พระอรหันต์พลิกฝ่ามือ ธรรมบรรยายโดย อาจารย์วรากร ไรวา

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย อุรุเวลา, 14 มิถุนายน 2012.

  1. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    อาคารปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ วัดอินทรวิหาร บางขุนพรหม กทม.
    คัดลอกจาก http://mywebpage.netscape.com/doraeme23/31pop_poom.doc
    เรามาปฏิบัติกันทำไม มาทำความเข้าใจเรื่องการปฏิบัติว่า
    อย่างแรกเรามาปฏิบัติเดินช้า ๆ แล้วก็มาดูท้องขึ้นท้องลง (พองหนอยุบหนอ) ทำไมต้องมาเดินช้า ๆ และดูท้องขึ้นท้องลงด้วยนะครับ แล้วที่ทำไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับใจเรา
    และอย่างที่สองคือฝึกจบไปแล้ว 7คืน 8 วัน กลับไปบ้านจะทำยังไงดี อยากปฏิบัติต่อจะทำยังไง
    อย่างที่ 3 พวกเราทั้งหลายได้ชื่อว่าเป็นพุทธศาสนิกชน เรามีความเข้าใจเรื่องศาสนาพุทธอย่างไร ศาสนาพุทธคือการนิมนต์พระมาแล้วก็ให้ท่านสวดมนต์เสร็จแล้วก็ถวายสังฆทาน แล้วให้ท่านพรมน้ำมนต์ให้ แล้วกรวดน้ำ ศาสนาพุทธมีเท่านั้นหรือเปล่า หรือมีมากกว่านั้น
    วันนี้แหละท่านทั้งหลายก็จะทราบว่าศาสนาพุทธที่เรานับถืออยู่นี่ คืออะไรกัน เวลาไปพูดกับชาวต่างประเทศจะได้อธิบายให้ฟังถูก นี้คือหัวข้อที่จะพูดในวันนี้ 3 หัวข้อ
    ก่อนที่จะเริ่มพูดทั้งสามหัวข้อ เรียนโยคีทั้งหลาย ว่า การบรรยายของผม ขณะที่บรรยายก็จะมีคำถามไปเรื่อย ๆ โยคีมีหน้าที่ที่จะตอบคำถาม คำตอบที่อยากได้นั้นไม่อยากได้มาจากหนังสือ อยากให้ตอบมาจากใจ สมมติหากถามเชื่ออย่างนั้นอย่างนี้ เชื่อก็บอกมาว่าเชื่อ ไม่เชื่อก็บอกไม่เชื่อก็ไม่ว่ากัน แต่ให้ตอบคำถามออกมาจากใจ
    ก่อนบรรยาย ผมมีคำถามให้ท่านทั้งหลายได้ตอบกัน คำถามมีอยู่ว่า คนเราจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้ทั้งทางโลกและทางธรรม ต้อง 1. ขยัน ประหยัด อดทน 2.ไม่นอนตื่นสาย ไม่อายทำกิน ไม่หมิ่นเงินน้อย ไม่คอยวาสนา 3.ดวงดีซะอย่าง ข้อไหนเป็นคำตอบที่ถูกต้อง ข้อ 1 ข้อ 2 ข้อ 3 ข้ออะไร ? ครับ
    ข้อ 1 เป็นคำตอบสุดท้ายมั้ย ข้อ 1 ผิดครับ ข้อ 1 ขยัน คนขยันที่ไม่ประสบความสำเร็จมีมั้ย มี งั้นแปลว่า ข้อ 1 ผิดแน่
    ข้อ 2 ผิดครับ ข้อ 2 ไม่นอนตื่นสาย คนนอนตื่นสายประสบความสำเร็จมีมั้ย มี แปลว่า ข้อ 2 ก็ไม่ถูกอีก
    ข้อ 3 ดวงดีซะอย่าง ถูกต้อง ทำอะไรก็ได้ ดวงดีซะอย่างใช่มั้ย
    พวกเราคงสงสัยว่า เอ๊ะนี่ จะมาสอนเรื่องผูกดวง หรือสนเรื่องพระพุทธศาสนา ก็ตอบว่า ดวงที่พูดเนี่ยะนะครับ ไม่ได้ดวงดาว ไม่ใช่ว่าเป็นโหราศาสตร์ ดวงคนเรานะครับ พูดจริง ๆ แล้ว ไม่ได้ขึ้นกับดวงต่าง ๆ หรอก ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง เราสามารถจะทำดวงของเราเองเนี่ยะให้ดีก็ได้ ไม่ดีก็ได้ เพราะฉะนั้นใครอยากให้ดวงเราดีตลอด ไม่มีดวงตกเลยนะครับ ต้องทำ 3 อย่างนี้ จำไว้เลยนะครับ
    อยากดวงดีตลอดต้องทำ 3 อย่าง
    1.ต้องให้ทานสม่ำเสมอ เป็นคนให้สม่ำเสมอ การให้นี้ไม่จำเป็นต้องให้ด้วยสตางค์ บางคนบอกว่า แหม จะทำทานแล้วเนี่ยะ ชั้นไม่ค่อยมีสตางค์ ให้ด้วยสตางค์ ชั้นก็ลำบาก ตัวเองก็ยังไม่ค่อยจะมีเลยแล้วยังจะไปให้อีก
    การทำทานไม่จำเป็นต้องให้ด้วยสตางค์นะครับ ให้ด้วยการช่วยเหลือเค้าก็ได้ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ก็เรียกว่าทำทานแล้ว ให้กำลังกาย ทำทานด้วยกำลังกายนะครับ หรือการทำทานด้วยการให้กำลังใจ เห็นเพื่อนเค้ากำลังกลุ้มอยู่ เราไปพูดให้กำลังใจเค้า ก็เรียกว่าเป็นการทำทานเหมือนกัน
