังไว้
    ต่อมานางพราหมณีบุตรีได้นั่งเจริญวิป้สสนากรรมฐานอย่างแน่วแน่ บุญกุศลได้ดลบันดาลให้วิญญาณของนางออกจากร่างไปสู่ยังมหาสมุทรแห่งหนึ่ง ซึ่งน่ากลัวมาก น้ำทะเลที่นั่นเป็นน้ำเดิอด และมีอสูรกายตัวใหญ่น่ากลัวกำลังไล่จับมนุษย์ที่ลอยคออยู่ในน้ำจำนวนมากมาย นับไม่ถ้วน เพื่อฉีกกินเป็นอาหาร น่ากลัวมากจนนางไม่กล้าหันไปมองด้วยความกลัวและสงสารมนุษย์เหล่านั้น


    ในระหว่างนั้นเอง ได้มีเทพอสูร นามว่า "บ่อตั๊" และบริวาร ได้เดินตรงเข้ามาหานางและพนมมือไหว้ และกล่าวว่า
    "สาธุ พระโพธิสัตว์ผู้เจริญ ท่านมาถึงแดนนรกนี้ ด้วยเหตุใด"


    นางพราหมณีบุตรีจึงตอบว่า
    "ข้าพเจ้ามีความประสงต์อยากทราบความเป็นอยู่ของมารดา ชื่อ ยัฏฐีลีพราหมณี ซึ่งได้ถึงแก่กรรมเมื่อไม่นานมานี้ ไม่ทราบว่าตอนนี้วิญญาณของนางไปอยู่ที่แห่งใด ข้าพเจ้าเป็นห่วงมารดามาก ขอโปรดอนุญาตให้ข้าพเจ้าได้พบมารดาด้วยเถิด"


    เทพอสูรเมื่อได้ฟัง จึงกล่าวตอบว่า
    "ข้าแต่พระโพธิสัตว์ผู้ เจริญ มารดาของท่านนามว่า ยัฏฐีลีพราหมณี ได้เคยตกลงมาในดินแดนนรกภูมินี้ แต่เนื่องจากนางได้รับบุญกุศลอันประเสริฐและยิ่งใหญ่จากการที่ท่านได้บำเพ็ญ กุศลมาให้ มารดาของท่านได้ไปพ้นจากแดนนรกไปสู่สุคติแล้ว" พร้อมกับยกมือพนมพร้อมกับก้มลงแล้วจากไป


    เมื่อนางได้ทราบดังนั้น นางจึงมีความยินดีและหมดห่วงในตัวมารดา แต่นางกลับเกิดความสงสารบรรดามนุษย์ที่ตกนรกและได้รับความทุกข์ทรมานแสน สาหัสเหล่านั้น จึงเกิดความเมตตาอันแรงกล้าที่จะช่วยเหลือสรรพสัตว์ในนรกเหล่านั้น


    นางพราหมณีบุตรี จึงอธิษฐานต่อหน้าพระพุทธรูป ขอถือศีลภาวนา บำเพ็ญทานบารมี เพื่อโปรดสรรพสัคว์ในนรกอเวจีตลอดจนถึงอนาคต ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง อย่าได้เบื่อหน่ายต่อการบำเพ็ญกุศลกรรมดังกล่าว


    ด้วยเหตุที่ทรงบำเพ็ญบารมีเช่นนี้ จึงทำให้นางพราหมณีบุตรี เมื่อนางถึงแก่กรรม ได้กลับชาติมาเกิดเป็นบุรุษ และบำเพ็ญเพียรสร้างบารมี จนสำเร็จมรรตผลกลายเป็นพระโพธิสัตว์ พระนามว่า พระษิติครรภมหาโพธิสัตว์






