พระสมเด็จ หลัง ร.5

ท่านผู้รู้ทั้งหลายช่วยดูพระสมเด็จอยากทราบที่มา

 

แวะมาชมเฉยๆครับ ประดับความรู้..

 

ขอบคุณครับ

 

เป็นพระสมเด็จที่มีความนิยมในกลุ่มพิเศษ ไม่ใช่ในวงการพระสากลนิยมที่เล่นหากันตามตำราความถูกต้อง จะเล่นหาและเข้าใจกันเองเป็นการภายใน โดยเข้าใจเอาว่า สมเด็จโตท่านสร้าง แต่หากมองความจริงแล้ว เนื้อหามวลสาร พิมพ์ทรงต่างๆไม่ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ คือเนื้อหาไม่เก่าตามอายุ คือร่วมๆร้อยกว่าปี และด้านหลังที่เป็นรูปร.5 ตอนที่สมเด็จโตท่านมรณภาพนั้น ร.5ยังทรงพระเยาว์อยู่ คือมีอายุเพียง17ปี หรืออาจจะไม่ถึง
และสมเด็จแท้ๆสากลนิยมก็สร้างก่อนหน้านั้นหลายปี ร.5ยังมีพระชันษาไม่ถึง10ปีดีครับ
พวกพระเก๊มือผีจึงพยายามแต่งเรื่องสร้างพระเก๊เพื่อที่จะดึงเอาความหวั่นไหวในความอยากได้ใคร่มีในพระสมเด็จ ของแต่ละคนออกมา แล้วก็ตกเป็นเหยื่อของคนเหล่านั้น เพราะความอยากได้ที่ว่า และพระสมเด็จที่มีให้บูชาเป็นรูปด้านหลังแปลกๆ เช่นปิดแผ่นโลหะ เขียนข้อความต่างๆเพื่อจูงใจคนที่ไม่มีความรู้เรื่องพระและกำหนัดยินดีในพระราคาถูก ให้หลงเชื่อ นานวันเข้าก็เกิดรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ แข็งแรง และมักจะมีอีโก้สูง เพราะบางทีคนที่ชอบสมเด็จเก๊มือผีสากลไม่ยอมรับ จะมีคนที่มีการศึกษาสูง มีความรู้ดีในแขนงวิชาการนั้นๆของตน แต่หากว่าความรู้เรื่องพระเครื่องนั้นไม่มีเอาเสียเลย พอตัวเองมีความรู้ขั้นครูบาอาจารย์คน หากใครมาบอกว่าพระองค์ของตนนั้นเก๊มือผี ก็จะโกรธและไม่ยอมรับ และจะเป็นศัตรูในทันที พระเก๊มือผีมีมาร่วมๆจะ80ปีแล้ว หลังจากพวกพระเนื้อชินไม่นาน เพราะความที่ใครก็อยากได้ของสมเด็จท่าน จึงมีคนทำพระเก๊มือผีออกมาขายพร้อมกับนิทานปรัมปรา เช่นสมเด็จท่านเอาไปฝากไว้ที่พระธาตุพนมบ้าง หลังคาวัดพระแก้วบ้าง วังหน้า(ตรงไหนก็ไม่มีหลักฐานปรากฏ)บ้าง แล้วแต่จะสรรหาเสกสรรค์ปั้นแต่งขึ้นมาเพื่อธุรกิจในกระเป่าตังค์ แม้แต่ปู่ของผมเองซึ่งเป็นลูกครึ่งฝรั่งนับถือคริตส์ ยังมีสมเด็จลักษณะใกล้เคียงกันแบบนี้มากมายและเชื่อว่าเป็นของสมเด็จโตแท้ๆ หากแต่พอเอามาเปรียบเทียบกับของแท้สากลนิยมแล้ว แตกต่างกันทั้งอายุและเนื้อหา พระสมเด็จเก๊มือผี กับพระแท้สากลนิยม เปรียบเสมือนเส้นขนานที่เดินไปด้วยกัน ยากที่จะบรรจบกัน นอกจากว่าหากอยากได้พระสมเด็จแท้ๆ ก็อาจจะหูตาส่วางและไปที่วัดอินทร์หรือวัดระฆัง เช่ารุ่นใหม่ๆที่วัดสร้างโดยขอบารมีของสมเด็จฯท่าน แค่นั้นก็ถือว่าหลุดพ้นจากวงการพระเก๊มือผีแล้วครับ ตรรกง่ายๆ ทำไมพระเก๊มือผีพิมพ์แปลกๆถึงมีไม่หมด และที่มาไม่เปิดเผย และยังมีวางขายกันให้เกลื่อนริมข้างวัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์ ตรอกพญาไม้ วัดราชนัดา พระที่สมเด็จโตท่านสร้าง หาง่ายและมีมากมายเพียงนั้นเชียวหรือ และทำไมท่านถึงทำพระพิมพ์แปลกประหลาดมากมายเยอะแยะนัก ลองกรองดูเถิอท่านผู้เจริญ