    ทานที่เรียกว่ายิ่งใหญ่กว่าทานทั้งปวงในภาษาบาลีท่านว่า สัพพะทานัง ธัมมะทานัง ทินาติ แปลว่า ในกระบวนการให้ทั้งหมดเนี่ยะนะครับ การให้ธรรมมะเป็นทานชนะการให้ทานทั้งปวง เราสามารถให้ธรรมเป็นทานได้ เช่น สมมติว่าเราปฏิบัตินี้ 7วันไปแล้วรู้สึกว่า เออดีนะ ทำให้เราใจเย็น ก็ไปชวนเพื่อน อันนั้นก็เรียกว่า ให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง
    ใครทำทานให้สม่ำเสมอได้ ดวงคุณจะดี 25 %
    อันที่ 2 ต้องรักษาศีล 5 ข้อ ศีลนี้ถ้าใครรักษาได้ 1 ข้อ ดวงจะดี 5% ถ้ารักษาได้ 5 ข้อ ดวงดีกี่เปอร์เซนต์ 25%
    ศีลก็คือ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติในกาม ไม่พูดโกหก และไม่ดื่มของเสพติด นะครับ 5 อย่างข้อละ 5%
    สรุปแล้ว ให้ทานด้วย รักษาศีล 5 ด้วย ดวงดีกี่เปอร์เซนต์ ? 50%
    อย่างที่ 3 นี่สำคัญมาก เพราะมีน้ำหนักถึง 50% อย่างที่ 3 ก็คือว่า ต้องทำจิตใจให้ร่าเริงเบิกบานอยู่เสมอ วงเล็บทั้งวัน ทำได้มั้ย ? ไม่ได้ ตอนนี้พูดว่าทำไม่ได้ แต่ตอนจบแล้วเดี๋ยวจะได้ นะครับ ว่าทำยังไงถึงจะให้ ทำจิตใจของเราให้ร่าเริงเบิกบานอยู่เสมอทั้งวันได้ และข้อนี้สำคัญมากมีน้ำหนักถึง 50% ในการที่จะทำให้ชิวิตเราเจริญขึ้น รู้ 3 ข้อนี้ จำให้ดีแล้วไปปฏิบัติ
    แล้วที่มาของ 3 ข้อนี้คืออะไร มีดังนี้
    ข้าง ๆ ผมนี้มีผังอยู่ผังนึง เรียกว่า ผังภพภูมิ นี้จะย่อมาจากพระไตรปิฏกในพระไตรปิฎกท่านเขียนไว้เลยว่าพวกเราทั้งเนี่ยะ ไม่เว้นสักคนจะต้องไปเวียนว่ายตายเกิดใน 31 ภพภูมิ
    และ 31 ภพภูมิที่พวกเราทั้งหมดจะต้องไปเวียนว่ายตายเกิดนี้มีอะไรบ้างจะนับให้ดู
    1สัตว์นรก 2 อสูรกาย 3 เปรต 4 เดรัจฉาน 5 มนุษย์ 5 แล้วนะครับ 6 เทวดาอย่างเดียวมี 6 ชั้น 5 กะ 6 เป็น 11 รูปพรหมอย่างเดียวมี 16 ชั้น 11 กะ 16 เป็น 27 และอรูปพรหมอย่างดียวมี 4 ชั้น 27 กะ 4 เป็น 31 นี่คือ 31 ภพภูมิ
    ที่เค้าว่ากันว่าทั้งหมดนี่แหล่ะ จะต้องไปเวียนว่ายตายเกิดใน 31 ภพภูมิดังนั้น เราก็มาดูกันว่า เอ๊ะ 31 ภพภูมิเนี่ยะคืออะไร ทำไมฉัน ฉันแต่ละคนต้องไปเวียนว่ายตายเกิดใน 31 ภพภูมินี้ด้วย ไม่ไปไม่ได้เหรอ ?
    การอธิบายคำว่าภพภูมิให้ท่านทั้งหลายเข้าใจนะครับ ไม่มีอะไรดีไปกว่าเปรียบเทียบว่าภพภูมินึงเนี่ยะ ควรจะเท่ากับอะไรที่เราเห็นในปัจจุบัน
    ผมจะเปรียบเทียบว่าภพภูมินึงเท่ากับประเทศ ประเทศนึง ในโลกนี้มีประเทศอยู่ประมาณ 200 กว่าประเทศ เช่นประเทศญี่ปุ่น ประเทศเกาหลี ถ้าเราอยากจะเดินทางไปท่องเที่ยวประทศต่าง ๆ เหล่านี้ เราจะทำยังไง ไม่ยากเลยไปที่สนามบิน ต้องมีตั๋วมีพาสปอร์ต มีวีซ่าให้เรียบร้อย อยากจะไปญี่ปุ่นเค้าก็จับเราขึ้นเครื่องบิน จะเป็นแจแปนแอร์ไลน์ก้อได้ และเครื่องบินที่มีตัวเราอยู่ในเครื่องเนี่ยะ ก็จะบินพาเราไปประเทศญี่ปุ่น
    ฉะนั้นจะเห็นได้ว่าการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ใช้ตัวเราบินไปบินมาตามประเทศต่าง ๆ
    ผมถามหน่อยการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างภพภูมิเนี่ยะ เค้าใช้ตัวเราเนี่ยะบินไปบินมาระหว่างภพภูมิใช่มั้ย ไม่ใช่
    เค้าใช้อะไรเดินทางระหว่างภพภูมิทราบมั้ยครับ? เค้าใช้จิต
    เค้าใช้จิต เพราะฉะนั้น จิต ประเทศที่จิตจะเดินทางไปท่องเที่ยวเนี่ยะ มี 200 กว่าประเทศใช่ใหม ? ไม่ใช่ ประเทศที่จิตจะเดินทางไปท่องเที่ยวมี 31 ประเทศ นี่ครับคือประเทศที่จิตจะเดินทางไปท่องเที่ยวทั้ง 31 ประเทศ
    แผนผัง 31 ภพภูมิ