    โดยที่แท้แล้วเมื่อครั้งพุทธกาล
    พระพุทธองค์ทรงแสดง อานิสงค์แห่งการบูชา พระษิติครรภ์โพธิสัตว์ไว้ถึง 28 ประการคือ
    1. เทพนาคาปกปักษ์รักษาและระลึกถึง อยู่เป็นนิจ
    2. กุศลผลบุญเจริญรุ่งเรืองไพบูลย์ยิ่ง ๆ ขึ้นทุกทิวากาล
    3. เป็นการสร้างสมอริยมรรคเป็นสมุกฐาน ทั้งยังถือเป็นเหตุปัจจัยแห่งกุศลกรรม
    4. ไม่ท้อถอยในการบังเกิดโพธิจิต
    5. สมบูรณ์ด้วยเครื่องอุปโภคบริโภคตลอดกาล
    6. แคล้วคลาดปราศจากโรคาพยาธิ
    7. รอดพ้นจากอุทกภัย อัคคีภัย
    8. นิราศจากโจรภัยมาเบียดเบียน
    9. เป็นที่เคารพยกย่องของนรชนไปทั่ว
    10. เทพารักษ์คุ้มครองอุ้มชูช่วยเหลืออยู่เสมอ
    11. สตรีปรารถนากลับเพศเป็นบุรุษ
    12. เกิดในตระกูลวงศาแห่งกษัตริย์และอำมาตย์
    13. มีรูปอินทรีย์กายอินทรีย์สมบูรณ์
    14. ได้อุบัติในแดนสวรรค์
    15. ภพหน้าจะได้กำเนิดเป็นพระมหาราชาธิราช
    16. สามารถหยั่งรู้ระลึกเหตุการณ์ในอดีตชาติ
    17. คิดประสงค์สิ่งใดย่อมได้ดั่งปรารถนา
    18. ญาติและบริวารเสวยแต่ความสุข ปราศจากทุกข์
    19. สิ่งอัปมงคลทั้งหลายสูญหายมลายสิ้น
    20. ไม่ต้องบังเกิดในทุคติภูมิ
    21. หากสัญจรไป ณ แห่งใดย่อมได้รับความสะดวก
    22. ในยามราตรีย่อมมีสุบินในทางศุภมงคล
    23. บรรพบุรุษและญาติวงศ์ที่ล่วงลับไปแล้วจะได้หลุดพ้นจากทุกขภูมิ
    24. กำเนิดในภพหน้าจะเป็นผู้มีวาสนาสูง
    25. ได้รับการยกย่องจากพระอริยเจ้าทั้งหลาย
    26. มีสติปัญญารอบรู้เป็นเลิศ
    27. มีจิตเปี่ยมล้นด้วยเมตตาธรรมเป็นสมุฏฐาน
    28. จะได้สำเร็จพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณในที่สุด

    คุณธรรมพิเศษ
    มีเมตตาสูงส่ง เป็นโพธิสัตว์ที่มีปณิธานที่จะโปรดสัตว์นรกให้พ้นจากกรรมทุกข์เข็ญ
    [​IMG]

    เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

    พระษิติครรภโพธิสัตว์ แปลตรงตัวหมายความถึง ที่เก็บหรือครรภ์แห่งผืนแผ่นดิน พระองค์ท่านมีปณิธานคล้ายคลึงกับ พระแม่กวนอิม แต่ผิดไปจากพระแม่ กวนอิม ก็คือ พระองค์ท่านต้องการที่จะโปรดสัตว์ที่มีอยู่ในนรกให้หมด ฉะนั้น ในพิธีศพ จึงนิยมบูชาท่าน จึงกลายเป็นความเชื่อที่ว่างานศพจะต้องบูชาท่าน ส่วนพิธีมงคล นิยมบูชา พระแม่กวนอิม กระทั้งเกิดคำว่า “พระกวนอิมโปรดคนเป็น เต่จงอ๋องโปรดคนตาย” ซึ่งความจริง ท่านก็โปรดคนเป็น เช่นเดียวกัน กับพระแม่กวนอิม
    ปาง
    โดยมากรูปเคารพของท่านมักจะสวมหมวกสีขาวซึ่งเรียกว่า “มาลา 5 พระพุทธองค์” ซึ่งหมวกนี้เป็นของ พระชาวธิเบต ประกอบพิธีทางมนตรยานนิกายในการโปรดสัตว์นรก โดยที่ท่านมีปณิธานโปรดสัตว์นรกมาก จิตรกรจึงมัก นิยมวาดภาพท่าน เป็นพระที่กำลังสวมหมวก และประกอบพิธีโปรดสัตว์นรกไป




    [​IMG]

























    ที่มา เครดิต....
    พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ – พระโพธิสัตว์ตี้จั้งหวัง : วาไรตี้ นานาสาระ โดย ภูเก็ต อินเด็กซ์

    พระกษิติครรภมหาโพธิสัตว์ - วิกิพีเดีย







    http://www.gmwebsite.com/webboard/Topic.asp?TopicID=Topic-100425212249058

    เว็บพุทธวงศ์ โดย "เนาว์สถิตย์" (NAOSATITT)






     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2010
  2. Little Mermaid

    Little Mermaid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    718
    ค่าพลัง:
    +1,768
    พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ – พระโพธิสัตว์ตี้จั้งหวัง

    Ksitigarbha Bodhisattva 南無大愿地藏王菩薩摩阿薩

    บทสวดมนตราของพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์>>


    <object width="480" height="385"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/aSq25vFPqNQ?fs=1&amp;hl=en_US"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/aSq25vFPqNQ?fs=1&amp;hl=en_US" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="480" height="385"></embed></object>
     
  3. แชมป์คุง

    แชมป์คุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    212
    ค่าพลัง:
    +279
    อยากทราบว่าภาพของพระโพธิสัตว์กษิคิครรรถ์ภาพแรก ถ่ายจากที่ไหนในไทยหรือเปล่าครับอยากไปชมพระบารมีจัง
     

แชร์หน้านี้

Loading...