 

ขอบคุณครับ, ที่ให้ความรู้เรื่องพระ แต่แรก ไม่ได้เป็นคนสนใจเรื่องนี้สักเท่าไหร่ พระ ที่มี ก็เพราะมีคนให้มา "ด้านหลังที่เป็นรูปร.5" กว่า10ปี

 

ลองหาหนังสือเปรียบเทียบพิมพ์ทรงพระดูนะครับ อย่าพระผงสุพรรณ มี3พิมพ์ หน้าหนุ่ม หน้ากลาง หน้าแก่ หน้าหนุ่มแขนชนแขน หน้าแก่หูขวาติดบ่า หรืออะไรทำนองนี้ ผมเองก็เลือนๆไปเพราะพระหลักแท้ๆพวกตระกูลเบญจะ หาส่องยากครัลบ มีแต่ในหนังสือเท่านั้นเอง ดูหนังสือแล้วจดจำพิมพ์ทรงเอานะครับ ส่วนพระคง ลองส่องดูในร่องตรงกลางระหว่างบัว มีเส้นคล้ายตัวหนอนหรือเปล่า ถ้ามีก็ต้องเส้นเล็กเรียวคดงอแบบธรรมชาติ เนื้อพระมีแร่ดอกมะขามหรือเปล่า เรามีพระดีต้องหาหนังสือดีๆมาเปรียบเทียบครับ

 

ขอบคุณมากครับพี่, พระทั้งหมดที่มี...ก็มีประมาน 10 กว่าองค์แหละครับ

ผมเริ่มสนใจพระเครื่องก็ที่ America. นี่แหละ..พระส่วนมากจะเป็นเพราะมีคนให้มา ..ไม่เคยรู้ว่าองค์ไหนดีอย่างไร..แล้วให้คุณทางด้านใด..แล้วเราจะดูอย่างไรว่าเป็นของแท้..เพราะไม่มั่นใจว่า..จะเป็นของแท้หรือเปล่า....ก็ลองถามดู ครับ

 

ขอบคุณมากครับ

 

ต้องรอท่านอื่นมาช่วยกันแล้วละครับ ผมชอบหลวงปู่ภูพิมพ์อุ้มบาตรมากเลยครับ น่าจะดีครับ

 

ผมก็ค่อยๆศึกษา พระสมเด็จ ด้านหลังที่เป็นรูปร.5 (ที่ได้มา 10 กว่าปีแล้ว) ก็เพราะว่าคาใจ แล้วเปิดความคิดให้มันกว้าง แล้วก็สรุปว่า ถ้าหาก พระสมเด็จนี้เป็นของที่ทำหลอกขาย ทำไม ด้านหน้าไม่ทำรายละเอียดและ ให้คล้ายพระสมเด็จวัดระฆังแท้ๆและสามารถขายได้เงิน.. (เพราะผมไม่ได้ ได้มาด้วยเงิน....แฮ่ม.) แล้ว ด้านหลังที่เป็นรูปร.5 คนที่ทำหลอกขาย ก็คงจะตั้งใจทำ นาดู เพราะว่ารายละเอียดของ ร.๕ มีมาก<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
<o> </o>
พระสมเด็จองค์นี้ อาจจะไม่ใช่สมเด็จโตสร้างสร้างถวาย ร.๕ แต่ผมก็คงเก็บเพื่อเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ในพระศาสนาครับ..( เพราะคนให้มา บอกว่าให้เก็บให้ดีๆครับ) <o></o>

 

เค้าสร้างเรื่องโมเมกันขึ้นมา ขนาดพิมพ์เป็นหนังสือเล่มหนาๆสีสวยสด สารพัดพิมพ์ บางพิมพ์บอกเลยว่า โตสร้างเอง๒๔๑๐ แต่เนื้อหาความเก่าไม่มี