    8 อรูปพรหมอย่างเดียวมี 4 ชั้น สุคติภูมิ
    7 รูปพรหมอย่างเดียวมี 16 ชั้น สุคติภูมิ
    6 เทวดาอย่างเดียวมี 6 ชั้น สุคติภูมิ
    5 มนุษย์อยู่ตรงกลาง
    4 เดรัจฉาน ทุคติภูมิ
    3 เปรต ทุคติภูมิ
    2 อสูรกาย ทุคติภูมิ
    1 สัตว์นรก ทุคติภูมิ
    เขาแบ่งประเทศที่จิตจะเดินทางไปท่องเที่ยวมี 2 ส่วนดังนี้ มีมนุษย์อยู่ตรงกลาง
    ด้านบนของมนุษย์เค้าเรียกว่า สุคติภูมิคือประเทศที่จิตเดินทางไปท่องเที่ยวแล้วมีความสุข
    ด้านล่างของมนุษย์ลงมา เรียกว่า ทุคติภูมิ คือประเทศหรือ ภพภูมิที่จิตเดินทางไปท่องเที่ยวแล้วมีความทุกข์
    พวกเราทั้งหลาย บางครั้ง เราจะเดินทางท่องเที่ยวไปทางสุคติภูมิคือมีความสุขบ้าง บางครั้งเราก็เดินทางไปท่องเที่ยวทางทุกคติภูมิบ้าง วกกลับขึ้นไปสุคติภูมิมีความสุขอีก วกกลับลงมาทุคติภูมิมีความทุกข์อีก วกไปเวียนมาสุขบ้างทุกข์บ้าง วกไปเวียนมาสุขบ้างทุกข์บ้าง
    เรียกว่า พวกเราทั้งหลายกำลังเดินทางท่องเที่ยวอยู่ในสังสารวัฏ บางครั้งพวกเราก็จะเดินทางท่องเที่ยวไปสุขคติภูมิ คือมีความสุขบ้าง บางครั้งพวกเราจะเดินทางท่องเที่ยวมาทางทุคติภูมิคือมีความทุกข์บ้าง
    ใน 31 ภพภูมิที่ท่านทั้งหลายเห็นนี้ ถามหน่อยว่าที่เห็นด้วยตาว่ามีจริง ๆ เลยมีกี่ภพภูมิ ยังไงก็มี ลองดูซิครับว่ามีกี่ภพภูมิ เห็นอะไรบ้าง
    มีอยู่ 2 ใช่มั้ยครับ คือ มนุษย์ กับ เดรัจฉาน
    ใน 31 เห็นด้วยตา 2 และอีก 29 คิดว่ามีหรือไม่มี ? อยากเห็นมั้ย อยากเห็นตอนตายหรือเดี่ยวนี้ อ่ะ เดี๋ยวนี้ เราสามารถสัมผัสภพภูมิทั้ง 29 ได้เดี๋ยวนี้เลย โดยไม่ต้องรอให้ตายไปก่อน นะครับ เพราะภพภูมิเหล่านี้เราไม่สามารถไปสัมผัสด้วยตาได้ แต่สามารถสัมผัสด้วยใจได้
    เมื่อไหร่ก็ตามที่เรามีความรู้สึกดีดี ปลื้มใจ สบายใจ ยิ้มแย้มแจ่มใส สนุกสนาน ร่าเริงนั้น สัมผัสภพเทวดา
    เมื่อไหร่ก็ตามที่เรามีความรู้สึกใจไม่ว้าวุ่น ใจสงบ ใจนิ่งไม่ปรุงแต่ ไม่ว้าวุ่นเลย เงียบสงบเลย นั่นสัมผัสที่ไหน นี่ครับ อันนี้รูปพรหม
    แล้วเมื่อไหร่เรานั่งกัมฐาน ภาวนาจนกระทั่งนั่งนิ่งมาก ตัวที่นั่งอยู่เนี่ยะไม่มีเลย ขนาดที่ว่านั่งอยู่เนี่ยะภาวนาจนกระทั่งตัวนี่หายไปเลยมีแต่ความรู้สึกรู้อยู่เฉย ๆ นั่นคือสัมผัสชั้นอรูปพรหม
    เมื่อไหร่ก็ตามที่เรามีความรู้สึกเกลียดมัน อยากฆ่ามันเหลือเกิน นะครับ อาฆาต พยาบาท จองเวร โมโห โกรธ เมื่อนั้น อยู่แถว ๆ ข้างล่าง นรก
    บางคนโกรธมาก โมโหมากจนสามารถทำกับผู้มีพระคุณได้ ณ จุดนั้น คือสัมผัส เรียกว่าลึกสุดของสังสารวัฏ โลกันต
