พระโพธิสัตว์ (หลวงพ่อสนอง กตปุญฺโญ)

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย TupLuang, 13 มิถุนายน 2008.

  1. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    พระโพธิสัตว์
    หลวงพ่อสนอง กตปุญฺโญ
    ประตูธรรม หน้า ๙๙-๑๐๒<!--colorc--><!--/colorc-->


    [​IMG]


    เราต้องเอาคุณธรรมของพระโพธิสัตว์มาช่วยโลกให้มองโลกในแง่ดี ให้คนมีแบ่งปันคนจน ให้คนจนนั้นมีสติปัญญาลืมตาอ้าปากได้ เหมือนช่วยพวกปลาที่ตกคลั่กอยู่ในน้ำ เราก็จับไปปล่อยในบ่อใหญ่ซะ ให้เขารอดพ้นจากการเป็นเหยื่อแร้งกา ไม่ใช่เราเป็นอีแร้งอีกาเสียเอง ไปเจอปลาตกคลั่ก..กูก็กินซะเลย คนรวยทุกวันนี้มันเป็นยังงั้นนะ แต่ถ้าพระโพธิสัตว์ไปเจอปลาในที่ตกคลั่กแล้วก็เมตตาสงสารว่า..เจ้าจงมีชีวิตต่อไป เจ้าจะได้มีพืชพันธุ์ จะได้มีลูกหลาน มีชีวิตเหมือนกับเราๆ ก็เอาไปปล่อยสระใหญ่มันก็ไม่สูญพันธุ์ มันก็ไม่ทำลายกัน นี่คือช่วยอย่างพระโพธิสัตว์

    โลกทุกวันนี้ที่เดือดร้อนกันมาก เพราะว่าขาดคนที่คิดอย่างพระโพธิสัตว์ ขาดคนที่จะเข้าไปช่วยกันแก้ไข จะแก้ด้วยอาวุธก็แก้ไม่ได้ จะแก้ด้วยโทสะก็แก้ไม่ได้ มันต้องแก้ด้วยคุณธรรม เขาขาดอะไร เราก็ไปช่วยเขา เพราะโลกนี่สามารถจะช่วยได้ ผู้มีอำนาจวาสนาสามารถจะช่วยได้ ไม่ต้องรบราฆ่าฟัน เพียงแต่ไปดูว่าเขาขาดอะไร แล้วเราก็เอาสิ่งนั้นไปช่วย การช่วยอย่างนี้ทุกคนจะไม่เกลียดเลย ถึงจะช่วยได้ไม่มากแต่ทุกคนก็รู้ว่านี่เป็นมิตร เป็นเหมือนญาติ พระพุทธเจ้าบอกว่า
    " สัตว์โลกเป็นไปตามกรรมก็จริง แต่สัตว์นั้นเป็นญาติกัน ให้ทุกคนเป็นญาติกัน ช่วยกันได้"

    พระโพธิสัตว์แม้เกิดเป็นนกเป็นกาก็ไม่เบียดเบียนใคร เป็นผู้ให้ พระโพธิสัตว์ไปอยู่ที่ไหนก็จะมองคนอื่นเป็นญาติเป็นมิตร แล้วก็คิดจะช่วยคนอื่น แม้ตัวจะตายก็ยอม พระโพธิสัตว์จะสละชีวิตตัวเองเพื่อคนอื่น ไม่หวังความสุขของตนเองเลย เป็นบุคคลที่คนธรรมดาทำไม่ได้ ต้องเป็นพระโพธิสัตว์เท่านั้น ถึงจะทำได้ ซึ่งชาวโลกก็มองว่าเหมือนคนไม่มีเหตุผล

