พระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย สันโดษ, 22 พฤศจิกายน 2008.

  1. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    [​IMG]




    การสร้างความดีลำบากมาก ไม่ใช่ของที่ทำได้ง่าย เปรียบเหมือนเราไปซื้อของ บอกคนขายว่าต้องการเอาของอย่างดีราคาถูก มันไม่มีที่ไหนหรอก ของดีต้องราคาแพงทั้งนั้น เช่นเดียวกับคนดีต้องมีคุณค่าราคาแพงเหมือนกัน คนที่ไร้สาระไม่มีความดี ไม่มีคุณภาพราคาตกเหลือสลึงเดียว

    การปฏิบัติธรรมขอให้มีอยู่เป็นประจำเนืองนิตย์ ตั้งสติปัญญาอยู่ตลอดรายการ รับรอง คุณภาพชีวิตของท่านจะเกิดขึ้น ปัญญาก็จะแก้ปัญหาได้ทุกเวลา ธรรมะ แปลว่า สร้างชีวิตให้มีค่า ทำเวลาให้มีประโยชน์ต่อการงานและหน้าที่ ชีวิตของเราแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทุกคนมีความปรารถนาดีด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีใครปรารถนาชั่ว ทุกคนต้องการตั้งตัวให้ดีทั้งหมด เกิดมาทั้งทีต้องดีได้ทั้งนั้น แต่แล้วจุดมุ่งหมายอันนั้นไม่เหมือนกัน

    ความปรารถนาของคนทั่วไป ปรารถนาความสำเร็จให้ชีวิต ปรารถนาให้มีความร่ำรวยและสวยดี ไม่มีใครต้องการปรารถนา ให้ยากจน ต้องการให้มีกิน มีอยู่ มีใช้ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ดังที่กล่าว เนื่องจากบุญวาสนาไม่เหมือนกัน แล้วกิจกรรมก็ไม่เหมือนกัน การกระทำของแต่ละคนนั้นเหมือนกันไม่ได้ เป็น กฏแห่งกรรม

    การปฏิบัติธรรมนี้ อาตมาสังเกตุมานานแล้ว ปฏิบัติแล้วเลิกเลย มาปฏิบัติ ๗ วันแล้วกลับไปเลิกเลย ไม่ปฏิบัติต่อ ใช้เวลาถึง ๑๐ ปีมีแต่หายนะยากจน ลืมใช้ธรรมะที่มีคุณภาพมาปฏิบัติ ได้แล้วก็เอาไปทิ้ง ไม่เคยสำนึกในหน้าที่ และการงานที่มีอยู่ จิตก็เลยตก ความเป็นอยู่ของชีวิตก็เสื่อมโทรม ความขยันหมั่นเพียรก็หายไป จึงกลายเป็นว่าไปปฏิบัติก็ไม่เห็นได้อะไร ก็ได้อย่างที่ปฏิบัติอยู่ แต่ท่านเข้าใจผิดมาก

    การปฏิบัติธรรมเป็นการสะสมหน่วยกิตและตั้งสติไว้ เอาความดีและความชั่วเก็บไว้ในหน่วยกิตในจิตใจของท่าน บันทึกหลักฐานไว้ให้แน่นหนา เราก็ไม่ทราบว่ามานั่งเจริญพระกรรมฐาน ๗ วัน ๑๕ วันได้อะไร ก็ได้ยืนหนอ ๕ ครั้ง เดินขวาย่าง ซ้ายย่าง แต่การกำหนดให้ลึกซึ้งละเอียดละออ ท่านไม่ได้ทำ ความความละเอียดก็หมดไป ข้อที่จะถึงได้เป็นอานิสงค์ก็หมดไปด้วย เกิดความเบื่อหน่าย ไม่อยากจะทำ
    การปฏิบัติธรรมจึงเป็นกิจกรรมสำหรับคนที่มีบุญวาสนาเท่านั้น คนที่ไร้บุญวาสนานั้นทำไม่ได้ ยากมาก อาตมาจึงได้กล่าวหลายครั้งหลายคราว่า ความดีเป็นอุปสรรค ความดีเป็นศัตรูของชีวิต ความดีต้องลำบากมากมาย ไม่ใช่นั่งเจริญพระกรรมฐานแล้วสบาย

