พระสงฆ์ช่วยชาวบ้านน้ำท่วม ไม่ผิดศีล และ เป็นกิจของสงฆ์

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย Apinya Smabut, 16 สิงหาคม 2017.

  1. Apinya Smabut

    Apinya Smabut นิพพานังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    1,398
    กระทู้เรื่องเด่น:
    57
    ค่าพลัง:
    +2,634
    ช่วงนี้มีการเกิดเหตุน้ำท่วมกันขึ้นในหลายพื้นที่ แล้วได้มีพระสงฆ์ท่านออกไปช่วยชาวบ้านกันมาก เช่น การทำอาหารไปแจกชาวบ้าน นำอาหารแห้งไปแจกชาวบ้าน แต่ดันกลายเป็นที่ถกเถียงกันในโลกโซเชี่ยวมีเดียว่าใช่กิจของสงฆ์หรือเปล่า ทำแบบนี้ศีลขาดหรือไม่

    เรื่องนี้แยกเป็น 2 ประเด็น คือ

    ประเด็นที่ 1 ใช่กิจของสงฆ์หรือเปล่า ?

    ตอบว่า ใช่ครับ เพราะว่าวาระแรกที่พระพุทธเจ้าส่งพระอรหันต์ ๖๐ รูป ออกไปประกาศพระพุทธศาสนา พระอรหันต์ตั้ง ๖๐ รูปมีใครบ้าง ? ก็มีพระปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ พระยสกุลบุตรกับสหายรวมแล้วอีก ๕๕


    พระองค์สั่งว่า
    พวกเธอจงเที่ยวไป
    เพื่อประโยชน์ของคนหมู่มาก
    เพื่อความสุขของคนหมู่มาก
    เพื่ออนุเคราะห์แก่โลก

    แล้วที่นี้พระท่านไปช่วยคนน้ำท่วม
    - เป็นประโยชน์ของคนหมู่มากคือส่วนรวมหรือเปล่า ?
    - เพื่อความสุขของคนหมู่มากคือเพื่อส่วนรวมหรือเปล่า ?
    - เป็นการอนุเคราะห์แก่ชาวโลกหรือเปล่า ?

    เราจะเห็นว่าใช่ทุกข้อ เพราะฉะนั้น...ประเด็นนี้ชัดเจนว่าสิ่งที่พระท่านทำเป็นกิจของสงฆ์อย่างแน่นอน"

    -------------------------------------------------


    ประเด็นที่ 2 ผิดศีลหรือไม่ ?


    ตอบว่า ไม่ผิด เพราะพระพุทธเจ้าเองบัญญัติว่า

    ห้ามภิกษุหุงต้มอาหารด้วยตัวเอง
    ห้ามภิกษุเก็บอาหารเอาไว้เอง
    ห้ามภิกษุเก็บอาหารไว้ในที่อยู่

    คราวนี้ห้ามหุงต้มด้วยตัวเองเพราะอะไร ? เพราะว่าถ้าหุงต้มด้วยตัวเอง ก็จะทำแต่อาหารที่ตัวเองชอบ แทนที่จะเป็นการละกิเลสก็เป็นการเพิ่มกิเลสไป

    ห้ามเก็บอาหารเอาไว้เอง เพราะว่าพระไม่ควรเป็นผู้สะสม แต่เราจะเห็นว่าหลายวัดมีโรงครัว มีคลังพัสดุ มีการเก็บข้าวสารอาหารแห้งไว้ ถามว่าผิดหรือไม่ ? ขอยืนยันว่าไม่ผิด เพราะว่าผู้เก็บไม่ใช่พระ แต่เป็นเด็กวัดหรือแม่ชี