    มันแล้วแต่ความรุนแรงของความรู้สึก โลภโกรธ หลง แล้วแต่ละคนว่าจะมีขนาดไหน นะครับ แต่ลึกสุดสุดที่สุดก็คือว่า โกรธมากจนกระทั่ง ลืมตัวไป สามารถทำร้ายผู้มีพระคุณได้คือ ลงมาสุด โลกันต
    สรุปแล้ว
    หัวเราะ ( ข้างบน สวรรค์ ) ร้องไห้ ข้างล่าง (นรก ) ดีใจ ข้างบน เสียใจ ข้างล่าง
    หัวเราะข้างล่าง (นรก) มีมั้ย มี หัวเราะตอนไหน ไอ้เนี่ยะมันตายเสียได้ก็ดี สะใจฉันเหลือเกิน
    ร้องไห้ข้างบน หรือ ข้างล่าง ร้องไห้ข้างล่าง ร้องให้ข้างบนมีมั้ย ร้องไห้ตอนไหน ร้องไห้ตอนถูกลอตเตอรี่ สรุปแล้วก็ไม่ได้หัวเราะ ร้องไห้น่ะ
    มันอยู่ที่ใจเราจริง ๆ ว่า ใจ ณ ขณะนั้น เราคิดยังไง เมื่อเข้าใจเรื่องภพภูมิแล้ว ก็จะหยุดเรื่องภพภูมิไว้ก่อน ก็จะอธิบายให้โยคีทั้งหลาย ได้ฟังถึงเรื่อง ใจของพวกเราต่อไป
    ใจของพวกเราเป็นยังไง จะอธิบายให้ฟัง คำว่าคนเรา ประกอบด้วย
    2 ส่วนใหญ่ ที่รวมแล้วเป็นคน 2 ส่วนใหญ่นี่คืออะไร กายกับใจ ภาษาธรรมเค้าเรียก รูปกับนาม
    นี่คือกายกับใจ คนประกอบด้วยกายกับใจ มีคนอยู่คนนึงพิเศษกว่าคนอื่น มีแต่กายเฉย ๆ ไม่มีใจเค้าเรียกคนใช่มั้ย ไม่ใช่ เค้าเรียกว่าอะไร เค้าเรียก ศพ เค้าเรียกคนตาย ปกติแล้วใจของคนเราเป็นรูปนามหรือ เป็นนามธรรม
    ใจของเรามี 5 แฉก ใจทุกคนมี 5 แฉก เพราะทุกคนมีความยึดมั่นถือมั่นประจำตน ประจำใจ 5 อย่าง ความยึดมั่นถือมั่นประจำใจ 5 อย่างภาษาธรรมเค้าเรียกว่า ขันธ์ 5 ขันธ์ 5 มีอะไรบ้าง มี รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
    ขันธ์ 5 ความยึดมั่นถือมั่นประจำใจ 5 อย่างนั้น เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า กู ทั้ง5 ประจำใจ มีอะไรบ้าง
    กูที่ 1 ตัวกู แปลว่า รูปขันธ์
    กูที่ 2 พอถูกตี ใครเจ็บ กูเจ็บ กูเจ็บ แปลว่า เวทนาขันธ์
    กูที่ 3 สองคูณสองเป็นเท่าไหร่ เป็นสี่ ใครจำได้ กูจำได้ กูจำได้เอง คือ สัญญาขันธ์
    กูที่ 4 ที่นี่คือที่ไหน วัดอินทร์ ใครคิดได้ กูคิดได้ กูเป็นคนคิดได้เอง คือคำแปลของคำว่า สังขารขันธ์
    กูที่ 5 เห็น ๆ นี่ ใครเป็นคนเห็น กูเห็น กูเห็นเอง คือคำแปลของคำว่า วิญญาณขันธ์
    สรุปแล้ว 5 กู ครบคือ 1 ตัวกูเอง 2 กูเจ็บเอง 3 กูจำได้เอง 4กูเป็นคนคิดได้เอง 5 กูเป็นคนเห็นเอง รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ครบ
    กูทั้ง 5 นี้ วิ่งไปรวมเป็น 1 ใจ ฉะนั้นใจของเราจึงมีความยึดมั่นถือมั่นว่า นี่ตัวกูเอง เอาคำว่าตัวกู แปะลงไปที่ใจดวงนี้
    ที่นี้อารมณ์เกิดขึ้นที่ไหนครับ เกิดขึ้นในใจ วันนึงเกิดสักกี่อารมณ์ หลายมาก นับไม่ถ้วน เกิดเยอะมาก เพราะอารมณ์เกิดขึ้นทุก ๆ ขณะจิต นะครับ แค่ดีดนิ้วมือนี้นะครับ แป๊ก แสนโกฏิขณะจิต วันนึงดีดนิ้วกี่หน แสน ๆ ล้าน ๆ หน งั้นวันนึงอารมณ์เกิดขึ้นนับไม่ถ้วนเลย