    ถ้าท่านผ่านความลำบากไปได้ ผ่านอุดมการณ์อันนี้ไปได้ ท่านจะรู้สึกนึกคิดได้เองว่า อ๋อ ! ความดีแสนจะยากความดีนี้ลำบากมาก ความชั่วนี้สบายจริง ๆ ลงทุนได้อย่างดี กินสบาย นอนสบาย กำลังชั่วโดยไม่รู้ตัว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤศจิกายน 2008
  2. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    ขอเจริญพรว่า คนเราไม่ชอบลำบาก ชอบสบาย ชอบเห็นแก่ตัว หนักก็ไม่เอา เบาก็ไม่สู้ ความรู้ก็ไม่มี ความดีก็ไม่ได้ ก่อให้เกิดความเบื่อหน่าย ความชั่วมันมีรสหวานอร่อย แต่ความดีมันขมขื่นตลอดรายการ จึงไม่มีใครอยากทำ โยมบางคนบอกจะมาปฏิบัติ ๑๕ วัน พอถึง ๓ วันกลับบ้านแล้วบอกว่ายาก

    แต่น่าจะคิดว่าความยากลำบากเป็นความดีที่มีอยู่เราจะต้องพึงได้ ยกตัวอย่างให้เห็นว่า เวลาที่เราไปซื้อของ เราอยากได้ของอย่างดี ทุกคนอยากซื้อของดีราคาถูกด้วยกันทั้งนั้น ต่อราคาแล้วต่อราคาอีก คนขายก็อยากจะได้ราคาแพง คนซื้อก็อยากได้ราคาถูก ฉันใดก็ฉันนั้น เราเป็นพ่อค้าแม่ค้าต้องการได้กำไร หากขายได้มากเราก็ดีใจ ถ้าขายได้น้อยราคาต่ำลงไปอาจจะขาดทุนก็ได้ แต่ทำไมหนอจึงจำเป็นต้องขาย….[​IMG]
    นี่แหละเป็นบุญกุศลอันหนึ่งที่เราจะต้องมาเปรียบเทียบให้ฟัง ของดีต้องแพงมาก ของถูกอย่าง เช่น เสื้อผ้าราคาถูกมันก็ยุ่ยเนื้อผ้าไม่ทนทานแต่ประการใด ทอง ๑๐๐% มันก็ต้องแพง ทอง ๖๐%มันผสมมากก็ราคาถูกลงไป ทองชุบชุบทองก็เป็นทองคำเหมือนกัน แต่ข้างในเป็นตะกั่ว ไม่ช้าก็ลอกกลายเป็นตะกั่วตามเดิม เหมือนผู้มาสร้างความดี ไม่อดทน ข้างในเป็นตะกั่วเป็นสังกะสี สร้างความดีไม่ได้เลย ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นสำหรับท่านทั้งหลาย

    ขอเจริญพร ไม่ใช่ของง่าย คิดว่ามาบวชเนกขัมมะ นึกว่าสบาย ถ้าท่านผ่านความยากความลำบากได้ท่านถึงจะสบาย ท่านจะมีความสุขที่ไม่เจือปนความทุกข์ ท่านจะผ่านความทุกข์อย่างมาก ทุกข์เอ๋ย…ทุกข์กายทุกข์ใจ ต้องผ่านด้วยความแร้นแค้น แสนจะคิดทุกทิศทางต้องลำบากตลอด

    ท่านสาธุชนผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลายเอ๋ย ที่ท่านมีเงินมีทองมากมายก่ายกอง ท่านได้มาจากไหน ก็หาคำตอบให้ท่านฟัง คือได้มาจากความจน ท่านเกิดมาจากคัพภาของมารดาไม่มีอะไรมาแม้แต่ชิ้นเดียว แต่แล้วเราก็มาหากัน นิสัยปัจจัยมาแต่กำเนิดมาตามอดีตชาติ ไม้ไผ่ต่างปล้องพี่น้องต่างใจ พี่น้องท้องเดียวกันยังเหมือนกันไม่ได้ พี่บางคนชอบปฏิบัติธรรม ส่วนน้องไม่เอาไหน บอกว่าพี่โง่ มาวัดได้อะไร? หรือ ไปหนอ ๆ แหน ๆ กลับไปก็หนอ ๆ แหน ๆ ไม่ได้อะไรเลย บางคนมานั่งเจริญพระกรรมฐานหลายครั้งแต่ไม่เข้าใจ น่าเสียดาย บอกว่ามีโอปปาติกะมากวน นอนไม่หลับ เราต้องตั้งสติ จิตตกใต้สำนึก จิตมีความกังวล