    อย่างพระเวสสันดรให้ลูกให้เมียให้ช้างให้ม้าเหมือนคนไม่มีเหตุผล แต่ปณิธานอย่างนี้จะมีอยู่แต่เพียงพระโพธิสัตว์เท่านั้น คนอื่นทำไม่ได้ มันเหนือใจมนุษย์ธรรมดา เหนือใจเทวดาด้วย เทวดายังหวงเลย ยังหวงวิมาน ยังหวงรัศมี ยังหวงอำนาจ แต่พระโพธิสัตว์เกิดมาเพื่อให้อย่างเดียว นี่คือลักษณะหนึ่งไม่มีสอง เกิดมาต้องเสียสละอย่างเดียว ยิ่งบารมีแก่กล้าเท่าไรก็ยิ่งให้มากเท่านั้น ให้จนไม่มีอะไรเหลือเลย ที่สุดก็มาเป็นพระพุทธเจ้า..

    คนเราถ้าเรียนรู้ประวัติพระโพธิสัตว์แล้วนำมาปฏิบัติตามก็จะเป็นสิ่งดี อย่างเช่นผู้เสียสละนี่มันเป็นนิสัยเป็นเชื้อของพระโพธิสัตว์ ยิ่งให้มาก็เป็นพระโพธิสัตว์เต็มตัว ถ้าให้น้อยก็ถือว่าเป็นการเดินตามพระโพธิสัตว์

    ดังนั้นพระโพธิสัตว์จึงเกิดมาเพื่อดับทุกข์เข็ญ ยิ่งโลกมีทุกข์เดือดร้อนเท่าไร พระโพธิสัตว์ก็ยิ่งมีโอกาสสร้างบารมีได้มาก ยิ่งได้สร้างบารมีช่วยเหลือเกื้อกูลคนจนมากเท่าไร พระโพธิสัตว์ก็ดีใจมากเท่านั้น คือพอใจที่ตัวเองได้ทำ เพราะเขาไม่กลัวความจน ไม่กลัวความเจ็บ ไม่กลัวความตาย ตายแล้วพวกนี้ก็ไปสู่สุคติอย่างเดียว เพราะจิตของเขาเป็นผู้ให้ ผู้มาเอานั้นจิตมันโลภ ตายไปก็ลงนรก ไปเป็นเปรตเป็นอสุรกายเป็นสัตว์เดรัจฉาน

    ฉะนั้นพระโพธิสัตว์จึงเชื่อเรื่องบุญบาป เชื่อเรื่องกรรมเวร เรื่องสร้างความดี เกิดมาแล้วเชื่อเลย ไม่ต้องให้ใครสอน พวกเรานี่ต้องสอน พระโพธิสัตว์จะมองเห็นประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว แต่คนที่ฉลาดแบบโลกๆ นี่จะเห็นประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวมที่บ้านเมืองเราเจริญได้ทุกวันนี้ เพราะมีพวกที่เสียสละ โลกที่ยังอยู่ได้ทุกวันนี้ก็เพราะยังมีผู้เสียสละ ที่บ้านเมืองพังก็เพราะมีคนคิดแต่จะเอาเปรียบคนอื่น แล้วในที่สุดกรรมก็ตามมาให้ผลอย่างหนีไม่พ้น

    ก็ขอให้เอานิสัยพระโพธิสัตว์มาใช้กันให้มากขึ้น เราควรจะเรียนรู้ให้ลึกซึ้ง ที่จริงพระไตรปิฎกนี่ทุกคนควรจะอ่าน อ่านไม่จบก็ควรจะอ่าน ทุกคนที่เป็นชาวพุทธควรจะอ่านพระไตรปิฏก จะได้เรียนรู้จิตใจของพระโพธิสัตว์เข้าใจจิตใจของพระพุทธเจ้า เข้าใจคำสอนของพระองค์ ว่าตื้นลึกหนาบางอย่างไร ไม่ใช่มาเห็นรูปที่ประตูโบสถ์หรือผนังโบสถ์แล้วผ่านเลยไป เราก็จะสูญเสียประโยชน์ ที่ถูกเราควรจะค้นคว้าให้ลึกซึ้งกว่านี้ ซึ่งอาจจะทำให้เราพบธรรมเครื่องดับทุกข์ได้