    ห้ามเก็บอาหารไว้ภายในที่อยู่ของตน เพราะกลัวว่าจะแอบไปฉันนอกเวลา หรือว่าเลือกอาหารที่ตัวเองชอบเก็บเอาไว้ แล้วฉันสนองกิเลสของตัวเอง คราวนี้สิ่งนี้ที่พระองค์ท่านห้าม ก็ยังมีการอนุญาตให้ในบางวาระ อย่างเช่นว่าเกิดทุพภิกขภัย เวลาข้าวยากหมากแพง หาอาหารได้ยาก ถ้าหากว่าไม่มีเก็บเอาไว้บ้าง ถึงเวลาไปบิณฑบาตไม่ได้ แล้วจะฉันอะไร แต่พระองค์ท่านก็ยกเลิกข้อห้ามนี้เวลามีความอุดมสมบูรณ์

    คราวนี้เรามาดูว่าเวลาน้ำท่วมถือว่าเป็นวาระที่ไม่ปกติ เหมือนกับเวลาข้าวยากหมากแพงที่ไม่ใช่วาระปกติ ถ้าดูตามข้ออ้างในมหาปเทส ๔ พระพุทธเจ้าให้ไว้เพื่อตีความพระธรรมวินัยว่า

    สิ่งที่ไม่สมควร
    ถ้าพิจารณาแล้วเห็นว่าสมควร
    สิ่งนั้นย่อมสมควร


    ก็แปลว่าพระไม่ควรทำอาหารด้วยตัวเอง แต่ถ้าในวาระที่ไม่ปกติ อย่างเช่นว่า ข้าวยากหมากแพง น้ำท่วม ไฟไหม้ ถ้ามัวแต่ไปพึ่งญาติโยมก็ไม่ได้ เพราะว่าเขาหมดเนื้อหมดตัวไปตาม ๆ กัน ก็ต้องทำเอง สิ่งที่ไม่สมควรเพราะว่าขัดกับสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงห้าม แต่พิจารณาแล้วว่าสมควร สิ่งนั้นย่อมสมควร ถ้าอย่างนี้ก็ถือได้ว่าไม่ผิดศีล"

    "การตีความพระธรรมวินัยตามหลักที่พระพุทธเจ้าให้ไว้ ก็ยังสามารถที่จะตีความได้ว่าเป็นการกระทำที่ถูก ศีลไม่ขาด และประการที่สุดท้าย พระท่านทำอาหารไปแจกโยม ไม่ได้ทำฉันเอง เพราะฉะนั้น...จึงไม่ผิดเลย


    ที่พระองค์ท่านห้ามก็คือห้ามทำฉันเอง เพราะกลัวว่าท่านที่มีฝีมือ จะเลือกทำแต่อาหารที่มีรสชาติถูกปากถูกกิเลสตัวเอง

    ถ้ามีใครเขาถามปัญหาพวกนี้
    ชี้แจงเขาให้ชัดเจนด้วยว่า
    เรื่องทั้งหลายเหล่านี้จริง ๆ แล้วเป็นกิจของสงฆ์
    เป็นสิ่งที่ทำได้โดยไม่ผิดอยู่แล้ว


    โดยเฉพาะพระพุทธเจ้าสอนเราให้ ปฏิบัติตามหลักธรรมของพระองค์ท่าน มีพรหมวิหาร ๔ เป็นปกติ ถ้าเห็นคนเดือดร้อนแล้วไม่ช่วยเหลือ นั่นต่างหากที่ทำไม่ถูกต้องตามหลักพระธรรมวินัย ก็คือไม่ถูกทั้งทางโลกและไม่ถูกทั้งทางธรรม

    สมัยนี้เริ่มมีคนที่ชอบคอยตำหนิพระสงฆ์อยู่บ่อย ๆ มักจะหาเรื่องสร้างความเสียหายให้วงการพระสงฆ์อยู่เสมอ พอถึงเวลาพระสงฆ์ท่านทำดีอะไรเพื่อชาวบ้านชาวเมือง ก็มักจะหาข้อตำหนิ เช่น กรณีนี้ที่หาว่าการที่พระไปช่วยชาวบ้านไม่ใช่กิจของสงฆ์ ก็ต้องถามย้อนกลับไปว่า "ในเมื่อไม่ใช่หน้าที่ของสงฆ์ ก็แปลว่าเป็นหน้าที่ของคุณ แล้วคุณได้ทำอะไรช่วยเหลือเขาบ้างแล้วหรือยัง ?"