    ท่านทั้งหลาย ถ้าเรามาตั้งสติอยู่กับจิต ไหนเลย โอปปาติกะจะมารบกวน หรือว่าเทวดาจะมาสิง ผีเข้าเจ้าทรงไม่มีเลย ถ้าท่านมีปัญญา เสียงที่เคยได้ยินก็จะหายไป ขอเจริญพรว่าเป็นกฏแห่งกรรม มารไม่มีบารมีไม่เกิด ท่านที่มานั่งเจริญพระกรรมฐานมีมารทุกคน ปวดเมื่อยก็เป็นมาร ถ้าท่านชนะท่านใช้ได้ เวทนาหายไปได้ ปัญญาเกิด แต่ถ้าท่านแพ้ใจตัวเอง จิตไม่สู้กำลังใจตก ปวดแล้วเลิกเลย
    นี่แหละท่านสาธุชนทั้งหลาย ท่านจะไม่ได้อะไรเลย ชีวิตเป็นอิสระไม่ได้ ยอมแพ้ตัวเอง เป็นขี้ข้าตัวเอง ไม่ยอมที่จะเชื่อเหตุผลของชีวิตของตนเองประการใด คิดหนอก็ไม่ได้กำหนดที่ลิ้นปี่ ปล่อยให้มันเป็นขี้ข้าเขา เป็นทาสในตัวเอง อาตมาสงสารคนที่คิดผิด ไม่ได้มีสติปัญญาเลย กระทั่งได้ปริญญาโทจิตวิตกกังวล กำลังใจตกเชื่ออุปาทาน ยึดเอาสิ่งที่เลวร้ายมา

    ถ้าท่านทั้งหลายชนะใจตัวเอง คือมีสติดีจะชนะใจตัวเอง ถ้าขาดสติเมื่อไรแพ้ใจตัวเอง ท่านจะไม่ได้อะไรเลย บางคนบอกนั่งปฏิบัติธรรมวัดโน้น พุทโธ พุทโธเจอสวรรค์ เจอพระพุทธเจ้า เสียใจด้วย ของดีทำยากมาก เห็นพระพุทธเจ้าที่ไหน ต้องการเอาพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ มาไว้ในจิต คือพระปัญญาคุณ พระวิสุทธิคุณ พระมหากรุณาธิคุณ อยู่ที่จิต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤศจิกายน 2008
  3. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    [​IMG]



    ถ้าขาดสติเมื่อไร ท่านจะประมาทเมื่อนั้น ท่านจะคิดผิดตัดสินใจผิด ไม่รู้จะเอาอะไรมาตัดสินใจ ไม่ต้องไปถามคนอื่นว่าค้าขายอะไรดี ถ้าท่านถาม ๑๐ คนก็ขาย ๑๐ อย่าง แล้วท่านจะเอา ๑๐ อย่างหรือ ขอเจริญพร ถามท่านจะเอา ๑๐ อย่างหรือ ถ้าไปถามตั้งใจฟังเฉย ๆ อย่างเพิ่งตัดสินใจ เราจะมีสติตัดสินใจเองว่าขายอย่างนี้ เราทำไม่ได้ต้องเจ๊งแน่ ตัดสินใจตามเพื่อนบอก เจ๊งทุกราย ท่านต้องตัดสินใจเองว่า ข้าพเจ้าจะทำงานนี้ดีไหม