    แต่อารมณ์ที่เกิดขึ้นที่นับไม่ถ้วนทั้งที่ใจเรา แต่ละวันนี้นะครับ เขามีทางแสดงออกของอารมณ์
    เวลาที่อารมณ์จะแสดงออกจำกัดมาก เลย มีแค่ 6 ทางที่อารมณ์จะแสดงออก และ 6 ทางที่อารมณ์จะแสดงออกก็คือ
    ทางที่ 1 เมื่ออารมณ์เกิดขึ้นทางตาทำให้เรามองเห็น คนตายมีตามั้ย มี คนตายมีตา คนตายมองเห็นมั้ย ไม่เห็น ฉะนั้นคนตายจึงไม่มีอารมณ์เกิดขึ้นทางตา แต่ คนเป็นอย่างเราเนี่ยะ มีตาด้วย และมองเห็นด้วย คนเป็นจึงมีอารมณ์เกิดขึ้นทางตา
    ทางที่ 2 คืออารมณ์เกิดขึ้นทางหู ทำให้เราได้ยิน
    ทางที่ 3 คืออารมณ์เกิดขึ้นทางจมูก ทำให้เราเราได้กลิ่น
    ทางที่ 4 คือ อารมณ์เกิดขึ้นทางลิ้น ทำให้เราได้รส
    ทางที่ 5 คือ อารมณ์เกิดขึ้นทางกาย รู้สึกสัมผัสดังนี้
    และทางสุดท้ายที่อารมณ์จะเกิดขึ้นก็คือทางใจ ทำให้เราคิดได้ เวลาเราคิดอารมณ์จะขึ้นมา
    อารมณ์เกิดวันละนับครั้งไม่ถ้วน แต่มีทางแสดงออกกี่ทาง 6 ทางคือ ตาหู จมูก ลิ้น กาย ใจ สลับไปสลับมาเร็วมากเลย เดี๋ยวเห็น เดี่ยวได้ยิน เดี๋ยวมาเห็นอีก เดี๋ยวได้กลิ่น เดี๋ยวได้รส เดี๋ยวมาได้ยินอีก สลับไปสลับมา 6 ทวาร เร็ว ๆ มากเลยนะครับ บางทีเราจับไม่ทัน
    และนี่ก็คืออารมณ์ที่เกิดขึ้นกับเราทุก ๆ ขณะจิต ผมได้ 3 อย่าง และ 3 อย่างนี้คืออะไรบ้าง
    อย่างแรกก็คือผังนี้ 31 ประเทศ นี้ 31 ภพภูมินี้ จำได้มั้ยว่า ใครเป็นคนไปเนี่ยะ จิตเราเป็นคนไปเที่ยว จิตเราหรือใจเราที่มีความยึดมั่นถือมั่น ว่ามีตัวกูเนี่ยะเป็นคนไปเที่ยว 31 ประเทศ และนี่ก็คืออารมณ์ อารมณ์ก็ไปกระทบที่ไหน ? อารมณ์ก็ไปกระทบที่ใจ
    อารมณ์เกิดขึ้นทุก ๆ ขณะจิต เค้ากระทบที่ทุก ๆ ขณะจิต อารมณ์กระทบใจทุก ๆ ขณะจิต ดูซิครับ ใจมีอาการยังไง สั่น
    การที่อารมณ์กระทบใจกระทบได้ 2 ลักษณะ คือ กระทบเบาก็ได้ กระทบแรง ๆ ก็ได้ เมื่อไหร่กระทบเบา เมื่อไหร่กระทบแรง
    เวลาไหนก็ตามที่ใจเราเนี่ยะมีความเห็นแก่ตัวมาก ตัวกูมันใหญ่เบ้อเริ่มเลย เมือนั้นอารมณ์กระทบแรง
    ในขณะเดียวกัน เวลาไหนก็ตามที่ใจเรามีความเห็นแก่ตัวนิดเดียว ตัวกูมันเล็กนิดเดียว เมื่อนั้นอารมณ์กระทบเบา
    ในขณะที่ไม่ได้โกรธอะไรนะครับ อารมณ์กระทบเบา ๆ กูไม่ใหญ่ อารมณ์เราอยู่ภพมนุษย์
    ถามว่าคนเราเลือกเกิดได้หรือเปล่า คนเราเลือกเกิดได้
    แล้วตอนไหนที่เราเลือกเกิดกัน เช้า กลางวัน หรือก่อนนอน ตอบเกิดทุก ๆ ขณะจิตตลอดเวลา
    เมื่อเลือกเกิดได้แล้ว การรักษาระดับจิตให้อยู่ภพมนุษย์ คือ ระวังอย่าให้กูใหญ่บ่อย
    การระวังอย่าให้กูใหญ่บ่อยทำไง อย่าเห็นแก่ตัวบ่อย อย่าเห็นแก่ตัวบ่อยทำไง รักษาศีลให้ดี