    เราชาวพุทธ ถ้ามีใครชี้แจงได้ชัดเจนแล้ว เราต้องเอาไปเผยแพร่ต่อ ไม่อย่างนั้นแล้วกลายเป็นว่าเขาตีเราอยู่ฝ่ายเดียว แล้วตีผิด ๆ ด้วย แต่คนทั่วไปที่ไม่รู้ความจริงก็คิดว่าใช่

    ภาพที่พระไปทำความดีเหล่านี้เขาไม่ค่อยแชร์กันหรอก
    แต่ภาพชั่ว ๆ นี่ แหม...แชร์กันกระจาย แชร์กันเป็นหมื่นเป็นแสนครั้ง

    แต่ทำความดีเป็นหมื่นเป็นแสนครั้งไม่รู้ว่าเขาจะแชร์ให้สักครั้งหรือเปล่า ?

    เขาเจตนาจะเล่นงานให้พระพุทธศาสนาหมดกำลังเพื่อที่จะได้ยึดครองแทน แล้วพวกที่เป็นแนวร่วมแบบโง่ ๆ ไม่รู้เรื่องนี่เยอะมากเลย

    ---------------------------------------------

    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=5745&page=4


    ดังนั้น เราชาวพุทธต้องร่วมกันปกป้องพระพุทธศาสนา สนับสนุนพระพุทธศาสนาของเราให้มั่นคงแข็งแรงยิ่งขึ้น เหมือนกับที่ต่างประเทศเขาทำ ที่ต่างประเทศนั้นเขาทำทุกอย่างเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนา ถ้ามีใครที่มารุกรานหรือมาข่มเหงรังแกพระพุทธศาสนา เขาจะทุ่มเททั้งกำลังคน กำลังทรัพย์ เพื่อปกป้องพระพุทธศาสนาและเพื่อปราบปรามคนที่มารุกรานแบบเต็มกำลัง


    แต่ของไทยเราตอนนี้ โดนคนอื่นทุ่มเททั้งกำลังคนและกำลังทรัพย์เพื่อทำลายพระพุทธศาสนา ข่มเหงรังแกสารพัด โจมตีทุกทางเท่าที่จะทำได้ ผิดจริงหรือเปล่าไม่รู้แต่เขาโจมตีไว้ก่อน โดยที่ชาวพุทธของเราส่วนใหญ่ยังไม่รู้สึกตัวกันเลยว่าตัวเองกำลังโดนเอาเปรียบโดนรังแกอยู่ทุกวัน

    ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ประเทศไทยของเรา
    จะประกาศว่าเป็นประเทศที่มีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ
    เป็นประเทศที่สนับสนุนพระพุทธศาสนา
    ให้ความช่วยเหลือพระพุทธศาสนาทุกอย่างเต็มกำลังความสามารถ
    ทั้งในภาครัฐ และภาคประชาชน
    เพื่อความมั่นคงของพระพุทธศาสนาและประเทศชาติ
    เพื่อความอยู่เป็นสุขของประชาชนชาวไทยอย่างแท้จริง
     
  2. Apinya Smabut

    Apinya Smabut นิพพานังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    1,398
    กระทู้เรื่องเด่น:
    57
    ค่าพลัง:
    +2,634
    ส่วนตัวเห็นว่าไม่ว่าจะภาครัฐหรือภาคประชาชน ถ้ามีส่วนในการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้กับคนอื่น เป็นเรื่องดีหมดครับ

    ใครที่มีหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านก็ทำไป
    ใครที่อยากจะช่วยเหลือเป็นการส่วนตัวก็ทำไป

    จะต่างคนต่างทำหรือร่วมมือกันทำก็ทำไปเถอะครับ
    ทำได้ตามสะดวกครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 สิงหาคม 2017

แชร์หน้านี้

Loading...