    คนเดี๋ยวนี้พอนึกถึงพระโพธิสัตว์ก็คิดแค่จะกราบไหว้อ้อนวอนขอความช่วยเหลือจากท่าน เมื่อประสบทุกข์ก็มักจะงอมืองอเท้า ไม่คิดเพียรพยายามที่จะช่วยเหลือตัวเอง หวังแต่จะให้ท่านบันดาลให้พ้นจากปัญหานั้น เราจึงมาทำตรงนี้ขึ้นเพื่อเตือนสติให้ระลึกถึงพระโพธิสัตว์ในแง่ที่ถูกต้อง..

    ความจริงแล้วเบื้องต้นพระโพธิสัตว์ก็คือ บุคคลธรรมดาเหมือนพวกเรานี่เอง แต่ด้วยความเพียรพยายามของท่านในการสร้างสมบุญบารมีโดยไม่ย่อท้อ แม้จะลำบากยากเข็ญหรือประสบอุปสรรคมากมายเพียงใด ท่านก็ยังคงทำความดีต่อไปจนกระทั่งตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์จึงเป็นตัวอย่างอันดีของบุคคลผู้มีความหมั่นเพียรฝึกฝนพัฒนาตนเองจนประส
    บความสำเร็จโดยไม่คิดจะพึ่งพาใคร เมื่อเราระลึกถึงจริยาวัตรและความจริงจังในการสร้างสมบารมีของท่าน ก็จะทำให้เราเกิดกำลังใจในการทำความดีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป

    <!--coloro:#2E8B57--><!--/coloro-->ที่มา : <!--colorc--><!--/colorc-->iceicy การให้ธรรมะ ชนะการให้ทั้งปวง
    <!--sizec--><!--/sizec-->
    http://community.thaiware.com/thai/index.php?showtopic=333611
     
  2. oomsin2515

    oomsin2515 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    2,934
    ค่าพลัง:
    +3,393
    กุศลผลบุญใด ๆ ก็ตามที่ข้าพเจ้าได้ทำมาแล้ว ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศให้<O:p</O:p


     
  3. นายวีระศักดิ์ ท

    นายวีระศักดิ์ ท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2006
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +1,003
    อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ครับ หลวงพ่อสนอง วัดสังฆทาน จังหวัดนนทบุรี ท่านสอนดี ที่วัดท่านก็เป็นวัดปฏิบัติธรรม มีคนนุ่งขาวห่มขาวปฏิบัติธรรมกันเยอะ อาจารย์ท่านเก่งถ้าจำไม่ผิดชื่อหลวงปู่สังข์เป็นพระที่น่าศึกษาประวัติอีกรูปหนึ่งครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 มิถุนายน 2008
  4. NCK2046

    NCK2046 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    628
    ค่าพลัง:
    +3,793
    อย่างพระเวสสันดรให้ลูกให้เมียให้ช้างให้ม้าเหมือนคนไม่มีเหตุผล แต่ปณิธานอย่างนี้จะมีอยู่แต่เพียงพระโพธิสัตว์เท่านั้น คนอื่นทำไม่ได้ มันเหนือใจมนุษย์ธรรมดา เหนือใจเทวดาด้วย เทวดายังหวงเลย ยังหวงวิมาน ยังหวงรัศมี ยังหวงอำนาจ แต่พระโพธิสัตว์เกิดมาเพื่อให้อย่างเดียว นี่คือลักษณะหนึ่งไม่มีสอง เกิดมาต้องเสียสละอย่างเดียว ยิ่งบารมีแก่กล้าเท่าไรก็ยิ่งให้มากเท่านั้น ให้จนไม่มีอะไรเหลือเลย ที่สุดก็มาเป็นพระพุทธเจ้า..