    คนไม่มีศีลความเห็นแก่ตัวเยอะกว่า กูจะใหญ่กว่า อารมณ์กระแทก ปัง ๆ จะไปจองอารมณ์นรกข้างล่างบ่อย ๆ
    อยากเป็นมนุษย์ต่อไปต้องรักษาศีล 5 ให้ได้ ศีล 5 มีอะไรบ้าง 1ไม่ฆ่าสัตว์ 2ไม่ลักทรัพย์ 3ไม่ประพฤติผิดในกาม 4 ไม่พูดโกหก 5 ไม่ดื่มสุรา
    มนุษย์ที่เกิดมาได้เพราะทุกคนในอดีตได้รักษาศีล 5 มาดีแล้ว จึงมีสิทธิมานั่งตรงนี้ได้
    ใครที่ร่างกายไม่ค่อยดีนักสามวันดีสี่วันไข้แปลว่าท่านบกพร่องในศีลข้อที่ 1 พยายามรักษาศีลข้อที่ 1 ให้บริสุทธิ์ แล้วสุขภาพท่านก็จะดีขึ้น
    ผิดศีลข้อ 5 ไปงานเลี้ยงดื่มสุรา บกพร่องข้อ 5 เกิดเป็นมนุษย์แต่ปัญญาอ่อนหน่อย ๆ ไปไหนก็มึนๆ คิดอะไรไม่ค่อยออก ควรรักษาศีลข้อที่ 5 ไว้ให้ดี หัวสมองจะดีขึ้น
    เค้ามีสำนวนว่า อยากหล่อ อยากสวย ต้องรักษาศีลให้ละเอียดมาก ๆ
    เราสังเกตที่บางคนเกิดมามีฐานะ บางคนเกิดมาไม่มีฐานะ
    ถ้าอยากเลือกเกิดเป็นมนุษย์และมีฐานะด้วย นอกจากศีล แล้วต้องอะไรอีกอย่างหนึ่ง? ตอบ ต้องให้ทาน
    การให้ทานทำให้กูใหญ่ขึ้นหรือกูเล็กลง ตอบ ให้กูเล็กลง
    การให้ทานคือการดึงเอาความเห็นแก่ตัวออกจากใจเรา
    เมื่อดึงเอาความเห็นแก่ตัวออกจากใจเราแล้ว จะลดตัวกูออกไป ก็เขยิบขึ้นเป็นมนุษย์ที่มีอันจะกิน
    พุทธศาสนิกชนส่วนมากชอบทำบุญให้ทานมากๆ เลย จะสังเกตว่า เวลาทอดผ้าป่า 10 วัด รถทัวร์สิบคันเต็ม ฉึ่ง ๆ โป้ง ๆ ฉึ่ง ฉึ่ง ๆ โป้ง ๆ ฉึ่ง
    เอ้า กรึ๊บๆๆๆ เหล้าบนรถระหว่างทาง พอถึงวัดแรก โฆษกก็เชิญทอดผ้าป่าทุกคนก็ลงไปบริจาคกันใหญ่ บริจาคเสร็จเชิญขึ้นรถไปทอดวัดต่อไป บนรถทัวร์ก็ดื่มสุราไป พอถึงวัดที่ 2 ก็อ้ออ้อแอ้แอ้ บริจาคไป พุทธศาสนิกชนฉิ่งฉับทัวร์เหล่านี้ ชอบทำบุญให้ทานมาก ๆ เลย แต่ไม่ชอบรักษาศีลจะได้เลือกเกิดเป็นอะไร ? ตอบ เคยเห็นเดรัจฉานมีฐานะมั้ยครับ ? หมารวย เคยเห็นมั้ยครับ เขาเลือกเกิดเป็นหมารวย เพราะการที่เค้าทำบุญมากๆ จึงต้องเกิดรวย แต่ เพราะการที่ไม่รักษาศีลไม่สามารถเกิดเป็นมนุษย์ได้ ต้องเกิดต่ำกว่ามนุษย์ก็เกิดเป็นเดรัจฉานที่มีฐานะนั่นเอง
    อยากเกิดเป็นมนุษย์ ต้องรักษาศีล
    อยากเกิดเป็นมนุษย์ที่มีอันจะกิน ต้องรักษาศีลและ ต้องให้ทานด้วย
    อยากเกิดเป็นเทวดา รักษาศีล ให้ทาน ลบความเห็นแก่ตัวออกไปให้กูมันเล็กลงไปอีก โดยใส่คุณธรรมของเทวดาลงไป นอกจากศีลนอกจากทานก็ใส่หิริโอตัปปะ หิริแปลว่าความละอาย โอตัปปะแปลว่าความเกรงกลัวต่อบาป หิริโอตัปปะแปลว่าไม่ทำบาปทั้งในที่ลับและที่แจ้ง
    อยากเกิดเป็นรูปพรหม ใส่เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา พรหมวิหาร 4 ใส่ลงไป และต้องเพิ่มภาวนา