    บางคนมาถามอาตมาว่า จะทำธุรกิจอะไรถึงจะดี อาตมาตอบไม่ได้ โยมชอบอะไรไม่ใช่อาตมาบอกได้ ทำธุรกิจนี้จะดี ถ้าเขาเจ๊งมิด่าเราแย่หรือ ต้องดูเห็นหนอก่อนว่าเขาถนัดทางไหน มีความสามารถทางใดบ้าง และมีทุนเท่าไร จะเอาทุนไปกู้เขาหมดทุกสตางค์ เจ๊งเลยนะ ต้องมีทุนของเราเอง ๖๐% จะกู้ ๒๐% เป็น ๘๐% ก็ลงทุนได้ แต่คนนั้นต้องมีความสามารถพอ ไม่ใช่ใครมาบอกแล้วทำเลย สติไม่มี ถ้าท่านขาดสติรับรองท่านเลวเลย เสียใจในภายหลัง คิดผิด คิดพลาด ทำผิดไปแล้วท่านจะเรียกคืนไม่ได้ ท่านจะเสียใจตลอดชีวิต

    ขอให้คิดให้ดี ตัดสินใจผิดท่านจะคิดจนตัวตาย ปลูกเรือนผิดคิดจนเรือนทลายไม่มั่นคง ไม่ถาวร มีครอบครัวก็เอาดีไม่ได้ สามีภรรยาก็ต้องแยกย้ายจากกันไป ไม่มีวันกลับมาเลย ตัดสินใจผิดเด็กยุคใหม่สมัยนี้ อาตมาเสียใจด้วยว่า พ่อแม่ไม่ดีจริง ๆ ยกตัวอย่างโทรศัพท์กันตลอด เป็นนักเรียนด้วยกันโทรศัพท์หาผู้ชาย ถ้าเป็นลูกเราเห็นจะใช้ไม่ได้ มันเสียเวลาดูหนังสือ เสียเวลาสวดมนต์ไหว้พระ แต่พ่อแม่ไม่ดีเอง ตามใจลูกจะโทรศัพท์ไปที่ไหนตามใจลูกเลย แล้วลูกสอบตก

    จะมาให้หลวงพ่อวัดอัมพวันแผ่เมตตา แผ่จนตาย ขี้เกียจดูหนังสือ เราเห็นหนอ เป่าไม่ได้หรอกสอบตก ผู้หญิงเต็มไปหมด ไม่ดูหนังสือเรียนไม่ได้แน่ เป่าแล้วเป็นคนดีให้ขายของได้ เป็นไปไม่ได้ ไม่ใช่พระพุทธเจ้าสอนให้เป่าหัวหรือพรมน้ำมนต์ ให้เป็นคนดีหมดไม่ใช่อย่างนั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤศจิกายน 2008
  4. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    [​IMG]



    พระพุทธเจ้าสอนเราให้ช่วยเหลือตนเอง สอนให้เราสร้างฐานะตนเองพึ่งตัวเองให้ได้ ให้สอนตนเองแนะแนวตนเอง อย่าไปพึ่งคนอื่น พระกรรมฐานช่วยตัวเองดีที่สุด หายใจให้ยาว รับรองจะอารมณ์เย็นถึง ๘๐% อย่าหายใจเร็ว พองยุบมันจะชัด หายใจช้า ๆ กำหนดช้า ๆ เอาติใส่เข้าไปในลมหายใจ อย่างเช่น ผู้อำนวยการสกลนครนอนเป็นอัมพาตมา ๕ ปี อายุ ๖๒ ปี ภรรยาต้องป้อนข้าวตลอดเวลา อาตมาบอกอย่าอยู่เฉย ให้สวดพาหุงมหากาฯไว้ นอนเฉย ๆ ทำไมเล่า นอนเฉย ๆ รอวันตาย ให้หายใจพองหนอ ยุบหนอยาว ๆ ตอนแรกเขาไม่เชื่อ พอสวดพาหุงมหากาไปได้หนึ่งเดือนชักรู้สึกปวด กระตุก เขาก็มีจดหมาย มาเล่าให้ฟังเขาปวดร้องครวญคราง ภรรยาก็นวด หนักเข้าลุกนั่งเดินได้ ถีบจักรยานได้ บัดนี้บวชแล้ว