 

สมเด็จเล่านิทานแหกตาครับ

 

;aa34ขอบคุณครับ

 

ครับ

อย่าไปเก็บพระที่ไม่ใช่พระแท้ เพราะนานไปลูกหลานคนรุ่นหลังจะสับสน เหมือนอย่างปัจจุบันที่หลายคนสับสนพระเก๊มือผีเหล่านี้ พิมพ์ทรงไม่ใกล้เคียงของจริงเลยครับ และอยากให้เข้าใจใหถ่องแท้ว่า ตอนที่สมเด็จโตท่านสร้างพระสมเด็จ ร.5ยังทรงพระเยาว์อยู่ครับ ยังไม่มีหนวดเลย แต่ในสมเด็จเก๊มือผีนอกสารบบทั่วไป ใบหน้าร.5ท่านดูมีอายุ และพศ.ก็เหมือนกัน พส.ใช้กันจริงจังสมัย ร.6ครับ ก่อนหน้านั้นใช้จศ. และใช้รศ.ในบางวาระของสมัยร.5ครับ
พระเก๊มือผีเหล่านี้ สร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองคนที่อยากได้สมเด็จ แต่ไม่มีความรู้เรื่องพระ และชอบของถูก และคนที่ไม่เคยไปเดินดูพระเก๊แบบนี้ตามท่าพระจันทร์ ก็จะเชื่อในนิทานที่มีคนแต่งขายเป็นเล่มๆ เพื่อหาเงินเข้ากระเป๋า

 

มีหนังสือที่เขาเขียนขึ้นมาใหม่เล่มล่ะ 980 บาท เรื่อง ทีเด็ด...พระสมเด็จมีการบอกเรื่องสมเด็จท่านสร้างไว้หลายยุคมาก ซึ่งพระเหล่านี้วงการไม่ยอมรับเพราะด้วยเหตุผลเรื่องราคา สมเด็จท่านสร้างไว้มากมายนัก ผมก็เป็นคนนึงที่มีเหมือนกัน ก็ต้องหาข้อมูลแต่ที่ได้รับมาจากคนรุ่นเก่า เขาก็บอกตรงกันว่าสมเด็จท่านสร้างไว้มาก แต่มายุคหลังที่มีความนิยม พระยุคแรกท่านสร้างไว้ไม่มีราคาในยุคปัจจุบัน ต้องคนสมัยก่อนเท่านั้นที่รู้ ซึ่งหนังสือเล่มนี้เขาก็บอกนะว่าเรื่องแบบนี้มันมีอยู่จริงๆ ส่วนพระที่เก๊ก็มีแต่ต้องดูที่ความเป็นของเก่า เก่า20ปีไม่มีทางที่เนื้อจะปริแตกได้ สมเด็จท่านสร้างไว้หลายเนื้อมาก เพราะต้องลองการผสมกันมากกว่าจะหาสูตรลงตัว ไม่ใช่ว่าจะได้เนื้อแบบที่เล่นหากันในยุคนี้ ราคาจึงแพงเพราะมีความสวย ลองไปหาอ่านดูนะครับ เพิ่มเติมนะครับ พระบาทสมสมเด็จจุลจอมเกล้าฯ หรือ ร.5 นั้น ได้ครองราชตรงกับ พ.ศ.2411ตอน 16 พรรษา สมเด็จโตท่านมรณภาพตอน พ.ศ. 2415 ท่านอาจจะสร้างไว้ให้ ร.5 ก็ได้ ซึ่งมีคนออกมาบอกว่าพระที่เขียนไว้ด้านหลังว่า พ.ศ.2411นั้นเป็นของเก๊ อาจเป็นของแท้ก็ได้ อยู่ที่การได้รับมาและเชื่อในบุคคลที่เขาให้ ว่าให้ด้วยกาลใด ท่านต้องสังเกตุเอง เพราะผมเองก็หาประวัติการสร้างมาเหมือนกัน แต่ในหนังสือนี้มีบอกไว้ว่าเป็นพระพิมพ์โบราณ ผู้ที่มีเก็บไว้กับตัว ส่วนที่มีในตลาดนั้นเป็นพระบรรจุกรุทั้ง 3 กรุ อาจเป็นไปได้ที่กรุแตกคนเลยเข้าใจว่า มีเฉพาะ 3 กรุนี้ที่ท่านได้สร้างไว้