    ภาวนาก็คือการที่เราพูดประโยคหรือคำใดคำนึงซ้ำกัน ซ้ำกัน ๆๆๆ เป็นเวลานานพอสมควร เช่นพูดว่า ขวาย่างหนอ ซ้ายย่างหนอ ขวาย่างหนอ ซ้ายย่างหนอ พูดซ้ำ ๆๆๆ ไป หรือถ้าใครเคยภาวนาว่า พุทโธ ๆๆๆๆ เนี่ยะคือการภาวนา
    เพราะฉะนั้นท่านทั้งหลายมาที่นี่มา ขวาย่างหนอ ซ้ายย่างหนอ ก็คือมายกระดับจิตของท่านขึ้นสู่ชั้นรูปพรหม
    ชั้นรูปพรหมคือ ว่า ใจเรามีความสงบ การภาวนาเพิ่มทำให้ใจเราสงบ
    ปกติใจเราสงบมั้ย ? ไม่สงบ เพราะเปรียบเทียบ ใจเราเหมือนลิง ใจเรากระดุกกระดิกตลอดเวลา
    จะทำยังไง หรือให้ใจเรานี้มันนิ่ง ทำยังไง? ก็มีวิธี คือ เราเอาเสามาปัก และก็เอาเชือกมาผูกกะหลัก แล้วก็มาผูกคอลิง
    เจ้าลิงเปรียบเหมือนใจเรา หลักนี้เปรียบเหมือนการภาวนา ขวาย่างหนอ ซ้ายย่างหนอ
    พอหลักมาผูกคอลิง หรือคำภาวนามาผูกกับใจแล้ว ลิงก็มีอาการยังไง ลิงโดนผูกก็ดิ้น ๆ เต็มที่เลย
    เราจะสังเกตได้ว่าเมื่อเราเริ่มภาวนาใหม่ ๆ เนี่ยะ ขวาย่างหนอ ซ้ายย่างหนอ วันแรก ๆ เนี่ยะ ใจอยู่มั้ย ไม่อยู่หรอกครับ ดิ้นมากเลยแต่เราก็ยังผูกกะหลักอยู่ เรายังมีหลักคือภาวนา ขวาย่างหนอ ซ้ายย่างหนอ ตลอดเวลา พอเจ้าลิงดิ้นไป 20นาทีเป็นไงครับ เหนื่อย 1 ชั่วโมงผ่านไป เหนื่อยเหลือเกิน เจ้าลิงตัวนี้เหนื่อยมาก การที่เจ้าลิงเหนื่อยมาก ๆ แล้ว เวลามันอยากจะพักมันจะมาพักที่ไหน มันจะมาเกาะหลัก เมื่อไหร่ลิงเกาะหลักก็คือ ใจกะคำภาวนาอยู่ด้วยกันพอดี ดูซิครับมันก็นิ่งไปตามธรรมชาติ และพอลิงนิ่งอย่างนี้ เรียกว่า ใจได้สมาธิ ยกระดับจิตของท่านเข้าสู่ชั้นรูปพรหมพอดี
    จากชั้นรูปพรหมต้องการยกสู่ชั้นอรูปพรหมก็ไม่ยากอะไร แค่เปลี่ยนคำภาวนาของท่านจากคำภาวนาที่เป็นเสียงเนี่ยะ ออกเสียงว่า ขวาย่างหนอ ซ้ายย่างหนอ หรือพองหนอ ยุบหนอ หรือ พุทโธ พุทโธ เนี่ยะนะครับ เปลี่ยนซะใหม่ เป็นการภาวนาที่ไม่มีเสียง
    การภาวนาที่ไม่มีเสียงทำยังไง ก็ทำง่าย ๆ นะครับ นั่งหลับตา หลับตาแล้ว เราก็เอาความรู้สึกของเรามาอยู่ตรงปลายจมูก สังเกตลมที่เข้าออกที่มันแตะปลายจมูก เราตลอดเวลานะครับ เข้าออกเข้าออกนี้นะครับ ลมจะเคลื่อนผ่านปลายจมูกไป เราใช้ความรู้สึกที่ลมเคลื่อนผ่านปลายจมูกเราโดยไม่ต้องพูดอะไรเนี่ยะ ดูยังนั้น อันนั้นเค้าเรียกว่าเป็นการภาวนาโดยไม่ต้องใช้เสีย เขยิบจิตของท่านขึ้นสู่ชั้นอรูปพรหม
    และ ณ ชั้นอรูปพรหมนี้ ในพระไตรปิฎกเขียนไว้เลยนะครับว่า ใครภาวนาจนกระทั่งจิตขึ้นสู่ชั้นอรูปพรหมนี้แล้วเกิดตายในขณะที่จิตอยู่ชั้นอรูปพรหมเนี่ยะ ท่านผู้นั้นจะเสวยสุขที่สุด ไม่มีสุขไหนเสมอเหมือน ณ ชั้นอรูปพรหมนี้เป็นเวลานานถึง 84,000มหากัปป์ หรือพูดภาษาชาวบ้านว่า เป็นเวลานานอภิมหาอมตะนิรันดร์กาล