    ไม่มีช่องให้ค้านได้เลย

    น้ำตาจะไหล เพราะมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ให้จนแทบไม่เหลืออะไรแล้ว นอกจากความภาคภูมิใจว่าได้ให้ การได้ให้คือสมบัติล้ำค่าของโพธิสัตว์จริงๆ
     
  5. junior phumivat

    junior phumivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,346
    ค่าพลัง:
    +1,688
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงพบแล้ว ขอธรรมนั้น จงสำเร็จแก่ท่านทั้งหลายโดยเร็วด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ
    อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาตินี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้า ได้เข้าถึง ซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด หากแม้นยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่าไม่รู้ ไม่มี จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าเลย ขอผลบุญทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้า ได้กระทำแล้ว จงบังเกิดผล ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
     
  6. Mr.Kim

    Mr.Kim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    3,036
    ค่าพลัง:
    +7,028
    อนุโมทนา สาธุกับความปรารถนาพระโพธิญาณของพระโพธิสัตว์ทุกท่านครับ
     
  7. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    0 มโนกรรมที่ใหญ่ยิ่งสูงส่งที่สุด

    กรรมดีทางพระหฤทัยนั้นคือพระมหากรุณาที่จะทรงช่วยสัตว์โลกทั้งปวงให้พ้นทุกข์เป็นกรรมดีที่ยิ่งสูงส่งที่สุด ไม่มีกรรมทางใจของผู้ใดเปรียบเทียบได้

    กรรมทางพระหฤทัยพระสิทธัตถราชกุมารสูงสุด เต็มบริบูรณ์พระหฤทัยจึงเป็นเหตุให้เกิดผลเป็นกรรม ทางพระกาย พระวาจาอย่างใหญ่ยิ่งจนได้ถึงเสด็จออกบรรพชา แสวงหาทางเพื่อให้บรรลุจุดที่ทรงมุ่งหมาย

    ทรงสละสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ที่ย่อมไม่มีผู้ใดสละได้ เพราะทุกสิ่งที่สละนั้นเป็นสิ่งที่บุคคลทั่วไปปรารถนาจะไขว่คว้าให้ได้มาเป็นสมบัติของตนทรงสละสิ่งอันเป็นเครื่องบำรุงบำเรอความสุขทุกประการ มีราชบัลลังก์เป็นสำคัญทรงเหนื่อยยากตรากตรำพระวรกาย ทรงสละความเป็นพระมหากษัตริย์..ลงสู่ความเป็นผู้ขอที่ไม่มีอะไรเป็นของพระองค์เลย

    ทรงกระทำได้ถึงเพียงนี้ก็ด้วยทรงมีกรรมดียิ่งทางพระหฤทัย คือมีพระมหากรุณาคุณเป็นมโนกรรม...กรรมทางใจที่ให้ผลตรงตามเหตุ

    พระพุทธศาสนาที่สุดประเสริฐบังเกิดขึ้นเป็นผลแห่งพระมหากรุณาคุณอันเป็นกรรมส่วนเหตุที่สุดประเสริฐนั้น เป็นผลสูงสุดตรงตามเหตุ คือ กรรมที่สูงสุด<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    สมเด็จพระญาณสังวร
    สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
    >>>>> ชี วิ ต นี้ สำ คั ญ นั ก >>>>><O:p></O:p>

    <O:p</O:p
    http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=10165


    --------------------------------------------------------------

    อนุโมทนา สาธุ ทุกท่านครับ<O:p</O:p
     
  8. ณ.วชิรา

    ณ.วชิรา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +422
    ตถตา เป็นเช่นนั้นเอง
    หามีเป็นอันใดไม่ การเดินทางของจิต ของใจที่ตั้งหวัง
    ขอให้ท่านได้ในสิ่งหวังทุกประการ
    ด้วยจิตคารวะ
    ณ.วชิรา
     
  9. ปกรณ์

    ปกรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +3,761
    น้ำตาจะไหล
     
  10. Starpegasus

    Starpegasus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +826
    ขออนุโทนาเป็นอย่างยิ่ง
     

แชร์หน้านี้

Loading...