 

พระที่คุณเอามาลงหลายองค์ผมก็มี อย่างเช่นพระกำแพง500 เป็นพระที่สร้างมาเป็นแผง แล้วนำมาตัดให้ได้ 9 องค์น่าจะยุคอยุธยาถ้าจำไม่ผิด ส่วนองค์กลางระหว่างพระหลวงพ่อปานนั้น เป็นสมเด็จบางขุนพรหมพิมพ์เล็ก ซึ่งผมก็มีนะแต่ก็หาข้อมูลอยู่อาจพลาดได้ ลองดูผู้อื่นเหมือนกัน

 

เก็บที่สังคมเขายอมรับ ทั้งพิมพ์ทรง ทั้งเนื้อหา ดีกว่าไม่ช้ำใจ หนังสือตำราฝีมือผีพิมพ์ออกมาหลอกมากมาย หาที่สังคมยอมรับมาดูจะได้ไม่งมงายเช่น สปิริต คเณศพร ศึกษาและสะสม พระยอดนิยม พระเครื่องยอดนิยม ฯ

 

ข่าวจากคม ชัด ลึก 24 มิ.ย. 2551
<!-- Main -->[SIZE=-1]เล่นพระคนละมุม

[SIZE=-1]

[/SIZE]

ในวงการพระเครื่องมีคำพูด (ภาษาเซียน) ซึ่งมีความหมายว่า "ปลอม" อยู่หลายคำ เช่น ชุกซัว ซาลูตู้ ดุ๊ย กระตู้ฮู้ พระไม่ถูกพิมพ์แต่เนื้อถึง พระไม่มีพุทธคุณ พระไม่มีพลัง ไม่ถึงยุค อายุไม่ถึง ไม่ถนัดพระเนื้อนี้ ผิดทาง และพระดูยาก

(คำนี้อาจจะใช้ได้ทั้งเก๊ดูยากและแท้ดูยาก) หากใครได้ยินคำเหล่านี้เข้า ก็ขอให้ทำใจเผื่อไว้ล่วงหน้าด้วย เพราะการปลอมพระนั้นเป็นเรื่องที่จะประมาทไม่ได้ พระมีการพัฒนาและลงทุนมากขึ้นทุกขณะ มีมาตั้งแต่พระเครื่องเริ่มมีราคาเช่าหากัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่พระบางองค์มีอายุปลอมเฉียดๆ ๑๐๐ ปี เพราะพระบางองค์เจ้าของได้รับการสืบทอดมาจากคนรุ่นทวด แต่เจ้าของพระลืมไปว่าการปลอมพระมีกันมาตั้งแต่คนรุ่นทวดเช่นกัน

อย่างไรก็ตามตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย จะพยายามสร้างมาตรฐานให้วงการพระเครื่องโดยมีการออกใบรับรองพระแท้มาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นที่ยอมรับเสมอไป โดยเฉพาะการไม่ยอมรับของ "ชมรมนักอนุรักษ์สะสมพระเครื่องสยาม" ซึ่งมี นายกล้า เกษสุรินทร์ชัย เป็นประธาน ถึงขนาดกับมีการเปิดฝึกอบรมส่องพระสมเด็จพร้อมมอบไปรษณียบัตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นเกียรติว่าเป็นผู้รู้จริงๆ ไม่ใช่รู้เพียงแค่พื้นฐานเท่านั้น ขณะเดียวกันยังมีการจัดพิมพ์หนังสือ "พระสมเด็จวัดระฆังโฆสิตาราม จักรพรรดิแห่งพระเครื่องไทย" ความหนากว่า ๔๐๐ หน้า สี่สีทั้งเล่มเข้าเล่มเย็บกี่อย่างดี วางจำหน่ายตามแผงหนังสือชั้นนำ แม้ว่าเซียนพระของสมาคมพระเครื่องจะระบุว่าเป็นการเล่นพระผิดทาง รูปพระสมเด็จที่จัดพิมพ์ในหนังสือเป็นพระที่วงการไม่เล่นกัน แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยสนใจการเล่นพระและซื้อหนังสือในแนวของชมรมนักอนุรักษ์สะสมพระเครื่องสยาม