    บางคนปวดขา อาตมาบอกให้กำหนดปวด ให้ตายเป็นตายไปเลย กำหนดจนขาสั่นเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปหายไปเท่านี้เอง จิตก็ไม่ไปกังวลต่อไป โรคภัยไข้เจ็บหาย เพราะ ชนะจิตชนะตัวเอง สติดีแล้วชนะตัวเอง แปลว่าอิสระเสรี
    ถ้าชนะใจตนเองได้ โรคทุกโรคหายหมด โรคมะเร็งยังหาย ถ้าแพ้ใจตัวเองตลอด ไม่ชนะ แพ้ตลอด ถ้าใครถามว่าอิสระเสรีคืออะไร? คำตอบคืออิสระเสรีคือการเอาชนะใจตัวเอง บางคนตอบผิดคิดว่าอิสระเสรีคือ ไม่มีสามี ไม่มีภรรยา ไม่มีลูก อยู่คนเดียวอิสระเสรี

    คนที่ไม่มีครอบครัวคิดมาก หาเพื่อนสักคนคือเพื่อนสติได้ไหม คนเดียวหัวหายสองคนเพื่อนตาย ไม่ต้องมีสามี ไม่ต้องมีภรรยา อิสระแปลว่า ชนะใจตนเองและชนะใจคนอื่นด้วย บางคนยายแม่ปล่อยให้ลูกสาวเสเพล อาตมาบอกว่า โยมให้ลูกสาวสวดมนต์ไหว้พระบ้าง ตั้งใจเรียนหนังสือ อย่าปล่อยให้ไปกับผู้ชาย ฝ่ายแม่บอกไม่เป็นไรหรอกหลวงพ่อเจ้าขา ผู้ชายเขาดีจริง ๆ บัดนี้ไม่ได้เรียนแล้ว เพราะตั้งครรภ์ ผู้ชายคนที่ว่าดีจริง ๆ ก็หายหน้าไปแล้ว

    อาตมาพูดสอนอะไร เจ้าค๊ะ เจ้าขา นี่เรื่องจริง คนเชื่อง่ายสอนยาก เจ้าค๊ะตะพึด ไม่เชื่อหลวงพ่อดิฉันจะมาทำไมเจ้าค๊ะสอนยากที่สุด คนเชื่อยากสอนง่าย ยอมรับจำนนด้วยเหตุผลอย่างนั้น เราจะเอาแต่ใจของเราได้อย่างไร ถ้าเรามีสติเมื่อใด คิดทำอะไรถูกต้องหมด แต่ถ้าขาดสติเมื่อใด คิดถูกใจ ใครว่าก็โกรธ มิใช่ลงโทษคนอื่น เสียหายมากหลาย จิตที่ไร้สติ ไม่มีปัญญา ไม่รอบรู้ในกองการสังขารแต่ประการใด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤศจิกายน 2008
  5. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    [​IMG]


    ขอเจริญพรนักกรรมฐาน ไปไหนอย่าเอาปากไปก่อน หูตาเป็นครูใหญ่ ปากเอาเก็บไว้ก่อน จะพูดต้องมี สัจจัง เว อมตะวาจา เป็นวาจาที่ไม่ตายถึงจะถูกต้อง มิใช่จะพูดอะไรก็พูดไปตามเรื่อง ไม่มีเบรกใช้ไม่ได้ คนมีปัญญาเขาไม่พูด เขาจะฟังมาก จะพูดน้อย เหมือนน้ำย้อยกระบอกตาล ทำอะไรสำเร็จหมด พูดมากยากนาน คนรำคาญไร้สาระไม่เกิดประโยชน์โสตถิผลแต่ประการใด ผลงานไม่มี คนที่ทำเขาไม่ค่อยพูด คนที่พูดไม่ค่อยอยากจะทำ กิจกรรมก็ไม่ดีไม่เกิดประโยชน์ ตรงนี้ชัดเจนมาก

    จะเรียนอะไร ๑.รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม ต้องรู้ทุกอย่าง ไม่มีอะไรที่เราไม่รู้ ๒.รู้อะไรไม่สู้รู้วิชา รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี ๓.รู้ดูให้เห็นเป็นปัญญา จะได้แก้ไขปัญหา ไม่มีใครมาแก้ไขปัญหาให้เรา