    คัดลอกมาจาก http://www.dharma-gateway.com/ubasok/ubasok-misc-02.htm
     
  2. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=WTMnyPCXwD4]ตายแล้วไปไหน ภพภูมิ 1/8 - YouTube[/ame]
     
  3. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=98FqxCPVpq4]ตายแล้วไปไหน ภพภูมิ 2/8 - YouTube[/ame]
     
  4. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=ab_BWEvFth0]ตายแล้วไปไหน ภพภูมิ 3/8 - YouTube[/ame]
     
  5. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=C4xe9YBV8Y0]ตายแล้วไปไหน ภพภูมิ 4/8 - YouTube[/ame]
     
  6. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=9V62qEka0KQ]ตายแล้วไปไหน ภพภูมิ 5/8 - YouTube[/ame]
     
  7. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=Tgxcjl2cbSU]ตายแล้วไปไหน ภพภูมิ 6/8 - YouTube[/ame]
     
  8. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=3sbzydxP1AY]ตายแล้วไปไหน ภพภูมิ 7/8 - YouTube[/ame]
     
  9. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=v4XYgwWKtrk]ตายแล้วไปไหน ภพภูมิ 8/8 - YouTube[/ame]
     
  10. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    ปัจจุบันยังหายใจอยู่เนี่ยจะทำอะไรยังไง

    ไปห่วงอนาคตว่าตายแล้วจะไปไหน
     

แชร์หน้านี้

Loading...