นายกล้าบอกว่า ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มผู้เล่นพระมีมาอย่างต่อเนื่อง ข้อเท็จจริงในการจัดสร้างพระสมเด็จวัดระฆังของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ยังหาข้อยุติไม่ได้ว่าท่านลงมือสร้างเมื่อใด แต่ก็มีผู้สันนิษฐานที่แอบอ้างว่ามีการสร้างจำนวนน้อย เช่น อ้างว่ามี ๔ พิมพ์ทรง แต่ละพิมพ์ทรงมีเพียง ๔-๕ แบบบล็อกแม่พิมพ์เท่านั้น ซึ่งมีปัญหาว่าทั้งๆ ที่ผู้แอบอ้างว่ารู้ดีนั้นก็เกิดไม่ทันเหมือนกัน ทำไมจึงไม่คิดว่าแนนการเล่นของกลุ่มตนเป็นการเล่นในแนวที่คับแคบ หลงผิด หรือเล่นเพื่อผูกขาดตัดตอน เคยคิดบ้างไหมว่าแนวทางที่เล่นนั้นผิด ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการทำลายบล็อกแม่พิมพ์อื่นๆ ที่สมเด็จโตสร้างขึ้นมา

อย่างไรก็ตามจากการรวบรวมของชมรม พิมพ์ทรงของพระสมเด็จ เฉพาะพิมพ์ทรงใหญ่เท่าที่รวบรวมมีบล็อกแม่พิมพ์มากถึง ๙๒ พิมพ์ พิมพ์ทรงเจดีย์มีบล็อกแม่พิมพ์ ๘ พิมพ์ พิมพ์เกศบัวตูมมีบล็อกแม่พิมพ์พิมพ์ 3 พิมพ์ พิมพ์ฐานแซมมีบล็อกแม่พิมพ์ ๖ พิมพ์ พิมพ์ทรงเส้นด้ายมีบล็อกแม่พิมพ์ ๓ พิมพ์ พิมพ์ทรงปรกโพธิ์เจดีย์มีบล็อกแม่พิมพ์ ๒ พิมพ์ และพิมพ์ทรงอกครุฑเศียรบาตรมีบล็อกแม่พิมพ์เพียง ๑ พิมพ์ ใครว่าพระสมเด็จที่สมาชิกทางชมเล่นเป็นของปลอม หากมีพระเหมือนรูปภาพตามรูปในหนังสือ โดยเฉพาะพระสมเด็จพิมพ์ทรงใหญ่ ตั้งแต่แม่พิมพ์ที่ ๑-๑๓ ที่บันทึกไว้ในหนังสือ เพียงนำพระมาให้ดูเฉยๆ เอาค่ารถค่าเสียเวลาไปเลย ๑ หมื่นบาท ไม่จำเป็นว่าจะต้องเช่าบูชา และหากเปิดราคาให้เช่าในราคาหลักล้านก็มีผู้ยินดีเช่าบูชา"

ทั้งนี้นายกล้าพูดทิ้งท้ายไว้อย่าน่าคิดว่า "พระแท้ไม่แท้อยู่ที่องค์พระไม่ได้อยู่ที่คนดู ผู้ที่ได้รับพระเครื่องที่เป็นมรดกตกทอดจากปู่ ยา ตา ยาย รวมทั้งผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ หากนำพระที่ห้อยอยู่ไปให้เซียนพระดูแล้วบอกว่าเป็นพระไม่ถึงยุค ก็อย่าคิดถอดพระหรือไม่แขวนพระองค์นั้นเลย ให้คิดเสียว่าเซียนตาไม่ถึง หรือมีความรู้ไม่มากพอ และให้คิดเสียว่าพระองค์นั้นๆ เป็นของที่ระลึก ผู้ให้มีเจตนาดี พระทุกองค์สามารถใช้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจได้เสมอ"



ทางใครทางมัน

ในวงการพระเครื่องมีความขัดแย้งเรื่องพระเครื่องตลอดเวลา อย่างกรณี “พระถ้ำเสือ กรุวัดเขาดีสลัก” แบ่งออกเป็น ๒ ฝ่าย คือ "เซียนบางกลุ่มยอมรับว่าแท้ แต่อีกหนึ่งกลุ่มบอกว่าเก๊" เลยกลายเป็นพระมีปัญหา ถกเถียงกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุดจนถึงทุกวันนี้ แม้ว่านายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ตั้งคณะกรรมการค้นหาความจริงพระถ้ำเสือกรุวัดเขาดีสลัก และสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสุพรรณบุรี เคยเปิดให้บูชาหาเงินสร้างกุศลมาแล้วองค์ละ ๕,๐๐๐-๖,๐๐๐ บาท เมื่อเกือบสิบปีที่ผ่านมา แต่เซียนพระยังไม่ยอมรับอยู่ดี