    พี่น้องที่รัก ใครจะไปพึ่งใคร เราจะไปพึ่งใครเขาได้ พ่อแม่ก็เฒ่าชะแรแก่ชรา ก็ต้องตายจากโลกไป ในที่สุดเราก็ต้องพึ่งตนเอง มีลูกหรือก็พึ่งไม่ได้ เขาได้ครอบครัวเขาก็ไปแล้ว เราก็ต้องอยู่คนเดียวสองคนตายาย พ่อตายอีกแล้วเหลือแต่แม่ แม่ก็ต้องตายไปอีก เขาจะพึ่งใคร ก็ต้องพึ่งตัวเอง

    พระกรรมฐานเป็นที่พึ่งของตัวเองได้ อัตตาหิ อัตตาโน นาโถ ตนเป็นที่พึ่งของตนได้ คนอื่นเป็นที่พึ่งไม่ได้ ถ้าเรานั่งเจริญกรรมฐานเสร็จแล้ว ก็แผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวร สวดมนต์เป็นนิตย์ อธิษฐานจิตเป็นประจำ ทำอะไรอย่าทิ้งงานและหน้าที่ รับผิดชอบตั้งใจว่า จะทำอะไรสักอย่างต้องให้เสร็จ เรียกว่า อธิษฐาน ถ้าทำไม่เสร็จต่อไปอธิษฐานไม่ขึ้นทำอะไรไม่สำเร็จ นี่เรียกว่า อธิษฐานจิตอโหสิกรรมแผ่เมตตา เรายังผูกใจโกรธใครอยู่ อารมณ์ไม่ดี อโหสิกรรม อย่าโกรธอย่าเกลียด กัน แล้วอย่าลงโทษกัน ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมต่อท่านทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจงได้อโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าบ้าง อารมณ์ก็ดีขึ้น พออารมณ์ดีขึ้น พลังก็มาแผ่เมตตาได้ ถ้ายังไม่อโหสิกรรม อารมณ์ยังไม่ดีเลย แผ่เมตตาแล้วไม่ได้ผล

    ทำไมต้องไปสวดมนต์ นั่งเจริญพรกรรมฐานก่อน แล้วจึงแผ่เมตตา ไม่จำต้องกล่าว ถ้าอารมณ์ดี แผ่เมตตาได้ผขณะที่เราตั้งสติของเราไว้ ไม่โกรธ ไม่ผูกใจเจ็บ ไม่อิจฉาใคร ตอนนั้นแผ่เมตตาได้ผล ถ้าอารมณ์ไม่ดีแล้วอย่าแผ่เมตตา แผ่ไปแล้วไม่ได้ผลแน่นอน แผ่ให้พ่อแม่ พ่อแม่ก็ไม่ได้รับ
    บุญกุศลช่วยเราได้แน่ ความชั่วช่วยเราไม่ได้ ความดีมีปัญญาช่วยเราได้ทุกประการ ขอฝากโยมชายหญิง อุบาสก อุบาสิกาทุกท่าน อย่าโกรธ อย่าเกลียด อย่าเดียดฉันท์ ใครว่าอย่างไรก็ช่างเขา เขาร้ายมาอย่าร้ายตอบ เขาไม่ดีมาเอาวามดีไปแก้ไข คนตระหนี่ให้ของที่ต้องใจ คนพูดเหลวไหล เอาความจริงไปสนทนา

    ถ้าอารมณ์ไม่ดี ทำอะไรก็ไม่ได้ผล จะค้าขายอาหารก็ไม่มีใครซื้อ เป็นครูบาอาจารย์สอนไม่ได้ดีเลย เพราะอารมณ์เสีย ถ้าเป็นนิสิต นักศึกษา อารมณ์ไม่ดี อารมณ์ค้าง เรียนจำไม่ได้ เพราะฉะนั้นอโหสิกรรมสร้างอารมณ์ให้ดี ถ้าอารมณ์เสีย คนใจดีก็กลายเป็นคนใจดำ ใจสูงกลายเป็นคนใจต่ำ ใจงามกลายเป็นคนใจง่าย คนไว้ใจได้กลายเป็นคนโลเล คนมีเสน่ห์กลายเป็นคนน่าชัง ขอให้เปลี่ยนอารมณ์เสียเป็นอารมณ์ให้ดี ไปไหนก็มั่งมีใครสุข เทพเทวดาอารักขาไม่มีอันตรายแน่นอน ขอฝากไว้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤศจิกายน 2008

แชร์หน้านี้

Loading...