"ความเห็นไม่ตรงกัน หรือความชอบไม่ตรงกันเป็นเรื่องธรรมดาของทุกวงการไม่เฉพาะแต่วงการพระ ข้อถกเถียงและข้อขัดแย้งของพระรุ่นหนึ่งรุ่นใดเกิดขึ้นกับวงการพระเครื่องมาตลอด ที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือ ในช่วงจตุคามรามเทพได้รับความนิยม บางคนเลือกเก็บเฉพาะที่หลวงหนุ่ยเป็นเจ้าพิธี ในขณะที่อีกกลุมหนึ่งเล่นของสายโกผ่อง รวมทั้งเลือกเก็บเฉพาะจตุคามฯ ที่จัดสร้างจาก จ.นครศรีธรรมราชเท่านั้น ใครชอบแนวไหนก็เล่นแนวนั้น การสะสมพระเครื่องเป็นความชอบส่วนบุคคล ที่สำคัญเราไม่ได้เป็นเจ้าของเงินอย่าไปเดือดร้อนแทนเขา" นี่เป็นความเห็นของนายวันชัย สอนมีทอง ประธานฝ่ายประสานงานสื่อมวลชนสมาคมพระเครื่องพระบูชาไทย

ด้าน พ.อ.อ.โกวิท แย้มวงษ์ หรือที่รู้จักกันในนาม "จ่าโกวิท" บรรณาธิการนิตยสาร "พระเครื่องอภินิหาร" และเจ้าของ http://www.jarkowit.com ผู้ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการพระเครื่องมากว่า ๓๐ ปี บอกว่า เรื่องของการเล่นพระเป็นเรื่องของนานาจิตตัง ชอบใครชอบมัน การที่จะบอกว่าเป็นการเล่นพระผิดทางนั้นเป็นเรื่องอยาก เพราะต่างฝ่ายก็ต่างบอกว่าแนวทางที่กลุ่มของตนเล่นนั้นถูกต้อง อย่าว่าแต่คนภายนอกสมาคมเลย แม้ในสมาคมจะรวมตัวเป็นกลุ่มก้อนเดียวกันแต่ก็ยังมีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยเฉพาะกรณีพระถ้ำเสือ กรุวัดเขาดีสลัก พระขุนแผน หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ กลุ่มเซียนพระในท้องถิ่นเล่นแบบหนึ่ง ส่วนเซียนพระในกรุงเทพฯ เล่นอีกแบบหนึ่ง



อย่างไรก็ตามหากเปรียบเทียบการเล่นพระระหว่างชมรมนักอนุรักษ์สะสมพระเครื่องสยาม กับสมาคมพระเครื่อง สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจน คือ ชมรมนักอนุรักษ์สะสมพระเครื่องสยามจะเน้นไปที่ลักษณะของวิชาการ พระเครื่องพิมพ์ทรงและรุ่นเดียวกัน นอกจากมวลสารเหมือนกันแล้วขนาดต้องเท่ากันทุกองค์ (กว้าง ยาว หนา) ส่วนสมาคมเล่นในลักษณะปฏิบัติ ความแท้จริงของพระอยู่ที่เซียนเป็นผู้ชี้ขาด ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือ ใครที่บอกว่าชมรมนักอนุรักษ์สะสมพระเครื่องสยามเล่นพระเก๊ แต่ชมรมนี้ก็ประกาศเช่าพระที่เซียนบอกว่าเก๊มาตลอด โดยพร้อมที่จะเช่าซื้อในราคาหลักล้าน ที่สำคัญคือแค่เอาพระมาให้ดูก็ได้ค่าน้ำมันรถและค่าเสียเวลา ๑๐,๐๐๐ บาททันที แต่ปรากฏว่าไม่มีใครหาพระมาให้เช่าได้เลย

เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู [/SIZE]

 

ลองไปหาอ่านดูนะครับ

http://www.udon108.com/board/index.php?topic=2063.0